กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 229 คน รับออกมาไม่ได้



บทที่ 229 คน รับออกมาไม่ได้

“ทำไมฉันไม่อยากพูดล่ะ?” ลูกชายของตัวเองแท้ๆ นะ?

เสียดายขาดไหน เสียใจขนาดไหน

เธอคาดหวังมากๆ ว่า ว่าเขาจะเรียกเธอว่าแม่

ตอนที่คลอดเขาออกมานั้น ก็ได้อยู่ในนามสามีภรรยาของจง ฉีเฟิงและเหวินเสียน ทุกคนต่างรู้ว่าเขาเป็นผู้สืบทอดตระกูลจง เพียงคนเดียว หลานคนเดียวของตระกูลเหวิน

ถ้าเกิดเปลี่ยนคําพูด ว่าเธอเป็นคนคลอด งั้นจะอยู่ในฐานะ อะไรล่ะ?

ตอนนั้นเหวินเสียนกับจงฉีเฟิงเป็นสามีภรรยาตามกฎหมาย

เธอนับอะไร?

ลูกชายเธอนับอะไร?

ลูกลับๆ เหรอ?

ไม่ได้ เธอทําไม่ได้

เธอจะให้จงจึงห้าวมาแบกรับคำว่าลูกชู้ไม่ได้

ต่อไปถ้าเขาได้สืบทอดธุรกิจของตระกูลจง แล้วมีชื่อเสียงแบบ

นี้ คนอื่นจะมองเขายังไง?

“อีกอย่างตระกูลจงกับตระกูลเหวินจะมีความขัดแย้งไม่ได้ ถ้าเกิดเป็นศัตรูกันขึ้นมาจริง มีแต่ทำให้ทั้งสองฝ่ายเสียหาย” เธอ มองหลินซินเหยียน พูดอย่างไร้หนทางว่า “เราคิดว่าฉันสามารถ ที่จะแต่งงานกับจงฉีเฟิงได้ไงล่ะ?”

เธอได้ทําข้อตกลงกับเหวินชิง ถึงได้แต่งเข้าตระกูลจงได้

“เพราะว่าเกี่ยวกับเหวินเสียน เขาก็ได้ไม่ชอบฉันเอามากๆ มัก รู้สึกว่าเป็นเพราะฉัน น้องสาวของเขากับจงเฟิงถึงได้ไม่ได้อยู่ ด้วยกันสักที สุดท้ายก็ได้เสียไปตั้งแต่อายุยังน้อย การจากไป ของเหวินเสียนกระทบจิตใจเขามากเกินไป เขารู้ว่าฉันแคร์พวก ธุรกิจของตระกูลเฉิงก็ได้ใช่สิ่งนี้มาข่มขู่ฉัน

เหวินชิงข่มขู่เธอ ถ้าเกิดอยากจะแต่งงานกับจงเฟิง ก็ต้องให้ ผ้าไหมกวางตุ้งของตระกูลเฉิงหายไปจากโลกนี้ไม่ปรากฏอยู่ใน โลกนี้

หลินซินเหยียนเข้าใจแล้วว่าทำไมผ้าไหมกวางตุ้งน้อยขนาด

นี้ ในตลาดก็ได้มีในปริมาณที่น้อยมากๆ

“เมื่อก่อนตระกูลเหวินจะดูถูกไม่ได้ ตอนนี้ก็เหมือนกัน ถ้าเกิด

เธอเรียนรู้แล้ว ไม่ใช้ก็ยังดี แต่ถ้าถูกจับได้ ฉันกลัว..……. สองมือ

ของเธอก็ได้สั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เรื่องที่เกิดในอดีต ก็เหมือนว่า

เป็นเรื่องของเมื่อวาน แค่นึกๆ ดูก็ยังทำให้หวาดกลัว ช่วงเวลา

นั้นทําให้ชีวิตเธอมีกรงแห่งความหวาดหวั่นขนาดใหญ่ครอบอยู่

เธอรู้ถึงฝีมือของเหวินชิง เธอเคยเจอมา เธอไม่อยากให้หลินซิน

เหยียนตกเป็นเป้าหมายของเหวินชิง

ยิ่งไม่อยากให้เธอเจอกับอันตราย
“ตอนนี้ยังทัน เรียนรู้แล้วก็ไม่เป็นไร แต่ว่าห้ามแสดงออกมา ต่อหน้าผู้คน”

หลินซินเหยียนก็ได้ก้มตัว เอาหัวไปซบที่น้องของเธอ ก็ได้จับ มือทั้งสองของเธอ “ท่านต้องเชื่อใจจึงห้าว เชื่อใจหนู ถึงแม้ว่า อาจจะมีอันตราย แต่ว่าพวกเราต้องฝ่ามันไปได้แน่ค่ะ ท่านเพื่อที่ จะอยู่ข้างๆ จึงห้าวแล้ว ก็ได้เอาธุรกิจที่สืบทอดกันมาของตระกูล เฉิงมาแลก ความรักนี้เขาไม่รู้ แต่ว่า หนูรู้ พวกเรานั้นสามารถที่ จะ ปกป้องธุรกิจที่สืบทอดกันมาของตระกูลเฉิงเพื่อท่าน ให้มัน อยู่บนโลกนี้ตลอดไป ไม่ให้สูบหาย

“เด็กโง่” เฉิงตู่ซิ่วก็ได้ลูบหัวของเธอ “มีชีวิตถึงตรงนี้ ฉันก็หวัง ว่าหนูกับจิ้งห้าว แล้วก็เด็กน้อยอีกสองคนมีชีวิตกันดีๆ อย่างอื่นเธอไม่ได้เห็นว่าสำคัญแล้ว ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่า

คนในครอบครัวอยู่อย่างปลอดภัยแล้ว

หลินซินเหยียนไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ว่าในใจกลับตัดสินใจแล้ว จะให้ธุรกิจที่สืบทอดกันมาของตระกูลเฉิงหายไปไม่ได้ ตอนนี้เธอ เข้าใจในสิ่งที่เฉิงเงินทำแล้ว และก็ไม่ค่อยที่จะพอใจถ้าจะให้ มันสูญหายไปแบบนี้ ถึงได้ตัดสินใจแบบนี้

“เวลาก็ดึกขนาดนี้แล้ว จะไปพักผ่อนด้วยกันกับฉันไหม?” เฉิง ยู่ซิ่วถามเบาๆ

หลินซินเหยียนพยักหน้า บอกว่าดี

เธอพูดจบก็ได้ถอดเสื้อกันหนาวกับรองเท้าขึ้นบนเตียงนอน กับเฉิงยู่ซิ่ว
เฉิงซิ่วก็ได้ห่มผ้าให้เธอ หลินซินเหยียนก็ได้หันหน้าไปมอง เธอ “ครั้งแรกที่เห็นท่าน หนูก็รู้สึกว่าท่านไม่เหมือนกัน”

ไม่เหมือนกับที่เธอเคยเจอมาก่อน เป็นไปอย่างที่คิด ไม่ เหมือนจริงด้วย

เฉิงซิ่วก็ได้ยื่นมือไปจับหัวของเธอ จัดผมที่ได้บังตาเธอไปทัด

หู “ฉันอยากมีลูกสาวมาตลอด”

ตอนนี้ ลูกชายได้มีภรรยาที่ดีแบบนี้ ก็ถือว่าทำให้ฝันเธอเป็น จริงแล้ว

หลินซินเหยียนยิ้ม ตาที่โค้งสวยเอามากๆ เธอก็ได้ออดอ้อน ใส่เฉิงซิ่ว “งั้นท่านก็คิดว่าหนูเป็นลูกสาวเถอะค่ะ เอาความรัก ทั้งหมดมาให้หนู”

ให้หนู ให้หนูหมดเลย ฉันได้เอาจึงห้าวให้หนูแล้ว” เฉิงยูจิ๋วก็

ได้ยิ้ม แต่ว่านัยน์ตานั้นก็ได้มีน้ำบางๆ ปกคลุมอยู่

“ทำไมหนูถึงได้หมั่นกับจิ่งห้าวตอนเด็กคะ?” อยู่ๆ หลินซินเหยี ยนถาม เธอถามจวงจื่อจีนไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ว่าจวงจื่อจีนไม่พูด เมื่อได้ยินที่เฉิงซิ่วเล่า ก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้ ว่าทำไมตอนนั้นถึงได้ ตกลงเรื่องงานแต่งนี้

“ฉันก็ไม่รู้ ฉันก็ได้รู้จากจงเพิ่งมานะจ้ะ ฉันเคยถามเขาว่า ทําไมถึงเลือกเธอ แต่ว่าเขาไม่บอก ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นเพราะ หนูเกี่ยวข้องเหวินเสียนก็เป็นไปไปได้ พ่อแม่ของหนูรู้จักกันเธอ หรือว่าเป็นญาติอะไรพวกนี้หรือเปล่า”
หลินซินเหยียนก็ได้ตกอยู่ในความคิด ตอนนั้นจวงจื่อจีนก็ได้ เอามรดกทั้งหมดแต่งงานกับหลินกั๋วอัน คิดๆ ก็รู้แล้วว่าไม่มี คนในครอบครัวคนอื่นแล้ว ยิ่งไม่เคยได้ยินจวงจื่อจีนพูดถึงเรื่อง ตระกูลเหวิน

ถ้าเกิดตระกูลเหวินที่เก่งจขนาดนี้ แล้วยังเกี่ยวข้องกับตระกูล จวง ตอนนั้นหลินกั๋วอันทำไมไม่คิดให้รอบคอบ แล้วทอดทิ้งส่ง พวกเขาไปที่ต่างประเทศ?

หลินซินเหยียนส่ายหน้า ก่อนหน้านี้หนูไม่เคยได้ยินมาก่อน ว่ามีญาติเป็นตระกูลเหวิน ตระกูลแม่ของหนูก็มีแค่แม่หนูคน เดียว”

“อาจเป็นเพราะว่าพวกเรามาชะตากรรมร่วมกัน ไม่ต้องคิด แล้ว หลับให้สบายเถอะ”

หลินซินเหยียนพยักหน้า

คืนนี้ก็เหมือนปกติทุกวัน เงียบสงบมากๆ ก็แค่หลินซินเหยียน ไม่ได้นอน

เธอนอนไม่หลับทั้งคืน เฉิงซิ่วก็เหมือนกัน แต่ก็ได้แกล้งว่า หลับสบายมาก

ตอนเช้า เฉิงเงินก็ได้ไปเตรียมอาหารเช้าที่ล็อบบี้ แล้วก็ได้ ส่งพวกของใช้มาให้พวกเธอ พวกเธอล้างหน้าล้างตาเสร็จ ถึงได้ ไปที่ล็อบบี้

เฉิงยูเวินมองพวกเธอเดินเข้ามาแบบนั้น ก็ได้รู้ว่าการพูดคุยกันทั้งวันทั้งคืนนั้นไม่ได้สูญเปล่า “เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นว่า แม่ เขยกับลูกสะใภ้มีความสัมพันธ์ที่ดีขนาดนี้

เฉิงซิ่วก็ได้ทำสีหน้า ใส่เขา “อย่าคิดว่าเรื่องจะผ่านไปแบบ นี้ ถ้าเกิดว่าเหยียนเหยียนมีอันตรายขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็ อย่าหาว่า ฉันเห็นแก่ผลประโยชน์มากกว่าสายเลือด

เฉิงเงินรู้จักน้องสาวของตัวเองดี ครั้งนี้ก็ไม่ได้เถียงเธอ “เอา หนา นั่งลงทานข้าวเถอะ ถ้าเย็นก็ไม่อร่อยแล้ว

เขาได้ทักทายหลินซินเหยียน “นี่เป็นของขึ้นชื่อของพวกเรา ยัง เธอมาตลอด ก็ไม่ได้มีโอกาสให้ชม วันนี้ อาศัยโอกาสนี้ทาน เยอะหน่อย”

“ค่ะ” หลินซินเหยียนยิ้ม แล้วก็ได้ดันแก้วน้ำเต้าหูไปตรงหน้า เขา “อาจารย์ก็ทานเยอะหน่อยนะคะ”

ตอนแรกเธอก็แค่คิดว่าเขาเป็นอาจารย์ ตอนนี้รับรู้ถึงตัวตน

ของเขา หลินซินเหยียนก็ได้เคารพเขามากกว่าเดิม

“ทานข้าวเสร็จ พวกเราก็กลับไป” เฉิงเงินพูดกับหลินซินเห ยียน เขามองไปทางน้องสาว “เธอจะกลับไปตอนไหน?

เฉิงซิ่วลำบากใจเล็กน้อย เธอค่อยๆ เคี้ยวอาหารที่ปากช้าๆ ความคิดของเธอ เฉิงเป็นมองแวบเดียวก็รู้ “เธออยากจะเจอ เด็กน้อยสองคนไม่ใช่เหรอ มีอะไรที่คุยกันไม่ได้ แม่ของเด็กก็อยู่ ที่นี่แล้ว ก็แค่คำพูดเธอประโยชน์เดียว”

เฉิงซิ่วมองเฉิงตู่เงิน ขมวดคิ้ว “จิ่งห้าวรู้แล้วเหรอ? ความสัมพันธ์ของฉันกับเขาไม่ใช่ไม่รู้จักหน่อย

“เดี่ยว ให้อาจารย์ไปรับลูก บอกว่าฉันคิดถึงพวกเขาแล้ว รับ พวกเขามาที่นี่ ท่านก็สามารถที่จะเจอพวกเขาแล้ว”

“เป็นความคิดที่ดี ก็ยังเป็นหลานสะใภ้ที่ฉลาด” เฉิงเป็นยิ้ม ส่งสายตา ให้เฉิงซิ่ว คราวนี้ ทานข้าวลงแล้วใช่ไหม?

เฉิงซิ่วเม้มปากแล้ว ในใจรอคอยเล็กน้อย และก็ได้ดีใจ เล็กน้อย แป๊บๆ เธอก็ได้เป็นคุณย่าแล้ว

บางครั้งก็เหมือนกับว่าเป็นความฝัน

แต่ว่า ‘ช่วงเวลาที่ดี’ แบบนี้ในตอนนี้ มันจริงมาก

ช่วงชีวิตครึ่งแรก ชีวิตของเธอก็ได้เต็มไปด้วยความน่า เสียดาย ก็แค่หวังว่าชีวิตต่อจากนี้ จะเงียบสงบ ไม่มีอุปสรรค อะไร

ทานข้าวเช้าเสร็จ ตอนที่เฉิงเงินเตรียมที่จะไปรับเด็กนั้น หลิน ซินเหยียนก็ได้เดินออกมา “หนูไปกับอาจารย์ดีกว่าค่ะ”

“ไม่ไว้ใจฉัน?” เฉิงเงินหันไปถาม

หลินซินเหยียนส่ายหน้า “เปล่าค่ะ ฉันไม่ไป กลัวว่าอาจารย์จะ รับคนมาไม่ได้”

จงจึงห้าวต้องไม่ยอม ที่จะส่งเด็กให้เขาแน่ๆ ผู้ชายคนนั้น เธอเข้าใจเขาอยู่ไม่มากก็น้อย

เฉิงเงินเปิดประตูรถ “ขึ้นรถ
หลินซินเหยียนก้มตัวเข้าไปนั่ง

รถก็ได้ขับผ่านหมอกยามเช้าในภูเขา ค่อยๆ ขับไปข้างหน้า เพราะไอหมอก รถก็ได้ขับช้ามากๆ เพราะงั้นตอนที่ถึงนั้นก็ได้ สายเล็กน้อย พวกเขาได้ลงจากรถ ก็ยังเข้าไปยังทางประตูหลังที่ เคยออกมาเหมือนเดิม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ