กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 328 อันนี้ให้หนูหรอ



บทที่ 328 อันนี้ให้หนูหรอ

“ฉันไม่เสียใจทีหลัง” แม้จนถึงตอนนี้ จวงจื่อจีนก็ไม่คิดว่าตัว เองผิด ตอนนี้หลินกั๋วอันตายแล้ว ในใจเธอกลับมีความสุข

หลินซินเหยียนมองจวงจื่อจิ๋นเนิ่นนาน ถึงจะพูดว่า “แม่เคยคิด ไหมว่า นี่มันผิดกฎหมาย เคยคิดไหมว่าหนูจะทำอย่างไร?”

“เคยคิดสิ” จวงจื่อจิ่นคิด ในตอนนั้นว่า ถ้าหากไม่โดนตรวจ พบ เธอก็จะช่วยเธอดูแลเด็กๆ แต่ถ้าหากถูกพบ เธอก็ต้อง ยอมรับโทษตามกฎหมาย ก็จะไม่สามารถช่วยเธอดูแลเด็กๆได้ แล้ว “ต่อให้ไม่มีฉัน เธอเองก็สามารถมีชีวิตต่อไปได้ ฉันดูจงจึง ห้าวก็ไม่เลวอะไร อีกทั้งเธอเองก็คลอดลูกให้เขาทั้งสองคน เห็น แก่หน้าเด็กๆ เขาก็จะดูแลเธออย่างดี

หลินซินเหยียนกำหมัดแน่น “เพราะงั้น แม่เลยคิดแทนหนูไป แล้วใช่มั้ย?”

“ขอโทษ” นอกจากคำนี้ จวงจื่อจีนเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร

หลินซินเหยียนในใจรู้สึกสับสน เธออดทนอย่างถึงที่สุด ถึงไม่ ได้ร้องไห้ต่อหน้าจวงจื่อจั่น “สองวันก่อน เสี่ยวเฉินและเสี่ยวลุ่ย ยังพูดอยู่เลยว่าคิดถึงแม่ ต่อไปแม่จะให้ฉันบอกกับพวกเขาว่า อะไร? บอกพวกเขา ว่าคุณยายของพวกเขาเป็นนักโทษฆ่าคน อย่างนั้นหรอ?”

นักโทษฆ่าคน สี่คำนี้ทำให้จวงจื่อจีนหน้าเปลี่ยนสี
หลินซินเหยียนรู้สึกว่าตัวเองพูดผิดไป แต่ว่าค่าที่พูดออกไปก็ เหมือนนาที่สาดออกไป ตัวเธอเองก็เสียใจมากเช่นกัน

“หลังจากนี้ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข จวงจื่อจีนพูดแล้วก็ ลุกขึ้น เธอเดินไปที่ประตู เอามือแตะไปที่ลูกบิดประตูแต่ไม่ได้ เปิดออกทันที เพียงแต่ยืนเงียบๆอยู่ตรงนั้น ผ่านไปสักพัก ถึงจะ พูดขึ้นว่า “ในเมื่อเรื่องมาถึงตรงนี้ คงหวนกลับไปไม่ได้แล้ว เธอ อย่าโทษฉันเลย ฉันเคยสัญญาว่าจะดูแลเธออย่างดี แต่ฉันก็ทำ ไม่ได้ ฉันขอโทษจริงๆ

หลินซินเหยียนไม่รับรู้ถึงความหมายในคำพูดของเธอ ได้แต่ โทษตัวเองสุ่มสี่สุ่มห้า

ถ้าหากว่าเธอใส่ใจจวงจื่อจีนมากกว่านี้ ก็คงสังเกตเห็นถึง ความคิดของเธอ ก็คงไม่ทำผิดพลาดครั้งใหญ่แบบนี้

เดิมที เธอมีโอกาสที่จะเกลี้ยกล่อมเธอ แต่ว่าตอนนี้…

หลินซินเหยียนปิดหน้าและร้องไห้ ไม่ว่าจะตัดสินออกมา อย่างไร เธอจะต้องติดคุกอย่างแน่นอน

เดิมที่เธออาจจะได้มีบั้นปลายชีวิตที่ดี แต่เพราะว่าแก้แค้น หลินกั๋วอัน ถึงกับทำลายบั้นปลายชีวิตที่มีความสุขของตัวเองทิ้ง

คุ้มค่าไหม?

ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆของหลินซินเหยียน หัวใจของจวงจื่อ นราวกับถูกบีบไว้แน่น “อย่าเสียใจไปเลย ในเมื่อฉันเลือกที่จะ ทำแล้ว ก็คิดถึงผลที่จะตามมาไว้แล้ว ถ้ามีสิ่งที่จะไม่ได้คิดไว้เลยก็คือความรู้สึกของเธอและเด็กทั้งสองคน บอก…… ดวงตาของ จวงจื่อจั่นเองก็แดงก่ำ เสียงแหบพร่า “บอกเด็กทั้งสองคนด้วย ว่าคุณยายของพวกเขาไปอยู่ในที่ที่ไกลมาก ขออย่าพาพวกเขา มาหาฉันที่นี่เด็ดขาด และอย่าบอกพวกเขาในเรื่องที่ฉันทํา ฉัน ไม่ใช่แบบอย่างที่ดี”

จวงจื่อจิ่นดึงประตูเปิดออก หลังจากนี้ เธอเองก็อย่ามาหา ฉันอีก”

พูดจบเธอก็รีบเดินออกไป กลัวจะได้ยินเสียงร้องไห้ของหลิน นเหยียน กลัวว่าหากตัวเองยังคงอยู่ตรงนั้นต่อ คงจะรู้สึกเสียใจ กับทุกอย่างที่ตัวเองตัดสินใจทำลงไป

เสิ่นเผยชวนและจงจึงห้าวยืนอยู่ที่ระเบียง พอได้ยินเสียงเปิด ประตู สายตาก็หันไปมองพร้อมกัน

“ฉันขอคุยอะไรกับคุณตามลำพังได้ไหม?” จวงจื่อจีนมองจงจิ่ง

ห้าว

จงจิ่งห้าวเม้มปากเล็กน้อยแต่ไม่พูดอะไร แต่ว่าเสิ่นเผยชวน

อ่านความหมายของเขาออก “พวกคุณคุยกันเถอะ”

เสิ่นเผยชวนเดินออกไป

จวงจื่อจีนเดินเข้ามา เธอกุมมือทั้งสองข้างของเธอ นั่งอยู่สัก พัก “ฉันอยากขอร้องเธอเรื่องหนึ่งได้ไหม?”

น้ำเสียงของจงจิ่งห้าวเบามาก จนฟังไม่ออกว่าอารมณ์ไหน “คุณพูด”
“เหยียนเหยียนกับฉันได้รับความลำบากมาก็มาก เป็นฉันเอง ที่ไม่ได้ดูแลเธอให้ดี ตอนนี้ ฉันยังทำให้เธอเสียใจอีก สำหรับเธอ ฉันรู้สึกเสียใจและเจ็บปวดใจมาก หลังจากนี้ ฉันกลัวว่าจะไม่ได้ ดูแลเธอและเด็กสองคนนั้นอีก คงต้องฝากนายด้วย

“พวกเขาเป็นลูกเมียผม ผมไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายพวกเขา แน่” ไม่ใช่คำสัญญา แต่ตอนนี้ กลับเป็นน้ำเสียงที่จริงจัง

“ฉันเชื่อเธอ” จวงจื่อจิ่นหยิบสร้อยคอเส้นหนึ่งออกมาจาก กระเป๋าแล้วยื่นให้จงจึงห้าว “รบกวนนายเอาสิ่งนี้ให้เธอด้วย บอกเธอ นี่เป็นของที่แม่ของเธอทิ้งไว้ให้เธอ

จงจิ่งห้าวไม่รับ

จวงจื่อจีนรีบอธิบาย “ตอนนี้จิตใจเธอน่าจะกำลังหวั่นไหว เพราะงั้น…”

จงจิ่งห้าวเข้าใจ แล้วรับของมา

สร้อยแพลตตินั่มเส้นหนึ่ง เส้นบาง ไม่มีจี้ เขามองสร้อยเส้นนี้ แล้วพิจารณาถึงคำพูดของจวงจื่อจีน รู้สึกมีบางอย่างที่ไม่ปกติ ลองถามออกมา “นี่เป็นสิ่งที่คุณทิ้งไว้ให้เธอหรอ?”

จวงจื่อจิ๋นเงียบไปสักพักจึงพูดว่า “ใช่” เธอนิ่งไปพักหนึ่ง “ตอนนี้เธอยังอยู่ในห้อง ยังอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ ปลอบเธอหน่อย นะ”

พูดจบจวงจื่อจีนก็เดินไปที่ประตูแล้วเรียกเงินเผยชวน

เสิ่นเผยซวนไม่ได้รีบร้อนพาเธอไป แต่มองไปที่จงจิ่งห้าวเพื่อถามความเห็นเขา

จงจิ่งห้าว โบกมือ

เสิ่นเผยชวนเข้าใจ และพาจวงจื่อนออกไป

จงจึงห้าวยังอยู่ที่เดิม เขาก้มหน้ามองที่สร้องคอในมือของเขา ยังคิดว่าคําพูดของจวงจื่อจีนอาจมีความหมายแฝงอยู่

แต่ความสงสัยก็ถูกเขาปฏิเสธทิ้งอย่างรวดเร็ว จวงจื่อจีนไม่ใช่ แม่แท้ๆของเธอ แล้วจะเป็นใครไปได้ล่ะ?

เขาคิดว่าน่าจะเป็นเพราะตัวเองคิดมากไป ก็แค่ประโยคที่จวง จื่อจิ่นพูดมันไม่ถูกต้อง

เขาเก็บมันไว้ในมือ และเดินไปที่ห้องทำงานของเส้นเผยชวน

ประตูถูกแง้มไว้ข้างในห้องมีเสียงสะอื้นดังออกมาเป็นระยะ

พยายามระงับความอึดอัดในใจ มีความเจ็บปวดรวดร้าวที่พูด ออกมาไม่ได้

นัยน์ตาของเขาเคร่งขรึม ค่อยๆเปิดประตูเข้าไป

เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหว หลินซินเหยียนเก็บเสียงสะอื้นไว้

ไม่ใช่เพราะไม่เสียใจ แต่เป็นเพราะไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าคนอื่น จงจิ่งห้าวเดินเข้ามา

หลินซินเหยียนไม่ได้เงยหน้า เธอเช็ดหน้าของตัวเองแล้วพูด

ว่า “พวกเราไปกันเถอะ”
จงจิ่งห้าวจับแขนของเธอ ไม่ได้พูดอะไร แล้วก็ดึงเธอเข้ามาใน อ้อมกอด เขาลูบผมยาวของเธอ “อยากร้องไห้ก็ร้อง ต่อหน้าผม ไม่ต้องทําเป็นเข้มแข็ง

หลินซินเหยียนเอาหัวซุกที่อกของเขา “ฉันโกรธ ฉันเสียใจ ไม่ใช่เพราะแม่ปิดบังฉัน ฉันโกรธ ที่เธอทำไปมันไม่คุ้มค่า เพียง เพราะคนเลวๆแค่คนเดียว ถึงกับต้องทิ้งชีวิตของตัวเอง ไม่คุ้มค่า เลยจริงๆ”

“บางที เธอคิดว่ามันคุ้มค่าล่ะ?” จงจึงห้าวพูดโน้มน้าวเธอ “คุณลองคิดดูสิ หากคนคนหนึ่งเก็บเรื่องเรื่องหนึ่งไว้ในใจมา ตลอด และก็ครุ่นคิดเรื่องเรื่องนั้นมาโดยตลอด ถ้าอย่างนั้น ทั้ง กายและใจของเขาจะรู้สึกผ่อนคลาย มีความสุข และใช้ชีวิต อย่างเต็มไปด้วยความหวังรึเปล่า?”

หลินซินเหยียนพูดไม่ออก ไม่ยอมรับไม่ได้ว่าจงจึงห้าวพูด เหตุผล

แต่เธอก็ยังยอมรับไม่ได้

สองมือของเธอจับคอเสื้อของจงจึงห้าวไว้แน่นและถามเสียง เบาว่า “หากหลักฐานเป็นที่แน่ชัดแล้ว เธอจะติดคุกนานแค่ ไหน?”

มือใหญ่ของเขาลูบไปที่แผ่นหลังของเธอ ฝ่ามือของเขาค่อยๆ ลูบกระดูกสันหลังของเธอ พูดปลอบว่า “ไม่นานมากหรอก”

หลินซินเหยียนยังคงไม่สบายใจ แต่เธอก็สงบลงมาก มีเงิน เผยชวนมาคอยจัดการให้ เธอเชื่อว่า จะต้องลดโทษให้แก่จวงจื่อจิ่นได้

“พวกเรากลับกันเถอะ” จงจิ้งห้าวโอบเธอ

หลินซินเหยียนเอนตัวในอ้อมกอดของเขาแล้วพยักหน้า จงจึง ห้าวดึงเธอเข้าไปในเสื้อคลุมของเขาแล้วเดินออกจากสำนักงาน เงินเผยชวนรอพวกเขาอยู่ข้างนอก

เขาพูดปลอบใจหลินซินเหยียน “พี่สะใภ้ วางใจเถอะ มีผมอยู่ คุณป้าไม่ลำบากแน่นอน อีกอย่างมันเป็นเหตุสุดวิสัย ภายหลังจะ ต้องได้รับการลดโทษแน่ๆ รอไม่นานหรอก”

เขาเน้นคำว่าเหตุสุดวิสัยมาจำกัดความ

หลินซินเหยียนเข้าใจความหมายของมัน

“ขอบคุณนะ” เธอกล่าวอย่างจริงใจ

เสิ่นเผยชวนยิ้ม “พูดขอบคุณเป็นคนอื่นคนไกลไปได้”

หลังปีใหม่ อากาศหนาวยังไม่หาย ข้างนอกยังคงหนาวมาก เหมือนเดิม หิมะละลายแล้ว ทุกพื้นที่มีแต่เสียงหยดน้ำติ่งๆ รถขับกลับมาที่บ้านตระกูลจง

หลินซินเหยียนเช็ดหน้าเช็ดตาของเธอให้แห้งและตบแก้มเล็ก น้อย เพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้น พึ่งปีใหม่แท้ๆจะให้เด็กสองคนเห็นเธอ ร้องไห้แบบนี้ไม่ได้

เข้าไปในบ้าน เธอยังไม่ทันเปลี่ยนเป็นรองเท้าสลิปเปอร์ หลิน ลุยซีก็วิ่งเข้ามาด้วยขาน้อยๆของเธอ กอดเข้าที่ขาของหลินซินเหยียน ซูไข่นกพิราบในมือขึ้น แล้วถามว่า “หม่ามี้ หม่า อันนี้ให้ หนูหรอคะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ