กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 310 ก้อนแป้งยักษ์



บทที่ 310 ก้อนแป้งยักษ์

“คุณชาย คุณผู้หญิง เกี๊ยวต้มเสร็จแล้วครับ คุณนายให้พวก คุณลงไปครับ” ลุงเพิ่งยืนอยู่หน้าประตู

หลินซินเหยียนต้องกลืนคำพูดที่กำลังอยากพูดลงคอ แล้วพูด

ว่า “พวกเราลงไปเถอะ

ตอนที่จงจึงห้าวกินเหล้ากับซูจ้านและเงินเผยชวน เขาดื่มไป หลายแก้ว โดยไม่ได้กินอะไรเลย ตอนนี้รู้สึกหิวแล้ว

ก็เลยตอบอืมแค่คำเดียว

ยังไม่ถึงปีใหม่ แต่เฉิงซิ่วก็เตรียมอาหารมากมาย น่าจะ เพราะหลินซินเหยียนกับจงจึงห้าวพาลูกทั้งสองมา ก็เลยเตรียม อาหารมากมาย นอกจากเกี่ยวแล้ว ยังมีกับข้าวอีกมากมาย เธอ อยากทําให้จงหิ่งห้าวชอบ

แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาชอบกินอะไร ก็เลยเตรียมเยอะหน่อย

หลินซินเหยียนรู้ใจเฉิงซิ่ว เงยหน้ามองจงจึงห้าว

จงจึงห้าวทำเป็นมองไม่เห็น ดึงเก้าอี้แล้วนั่งลง

หลินซินเหยียนเดินเข้าไปในครัว หม้อที่ต้มเกี๊ยวแม่บ้านปิดไฟ แล้ว หลินซินเหยียนหยิบทัพพี “ฉันตักเองค่ะ”

ในหม้อนั้น เป็นเกี๊ยวที่เฉิงซิ่วกับเธอและเด็กๆช่วยกันต่อ ทำให้สภาพของเกี่ยวในหม้อไม่มีความสวยเลย
หลินซินเหยียนตักของเด็กทั้งสองใส่รวมกันในถ้วยใบใหญ่ แม่บ้านมองไปแล้วรู้สึกไม่เข้าใจ “คุณตักแบบนี้ แค่ดูก็กินไม่ ลงแล้วค่ะ อีกอย่างถ้วยใหญ่มาก ใครจะไปกินคะ?”

หลินซินเหยียนยิ้ม “มีคนกินได้ค่ะ”

เธอจงใจทําแบบนี้

ไม่ยอมกินที่เฉิงซิ่วห่อไม่ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็เอาที่เธอและ ลูกทั้งสองห่อ ให้เขากินจนหมด

กินให้พุงแตกเลย

คนดื้อรั้นแบบนี

หลินลุยซีกินเกี๊ยวไปแล้ว ตอนนี้ก็ไม่อยากกินอะไรอีกแล้ว ดัง นั้นเกี้ยวที่เหลือ หลินซินเหยียนก็แบ่งออกเป็นสามถ้วย หนึ่งถ้วย ให้หลินซีเฉิน หนึ่งถ้วย ให้เฉิงซิ่ว อีกถ้วยให้ตัวเอง

แม่บ้านช่วยยกเข้าไป

หลินซินเหยียนเอาถ้วยใหญ่ที่ ดูไม่ได้เลย ไปวางข้างหน้าจง จิ่งเหยียน แล้วก็พูดว่า “คุณคงไม่รังเกียจนะ? นี่ฉันกับลูกๆทำให้ คุณโดยเฉพาะเลย”

จงจึงห้าวมองเกี๊ยวถ้วยใหญ่ที่วางตรงหน้า หางตากระตุก เลี้ยงหมูใช่ไหม? นี่จะ

“พ่อต้องกินให้หมดนะ อย่าทําลายความตั้งใจของพวกเราล่ะ หลินซีเฉินฉลาด แค่ดูก็รู้แล้วว่าหลินซินเหยียนคิดอะไร ก็เลยตอกย้ำ เขายังดึงน้องสาวเข้ามาด้วย “ดูพ่อ กินเกี๊ยวที่เธอห่อ แล้ว ดีใจไหม?”

“ดีใจ พ่อชอบเกี๊ยวที่หนูห่อไหม?” สาวน้อยถามอย่างตาเป็น ประกาย

จงจิ่งห้าว ……….

เขาจะพูดว่าไม่ชอบได้ไหม?

เขาใช้ช้อนคนไปคนมา เป็นก้อนเป็นก้อน เหมือนก้อนแป้ง ยักษ์ ที่มีผักติดอยู่ข้างบน ดูยังไงก็ดูไม่ออกว่าเป็นเกี๊ยว

“ทําไมพ่อไม่กินคะ?” หลินลุยซ์ไม่ได้คิดอย่างอื่น รู้แค่ว่าพ่อ กินเกี๊ยวที่เธอห่อหรือเปล่า แค่นี้เธอก็พอใจแล้ว

หลินซินเหยียน ช่วยเขาเทกโฉลงไป ด้วยความหวังดี เกี่ยว

ต้องจิ้มจิ๊กโฉ่ถึงจะอร่อยค่ะ”

“จริงค่ะ จิ้มจิ๊กโฉ่อร่อย” หลินซินเหยียนพูดอย่างไร้เดียงสา

เฉิงซิ่วนั่งมองอยู่ข้างๆ อย่างเป็นห่วง กับข้าวมากมายขนาดนี้ เกี๊ยวถ้วยใหญ่ขนาดนั้น กินหมดแล้ว ยังจะกินอะไรลงไหม?

เธอคิดไปสักครู่ “ให้ฉันหน่อยละกัน” เธอยื่นถ้วยเปล่าไปข้าง หน้าเขา

จงจึงห้าวไม่แม้แต่เงยหน้า จิ้มเกี๊ยวชิ้นหนึ่งเข้าปาก ลูกเมีย ของเขาเป็นคนห่อ น่าเกลียดแค่ไหน เขาก็กินได้

เห็นได้ชัดว่าจงจิ่งห้าวยอมกินเอง ก็ไม่ยอมรับน้ำใจของเฉิง
เฉิงซิ่วรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย หลินซินเหยียนเอาเกี่ยวในถ้วย ของเธอใส่ในถ้วยสองชิ้น แล้วยกไปวางข้างหน้าของเฉิงซิ่ว เธอไม่อยากทําให้เฉิงซิ่วลำบากใจหรือเสียใจ พยายามไม่ ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด “หม่ามี้ หนูกินไม่หมด ช่วยหนูกินหน่อยนะ คะ”

เฉิงซิวยิ้มเฉื่อยๆ พูดว่า “ได้”

เกี๊ยวถ้วยใหญ่ขนาดนั้นกินจนหมด แน่นท้องทั้งคืนจนนอนไม่ หลับ

พลิกไปมาทั้งคืน นอนยังไงก็ไม่สบายท้อง

ตอนเช้า ที่โรงพยาบาล

ตลอดทั้งคืน ซูจ้านร้องไปหลายรอบว่าจะดื่มน้ำ กลางคืน คุณย่าตื่นมาครู่หนึ่ง สติก็ยังไม่ค่อยชัด ไม่นานก็หลับไป

ฉินยาไม่ได้นอนเกือบทั้งคืน จนใกล้สว่างแล้ว เธอถึงได้งีบบน โซฟาไปครู่หนึ่ง ก็ค่อยๆหลับลึก จนพระอาทิตย์ขึ้นมาแล้ว เธอก็ ไม่รู้สึกตัวเลย

เมาค้างไปทั้งคืน ซูจ้านปวดเมื่อยไปทั้งตัว เขาพลิกตัวแล้ว ค่อยๆลืมตา รู้สึกสภาพแวดล้อมแปลกตา เขาจำได้ว่าเมื่อคืนไป กินเหล้ากับจงจิ่งห้าวและเสิ่นเผยชวน จากนั้นเงินเผยชวนพาเขา ออกจากร้านอาหาร แล้วจากนั้น เขาก็จะไม่ค่อยได้แล้ว

เขาลุกขึ้นนั่งมองไปรอบห้อง ที่แท้เป็นเผยชวนพาเขามาส่งที่โรงพยาบาล

เขามองไปรอบด้าน เห็นฉินยา บนตัวเธอไม่ได้ห่มผ้า ถึงแม้ว่า ในห้องจะมีเครื่องปรับอากาศ แต่ก็เป็นอากาศช่วงเดือนสิบสอง

ก็หนาวพอสมควร เขาหยิบผ้าห่มบนเตียงขึ้นมา เดินไปห่มให้เธอที่โซฟา พอก้ม

หน้าลงไป ก็เห็นใต้ตาเธอเขียวไปทั้งแผ่น

เห็นได้ชัดว่าพักผ่อนไม่เพียงพอ

ซูจ้านคิดในใจ เธอคงไม่ได้นอนทั้งคืน ไม่อย่างนั้นก็ไม่ได้ดู เหนื่อยขนาดนี้

อาจจะเป็นเพราะซูจ้านเพิ่งตื่น บนผ้าห่มยังมีความอุ่นอยู่ เธอ ห่มแล้วรู้สึกสบาย ก็เลยขยับร่างกาย เปลี่ยนเป็นท่าที่นอนสบาย แล้วนอนต่อ

ซูจ้านนั่งอยู่บนขอบโซฟา จ้องมองเธอที่นอนอยู่ ดูเหมือนเธอ ผอมลงไปนิด สีหน้าก็ไม่ดี

เขาคิด ต้องเป็นเพราะเรื่องของเขาและหลิวเฟยเฟย ถึงเศร้า โศกเสียใจ

ซูจ้านถอนหายใจ ความจริงเขาไม่เคยคิดที่อยากจะทำร้าย

เธอเลย แต่กลับทําร้ายเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ

ประตูห้องถูกเปิดออก ซูจ้านได้ยินเสียง คิดว่าหมอมาตรวจ ห้อง เขายืนขึ้นมองไปที่ประตู
ปรากฏว่าไม่ใช่หมอ แต่เป็นหลิวเฟยเฟย ถือตะกร้าผลไม้ และช่อดอกไม้ยืนอยู่ตรงประตู

“ฉันได้ยินว่าคุณย่าไม่สบาย ก็เลยมาเยี่ยม

ความจริงวันนั้นเธอไปได้ออกจากบ้านตระกูลซู แต่แอบดูอยู่ ข้างนอกว่าฉันยาไปหรือไม่ จากนั้นก็เห็นฉินยาจากไป แต่เห็น จ้านกับอุ้มคุณย่าวิ่งออกมา

เธอก็ตามมาถึงโรงพยาบาล รู้ว่าคุณย่าไม่สบาย เธอไม่มา ปรากฏตัวเมื่อวาน เพราะกลัวว่าตั้งใจเกินไป ก็เลยมาวันนี้

ซูจ้านหน้าเคร่งขรึมทันที “คุณมาทำไม?”

“ฉันมาเยี่ยมคุณย่าไม่ได้หรือคะ?” หลิวเฟยเฟยตาแดง “ไม่ว่า ยังไง เมื่อก่อน คุณก็เคยพาฉันไปที่บ้านแนะนำให้คุณย่ารู้จักแล้ว ฉันเคยเรียกท่านว่าคุณย่า วันนี้ท่านไม่สบาย ฉันมาเยี่ยมท่านมัน ผิดเหรอ?”

ฉินยารู้สึกว่ามีเสียง ขมวดคิ้วแน่น ท่าทางรำคาญ เหมือนไม่ ชอบเสียงรบกวนนี้

ซูจ้านห่มผ้าให้เธออย่างดี กลัวหลิวเฟยเฟยทำให้เธอตื่น ก็ เลยมองไปที่หลิวเฟยเฟย “คุณตามผมมา”

หลิวเฟยเฟยมองพฤติกรรมเมื่อกี้ของซูจ้าน รู้สึกปวดใจ เมื่อ ก่อนเรื่องพวกนี้เขาทำให้เธอ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่น

เธอกำมือไว้แน่น ใบหน้าไม่ได้แสดงอาการอะไรมาก “ฉันวาง ของก่อน”
เธอวางดอกไม้และตะกร้าผลไม้ไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็มองไปที่ จ้าน พูดว่า “เสร็จแล้ว

ซูจ้านไม่ได้พูด แต่เดินออกไปข้างนอก หลิวเฟยเฟยเดินตาม เขาไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ