กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่475 มีเรื่องเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกพวกเธอ



บทที่475 มีเรื่องเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกพวกเธอ

โทรศัพท์ไม่ได้ถูกวางสาย แต่ก็ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา เหมือนกับว่าเป็นเพราะระยะทาง ทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถพูด ความในใจของตัวเองออกมาได้

เป็นหลินซินเหยียนที่ทนไม่ได้อีกต่อไป จึงฝืนใจตัดสายไป เธอ กาโทรศัพท์แน่น มือหนึ่งกดลงไปที่อก พยายามอย่างสุดความ สามารถแต่ก็ไม่อาจกลั้นอาการร้องไห้สะอึกสะอื้นของตัวเองเอา ไว้ได้ แต่กลับร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ

เหมือนกับว่าเด็กทั้งสองคนที่กำลังหลับอยู่บนรถนั้น ถูกเสียง ร้องไห้ของแม่ปลุกให้ตื่น ทำให้ลืมตามองอย่างสะลึมสะลือ ก็ เห็นว่าหลินซินเหยียนกำลังร้องไห้อยู่ หลินลุยขยี้ตา ก่อนจะ เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้เธอ ” หม่าม ร้องไห้เหรอคะ ”

เมื่อเห็นว่าลูกสาวตื่นมาแล้ว เธอก็เอามือปาดน้ำตาแล้วก็เช็ด ริมฝีปากที่แห้งผากนั้น ” ตาของหม่ามีแค่มีทรายเข้านะจ้ะ ไม่ได้ ร้องไห้หรอก ”

เด็กน้อยกะพริบตาปริบๆ ในรถมีทรายที่ไหนกัน แม้แต่ลม ไม่มี ถึงจะมีทรายแล้วมันจะกระเด็นเข้าตาได้ยังไง

” เสี่ยวลุ่ยเช็ดๆ ให้หม่ามีก็หายแล้วเนอะ ” ว่าแล้วเด็กน้อยก็ ยื่นมือเล็กๆ ที่มีเนื้อนุ่มนิ่มนั้นขึ้นมา แล้วลูบลงบนดวงตาของเธอเบาๆ
แต่หลินซีเฉินกลับทำตัวเหมือนผู้ใหญ่เช่นเดิม เด็กน้อยพอจะรู้ แล้วว่าทำไมหม่ามีถึงร้องไห้ แต่ก็ไม่ได้เข้ามาปลอบ เด็กชายยัง คงนั่งนิ่งหันมองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วถอนหายใจเบาๆ

พอถึงช่วงกลางคืน รถก็ขับมาถึงเมืองC หลินซินเหยียนจ่าย เงินหลังลงจากรถ แล้วพาลูกทั้งสองไปพักในโรงแรม ถึงจะดีก มากแล้ว แต่โรงแรมก็ยังมีอาหารสำหรับเซอร์วิตผู้เข้าพักอยู่ หลินซินเหยียน โทรบอกเคาน์เตอร์ ว่าต้องการอาหาร ตอนนี้เธอ ไม่ได้รู้สึกหิวเท่าไหร่ แต่เพราะในท้องยังมีอีกชีวิตหนึ่งเธอเลย ต้องจำใจกินเข้าไป อีกอย่างลูกทั้งสองของเธอ ตอนนี้ดึกมาก แล้วก็คงหิวเป็นธรรมดา

เป็นเพราะว่าไม่ได้เอาอะไรมาเลย แล้วก็ยังเป็นกลางดึกอีก เมื่อกินอาหารเสร็จแล้วอาบน้ำอาบท่าให้ลูกเสร็จก็พาเด็กๆ เข้า นอนทันที

ลูกทั้งสองนั่งรถมาคงจะเหนื่อยมาก เมื่ออาบน้ำเสร็จก็รู้สึก สบายตัว ไม่นานทั้งคู่ก็หลับไปในอ้อมกอดของเธอ แต่ตัวเธอ กลับรู้สึกนอนไม่หลับเลยสักนิด

เมื่อมองทะลุผ้าม่านบางบางที่ปิดไว้นั้นก็ทำให้มองเห็นความ สวยงามของค่ำคืนในเมืองแห่งนี้ ทั้งดวงไฟที่สว่างไสว ทำให้ เห็นถึงทิวทัศน์ของความเจริญในเมืองแห่งนี้

เมื่อมาถึงเมืองแห่งนี้ก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก และยัง รู้สึกเป็นห่วง ใครคนนั้น ในใจเต็มไปด้วยอารมณ์ร้อยแปดพันเก้า ที่ไม่สามารถทำให้สงบลงได้ เรียกได้ว่าเป็นค่ำคืนที่ทำให้นอนไม่หลับเลยทีเดียว

อีกฝั่งก็เช่นกัน ภายในคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่อีกเมืองหนึ่ง ใครบาง คนกําลังอยู่ในห้องนอนชั้นบนที่ไร้ซึ่งดวงไฟ แสงในห้องนั้นช่าง ริบหรี่และเลือนราง แต่ก็สว่างพอที่จะทำให้เห็นเงาของใครบาง คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่าง บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความ หนาวเหน็บ ราวกับว่าบนโลกใบนี้เหลือเพียงเขาแค่คนเดียว เท่านั้น ในความเงียบเหงานั้นสะท้อนความโดดเดี่ยวของเขา ออกมา

ทันใดนั้นก็มีแสงวาบออกมา ซึ่งมาจากหน้าจอโทรศัพท์ที่ถูก เขากดเปิด เขาก้มลงไปอ่านข้อความที่หลินซินเหยียนเป็นคนส่ง มา สายตายังคงเพ่งตรงไปที่ เพิ่งจะจากมาแท้ๆ ก็คิดถึงคุณจน แทบจะเป็นบ้า จิ่งห้าว ฉันรักคุณ รักมาก ‘

ขนตาที่ยาวหนานั้นบังแสงเอาไว้ ทำให้เห็นเป็นเส้นเงาสลัว ตามรูป เป็นเส้นละเอียดตัดกัน จะเห็นได้ว่าเงาที่สะท้อนลงมานั้น เหมือนจะเห็นเป็นหยดน้ำเล็กๆ ไหลออกมาจากดวงตา

ชายหนุ่มก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้เช่นกัน ทำได้แต่สะอื้นออกมา ” ผมก็คิดถึงคุณเหมือนกัน คิดถึงจนแทบ จะบ้าแล้ว ”

ในค่ำคืนนี้ มันช่างยาวนานจนแทบจะทนไม่ไหว ถึงแม้จะไม่ได้ อยู่เมืองเดียวกัน แต่สภาพจิตใจไม่ได้ต่างกันเลย อารมณ์และ ความคิดมันพันกันยุ่งเหยิงจนไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่าง

ฟ้าเพิ่งจะสว่าง หลินซินเหยียนก็ลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตาและใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ลูกทั้งสองคนยังหลับอยู่ เธอจึงลงไป ถามเคาน์เตอร์ว่าJKกรุ๊ปอยู่ที่ไหน

ผู้หญิงใส่สูทสีดำที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์ ตรงอกขวาก็มีบัตร พนักงานติดอยู่ ผมยาวสีน้ำตาลแดงนั้นถูกรวบไปข้างหลังอย่าง สะอาดสะอ้าน เมื่อได้ยินหลินซินเหยียนถามถึง JKกรุ๊ป ก็เลยหัน มามองเธอ ” คุณเป็นใครเหรอคะ ”

คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้จะต้องรู้ที่ตั้งของกิจการนี้แน่ ที่นี่อาจ จะยิ่งใหญ่ บริจาคการกุศลก็ไม่น้อย ในพื้นที่นี้ชื่อเสียงเรื่องลือไป หมด

หลินซินเหยียนยิ้มๆ ” ฉันมาจากนอกพื้นที่นะค่ะ พอดีมีญาติ ทำงานอยู่ในนั้น ฉันไม่รู้ว่าจะไปหายังไง ก็เลยมาถามดูค่ะ ” พนักงานเคาน์เตอร์ใช้สายตาสำรวจหลินซินเหยียนพักหนึ่ง

เธอยังคงใส่กางเกงตัวนั้นเหมือนเดิม แต่แค่เสื้อตัวนอกเปลี่ยน

เป็นอีกตัว ดูไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ แต่พอมองดูแล้วเหมือนกับว่า

เธอจะไม่มีที่ไป

เธอมัดผมหางม้าไว้ด้านหลัง ใบหน้าก็ดูสะอาดสะอ้านหมดจด แต่เมื่อคืนเห็นว่าตอนนี้เธอมาพักที่นี่ก็พาเด็กสองคนมาด้วย ก็รู้ ว่าเธอคงจะไม่ใช่เด็กวัยรุ่นเสียแล้ว มาที่นี่ก็คงจะหาที่พึ่ง หรือ อาจจะเจอเรื่องลำบากมาก่อนก็ได้

ถ้าคุณจะไปก็ให้โบกรถ แล้วบอกกับคนขับว่าคุณจะ ไปJKกรุ๊ปเขาก็จะพาคุณไปที่นั่นเลย เมื่อวานเด็กสองคนที่คุณพา มาคือลูกของคุณเหรอคะ ” พนักงานหน้าเคาน์เตอร์อดที่จะถามความสงสัยในใจไม่ได้ เพราะว่าภายนอกเธอดูอายุน้อยอยู่เลย แต่เด็กสองคนนั้นก็ไม่ได้ดูเล็กมาก

หลินซินเหยียนพยักหน้า ” ใช่ค่ะ พวกเขาเป็นลูกของฉันเอง ”

โอ้ คุณสวยมากเลยค่ะ แล้วก็ยังดูเด็กด้วย แม่กล้าเชื่อเลย ว่าคุณจะมีลูกพี่โตขนาดนี้แล้ว ” พนักงานเคาน์เตอร์พูดไปยิ้มไป

หลินซินเหยียนยิ้มตอบกลับไป แล้วขอบคุณจากนั้นก็พูดต่อว่า ” มื้อเช้าน่ะค่ะ รบกวนให้พนักงานช่วยเอาไปส่งที่ห้องฉันให้ 11 หน่อยนะคะ ”

” ได้เลยค่ะ ”

ไม่ได้ยินคำตอบรับของพนักงานหน้าเคาน์เตอร์แล้ว เธอก็รีบ กลับห้องไป เพราะกลัวว่าลูกทั้งสองคนจะตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอ เธอแล้วร้องโวยวายกันได้

แต่เมื่อเธอกลับไปถึงห้องแล้ว ลูกค้าสองคนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะ ตื่น เธอเลยเดินเข้าไปสะกิดเบาๆ ที่ลูกชายและลูกสาว แล้วพูด เสียงเบาๆ ว่า ” เด็กๆ ตื่นได้แล้วลูก ”

ตอนนี้ก็ได้แต่เจ็ดโมงแล้ว กว่าจะตื่นมาล้างหน้าล้างตากินข้าว เช้า นายจะเก็บห้องอีกก็คงปาเข้าไปหนึ่งถึงสองชั่วโมง

ถึงตาและคิ้วของหลินซีเฉินแทบจะไหลมารวมกัน ราวกับว่ายัง นอนไม่อิ่ม แต่ก็ขยี้ตาไปมา ไม่ยอมลุกขึ้นอย่างว่าง่าย

แต่สำหรับหลินลุยซีไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด เด็กน้อยเกาะ ผ้าห่มไม่ยอมลุกขึ้นมา แถมยังเอาหัวมุดเข้าไปในหมอนอีก ” หนูไม่อยากลุกจากที่นอน ยังไม่ตื่นเลยนะ ”

เสียงเด็กน้อยงัวเงียไปมา เสียงแหบพร่าเหมือนบ่งบอกว่าเพิ่ง ตื่นนอน

หลินซินเหยียนหัวเราะลูบหัวของเธอเบาๆ ” ยังไม่ตื่น ถ้างั้น เมื่อกี้ใครพูดกับแม่นะ ”

อย่างน้อยปิดตา คิดอยู่สักพัก ” แม่ได้ยินผิดแล้ว ไม่มีใครพูด

กับแม่ซะหน่อย ”

” อ้าว แล้วถ้างั้นคนที่พูดเมื่อกี้คือใครล่ะ ” หลินซินเหยียน ต่อความกับเด็กน้อย

” ไม่ใช่คน ”

หลินซินเหยียน ”

เจ้าเด็กคนนี้

เธอลุกจากข้างเตียง ก่อนจะจงใจพูดเสียงดัง ” ถ้างั้นก็ได้ ลูก นอนต่อนะ เหมือนเมื่อกี้แม่จะเห็นว่ามีอาหารเช้าหลายอย่างมาก เลยที่อร่อย แม่ก็เลยให้เขาเอามาสามชุด แม่กลัวว่าจะไม่พอกิน น่ะสิ ตอนนี้ลูกหลับอยู่ พอดีเลยแม่กับเสี่ยวสองคนกินกันสาม ชุด ก็ไม่น่าจะไม่พอนะ น่าเสียดายที่ลูกจะไม่ได้กินอะไรอร่อยๆ อย่างนั้นนี่สิ ”

พอหลินลุยซีได้ยินถึงของกิน ก็รีบเด้งตัวลุกขึ้นมานั่ง อารมณ์ ตอนนี้ปั่นป่วน ทั้งที่ตาก็ยังไม่ได้ลืมด้วยซ้ำ ” อะไรที่ว่าอร่อยนะ หม่ามีกับพี่จะกินกันสองคนไม่ได้ หนูก็อยากกินด้วย หิวจนผอมแห้งหมดแล้ว คุณพ่อต้องปวดใจแล้วเป็น

ขนของหลินซินเหยียนสั่นเล็กน้อย ก่อนจะตา พยายาม ปกปิด

หลินเงินล้างตาเสร็จแล้วออกมา จึงกำแพงแล้ว หันมามองน้องสาวตัวเอง

หลินซินเหยียนไม่เห็นเด็กชายก็ถามว่า ลูกเป็นอะไรไปทำไม

ถึงชอบถอนหายใจ

ตอนเธอได้ยินเสียงถอนหายใจจากหลินเฉินแล้ว

ครั้ง

น้องชอบทำให้ประโยคหนึ่ง เป็นครอบครัวเรื่องขึ้น

ถึงแม้จะไม่เรื่องราวที่ชัดเจนว่ามันเป็นยังไง แต่ว่าเขารู้ หม่า พาพวกมาอยู่นี่เพื่อให้ออกมาจากพ่อ

จากการที่เขาเห็นเธอร้องไห้อยู่บนรถ ก็คงจะเป็นความเชื่อม ระอาล่ะนะ ใช้ทำให้คิดถึงอยู่บ้าง เดี๋ยวก็คงขึ้น หลินซีเฉินนั่งคิดอยู่เงียบๆ

หลินลุยเบ้ปาก อาการง่วงเงียก็หายไปบ้างแล้ว หลินซินเหยียนจึงอุ้มเด็กน้อยลงจากเตียง แล้วพาไปล้างหน้าล้างตา เด็ก น้อยไม่ยอมให้หลินซินเหยียนล้างหน้าให้ “หนูทำเองได้ หม่ามี ไปพักผ่อนเถอะ ”

หลินซินเหยียนรู้สึกปลื้มใจมาก เธอรู้สึกเหมือนว่าลูกสาวที่ ชอบออดอ้อนออเซาะเธอ ชอบให้เธอเล่านทานให้ฟัง เด็กคนนั้น ได้โตขึ้นแล้ว

หลินลุยซีล้างหน้าเสร็จแล้ว หลินซินเหยียนก็จัดการใส่เสื้อผ้า ให้เจ้าตัวน้อย ตอนนี้อาหารเช้าถูกส่งขึ้นมาถึงห้องแล้ว เธอจึงไป เปิดประตู ให้พนักงานเอาอาหารเช้าเข้ามาวางไว้บนโต๊ะ

วันนี้อากาศดีมาก แสงแดดจากด้านนอกสาดส่องเข้ามาถึงใน ห้อง ทั้งสามคนนั่งกินอาหารเช้ากันที่โต๊ะ อาหารเช้าของโรงแรม

ทำออกมาได้ดูน่ากินมาก หลินลุยรู้สึกพออกพอใจ จึงรีบลงมือ

ใช้ตะเกียบคีบอาหารเลิศรสเหล่านี้ขึ้นมาชิม

หลินซินเหยียนมองดูลูกๆ ทั้งสองคน ก่อนจะพูดอย่างจริงจัง ” เสียว เสี่ยวลุ่ย หม่ามี้มีเรื่องจะบอกพวกลูกๆ จ้ะ”

หลินซีเฉินหันไปมองเธอแล้วพูด ” เรื่องอะไรเหรอ หม่ามี้พูด มาเลยครับ “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ