กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 273 ผมจะยั่วโมโหเขา



บทที่ 273 ผมจะยั่วโมโหเขา

“คุณจะทําอะไร?”

ฉินยาใส่ชุดแต่งงาน วันนี้เธอดูสวยเป็นพิเศษ ตอนนี้ใบหน้า อันสวยงามหน้านิ้วขมวดเข้าหากัน

ซูจ้านพูดตามความจริง เพราะว่าเธอก็มองเห็นแล้ว “ล็อก ประตูไง”

“คุณล็อกประตูทำไม?” น้ำเสียงของฉินยาดังขึ้นเล็กน้อย เดิน เข้าไปจะเปิดประตู แต่ถูกซูจ้านดึงตัวไว้ “คุณจะไปไหน? วันนี้ เป็นวันเข้าหอของเราสองคน ทำไม คุณอยากให้ผมอยู่คนเดียว? ผมจะบอกคุณ เป็นไปไม่ได้”

“คุณ…….อ้าก

คำพูดของฉันยายังไม่ทันได้พูด ก็ถูกซูจ้านดึงเอวแล้วหามตัว ขึ้น ฉินยากระทืบเท้า ซูจ้านไม่สนใจ จากนั้นก็โยนตัวเธอขึ้นไป บนเตียงนุ่ม เขาอยู่เหนือเธอ เกาะกระดุมไปด้วยพูดไปด้วย “ผม จะให้คนอื่นหัวเราะเยาะผมไม่ได้ คืนนี้ คุณห้ามไปไหนทั้งนั้น

ฉินยาไม่ใช่สาวน้อยที่ไม่เคยผ่านอะไรมาเลย เห็นท่าทางแบบ นี้ของซูจ้าน เธอรู้ว่าเขาจะทำอะไร ก็เพราะว่ารู้ดี ก็เลยรู้สึกกังวล ใจ

เธอขยับร่างกาย “ซูจ้านคุณอย่าวู่วาม
ไม่ใช่เพราะเธอสงวนตัว แต่เป็นเพราะว่ายังไม่พร้อม เพราะ ครั้งที่แล้วพวกเขาสองคนดื่มเยอะเกินไป ก็เลยไม่รู้สึกเขิน แต่ ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ทั้งสองคนมีสติดี

ถึงแม้ว่ามีความรู้สึกดีต่อเขา แต่ว่าไม่เคยคบหากันอย่าง

จริงจัง

ซูจ้านยิ้ม “คุณไม่ต้องตื่นเต้น ผมจะทำอย่างอ่อนโยน

“ซูจ้านคุณให้ฉันเตรียมตัวก่อน” ฉินยาพลิกตัวอยากลุกขึ้น จ้านย่อตัวไปจับข้อเท้าของเธอไว้ ดึงขาเธอมาไว้ที่เอวของเขา กดตัวลงไป “พวกเราเป็นสามีภรรยากันแล้ว ยังต้องคิดอะไร อีก?”

คำพูดของฉินยา หายไปกับจูบของซูจ้าน

นอกห้อง เสิ่นเผยชวนจับหัวของหลินซีเฉิน “เสี่ยวเฉินวันนี้ใจดี จริงๆ ซูจ้านยังไม่ได้ลิ้มรสความลำบากเลย น่าจะแกล้งเขาต่ออีก ให้เขารู้ว่าอะไรของล้ำค่าต้องทะนุถนอม

หลินซีเฉินเงยหน้ามองเสิ่นเผยชวน “อิจฉาเหรอครับ?” เงินเผยชวน ”

เขาขมวดคิ้ว “ทำไมต้องอิจฉา?”

“เพราะว่าไม่มีภรรยาไง”

เงินเผยชวน “..……..
“เด็กแสบ กล้าล้ออาเหรอ” เสิ่นเผยชวนทําท่าจะหยิกหูของ เขา หลินเฉินไหวตัวทัน รีบวิ่งหนีไป

หลินซินเหยียนพาลูกสาว เตรียมตัวจะกลับห้องนอน คุณย่าที่ จัดการเรื่องข้างล่างเรียบร้อยแล้วเดินขึ้นมา เห็นหลินลุยซีก็หรี่ ตาลง “แม่สาวน้อย สวยจังเลย เหมือนแม่

เพราะว่าถูกชม หลินลุยซีก็หัวเราะดีใจแล้วทักทาย “สวัสดีค่ะ คุณย่า”

หลินซินเหยียนรีบสอนลูกสาว เรียกแบบนี้ ก็เรียกผิดรุ่นกัน หมดแล้ว เธอย่อตัวลงพูดกับลูกสาว “คุณย่าแม่เป็นคนเรียก แต่หนูต้องเรียกย่าทวด

หลินลุยซีถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจ “ย่าของคุณแม่หนูเรียกว่า ย่าทวดเหรอคะ?”

หลินซินเหยียนพยักหน้า “ใช่”

หลินลียหันไปมองคุณย่า เรียกอย่างปากหวาน “สวัสดีค่ะ ย่าทวด”

“จ้า” หัวใจของคุณย่าเหมือนถูกเสียงหวานของสาวน้อย ทำให้ละลาย จูงมือเธอไว้ “เสี่ยวลุย ให้ย่าทวดไปนั่งที่ห้องหนู หน่อยได้ไหม?”

เธออายุเยอะแล้ว ถึงแม้ว่างานแต่งไม่ต้องให้เธอทำอะไร แต่ก็ มีเรื่องให้ห่วงอยู่ไม่น้อย เพิ่งจัดการเรื่องในงานเสร็จ เธอเหนื่อย แล้ว อยากพักผ่อน แต่อยู่ในที่ไม่คุ้นเคย ก็อยากหาคนคุยด้วยทุกคนต่างก็ยุ่งกัน เห็นสาวน้อยน่ารัก ก็อยากอยู่กับเธอสักพัก คนยิ่งแก่ ยิ่งกลัวเหงา

“แต่ว่า” หลินลุยซีพูดอย่างไม่ต้องคิด เธอจูงมือของย่าทวด เข้าไปในห้อง หลินซินเหยียนก็ตามเข้าไปด้วย ตอนนี้หลินเฉิ นกับเสิ่นเผยซวนไม่รู้ไปเล่นกันที่ไหนแล้ว จงจึงห้าวเพราะอยาก อยู่กับหลินซินเหยียนต่อ ก็เดินตามเข้าไปด้วย

หลินซินเหยียนเทน้ำให้คุณย่า “วันนี้เหนื่อยมาใช่ไหมคะ?” คุณย่ายิ้ม ซูจ้านสามารถได้แต่งงานอย่างราบรื่น เหนื่อย หน่อยก็ไม่เป็นไร “คนแก่แล้ว ทำอะไรไม่ค่อยได้แล้ว”

“คุณย่าร่างกายยังแข็งแรงดี ไม่แก่ค่ะ” หลินซินเหยียนวางน้ำ ไว้ข้างหน้าเธอ

คุณย่าจับมือของหลินซินเหยียนไว้ “ย่าได้ยินว่าหนูกับฉินยา สนิทสนมกันดี?”

หลินซินเหยียนพยักหน้า “พวกเรารู้จักกันนานแล้วค่ะ สนิทกัน

เหมือนครอบครัว”

คุณย่าพยักหน้า “ซูจ้านไม่ใช่เด็กไม่ดี เขาเคยถูกทำให้เจ็บ จากนั้นก็ผิดหวังอยู่เป็นเวลานาน บางทีก็มีผู้หญิงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ เคยจริงจัง ครั้งนี้ ได้เห็นมันแต่งงานย่าก็ดีใจมาก ย่าก็ชอบฉัน ยา เด็กคนนี้ดูเป็นคนจิตใจดี ย่าหวังว่าจ้านจะไม่ทำตัวเหลว ไหล ใช้ชีวิตร่วมกันดีๆ ผ่านไปสักปีหนึ่งก็มีลูกที่น่ารักอย่างเสียว ลุ่ยแบบนี้ แค่นี้ย่าก็พอใจแล้ว
หลินซินเหยียนสังเกตเห็นคำพูดของคุณย่าเหมือนสอดความ หมายบางอย่าง จึงคิดสักว่าเธอกังวล เธอจึงพูดปลอบ “พวกเขา ต้องมีความสุขแน่นอนค่ะ และต้องมีลูกด้วยกัน ถึงเวลา คุณย่า ต้องยุ่งแน่นอน”

คุณย่ายิ้ม “สมพรปากนะ

จงจึงห้าวนั่งดูข่าวในมือถือ สำหรับคำพูดพวกนี้เขาไม่มีความ สนใจจะเข้าร่วม

คุณย่าพูดกับหลินลุยซี “เสี่ยวลุยอายุเท่าไหร่แล้ว?”

“ห้าขวบ หลังตรุษจีนก็หกขวบแล้วค่ะ” สาวน้อยตอบตามจริง

คุณย่ายิ้ม “เวลาผ่านไปเร็วจัง

ก่อนหน้านี้ไม่ได้ยินข่าวอะไรเลย ก็โตขนาดนี้แล้ว

หลินซินเหยียนนั่งพิงอยู่บนโซฟาฟังพวกเธอคุยกัน

หลินลุยซีก็พูดเก่ง ถามคำถามคนแก่ไปเยอะมาก ล้วนเป็นคำ ถามแปลกๆ อย่างเช่น “ย่าทวด แต่งงานคืออะไรคะ?”

จากนั้นคนแกก็อธิบายให้เธอฟังอย่างใจเย็น “แต่งงานก็คือ ผู้ชายคนหนึ่งกับผู้หญิงคนหนึ่ง ร่วมกันสร้างครอบครัว นี่ก็คือ การแต่งงาน” สาวน้อยหมุนตาไปมา “ถ้าอย่างนั้นย่าทวดเคยแต่งงานไหมคะ?”

คนแก่หรี่ตายิ้มแล้วตอบว่า “ต้องเคยแต่งแน่นอน”
“ถ้าอย่างนั้นแต่งกับใครคะ” สาวน้อยถาม

“ก็แต่งกับคุณปู่ของซูจ้านไง

“ถ้าหนูโตขึ้นมาจะแต่งงานได้ไหมคะ?”

คำถามนี้ของสาวน้อยถามออกไป จงจึงห้าวที่ก้มหน้าดูมือถือ ตลอด เงยหน้าขึ้นมองลูกสาว แววตาเปลี่ยนไป เพราะว่าลูกสาว ยังเด็ก เขาไม่เคยคิดถึงปัญหาเรื่องที่ลูกสาวจะแต่งงาน

เขาคิดว่า ไม่มีคนคู่ควรกับลูกสาวของเขา เขาจะเลี้ยงเอง ตลอดไป

หลินซินเหยียนรู้สึกหนังตาหย่อน จากนั้นเธอไม่รู้ว่าเธอหลับ ไปบนโซฟาตั้งแต่เมื่อไหร่ ยังได้ยินเสียงของลูกสาวอย่าง สะลึมสะลือ มีแต่คำถามแปลกๆ

เธอไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนายแค่ไหน แค่ตอนตื่นมาหลินลุยซี กับคุณย่าก็ไม่อยู่ในห้องแล้ว

“ตื่นแล้วเหรอ?” จงจิ่งห้าวยกมาให้

ในห้องเปิดเครื่องปรับอากาศ อุ่นสบาย แต่อากาศแห้ง เธอ รู้สึกคอแห้ง เธอรับน้ำมาดื่มไปสองคำ รู้สึกคอสบายขึ้น “ฉัน นอนไปนานแค่ไหน?”

เขาก้มหน้าดูเวลา “สองชั่วโมง

หลินซินเหยียนวางแก้วน้ำลง ขยี้ตาแล้วนั่งขึ้นมา คิดถึงเรื่องที่ เขาตั้งใจพาเธอออกไปข้างนอก จึงถามว่า “คุณพาฉันออกไปเพราะอยากล่อให้เหอยเจ๋อออกมาใช่ไหม? แต่เขาก็ไม่ได้โง่ที่

จะวิ่งออกมาง่ายๆแบบนั้น จงจิ่งห้าวนั่งลงบนโซฟา จัดผมที่ยุ่งเหยิงของเธอจากการนอน

“เพราะว่าผมอยากทำให้เขาโกรธ”

หลินซินเหยียนเจอเหอยเจอที่ศูนย์การค้า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แน่ ต้องคอยติดตามเธอตลอดเวลา ถึงได้ฉวยโอกาสตอนเธออยู่ ตัวคนเดียว อยากจับตัวเธอไป

ถ้าอย่างนั้น ก็หมายความว่าเขาจับตาดูหลินซินเหยียนอยู่ ตลอดเวลา

เหอยเจ๋อตั้งหน้าตั้งตาจะจับตัวหลินซินเหยียนไป เพราะว่า เขาชอบหลินซินเหยียน

ถ้าอย่างนั้น เขาจึงจงใจจะทำให้เหอรุ่ยเจ๋อเห็นเขากับหลินซิน

เหยียนรักใคร่กัน เพื่อทำให้เหอรุ่ยเจ๋อโมโห

ทำให้เหอยเจ๋ออยากรีบแย่งตัวหลินซินเหยียนไปอีกครั้ง เวลานี้ ถ้าหลินซินเหยียนอยู่ตัวคนเดียว เขาจะปรากฏตัวอีก ครั้งไหม?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ