กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่237 ความบาดหมางที่ยากจะอธิบาย



บทที่237 ความบาดหมางที่ยากจะอธิบาย

วัสดุที่สำคัญที่สุดในการทำผ้าไหมกวางตุ้งไม่ใช่กระบวนการ ในการทอ แต่เป็นด้ายในการทำผ้า

ด้ายแบบนี้เป็นส่วนสำคัญของการทอผ้าไหมกวางตุ้ง

หลินซินเหยียนคิดมาตลอดว่าสิ่งสำคัญอยู่ที่เทคโนโลยีใน การทอผ้า ที่จริงไม่ใช่

ด้ายที่ทอผ้าไหมกวางตุ้งนั้น ใช้ไหม ฝ้าย และฝ่ายนม

รวมปริมาณทั้งสามอย่างหนึ่งต่อหนึ่ง เอามาฟันเป็นด้วยเส้น เล็กเหมือนกับเส้นผม ด้ายเส้นเล็กนี้มีส่วนประกอบสามอย่าง ดัง นั้นจึงทําออกมาไม่ง่ายเลย

มีแค่ใช้ด้ายแบบนี้ ทอผ้าไหมกวางตุ้งออกมาถึงจะทั้งบางและ

เบา และก็นุ่มสุดๆ ไม่มีการย่นเป็นรอย

ถึงจะบอกว่าเฉิงเงินเอาสิ่งสำคัญบอกหลินซินเหยียนแล้ว แต่ เขาตัดสินใจกลับไปกับหลินซินเหยียน

ถ้าคนตระกูลเหวินจะสืบสวนจริงๆ ก็ต้องพุ่งมาที่เขา

นี่ก็เป็นผลลัพธ์ที่เขากับเฉิงซิ่วปรึกษาหารือกัน

“คุณไม่ได้บอกเหรอว่า ไม่ไปจากที่นี่? “หลินซินเหยียนมอง เฉิงเป็นอย่างคิดไม่ถึง

เธอรู้ว่า ถ้าเขาไปเมืองกับเธอ ถ้าผ้าไหมกวางตุ้งปรากฏขึ้นจะต้องถูกคนของตระกูลเหวินจับตาดูแน่

“พวกคุณกลัวฉันมีอันตรายเหรอ? “หลินซินเหยียนรู้ว่าทำไม จู่ๆเขาก็จะกลับไปกับตัวเอง

อาศัยแค่พลังของเธอคนเดียว ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลเหวิน เลย แต่ว่าเธอไม่ใช่ตัวคนเดียวนี่

“ฉันไม่เห็นด้วย หลินซินเหยียนปฏิเสธที่เฉิงเงินจะไป

เมืองBกับเธอ

“กรุณาเชื่อฉันด้วยค่ะ ถ้าฉันมีอันตราย จงจึงห้าวไม่อยู่เฉยแน่ จากวิธีการของเขาแล้ว ฉันเชื่อว่า เขาปกป้องฉันได้ใน จิตใต้สำนึก เธอเริ่มเชื่อใจ พึ่งพาจงจึงห้าวแล้ว

ที่จริงแล้ว ตัวเธอเองยังไม่แน่ใจว่า ทัศนคติที่ตัวเองมีต่อจงจึง ห้าวนั้นเปลี่ยนไปแล้ว

คนๆนี้ เหมือนว่าเป็นคนในชีวิตของเธอ คนที่เธอใกล้ชิด พบ

เจอเรื่องอะไร เธอก็จะนึกถึงเขา

เฉิงซิ่วทำเพื่อจงจิ่งห้าวมากพอแล้ว ตอนนี้เปลี่ยนเป็นพวก เขาปกป้องเธอ

“ตอนนี้เหวินชิงอยู่ในระดับประเทศแล้ว……

“เขาโหดแค่ไหน ก็ไม่อาจลงมือกับหลานชายตัวเองได้หรอก นะ? “ตอนนั้นไม่ประกาศตัวตนของจงจึงห้าว ก็เพราะมีอีก เหตุผล นั่นคืออำนาจของตระกูลเหวิน
ถ้าเป็นตอนที่จงจึงห้าวเกิด ก็บอกว่าเป็นเฉิงซิ่วที่คลอด และ ก็ไม่รู้ว่าจะได้เติบโตไหม

“ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันไม่เห็นด้วยแน่ที่คุณจะกลับไปกับฉัน ท่าที

ของหลินซินเหยียนนั้นแน่วแน่มาก เฉิงยูเวินถอนหายใจ ผมแก่แล้ว อยู่มากไปอีกวัน หรือน้อยไป

อีกวัน ก็ไม่ต่างกัน

ไม่ว่าเฉิงเงินพูดอย่างไร หลินซินเหยียนก็ไม่ผ่อนปรนให้

ฟ้าสว่าง หลินซินเหยียนเก็บของใช้ในชีวิตประจำวันธรรม ดาๆบางส่วน เก็บเข้ากระเป๋า ไม่ได้แวะไปทักทายเฉิงเงิน แต่ ทิ้งโน้ตไว้แผ่นหนึ่ง แล้วออกไปจากหลังบ้านเพียงคนเดียว

คนที่ลานหน้าบ้านก็พอจะตื่นกันแล้ว มีแค่เด็กสองคนนี้ ยังอยู่ ที่เตียง อากาศก็หนาวขึ้นทุกวัน ชนบทไม่มีเครื่องทำความร้อน ใต้พื้นกับเครื่องปรับอากาศ เด็กทั้งสองคนหลบอยู่ในเตียงไม่ ยอมออกมา

หลินซินเหยียนผลักประตูห้องออก เด็กทั้งสองคนหลบอยู่ที่ เตียง ใช้แท็บเล็ตดูการ์ตูน หลินซีเฉันไม่ค่อยอยากดูนัก เขาคิดว่า มันเด็กไป แต่ว่าหลินลุยซื้อยากดูการ์ตูน เขาก็หมดหนทาง ได้ แต่ยอมน้องสาว ดูการ์ตูนพวกนั้นที่ไม่มีคุณค่า

จงจึงห้าวนั่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง กำลังประชุมทางวิดีโอกับคนใน บริษัท

ได้ยินเสียงเปิดประตูเขาก็เงยหน้าขึ้น เห็นหลินซินเหยียนแบกกระเป๋าเข้ามา ก็เข้าใจแล้วว่า เธอเรียนการเรียนรู้งานฝีมือจบ แล้ว ดูเหมือนพวกเขาน่าจะได้ไปจากที่นี่ในเร็วๆนี้แล้ว

เขาสั่งการไปบางอย่าง แล้วก็จบการประชุมทางวิดีโอ ปิด คอม แล้วยืนขึ้นมา

“พวกเรากลับกันได้แล้ว” หลินซินเหยียนยืนอยู่หน้าประตู ปล่อยเวลาผ่านไปแป๊บหนึ่งจึงพูดขึ้น

“อือ คุณใส่เสื้อผ้าให้พวกเขาละกัน ผมจะไปข้างนอกบอกพวก เขาหน่อย ให้พวกเขาเตรียมตัว” พูดจบจงจิ่งห้าวก็ออกไปจาก ห้อง

ตอนที่ผ่านร่างของหลินซินเหยียน เขาหันข้างออก ไม่ได้โดน เธอ

วันนั้นจงจึงห้าวก็ออกไปจากหลังบ้านอย่างนั้น ระหว่างทั้งสอง

คนนั้น ปกคลุมไปด้วยบรรยากาศที่ไม่ลงรอยกัน

ความบาดหมาง ยากจะอธิบาย

หลินซินเหยียนเคยชินกับการใกล้ชิดเขาโดยไม่รู้ตัว การ สัมผัสของเขา และท่าทางไม่จริงจังตลอดเวลาของเขาไปแล้ว

จู่ๆก็ห่างเหินแบบนี้ ทำให้ในใจเธอไม่ค่อยสบายใจ

“หม่ามี“หลินลุยซียืนกระโดดบนเตียง ที่ตัวสวมชุดนอนเป็ด น้อยสีเหลือง บนหัวสวมหมวกไว้เหมือนกับเป็ดตัวหนึ่งกำลัง กระโดดมากจริงๆ เหยียดแขนไปทาง ลินซินเหยียน “หม่ามีกอด หน่อย”
หลินซินเหยียนวางกระเป๋าลงแล้วเดินเข้ามา กอดลูกสาว แล้ว ก็กอดลูกชาย “สายมากแล้ว เดี๋ยวแม่ใส่เสื้อผ้าให้ลูกๆ พวกเรา กลับไปได้แล้ว”

“จริงเหรอครับ? “หลินเฉินพูดอย่างดีใจหน่อยๆ อยู่นานแล้วก็รู้สึกเบื่อ

หลินซินเหยียนหาเสื้อผ้าของพวกเขาเจอ ก็สวมเสื้อผ้าให้พวก เขา แล้วก็ตอบไปอย่างแน่ใจจริงสิ หม่ามีพูดคำไหนคำนั้น

เด็กทั้งสองคนดีใจจนแนบไปที่ตัวของเธอ ทั้งกอด ทั้งจูบ” ใน ที่สุดก็ได้ไปแล้ว”

หลินซินเหยียนหัวเราะอย่างทำอะไรไม่ได้ที่นี่ไม่ดีขนาดนี้เลย เหรอ? ”

หลินเฉินส่ายหน้า “ที่นี่ดีมาก ภูเขาน้ำวิวทิวทัศน์ก็ดี แต่ว่า

อยู่นานไปก็เบื่อครับ”

หลินซินเหยียนลูบจมูกเล็กๆของเขา “เด็กแค่นี้ จี้จุกจิกจริงๆ งั้นคนที่อยู่ที่นี่ก็ใช้ชีวิตอยู่ไม่ได้แล้วเหรอไง? ”

“ไม่ใช่ครับหม่ามี คนที่อยู่ที่นี่ อยู่นานแล้วก็ชิน ที่นี่ไม่มีสภาพ แวดล้อมที่เทคโนโลยีสูงๆ พวกเราเคยอยู่ในเมือง เพิ่งมาอยู่นี่ก็ จะแปลกๆ แต่ผ่านไปนานก็จะเบื่อได้

หลินซินเหยียนส่ายหน้าหัวเราะอย่างขมขื่น เด็กคนนี้อายุยัง น้อยแต่พูดจาฉะฉาน
โตขึ้นมาแย่แน่ๆ?

“โอเค เลิกป่าวประกาศเหตุผลใหญ่ของลูกได้แล้ว รีบลงมา สวมรองเท้า หลินซินเหยียนตบก้นของเขา

หลิน เฉินอายหน่อยๆ รีบลงจากเตียงสวมรองเท้า สวมให้ ลูกชายเสร็จ หลินซินเหยียนก็สวมให้ลูกสาว ลูกสาวไม่อยู่เฉย สวมเสื้อผ้าก็ยังขยับตัวไปมา หลินซินเหยียนตีแขนของเธอ เบาๆ อยู่นิ่งๆหน่อยสิ”

หลินลุยซีอยู่นิ่งๆได้สองนาที หลินซินเหยียนก็สวมเสื้อผ้าให้ เธอเสร็จ

สวมเสื้อผ้าเสร็จ ก็ล้างหน้าล้างตาให้พวกเขา เก็บเสื้อผ้า ท่า เสร็จก็หนึ่งชั่วโมงถัดมา

เวลานี้ฉินยาก็เดินเข้ามา”ฉันมาช่วยคุณถือของ พวกเราเก็บ

กันเสร็จแล้ว ไปถึงหน้าหมู่บ้านก็นั่งรถออกไปได้เลย รถรออยู่ที่

นั่นแล้ว”

“พ่อหนูล่ะ? “หลินลุยซึกะพริบตาโตๆ เด็กคนนี้ ถูกจงจึงห้าว ตามใจจนนิสัยเสีย เธอรู้ว่าใครดีต่อเธอ ก็เลยหวังพึ่งพาจงจึง ห้าว

“พ่อของคุณกำลังคุยอยู่กับคุณอาเงินแล้วก็คุณอาซูคุณออก ไปก็จะเจอเขา”ฉินยาลูบเปียเล็กๆของเธอ หลินซินเหยียนถักผม ให้เธอ ด้านหน้าไม่มีหน้าม้า เผยให้เห็นหน้าผากที่อิ่มเอิบสะอาด สะอ้าน ที่ตัวสะพายกระเป๋ากระต่ายขาวขนฟูที่เธอชอบ แล้วออก ไปหาจงจิ่งห้าวอย่างกระโดดโลดเต้น
ฉินยาหัวเราะ”เด็กคนนี้ จริงๆเลย น่ารักขึ้นเรื่อยๆ” หลินซินเหยียนก็หัวเราะ ก็แค่หัวเราะนี้พอเป็นพิธีหน่อยๆ ใน

ใจยังรู้สึกไม่สบายใจ ต่อความห่างเหินของจงจึงห้าว

หลินเฉินยังหมกมุ่นกับความตื่นเต้นที่ได้จากไป จึงไม่เห็น ท่าทางผิดปกติในตอนนั้นของหลินซินเหยียน

เก็บของเสร็จ หลินซินเหยียนจูงลูกชายข้างหนึ่ง มืออีกข้างถือ กระเป๋าใบหนึ่งที่ใส่เสื้อผ้าของลูก ที่ตั้งออกมา ฉินยาอยู่ข้างๆ พวกเขา ในมือช่วยถือสิ่งของของเด็กสองคน สิ่งของของเด็ก สองคนนี้เยอะที่สุด เยอะยิ่งกว่าผู้ใหญ่อย่างพวกเขาเสียอีก

เห็นพวกเขาออกมา จงจึงห้าวก็หยุดพูด หยุดพูดกับเสิ่นเผย ชวนและซูจ้าน เขาเดินเข้ามา รับกระเป๋าที่หลินซินเหยียนถือไว้ ในมือ”ผมถือเอง”

หลินซินเหยียนไม่ปล่อย แค่มองเขา เหมือนว่ากำลังโกรธ ที่

เมื่อเขาห่างเหินในห้อง

จงจึงห้าวโกรธเธอจริงๆ โกรธที่เธอรู้เรื่องบางอย่าง กลับไม่ บอกเขา

แต่ว่า ก็ทนเห็นเธอลำบากเหน็ดเหนื่อยไม่ได้

บรรยากาศก็อึดอัดหน่อยๆ ในทันที สายตารอบๆก็มองกัน หลินซินเหยียนได้แต่ปล่อยมือก่อน

“ไปเถอะ”จงจิ่งห้าวพูดเบาๆ
เวลานี้ ในที่สุดหลินเฉินก็พบว่าความสัมพันธ์ของหลินซินเห ยียนกับจงจึงห้าว เหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลง

คิดในใจว่า พวกเขาทะเลาะกันเหรอ?

เมื่อก่อนหลินซีเฉันไม่อยากให้หลินซินเหยียนยกโทษผู้ชาย เจ้าชู้คนนี้ง่ายๆ

จู่ๆผู้ชายเจ้าชู้คนนี้ ก็ไม่ค่อยติดหลินซินเหยียนมากแล้ว เขาจึง

กลัวขึ้นมาอีกครั้ง

ในใจเขา ยังหวังว่าพ่อแม่แท้ๆจะได้อยู่ด้วยกัน

บางครั้งก็ต่อต้าน บางครั้งทำให้ลำบากใจ แค่เพราะว่าการ ทอดทิ้งของจงจิ่งห้าวเมื่อก่อน

เขาต้องการพ่อ

เกลียดชังแค่ไหน ก็ตัดใจจากสายเลือดในครอบครัวไม่ได้ ช่วงนี้จงจิ่งห้าวดีต่อเขากับน้องสาว ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้สึกสักนิด

เขาไม่อยากให้พ่อกับหม่ามีแยกกัน

นิ้วที่เขาจับหลินซินเหยียนก็ออกแรงโดยไม่รู้ตัว เขาไม่ สามารถให้พ่อกับหม่ามีแยกกันได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ