กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่501 ฝันถึงความหลัง ยากที่จะลืมเลือน



บทที่501 ฝันถึงความหลัง ยากที่จะลืมเลือน

” ประธานจงรู้จักผู้หญิงในรูปนั่น หรือว่าสนใจเธอกันแน่ ” หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์โน้มตัวลงไปเก็บเอกสารที่โปรยอยู่ บนพื้น และก็ยังมีบัตรเชิญใบนั้นอีกด้วย นี่คือบัตรที่เพื่อนเป็นคน มอบให้หล่อน เลยหนีบไว้ในเอกสารจนลืมเอาออก พอถึงเวลา ประชุม ไม่ทันได้ระวังก็เลยทำเอกสารตก ทำให้จงจึงห้าวที่มา ร่วมประชุมถึงกับชะงัก หล่อนจึงถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจ

หล่อนถือเอกสารที่เพิ่งเก็บขึ้นมา ในมือหนีบบัตรเชิญเอาไว้ ดู อยู่อย่างนั้นสักพัก ก่อนจะยื่นให้จงจึงห้าว ” อันที่จริงฉันแต่งงาน แล้ว ชุดแต่งงานก็คงไม่ต้องใช้แล้วล่ะ ถ้าได้ไปเห็นชุดแต่งงานที่ สวยกว่า ฉันไม่แน่ใจว่าตัวเองจะปวดใจจนเปลี่ยนสามีใหม่หรือ เปล่า ถ้าไม่งั้นให้ประธานจงไปจะดีกว่าค่ะ 11

ในฐานะที่เป็นหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ ค่อยจัดการปัญหาที่ รับมีอยากภายในบริษัท หล่อนจึงมีความสามารถในการสำรวจ และทำความเข้าใจอารมณ์และสีหน้าได้อย่างละเอียด

ถึงแม้จงจิ่งห้าวจะไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาว่าอยากได้ แต่หล่อนก็พอจะดูออกอยู่บ้าง ว่าเขาสนใจคนในบัตรเชิญนั้น ไม่ งั้นก็คงไม่ชะงักอย่างที่เห็น

จงจิ่งห้าวไม่เกรงใจ จึงยื่นมือไปรับมันเอาไว้ ” ขอบคุณครับ ”

ในฐานะหญิงวัยกลางคนอายุสี่สิบปีที่เป็นหัวหน้าฝ่าย ประชาสัมพันธ์ หล่อนไว้ผมสั้นจัดทรงประณีตเรียบร้อยดูกระฉับกระเฉง ใส่ชุดทางการดูมืออาชีพ เดินตามเขาเข้าห้อง ทำงานไป แต่ก็โพล่งถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น ” ประธาน จงรู้จักผู้หญิงในนั้นเหรอคะ ”

ยังไม่ทันไรเลยชอบคนใหม่ซะแล้วเหรอ ครั้งที่แล้วผู้หญิงคน นั้นที่เปิดตัวต่อหน้าพนักงานในบริษัท ก็ไม่ได้หน้าตาแบบนี้นี่

“ทำไมเรื่องส่วนตัวของผม ถึงได้รับความสนใจจากคนอื่นได้

ขนาดนี้ล่ะครับ ” จงจิ่งห้าวสีหน้าดูไร้อารมณ์ มองหล่อนเนิบๆ

หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ยิ้มแหยๆ แล้วหัวเราะ ” นิสัยอยาก รู้อยากเห็นก็เป็นธรรมชาติของผู้หญิงนี่คะ ฉันก็เหมือนกัน ถึงแม้ ประธานจงจะทำเหมือนฉันเป็นผู้ชายก็ตาม ” พูดจบหล่อนก็นั่งลง บนที่นั่งของตัวเอง จงจึงห้าวเป็นคนที่ใช้งาน ใครไม่สนว่าเป็น ชายหรือหญิง แค่มีความสามารถที่พร้อม เขาก็จะมอบหมายและ ภารกิจที่สำคัญที่เหมาะสมให้

ว่าแล้วเขาก็ก้มหน้าลงไปมองผู้หญิงที่ใส่ชุดกี่เพ้าสีแดง ใน บัตรเชิญ สายตาดูไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่

หลังจากที่ฉินยาได้ศัลยกรรมใบหน้าเสร็จแล้ว หมอก็ส่งรูป หลังผ่าตัดให้เขาดู ดังนั้นเขาก็เลยรู้ว่าหน้าตาของฉันยาในตอน นี้เป็นอย่างไร ถึงแม้จะต่างกับเมื่อก่อนลิบลับ แต่หากเคยดู รูปภาพการเปลี่ยนแปลงมาแล้ว ก็ยังพอจะดูออกอยู่บ้าง

หลังจากที่เธอออกจากโรงพยาบาลแล้วก็หายสาบสูญไปเลย เท่าที่เขาเดาน่าจะอยู่ด้วยกันกับหลินซินเหยียนถึง ในบัตรเชิญจะ ไม่มีแม้แต่เงาของหลินซินเหยียน แต่เขารู้สึกได้ว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวโยงกับหลินซินเหยียนอย่างแน่นอน

จากนั้นเขาก็ให้กวนจิ้งเอาบัตรเชิญไปวางไว้ที่ห้องทํางานของ เขา จากนั้นก็ลากเก้าอี้ห้องประชุมตรงกลางออกแล้วนั่งลง แล้ว เริ่มประชุมของวันนี้

ภายในนั้นพนักงานระดับสูงเป็นร้อยกว่าคน นั่งตัวตรงแต่ว สําหรับพวกเขาแล้ว ทุกครั้งที่มีการประชุมเหมือนกับสมรภูมิที่ โหดร้ายและทารุณ พวกเขากลัวที่จะพูดผิด กลัวที่งานของพวก เขาจะทำให้หัวหน้าไม่พอใจ และกลัวว่าทุกครั้งที่เริ่มประชุมมัน จะไม่จบไม่สิ้น ถ้าได้นั่งแล้วก็ยังยาวไปหลายชั่วโมง นั่งนานจน ริดสีดวงแทบจะออกมาอยู่แล้ว จะให้พวกเขามีชีวิตต่อได้หรือ เปล่าก็ยังไม่รู้เลย

ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงกลางคนนั้น มักจะใจแคบกับพวกเขาเสมอ แม้กระทั่งรอยยิ้มก็ไม่เคยจะมีให้ชอบทำให้พวกคนข้างล่างนี้ รู้สึกเหมือนตัวเองทำอะไรบางอย่างผิดมา จนทำให้เขามีใบหน้า และอารมณ์ที่กลายเป็นภูเขาน้ำแข็งเช่นนี้

แต่อันที่จริงแล้ว ถึงงานของพวกเขาจะทําออกมาอย่างเพ

อร์เฟค ก็ไม่มีทางที่จะได้รับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา แต่ก็ช่าง

มันเถอะ อย่างน้อยก็ได้รับคำชม ยังดีกว่าแต่ก่อนตั้งเยอะ ถ้าเป็น

เมื่อก่อนทํางานเสร็จเรียบร้อยก็ไม่โดนว่า แต่ถ้าทำงานที่เขา

มอบหมายให้ไม่เรียบร้อย หรือคุณภาพงานที่ทำออกมาไม่ตรง

ตามที่เขาต้องการแล้วละก็ ก็จะโดนด่าต่อหน้าทุกคนเป็นชุด และไม่มีการไว้หน้าใดๆ ทั้งนั้น
ถึงว่าตอนนี้ก็ดีขึ้นมาแล้วมากโข

แค่นี้พวกเขาก็พอใจแล้ว แต่แค่แอบภาวนาในใจเงียบๆ ให้ ช่วงเวลาตอนนี้จบสิ้นเสียที ให้พวกเขามีความรู้สึกที่ว่า เทวดา กำลังทะเลาะกัน จึงทำให้นักโทษที่ตกเป็นเบี้ยล่างนั้นเป็น อิสรภาพอะไรประมาณนั้น การประชุมครั้งนี้ก็ไม่ได้ยืดยาวอะไรมาก ภายในสองชั่วโมง

ทุกอย่างก็เสร็จสิ้น

จงจึงห้าวเดินออกจากห้องประชุมไปก่อน กวนจิ้งจึงเดินตาม หลังเขาออกไป ก่อนจะรายงานตารางงานในวันนี้ ” ตอนกลาง วันมีนัดเจอกับผู้ว่าการธนาคารถึงที่ร้านอาหารเจียงเยว่ ตอน บ่ายสามมีนัดคุยเรื่องการรับซื้อกับประธานแห่งจงเหลียง และ กลางคืนประมาณสองทุ่มมีงานดื่มฉลองการกุศล ให้ผมหาคนมา คู่กับคุณเพื่อออกงานไหมครับ ”

เบอร์ปกติแล้วงานแบบนี้จะต้องไปเป็นคู่ มีทั้งพาเลขาไป หรือ อาจจะพาภรรยาไป ตามชื่อก็เพื่อที่จะไปสนับสนุนการกุศล แต่ ในความเป็นจริงแล้วก็เพื่อคบค้าสมาคม คนที่จะถูกเชิญไปส่วน มากก็จะเป็นคนที่ค่อนข้างมีฐานะ ใช้โอกาสที่ได้พบเจอกันนี้ เรื่องงานและธุรกิจ คุย

จงจึงห้าวร่างกายผอมและสูงโปร่ง เขาล้วงมือข้างหนึ่งไปที่ กระเป๋ากางเกง ส่วนมืออีกข้างก็ปลดกระดุมคอเสื้อลงมาหนึ่ง เม็ด ” งั้นดื่มการกุศลอะไรนั่นนายไปแทนฉันแล้วกัน ”

แค่เงินถึง ก็คงไม่มีใครพูดอะไรออกมาแล้วล่ะ
กวนจิ้งพยักหน้า ตอนนี้ทั้งคู่เดินมาถึงประตูห้องทำงานแล้ว เขาหยุดฝีเท้าพอดีกับจังหวะที่กวนจึงรายงานตารางทั้งหมดเสร็จ สิ้น จงจิ่งห้าวจึงดันประตูห้องทำงานเข้าไป ไม่รู้ว่าเป็นเผยชวน กับซูจ้านมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ เสิ่นเผยชวนมักทำตัวนิ่งสงบเสมอ จะมีก็แต่ซูจ้านที่ชอบทำตัวหยาบคาย เขาเอนตัวไปพึ่งโต๊ะ ทำงานครึ่งหนึ่ง ในมือก็ถือบัตรเชิญใบนั้นอยู่ เมื่อเห็นว่าในนั้นมี รูปของผู้หญิง นั่นก็คือฉินยาที่อยู่ในชุดกี่เพ้าสีแดง ที่เจ้าตัวนั้น ถูกปักด้วยวิธีการประณีตดูดั้งเดิม ปักออกมาเป็นรูปที่ดูสวยงาม และวิจิตร ผมที่ดำขลับนั่น ม้วนเป็นลอนคลื่นที่ดูสง่ารวบไว้ข้าง หลัง รูปร่างส่วนโค้งเว้าที่ดูน่าหลงใหล และผิวที่ขาวละเอียด สะอาดตา กี่เพ้าที่แหวกทรงสูงเป็นจุดเด่นของ ประเทศZ ถึงแม้ จะโชว์ให้เห็นขาที่เรียวขาว แต่ไม่ได้ทำให้ดูน่าเกลียดหรือขัดหู ขัดตา แววตาของเธอเผยรอยยิ้มที่ดูนิ่งสงบ ทำให้คนที่ได้เห็น รู้สึกถึงความสวยงามและนุ่มนวลจากตัวเธอ

ข้างซ้ายมีตัวอักษรสีทองขนาดใหญ่ เป็นลักษณะลายมือพู่กัน จีนดั้งเดิม ดูเป็นตัวตวัดแต่สวยงามเป็นพิเศษ เขียนว่า ฝันว่าได้ หวนกลับมาพบโดยบังเอิญ สุดท้ายก็ยากที่จะลืมเลือน ชุดฮั่นที่ เป็นเลิศในโลก หากมิได้มาพบกัน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นเล่า

ในบทกลอนนั้นเปี่ยมล้นไปด้วยท่วงทำนอง ทำให้คนที่ได้อ่าน อดไม่ได้ที่จะอยากสืบค้นมัน

แม้กระทั่งบัตรเชิญยังผ่านการออกแบบอย่างตั้งใจ มีหัวข้อที่ แสดงถึงจุดเด่นให้เห็นอย่างชัดเจนซูจ้านหรี่ตามองจงจิ่งห้าว ทำไมบนโต๊ะทำของแบบนี้ตั้งอยู่

” นี่คือใครกัน ทำไมถึงมาปรากฏอยู่บนโต๊ะนายล่ะ” เขาถาม อย่างอ้อมค้อม แต่เหมือนจะสื่อเป็นนัยๆ ว่า นายเปลี่ยนรักใหม่ ไปแล้วเหรอ

จงจึงห้าวไม่ได้สนใจเขา แค่ทำตานิ่งๆ ไม่แยแสแต่อย่างใด

ซูจ้านเบ้ปาก แล้วก็เบนสายตากลับไปมองบัตรเชิญนั้นอีกครั้ง แล้วมองรูปคน ในบัตรนั้นอย่างละเอียดอีกที หลังจากพิจารณา อยู่นานก็พูดข้อสรุปออกมา ” ดึงดูดสายตา ทำให้ผู้ชายหลงใหล สวยก็สวยจริง แต่ว่า….”

” ซูจ้านโว้ย มึงช่วยไว้หน้าหน่อยได้ไหม อย่าเห็นว่าเป็นผู้ หญิงแล้วมึงก็ทำตัววาบหวามใส่ทุกครั้ง ” เสิ่นเผยชวนเพิ่งจะ ประชุมที่สถานีตำรวจเสร็จ ก็ถูกซูจ้านลากมาที่นี่ ตอนนี้สวม เครื่องแบบครบชุด ดูเท่และมีสง่าราศีเป็นที่สุด

พอนั่งลงตรงนั้นด้วยท่าทีสบายๆ แต่กลับดูมีพลัง ทำให้รู้สึก ปลอดภัย เดิมทีก็เป็นคนแข็งกระด้างอยู่แล้ว บวกกับชุดเครื่อง แบบสีมืด โทนเย็นนี้อีก ก็ทำให้คนที่ได้เห็นรู้สึกถึงความมีศักดิ์ศรี ที่สูงส่งน่าเกรงขามไม่ยอมให้ใครมาดูหมิ่นได้ง่าย

ซูจ้านช้อนสายตาขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะกลั้นหัวเราะเสิ่นเผยชวน ” เราสองคนใครกันแน่ที่ไม่มีหน้าให้ไว้ กูพูดจากใจจริงเลยนะ ต่อ ให้เป็นสิ่งที่คิดไปไกลอ่ะ มึงก็ยังโทษกว่าความคิดไม่บริสุทธิ์ อยู่ดี คนอย่างกูพูดความจริงเว้ย ผู้หญิงในนั้นสวยก็จริง แต่ดู เหมือนขาดแรงดึงดูด ดูเย็นชาเกินไป สู้ฉินยาของเราที่เข้ากับคน
ง่ายไม่ได้หรอก ที่ทำให้ใครต่อใครก็รู้สึกอยากสนิทสนม ทำความรู้จักด้วย ‘

ก่อนเขาจะเอาบัตรเชิญกลับไปวางบนโต๊ะเหมือนเดิม แล้วเดิน เข้ามา ยืนอยู่ข้างโซฟา จากนั้นก็เอามือวางไว้บนไหล่ของเส้น เผยชวน ” กูมันคนจริง ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ไม่เหมือนมึงหรอก ทั้งทางที่เป็นคนดุดันและเหี้ยมโหดน่ากลัว แต่แอบทำตัว สงบเสงี่ยมเรียบร้อย ”

ขณะนั้น โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของเสิ่นเผยชวนก็ดังขึ้น เขาเลยไงหน้าขึ้นมามองเสิ่นเผยชวน ตอนแรกก็กะจะเอาคืนเขา แต่ก็ต้องเก็บคำพูดรุนแรงนั้นกลืนมันลงไป แล้วหยิบโทรศัพท์ ออกมาดู ก็เป็นหมายเลขที่ไม่ได้เมมชื่อเอาไว้ แถมตัวเลขบนจอ ก็ดูไม่คุ้นอีกต่างหาก เหมือนไม่เคยเห็นมาก่อน

ซูจ้านเหร่ตามอง ก่อนจะนั่งลงโซฟาตรงข้าม ” คงไม่ใช่ฝ่าย ก่อความวุ่นวายหรอกนะ ”

เสิ่นเผยชวนมองค้อนเขาไปหนึ่งที่ ” ไม่พูดมันจะตายไหม ” ซูจ้านปิดปาก ไม่พูดก็ได้วะ จะดูอะไรนักหนา จะขู่ที่ตัวเองมี แรงเยอะกว่าว่างั้นเถอะ

เขาจึงพูดแขวะเบาๆ ” ไอ้ผู้ชายหยาบคาย ”

เสิ่นเผยชวนไม่ได้สนใจเขา ก่อนจะกดรับสายแล้วแนบไว้ข้าง หู ไม่นานก็มีเสียงใสแจ๋วของหญิงสาวตอบกลับมา ” ใช่หัวหน้าเสินหรือเปล่าคะ “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ