กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 505 ผมก็ยังชอบคุณมากอยู่ดี



บทที่ 505 ผมก็ยังชอบคุณมากอยู่ดี

ในที่สุดนางแบบทั้ง 12 คนก็ยืนประจันหน้าอยู่บน เวที แล้ว ยั่งยืนสลับกันราวกับดอกไม้ที่ปักอยู่ในแจกัน และแสดงสู่สายตา ของคนดูทีละคนถึงความงามของ มัน นางแบบค่อยๆ ก้าว เดินช้าๆ และมีดวงไฟที่ส่องตามไปด้วย และขณะเดียวกันก็มี เสียงระบายความงามของอารมณ์ออกมาผ่านเสียงเครื่องดนตรี กู่เจิง พิธีกรชายก็ใช้น้ำเสียงและสำเนียงอ่านบทประพันธ์ด้วย ความรู้สึกอย่างดังกึกก้อง

ฉันชอบเธอ ก็เหมือนกับเสียงเปียโน ที่ดังตึกก้องไปไกลโพ้น ฉันชอบเธอ ก็เหมือนกับภูผาสูงชันที่มีสายน้ำหลั่งไหล เปรียบ ดังคนรู้ใจที่หายากยิ่ง

ฉันชอบเธอ ก็เหมือนกับเสียงดีดสายฉินหางไหม้ ซึ่งพลังเกิน

เทียบเทียม

ฉันชอบเธอ ก็เหมือนกับตัวหมากที่ตัดสลับ เข่นฆ่ากัน โรมรัน แต่ก็ยังต้องพึ่งพา

ฉันชอบเธอ ก็เหมือนกับสนามรบต้องใช้หัวเป็นประกัน เขม่า ควันปืนลอยขึ้นท่วมทั่ว

ฉันชอบเธอ ก็เหมือนกับสีขาวดำที่ผสมปนเป แต่ทุกสิ่งล้วนมี

เจตนา

ฉันชอบเธอ ก็เหมือนกับการสืบทอดประเพณีอันดีงามให้ผู้คนลุ่มหลง ซึ่งตราตรึงอยู่ในใจฉัน

ฉันชอบเธอ ก็เหมือนกับหนังสือในมือ ความผูกพันนั้น มากมายและหวานชื่น

ฉันชอบเธอ ก็เหมือนกับได้รับความรู้ และยากที่จะหยุด แสวงหา

ฉันชอบเธอ ก็เหมือนกับเหล้าชั้นดีในโถลึก ที่ยากเกินหากจะ ห่างกันไกล

ฉันชอบเธอ ก็เหมือนกับสาโทที่หมักมาเนิ่นนานแรมปี ทำให้

คนดึงใจและเคลิบเคลิ้ม

ฉันชอบเธอ ก็เหมือนกับเหล้านารีแดง เมื่อเข้าคอแต่ทำให้ใจ เมามาย

พิธีกรอ่านบทประพันธ์ได้อย่างน่าประทับใจ ทุกคนทั่วงานต่าง ฟังอย่างตั้งใจ ทำให้บรรยากาศนิทรรศการดีขึ้นไปอีกขั้น บน โลกใบนี้สิ่งที่ไม่สามารถพูดออกมาอย่างชัดเจนได้คือความรู้สึก แต่กลับทำให้คนมีแรงผลักดันที่จะทำตามความฝันได้

พิธีกรพูดสุนทรพจน์พร้อมใส่ความรู้สึก ราวกับว่าตัวเองกำลัง พูดความในใจกับคนรัก

จนมาถึงจุดสุดท้าย ทำให้ใจของผู้เข้าชมนิทรรศการมีความ คิดที่เป็นหัวใจสำคัญ ใช้การจัดแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ประจักษ์

สายตาทุกคน

ครั้งนี้เมนหลักจะนำเสนอเป็นชุดแต่งงานสไตล์จีน การแต่งงาน หมายถึงการที่คนสองคนเห็นพ้องต้องกัน ชายและหญิง ต่างคนต่างรัก เพื่อที่จะแต่งมาเป็นสามีภรรยา สุดท้ายก็ลองรวม กันกลายเป็นคําว่าความรู้สึกรัก

พอดีกับบทพูด 12 ประโยค ฉันชอบคุณมาก ทำให้แสดง จุดเด่นออกมาอย่างชัดเจน

ให้ความรู้สึกเมื่อแต่งงานกับคนที่เรารักก็อยากใส่ชุดแต่งงาน

แบบนี้ ถึงจะแสดงความรู้สึกออกมาได้

การออกแบบงานนิทรรศการครั้งนี้ออกมาอย่างวิจิตรและ สวยงาม ทำให้ผู้เข้าชมตบมือกันอย่างไม่หยุดหย่อน

แล้วทุกคนก็ต่างอยากสัมภาษณ์ผู้จัดงาน และผู้ที่ร่วมจัดทำ ครั้งนี้ ผู้คนต่างรอคอยเวลาที่กำลังจะมาถึง จากนั้นก็เป็นเสียง พิธีกรชายที่พูดออกมาอย่างกึกก้อง ” ต่อไปขอเรียนเชิญ ผู้ คิดค้น (เมฆา ในคืนจันทรา) ฉันเยี่ยนเยียนครับ ”

ไฟถูกส่องไปด้านหลังสุด ก่อนจะมีเงาของใครบางคนค่อยๆ โผล่มา ฉินยาใส่กี่เพ้าแบบเดียวกับในบัตรเชิญ ทำทรงผม เดียวกัน แต่งหน้าแบบเดียวกัน สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนคือตัวจริง งดงามและโดดเด่นกว่าในบัตรเชิญตั้งเยอะ

ซูจ้านที่นั่งอยู่ในมุมมุมหนึ่งกำลังจ้องไปที่ใบหน้าของหญิงสาว เขามักจะรู้สึกเหมือนเคยพบเธอมาก่อน ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นคนแปลก หน้าต่อกัน มันให้ความรู้สึกที่พิลึกพิลั่นเป็นอย่างมาก

เขาเม้มปาก จ้องไปยังผู้หญิง ผู้หญิงที่ยืนอยู่ภายใต้สปอตไลต์ เพื่อที่จะหาเบาะแสบนใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น เพื่อที่จะยืนยันว่าตัวเองเคยเจอเธอมาก่อน

แต่ดูเหมือนว่าทั้งหมดที่กำลังทำจะเสียแรงเปล่า เขาไม่เคย เจอเธอเลย ครั้งแรกที่เห็นก็ในบัตรเชิญเท่านั้น ตัวจริงก็เพิ่งเจอ ครั้งแรก อย่างนั้นก็แสดงว่าเขาไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้

บนเวที ฉินยารับไมค์ที่พิธีกรส่งให้อย่างเป็นกันเอง ก่อนจะ มองไปยังไปที่สาดส่องอยู่ด้านล่าง ดูคล้ายกับคลื่นลูกใหญ่ เธอ โค้งคำนับอย่างนุ่มนวล

” ขอบคุณทุกท่านที่มาที่นี่ ขอบคุณพนักงานทุกคน ณ ที่แห่งนี้ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ ”

เธอยืนบนเวทีอย่างสง่างาม ก่อนจะยกไมค์ขึ้น แล้วถามทุกคน ฉันไม่ใช่คนที่สร้าง (เมฆา ในคืนจันทรา) หรอกนะคะ คนที่ สร้างด้วยเหตุผลบางประการจึงไม่สามารถเดินทางมาที่นี่ได้ ดัง นั้นหากทุกคนมีคำถามอะไร สามารถถามดิฉันได้ ดิฉันจะทำการ ตอบให้ทีละคนเลยค่ะ ”

” ขอถามหน่อยครับ ทำไมถึงตั้งชื่อว่า เมฆา ในคืน จันทรา “นักข่าวคนหนึ่งเริ่มถามขึ้นมาก่อน

ฉินยาตอบออกมาอย่างคล่องแคล่ว” ฉันเชื่อว่าคนที่มาในวัน นี้ มีผู้คนไม่น้อยที่เป็นตัวตัวเองเกี่ยวกับเรื่องเสื้อผ้า ฉันอยากจะ พูดถึงผ้าไหมกวางตุ้ง ทุกคนคงจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วใช่ ไหมคะ

มีคนส่งเสียงออกมาอย่างตกใจ ” ใช่ผ้าไหมกวางตุ้งที่ สูญหายไปยี่สิบกว่าปีหรือเปล่า ”
จินยายิ้มออกมาน้อยๆ ” ใช่แล้วค่ะ ” ก่อนจะอธิบายอย่าง กระชับความ ” ครั้งนี้พวกเราได้จัดทำชุดแต่งงานรูปแบบจีนขึ้น มาสิบสองชุด ทั้งหมด ใช้ผ้าไหมกวางตุ้งกับมือคนในการปักเย็บ ทั้งหมด โดยช่างฝีมือดีสิบเอ็ดท่าน ใช้เวลาทำทั้งหมดสองเดือน จึงเสร็จสิ้น ถึงจะกินทั้งแรงและเวลา แต่ฉันเชื่อว่าผลลัพธ์มันได้ ปรากฏสู่สายตาทุกคนแล้วล่ะค่ะ ”

ขอถามหน่อยค่ะชุดแต่งงานพวกนี้คงจะขายในราคาที่สูง 11 มากเลยใช่ไหมคะ ” มีคนแสดงเจตนารมณ์ที่อยากจะซื้อ ไม่ว่าจะ เป็นตัวแบบ หรือความหมายแฝง ล้วนมีความเป็นเอกลักษณ์เป็น อย่างมาก

” ขอโทษนะคะ พวกนี้คงไม่สามารถขายได้ ไม่ว่าจะใช้เงินเท่า ไหร่ก็ไม่สามารถขายให้ได้ค่ะ ให้เพียงแค่ชื่นชมและพินิจ พิเคราะห์คุณค่าเท่านั้น ถ้าเกิดอยากร่วมธุรกิจกัน เดี๋ยวดิฉันจะ แนะนำทุกคนให้กับผู้ที่รับหน้าที่ด้านนี้ของเราค่ะ ” ฉันยายิ้มออก มาอย่างอ่อนละมุน ” ต่อไปให้เวลาทุกท่านสิบนาที เข้ามาชมได้ อย่างใกล้ๆ แต่ไม่อนุญาตให้ทุกคนใช้มือสัมผัสเด็ดขาดนะคะ ขอบคุณสำหรับความร่วมมือค่ะ

เพราะเป็นงานที่ปักเย็บ หากไม่ระวังเผลอไปเกี่ยวโดนไหมเข้า ก็จะทำให้ซ่อมแซมได้ยาก

ทุกคนก็เริ่มทยอยกันขึ้นไป เหลือเพียงผู้ชายสามคนตรงมุม โถงที่นั่งนิ่งไม่ไหวติง ซูจ้านกับเสิ่นเผยชวนเบนสายตาไปยังจง จิ่งห้าว
เพราะพวกเขาสองคนต่างรู้ว่าผ้าไหมกวางตุ้งมีแหล่งที่มาจาก เฉิงยู่ซิ่วที่เสียชีวิตไปแล้ว เมื่อก่อนอาจจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับ จงจึงห้าว แต่ตอนนี้คือมี

” หรือว่าจะเป็นพี่สะใภ้ ” เสิ่นเผยชวนถาม ไม่งั้นจะมีใคร สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้เหรอ

จงจึงห้าวเพียงแค่จ้องมองไปยังเสื้อผ้าที่ดูวิจิตรตระการตาบน เวทีเท่านั้น ใบหน้าไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใดๆ แต่หากมองหาง ตาเขาอย่างละเอียดมันกำลังกดความรู้สึกอะไรบางอย่างเอาไว้ ที่จริงไม่เหมือนกับอารมณ์ที่แสดงออกมาว่าไม่สะทกสะท้านโดย สิ้นเชิง

หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นไปจากเขา คงไปแอบอยู่ที่ใดที่หนึ่ง เพื่อไถ่ถอนความรู้สึกผิดที่มีต่อการตายของเฉิงยูจิ๋วเงียบๆ แต่ เขาไม่เคยคิดแทนเธอมาก่อน ว่าเป็นเพราะสูญเสียคนที่รักไปถึง เสียใจหรือเปล่า

เขากัดฟันกรามกรอด เป็นเพราะว่า ใช้แรงมากเกินไป เลยกัด ไปโดนเนื้อจนเป็นรอยเว้า แต่เห็นได้ชัดว่าเขายังคงอดกลั้นมันไว้ ในใจ จึงจะกลับมาเป็นนิ่งสงบดังปกติ

บนเวทีนั้น นางแบบสิบสองคนต่างยืนอยู่แต่ละด้านของ เวที ให้ทุกคนได้ชื่นชม

การทำงานฝีมือคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงจุดบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ได้ มีคนพูดออกมาว่า ” งานนิทรรศการครั้งนี้ ทำให้ผม ตกตะลึงมากที่สุด ความเรียบหรูและดูแพงของมัน และความนิคในการจัดแสดงของผู้สร้าง ทำให้ผมไม่สามารถละสายตา ออกจากมันได้เลย ”

เมื่อได้รับคำวิจารณ์เช่นนี้ ฉันยาก็ยิ้มออกมา คิดว่าสองเดือน แห่งความยากลำบากนั้นเสียไปโดยไม่เปล่าประโยชน์ เธอคิดว่า หลังจากวันนี้ไป ผ้าไหมกวางตุ้ง ก็จะกลับไปสู่สายตาของผู้คน มากมายอีกครั้ง เท่านี้จุดประสงค์ของหลินซินเหยียนก็บรรลุ เสียที แบรนด์ (เมฆาในคืนจันทรา) นี้ก็จะได้แสดงความ สามารถของมันอย่างที่ควรจะเป็น

หลังจากสิบนาที นางแบบก็กลับมายืนที่เดิม ในขณะที่ทุกคน ยังไม่ทันได้ชื่นชมอย่างอิ่มตาอิ่มใจ

” ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความกรุณาและสนับสนุน หากมีความ ประสงค์ที่จะร่วมธุรกิจกับเรา ขอให้พูดคุยกับคุณชาวได้เลยนะ คะ ”

ชาวหยุน ใส่สูทมาตรฐาน ไม่ได้ใส่ชุดสีฉูดฉาดเหมือนอย่าง เคย เขาเดินขึ้นมาบนเวที ” หากสนใจ กรุณามาตรงนี้เพื่อทิ้ง ข้อมูลการติดต่อไว้ด้วยครับ ”

เนื่องจากจำนวนคนที่เยอะเกินไปจึงไม่มีเวลาคุยรายละเอียดที่ ชัดเจน ทำได้แค่หาเวลาคุยกันในภายหลัง

หลังจากที่ดันตัวข่าวหยุนออกไปได้แล้วฉินยาก็ถอยออกมา เธอออกไปทางด้านหลัง เพื่อทักทายทีมงาน ” ต้องระวังด้วยนะ คะ ชุดที่นางแบบถอดออกมาแล้ว อย่าวางมั่วนะคะ ต้องเก็บกลับ ไปแขวนในที่เฉพาะด้วยนะคะ ”
เสื้อผ้าพวกนี้ไว้สำหรับโชว์ และยังต้องนำกลับไป เพื่อที่จะ หลีกเลี่ยงความเสียหาย ตอนมาก็เลยจัดเตรียมราวแขวนที่ เหมาะสำหรับเสื้อผ้าพวกนี้โดยเฉพาะ

คุณนายเวลเลี่ยนเดินเข้ามา ฉินยาก็รีบทักทาย ” คุณนายเวล เลี่ยน ”

หล่อนยิ้มๆ ก่อนหน้านี้หลินซินเหยียนไม่ได้บอกให้หล่อนรู้ว่า จะจัดนิทรรศการหรืออย่างไร เพราะวันนี้ได้มาเห็นกับตา หล่อน จึงยิ้มและชื่นชมออกมา ” ฉันดูหลินซินเหยียนไม่ผิดเลยจริงๆ ทำให้ฉันแปลกใจได้ตลอด แต่น่าเสียดายที่เธอไม่ได้มาเห็น สายตาชื่นชมของผู้คนในงานด้วยตัวเอง ตอนแรกที่เห็นแล้วเธอ ฉันก็รู้แล้วว่าเธอต้องมีความสามารถอย่างแน่นอน ”

ฉันยายิ้มเป็นการตอบรับ ” ฉันต้องขอบคุณท่านแทนพี่หลิน จริงๆ นะคะ ”

” ไม่ต้องหรอก ฝากบอกแทนฉันทีนะ บอกว่าฉันดีใจมาก ถึง แม้ว่าเธอจะไม่ได้อยู่LEOแล้วก็ตาม ออกไปสร้างแบรนด์ของตัว เอง แต่ว่าความรู้สึกที่ฉันมีต่อเธอจะไม่เปลี่ยนไป หวังว่าหลังจาก นี้เธอจะดีขึ้นเรื่อยๆ ” คุณนายเวลเลี่ยนอายุมากแล้ว ลูกที่มีอยู่ เพียงคนเดียวก็ไม่สนใจทางด้านนี้ ดังนั้นหลังจากนี้หากหล่อน ตายไป LEO จะพัฒนาต่อไปได้อย่างไร ก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ถ้าหล่อนไม่ใช่ผู้ที่เห็นค่าคน ตอนนั้นก็คงไม่ให้โอกาสคนที่ เพิ่งเรียนจบ ไม่มีประสบการณ์หรือภูมิหลังอย่างหลินซินเหยียน หรอก
ตอนแรกหล่อนคิดว่ารอตัวเองจากโลกนี้ไปแล้ว ก็จะ ยกLEO ให้เธอบริหารต่อ แต่ตอนนี้เธอมีการง่ายเป็นของตัวเอง แล้ว หล่อนจึงได้แต่อวยพร

หล่อนเข้าใจดีว่าทุกคนต่างมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง LEO สร้างขึ้นมาได้เพราะหล่อนกับคนที่เธอรัก ก็ควรสูญหายไปหลัง จากที่หล่อนได้ตายไปแล้วเช่นกัน แค่คิดแบบนี้ก็รู้สึกเสียดาย เป็นอย่างมาก

ทั้งสองไม่คุยกันอยู่หลายประโยค จากนั้นฉันยาก็ไปส่งคุณ นายเวลเลี่ยนขึ้นรถได้ตัวเอง ไม่เห็นรถขับออกไปไกลแล้ว เธอจึง กลับไปด้านหลัง หาเก้าอี้นั่งตรงทางเดิน จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ ออกมาเพื่อเตรียมจะโทรไปรายงานหลินซินเหยียน เพื่อที่จะบอก ว่าทางนี้เป็นยังไงบ้าง พ่อเจิมหมายเลขโทรศัพท์เตรียมที่จะ สไลด์ปิดไปยังปุ่มโทรออก จู่ๆ ก็มีเงาของใครบางคนโผล่มาจาก ด้านหลังและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า

” เธออยู่ที่ไหน ”

ฉินยาหันขวับ กลัวทางเดินอยู่ใกล้กับประตู เมื่อเห็นเงาของ ใครบางคน เมื่อเขาหันหน้ามา ฉินยาก็เห็นใบหน้าเขาอย่าง ชัดเจน จึงรีบกดวางสายบนหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะพยุงกำแพง แล้วลุกขึ้น แล้วพยายามทำหน้านิ่งสงบ

” ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไรนะคะ ”

เขาคลายคอเสื้อออก ถึงแม้จะมีลมพัดก็ไม่ได้รู้สึกถึงความ หนาวเย็น แต่กลับรู้สึกถึงความร้อนผ่าวของหัวใจที่กำลังสูบฉีดเขาจึงถอนหายใจออกมา ตอนนี้ปอดของเขาเหมือนกับหีบที่ กำลังจะระเบิด ก่อนจะพูดออกมาคล้ายกับจะระเบิดอารมณ์ ” ฉันถามเธอ ก็เพราะฉันรู้ว่าเธอเป็นใคร อย่าลืมว่าตอนแรกที่เธอ ออกไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ ก็เป็นฉันที่จัดการทุกอย่างให้ “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ