กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 470 มีแค่คุณเท่านั้นที่ดึงดูดผม



บทที่ 470 มีแค่คุณเท่านั้นที่ดึงดูดผม

เมื่อจงจิ่งห้าวเดินออกมา เธอก็เข้าไปกอดคอเขาไว้พร้อมกับ เขย่งเท้าขึ้นแล้ว โน้มตัวเข้าไปใกล้ เธอตั้งใจหายใจรดลงไปบน ใบหน้าของเขา ทว่าทุกลมหายใจของเธอนั้นแฝงไปด้วยความ เจ็บปวด มือของเธอสั่นระริก เธอกอดเขาแน่นขึ้นแล้วแกล้งยื่น หน้าเอาริมฝีปากเข้าไปใกล้ๆ”โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน หากวัน หนึ่งฉันหายไปหรือว่าเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นกับฉัน คุณจะไปชอบผู้ หญิงคนอื่นอีกไหม?

จงจึงห้าวทำหน้านิ่งสุขุมเยือกเย็นราวกับสายน้ำ เขาเม้มปาก แน่น ทำไมจู่ๆเธอถึงได้ทำตัวยั่วยวนเขาขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งเธอจะมาทำหน้าตาท่าทาง ยั่วยวนเขาแบบนี้ ขณะที่เขากำลังตกตะลึงอยู่ จู่ๆเธอก็ประทับริม ฝีปากลงมา มันบางเบาราวกับแมลงปอที่บินไปเกาะอยู่บนน้ำ

เขาขมวดคิ้วขึ้น คุณ…….

“ช่ว! “หน้าของเธอแดงระเรื่อ ขณะที่พูดก็เห็นฟันที่เรียงตัว ขาวสะอาดของเธอได้อย่างชัดเจน ตกใจไหม? ฉันเห็นคุณ อารมณ์ไม่ดีน่ะ ก็เลย……

จงจิ่งห้าวยกมือขึ้นมาจับคางเธอไว้เพื่อบังคับให้เธอเงยหน้า ขึ้นมองตัวเอง เธอสบตาเข้ากับเขาอย่างจัง ทว่า ในขณะเดียวกัน ก็กำมือที่อยู่ข้างลำตัวไว้แน่น ต้องทำแบบนี้เพื่อที่จะได้รักษาใบหน้าที่ดูสงบและถึงจะสบตากับเขาได้ เธอผละริมฝีปาก ออก “รู้สึกรังเกียจที่ฉันทำตัวแบบนี้ใช่ไหม อีก…….

เธอยังไม่ทันพูดจบ จงจึงห้าวก็ประทับริมฝีปากลงมาแล้ว มัน เข้ามาขัดจังหวะที่เธอกำลังพูดอยู่อย่างรวดเร็ว จูบของเขายังคง รุนแรงและเร่าร้อนจนไม่อาจต้านทานหรือถอยหนีไปได้เหมือน เดิม เขารุกเร้าเข้ามาอย่างรุนแรงราวกับจะกลืนกินลิ้นเธอเข้าไป เลยยังไงยังงั้น เธอรู้สึกเจ็บจนคิ้วขมวด ทว่ากลับไม่ร้องออกมา แม้แต่นิดเดียว

เมื่อเขาถอนริมฝีปากออก น้ำลายก็ติดเยิ้มออกมาด้วย เขาพูด ขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำ”มีแค่คุณเท่านั้นที่ดึงดูดผม ”

ดูเหมือนว่าเขากำลังบอกหลินซินเหยียนเป็นนัยว่าเขาไม่มีทาง ไปชอบผู้หญิงคนอื่นหรอก เธอรู้สึกแสบจมูกขึ้นมาทันที สักพักดวงตาก็พร่ามัว เธอรีบหัน

หลังไปอย่างรวดเร็ว”เอิ่ม……..คุณออกไปก่อน ฉันจะอาบน้ำแล้ว

จงจึงห้าวยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน เขายื่นมือเลยไหล่เธอออกไป หยุดอยู่ตรงด้านหน้าหน้าอกของเธอ นิ้วมืออันเรียวยาวค่อยๆ ปลดกระดุมที่กระโปรงของเธอออกทีละเม็ด น้ำตาเริ่มหยุดไหล บางทีอาจเป็นเพราะว่ากำลังหันหลังให้เขาอยู่ เธอก็เลยสงบลง

เธอก้มมองลงไปที่นิ้วมืออันเรียวยาวและกำลังแกะกระดุม อย่างคล่องแคล่วของเขา “คุณแน่ใจหรอ? ถ้าเห็นฉันถอดเสื้อผ้า ออกหมดแล้วจะไม่รู้สึกอะไรแน่นะ? ตอนนี้จึงสองเดือน คุณ หมอบอกไว้แล้วว่าห้ามทำเรื่องอย่างว่าแบบที่สามีภรรยาเขาทำ
เขาชะงักมือทันที

หลินซินเหยียนใช้โอกาสนี้ดันตัวเขาออกไปรอฉันข้างนอก นะ”

พูดจบเธอก็เดินเข้าห้องอาบน้ำไปพร้อมกับปิดประตูกระจกลง เธอนึกว่าตัวเองพร้อมที่จะยืนอยู่ตรงหน้าและเผชิญหน้ากับเขา ได้แล้วซะอีก แต่ความจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย เธอทั้งรู้สึกผิด ทั้งละอายใจจนไม่กล้าสู้หน้าเขา

เธอเช็ดน้ำตาออกแล้วปลุกความมีชีวิตชีวาของตัวเองขึ้นมา อีกครั้ง จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกแล้วลงไปแช่น้ำ อาบ น้ำขัดสีฉวีวรรณ ที่เธอพูดไว้ว่าอยากใส่ชุดสวยๆ อย่างน้อยจะได้ ดูเหมาะสมและคู่ควรกับเขา นี่เป็นคำพูดที่ออกมาจากใจเธอ จริงๆ

ถึงแม้จะแค่วันเดียวก็ตาม

ผิวของเธอขาวนวลละเอียดราวกับหยกขาว ทันทีที่เธอลุกออก จากน้ำมันก็เผยให้เห็นผิวอันขาวใสและเนียนนุ่มของเธอ เธอ หยิบผ้าเช็ดตัวมาห่อร่างกายที่โค้งมนได้รูปของเธอไว้ จากนั้นก็ ทําการเป่าผมสีดำสนิทที่ยาวสลวยจนแห้งแล้วหวีให้เป็นทรง ทว่าพอเปิดประตูห้องอาบน้ำออกมา ในกลับห้องกลับไม่มีคนอยู่

หลินลุยซีขึ้นมาพาจงจิ่งห้าวออกไปเพราะงั้นเขาเลยไม่อยู่ แต่ หลินซินเหยียนกลับรู้สึกโล่งใจซะอีก เธอเปิดตู้เสื้อผ้าดูว่าวันนี้จะ ใส่อะไรดี เนื่องจากเธอเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ เพราะงั้นเธอจึงมีทัศนคติต่อการแต่งตัวและแฟชั่นค่อนข้างเฉพาะตัว และยังรู้ด้วย ว่าตัวเองเหมาะที่จะใส่อะไร เธอยื่นมือออกไปหยิบชุดเดรสสายเดี่ยวที่ให้ความรู้สึกเซ็กซี่

นิดๆออกมาใส่ มันเป็นเดรสสีขาวล้วน เนื้อผ้าบางเบาและนุ่มลื่น บวกกับเครื่องประดับเรียบๆ เมื่อมองผ่านลงมาที่เอวก็จะเห็น หน้าท้องที่นูนออกมาเล็กน้อยของเธอ ชุดเดรสยาวถึงใต้เข่า เผย ให้เห็นขาขาวและเรียวเล็ก และแม้จะเป็นเดรสคอวี แต่มันกลับ ไม่แหวกลึกมาก มันเผยให้เห็นแค่กระดูกไหปลาร้าที่ตรงสวย และช่วงคอที่เรียวยาวของเธอ เธอดูสวยแบบธรรมชาติแต่ใน ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกเซ็กซี่เล็กๆ

เธอมัดผมไว้ที่ท้ายทอยอย่างลวกๆ มีปอยผมหล่นลงมาที่ข้าง หูบางๆ ให้ความรู้สึกถึงการเป็นผู้หญิงเพิ่มมากขึ้นไปอีก

แม้เธอจะไม่ได้ลงแป้ง แต่ผิวเธอก็ดูดีอยู่แล้ว มันขาวใสเนียน

สวยเป็นธรรมชาติมาก

เธอเดินลงมาชั้นล่าง จงจึงห้าวที่พึ่งเดินออกมาจากห้องหลิน ลุยซีเงยหน้าขึ้นเจอกับเธอพอดี

สายตาของจงจึงห้าวมองสำรวจเธอขึ้นลง นัยน์ตาดูสุขุมลง เล็กน้อยจากนั้นก็เดินเข้ามาคว้ามือเธอไว้แต่งตัวแบบนี้ กำลัง จะไปดูตัวหรอ? ”

เธอเลิกคิ้วขึ้นพลางยิ้มออกมาแล้วฉันดูดีรึยัง?

เขากำมือเธอแน่นขึ้นแล้วพูดออกไป ดูดีมาก ผมอยากจะเก็บ ไว้ชื่นชมเองคนเดียว”
คนขับรถยืนรออยู่ที่นอกคฤหาสน์แล้ว จงจึงห้าวเปิดประตูรถ ให้เธอ เธอ โค้งตัวลงเข้าไปนั่งในรถ จากนั้นเขาก็ขึ้นมานั่งตาม แล้วเอ่ยปากสั่งคนขับรถขึ้นเบาๆ ไปได้

เนื่องจากจงจิ่งห้าวจัดการทุกอย่างแล้ว เธอจึงไม่ต้องทำอะไร เลย แค่ทำตามที่เขาวางแผนไว้ก็พอ

เขาได้คุยกับทางสถานีตำรวจท้องถิ่นแล้ว ฉะนั้นพอพวกเขาไป ถึงจึงสามารถจัดการทำเรื่องได้เลย เด็กทั้งสองกำลังจะเข้าเรียน ชั้นประถมศึกษา และก่อนหน้านี้จงเฟิงก็ได้จัดการเรื่องทะเบียน บ้านอะไรหมดแล้ว เพราะงั้นตอนนี้แค่เข้าไปเปลี่ยนชื่อทุกอย่างก็ จะเสร็จเรียบร้อย

และเนื่องจากไม่ต้องไปต่อคิว ทุกอย่างมันจึงเสร็จเร็วมาก พวกเขาไปถึงสถานีตำรวจท้องถิ่นแค่สิบกว่านาทีเอง จากนั้น ทุกอย่างก็เสร็จแล้ว

พอกลับเข้ามานั่งในรถ หลินซินเหยียนก็เอ่ยขึ้น”คงจะเรียกชื่อ ใหม่พวกเขาทันทีไม่ได้หรอก”

เรียกชื่อเดิมมาตั้งนานหลายปีจนชินแล้ว ตอนนี้ถ้าจะให้เรียก ชื่อใหม่คงต้องใช้เวลาอีกสักหน่อยถึงจะชิน แต่แบบนี้มันถึงจะ ปกติที่ลูกๆจะได้ใช้นามสกุลของพ่อ

จงจึงห้าวโอบไหล่เธอไว้แล้วดึงเข้ามากอดพลางก้มมองไหล่ที่ เปลือยเปล่าของเธอแล้วขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย หลินซินเหยียนไม่ ได้สังเกตเห็นสายตาของเขา เธอซบลงในอกเขาเงียบๆ โดยไม่ ถามออกมาว่าจะไปที่ไหนต่อ
ไม่นานรถก็มาหยุดลงร้านดอกไม้ จงจึงจูงมือเธอจากรถ จู่หลินซินเหยียนก็อยากหัวเราะออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ จริงพวกเขาทั้งสองใช้เวลาอยู่ด้วยจริงทำไม ถึงรู้สึกว่าทั้งเป็นเหมือนคู่สามีภรรยากันมานาน เหลือนเกิน บางอาจเป็นเพราะลุก

อีกทั้งตอนนี้มาทำตัวเหมือนเด็กๆ ที่กำลังมีแฟนแล้วมาซื้อ ดอกไม้เธอไม่สบายใจนิดหน่อยจึงเขาพวกอย่า ไปเลย”

จงห้าวกับเจ้าของร้านดอกไม้ออกไปอย่างว่าต้องการเท่าความตัวเขาเองมีต่อเธอ

เป็นครั้งแรกดอกไม้หล่อนมอง หลินสลับใหญ่สวมชุดสูทและรองเท้าแววตอนเขาไม่พูดไม่จา ทำหน้ามันให้ความรู้สึกกับเกินเอื้อมมาก

เจ้าของร้านเป็นผู้หญิงวัยสิบๆ เธอเหม่อมองจงจึงห้าวลืมพูดไปชั่วขณะ

หลินซินเหยียนทำหน้าขรึมและพูดท้วงขึ้นขายแล้วหรอ คะ

เจ้าของร้านดอกไม้หันมาตาด้วยความเก้อเขิน จากนั้นก็พูดแนะนำออกมา”ดอกกุหลาบนั้นมีหลายแบบและหลายความ หมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสี เรื่องจำนวนดอก…….

“ฉันจะเอาช่อนั้น”หลินซินเหยียนพูดขัดเจ้าของร้านดอกไม้

พร้อมกับชี้ไปที่ช่อดอกกุหลาบสีแดงที่ห่อไว้อย่างสวยงาม เธอไม่ชอบสายตาที่ผู้หญิงคนนี้มองมาที่จงจึงห้าว เธออยาก รีบซื้อแล้วรีบออกไป

“อันนั้นเป็นของลูกค้าที่สั่งจองไว้ค่ะ……

“คุณจะเอาเท่าไหร่”จงจิ่งห้าวหยิบกระเป๋าตังค์ออกมา เพียง แค่หลินซินเหยียนต้องการดอกไม้ช่อนั้น และขอแค่เธอชอบ ไม่ ว่าจะต้องจ่ายเท่าไหร่มันก็ไม่มีปัญหา

เจ้าของร้านลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เห็นแก่ผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลา แถมใจกว้างคนนี้ เธอก็เลยตกปากรับคำไป”ก็ได้ค่ะ”

เดี๋ยวเธอค่อยห่อให้ลูกค้าคนนั้นใหม่ก็ได้

ยังไงก็ได้เงินทั้งคู่ แถมผู้ชายสุดหล่อคนนี้ยังเอ่ยปากขอเอง ด้วย เธอปฏิเสธไม่ได้หรอก

เจ้าของร้านดอกไม้ถือดอกไม้ช่อนั้นเดินมาแล้วยื่นให้หลินซิน เหยียนพร้อมกับยิ้มพูดขึ้นเดิมนี้เป็นของคุณผู้ชายท่านหนึ่งที่สั่ง จองไว้ว่าจะเอาดอกไม้เก้าสิบเก้าดอก เขาจะเอาไปขอแต่งงาน แต่เห็นแก่แฟนคุณที่หล่อขนาดนี้ฉันก็เลยขอยกให้พวกคุณก่อน แล้วกัน”

หลินซินเหยียนรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ยังไงนี่ก็เป็นของที่คนอื่นสั่งจองไว้ แถมยังจะเอาไปขอแต่งงานอีก

ถ้าเกิดทําแผนเขาล่มล่ะก็ เธอคงรู้สึกผิดแย่

เจ้าของร้านดอกไม้สังเกตเห็นว่าหลินซินเหยียนกำลังลังเลจึง เอาช่อดอกไม้ยัดเข้าไปในมือของเธอพลางยิ้มพูดขึ้นไม่ต้อง รู้สึกผิดหรอกค่ะ เดี๋ยวฉันห่อใหม่อีกอันหนึ่งก็ได้

หลินซินเหยียนทําได้เพียงแต่รับไว้ พอถือช่อดอกไม้ออกมา จากร้าน หลินซินเหยียนก็รู้สึกได้ว่าเธอกำลังมีแฟนจริงๆ เพียง แต่ว่าคู่รักคนนี้ไม่ค่อยโรแมนติกเท่าไหร่ ขนาดเรื่องที่โรแมนติ กมากๆ เขายังทำให้มันแข็งกระด้างได้เลย

แต่ไม่เป็นไร เธอชอบ

เธอเอามือคล้องแขนจงจึงห้าวก่อนแล้วพูดขึ้น “ฉันชอบมากๆ เลย”

เขาหันมามองเธอที่กำลังยิ้มร่า แค่นี้ก็พอใจแล้วหรอ?

หลินซินเหยียนหัวเราะร่า ที่จริงพวกผู้หญิงก็มักจะพอใจกับ อะไรง่ายๆแบบนี้แหละ เพียงแค่คุณผู้ชายทำให้เธอรู้สึก ปลอดภัย และเซอร์ไพรส์เธอบ้างเป็นบางครั้ง แค่นี้พวกผู้หญิงก็ รู้สึกมีความสุขมากๆแล้ว

คนขับรถเปิดประตูรถให้พวกเขา ทว่าขณะที่กำลังจะก้าวขึ้นรถ จู่ๆก็มีเสียงคนเรียกดังขึ้นมาจากด้านหลัง

“พี่สะใภ้”
หลินซินเหยียนหันกลับไปก็เห็นรถคันหนึ่งจอดอยู่อีกฝั่งในเลน ตรงข้าม หลี่จ้านเปิดประตูรถแล้ววิ่งข้ามถนนมา ผมนึกว่า ตาฝาดไปซะอีก”

เดิมเขาก็กำลังจะไปหาหลินซินเหยียน เพียงแต่ว่ามีธุระต้อง ผ่านทางนี้ และพอมองผ่านกระจกร้านดอกไม้เข้าไปก็เห็นว่าคน ข้างในร้านเหมือนหลินซินเหยียนกับจงจึงห้าว แต่ก็ไม่แน่ใจ เพราะรู้สึกว่าพวกเขาทั้งสองไม่น่าจะเป็นคนที่ทำอะไรเหมือน เด็ก’แบบนี้

อย่างเช่นการซื้อดอกไม้ มีแค่เด็กน้อยเท่านั้นแหละถึงจะทำ

เขาก้มหน้าลงทำท่าลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “เอ่อคือว่า……..พี่สะใภ้ คือ พ่อของผมกำลังป่วย และเขาอยากจะเจอคุณครับ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ