กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 515 คุณเป็นอะไรกับเธอเหรอครับ



บทที่ 515 คุณเป็นอะไรกับเธอเหรอครับ

ความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตนั้นค่อนข้างที่จะแย่มาก ส่วน ใหญ่จะพูดเกี่ยวกับซางหยู

เขาเหลือบมอง ก็เห็นคอมเม้นที่ไม่น่าดูมากมาย บ้างก็บอกว่า

ชางหยูอาศัยความเป็นวัยรุ่นของตัวเองล่อลวงผู้ชาย

แถมยังมีคนบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ไร้ยางอาย ยังอายุน้อยอยู่ ก็ไม่ตั้งใจเรียนให้ดี ขายตัวเพื่อแสวงหาความฟุ้งเฟ้อ……..

เขาไม่ได้อ่านต่อ ถ้าอ่านต่อไปก็จะมีแต่โกรธมากขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้น หลังจากขึ้นไปนั่งบนรถออกจากสนามบินแล้ว เสิ่นเผย ซวนก็พูดกับคนขับรถว่า “ไปมหาวิทยาลัย วชิง

ซูจ้านกลับยื่นมือไปแตะคนขับรถเบาๆ “ไม่ต้องฟังเขา พวก

เราจะไปที่อีห้าวฟู ตี้”

“ฉันไม่กลับบ้าน” เสิ่นเผยชวนขมวดคิ้ว เขาต้องไปดูให้ได้ว่า ซางหยูเป็นยังไงบ้าง

ซูจ้านเลือกมองเขา รู้สึกว่าเขาโง่ ตอนนี้บ้านรู้สึกว่าเสิ่นเผย ชวนช่างไม่มี IQ เอาซะเลย เขาหัวเราะอย่างเย็นชา “ถ้าเกิดว่า แกไปหาเธอตอนนี้ ก็มีแต่จะทำร้ายเธอเปล่าๆ ลองคิดตามความ สัมพันธ์ของพวกแกดู แกลองคิดดูนะ ถ้าเกิดว่าตอนนี้แกไป ปรากฏตัวที่มหาลัย มันจะเป็นภาพเหตุการณ์แบบไหน? คนอื่นจะ คิดยังไง? แกเป็นผู้ชาย ไม่เสียเปรียบอะไรหรอก แต่ว่าเธอเป็นแค่เด็กผู้หญิง ต่อไปเธอจะมีหน้าไปเจอคนอื่นยังไง? จะยืนอยู่ใน สังคมยังไง คนอื่นจะมองเธอด้วยสายตาแบบไหน?

พอเสื่นเผยชวนสงบลงและลองคิดดูอีกครั้งมันก็เป็นอย่างนั้น จริง ถ้าเกิดว่าตอนนี้เขาปรากฏตัวที่มหาลัย ก็มีแต่จะทำให้ความ คิดเห็นของประชาชนจัดการได้ยากขึ้นเท่านั้น

“บอกที่อยู่เธอมา เดี๋ยวฉันจะไปหาเธอเอง แกกลับไปล้างหน้า

สระผมเถอะ” ซูจ้านพูด เสิ่นเผยซวนตบไหล่เขา “ขอบคุณนะ เมื่อกี้ฉันคิดไม่รอบคอบ

เอง”

ซูจ้านยักไหล่อย่างรังเกียจ และสะบัดมือของเขาออก “แกนี่มัน น่าเบื่อจริง พวกเราเป็นอะไรกัน? พูดขอบคุณนี่คือเห็นฉันเป็น อะไร? ”

เส้นเผยชวนยิ้มเล็กน้อย รู้ว่ามันเป็นนิสัยเด็กๆ ของเขา ก็เลย ไม่ได้เก็บไปใส่ใจ ในใจเขากังวลแค่ว่าเรื่องนี้มันเปิดเผยออกมา ตั้งแต่เมื่อไหร่ และไปถึงขั้นไหนแล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่าที่ทำงานรู้เรื่อง นี้หรือยัง เขาควรจะกลับไปอาบน้ำล้างหน้า และสงบลง พอ สดชื่นขึ้นก็ต้องมาเผชิญหน้ากับเรื่องต่อมาที่จะเจอ

รถแล่นไปยังที่อยู่ของเสิ่นเผยซวน ซูจ้านไม่ได้ลงจากรถ แล้วก็ เอ่ยถามที่อยู่ของซางหยู เขาต้องไปหาเธอ เรื่องนี้ต้องถูกแก้ไข โดยเร็ว เพราะว่าคำพูดของคนน่ะน่ากลัว

ถ้าเกิดว่าปล่อยให้มันนานไป มันจะไม่ดีกับทั้งสองคน
เสิ่นเผยชวนเอ็งก็อยากรู้สถานการณ์ในตอนนี้ของซางหมู เหมือนกัน พอลงจากรถแล้วเขาก็พูดว่า “แกไปหายามที่หน้า มหาลัย แล้วก็บอกว่ามาหาซางหยู แล้วจะมีคนไปบอกเธอเอง

ซูจ้านตอบรับ แล้วก็ย้ำว่า “ไม่ต้องคิดมาก มีฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ ถ้าเกิดว่าฉันไม่ไหวจริงๆ ก็ยังมีจึงห้าวอีกไม่ใช่หรือไง? ทีม ประชาสัมพันธ์ของบริษัทเขาไม่ได้มีไว้โชว์เฉยๆนะ ไม่เคยมีเรื่อง ที่แก้ไขไม่ได้มาก่อน จัดการได้ทุกครั้ง”

เงินเผยชวนบีบไหล่ของเขา เขาไม่ได้พูดคำว่าขอบคุณ แต่ว่า สิ่งนั้นมันแฝงอยู่ในการกระทำของเขาอยู่แล้ว

“อย่ามาทำตัวผิดปกติกับฉัน ฉันไปล่ะ” ซูจ้านซัดมากขึ้น มิตรภาพระหว่างพวกเขาทั้งสองคน เรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นธุระเลย ด้วยซ้ำ เขาให้คนขับออกรถไป

หลังจากคนขับแท็กซี่ขับรถออกไป ก็มองผ่านทางกระจกหลัง

“คนคนนั้นคือผู้ชายที่อยู่ในข่าวใช่ไหมครับ? ”

ซูจ้าน,

“คุณขับแท็กซี่ก็ยังมีเวลาดูข่าวอยู่เหรอครับ? “ซูจ้านกะพริบ ตา ตอนนี้ข่าวนี้ดังจนใครๆ ก็รู้แล้วเหรอ

คนขับแท็กซี่ตอบ “ตอนที่ยังไม่มีงานผมก็เล่นโทรศัพท์เพื่อฆ่า เวลานะครับ หาเรื่องให้เบิกบานใจ ข่าวซุบซิบนี้มันดึงดูดสายตา มาก ก็เลยค่อนข้างที่จะแพร่หลายอย่างรวดเร็ว”

ซูจ้านทำท่าทางเหมือนเข้าใจ หนุ่มใหญ่กับนักศึกษา มั่วกันมันจะไม่น่าสนใจได้ยังไง?

ยังไงตอนนี้คนหลายคนเวลากินข้าวอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำ ก็จะ

ชอบทําตัวเป็นเกรียนคีย์บอร์ด แสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือด คนเราจะชอบตัดสินถูกและผิดบนอินเทอร์เน็ต “ส่วนใหญ่มันเกี่ยวข้องกับตัวตนของเพื่อนผม คนว่า คนเราจะ คบกันมันผิดกฎหมายเหรอครับ? แล้วก็ไม่มีกฎหมายข้อไหน

กำหนด ว่าคนแก่กับเด็กห้ามคบกันคุณว่าไหม? ”

คนขับรถแท็กซี่หัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ใช่ครับ คำพูดนี้มี เหตุผล คนมีเงิน ใครจะไม่อยากคบเด็กบ้างล่ะ? คนรวยสมัยนี้ เมียอยู่ที่บ้าน แฟนอยู่ข้างนอก วันเวลาผ่านไปอย่างสง่างามและ สดชื่น”

ซูจ้านขมวดคิ้ว ทำไมคำพูดนี้มันไม่เข้าหูเลย?

ทั้งๆ ที่เขาพูดถึงเรื่องความรักระหว่างคนแก่และเด็ก แต่พอ คนขับแท็กซี่พูดออกมากลับกลายเป็นเรื่องคนรวยกับแฟน จุด โฟกัสของเรื่องนี้มันต่างกัน

เขาถอนหายใจออกมา จะอธิบายก็อธิบายไม่ชัดเจน หรือต่อ ให้อธิบายอย่างชัดเจนเขาก็อาจจะไม่คิดก็ได้ ดังนั้นก็เลยเงียบ ไม่พูดอะไรต่อ

“ว่าแต่ คุณจะไปที่ไหนดีครับ? ” คนขับรถถาม ย้อนกลับไปคิด ที่เสิ่นเผยชวนเหมือนจะพูดว่าไปที่มหาลัย ก็เลยเอ่ยปากถามว่า “มหาวิทยาลัยฮิ วชิงใช่ไหมครับ? ”
ซูจ้านเอามือจับหน้าของตัวเอง มองคนขับแล้วก็พูดอย่างเย็น ซา “คุณฉลาดมากเลยนะครับเนี่ย

“เปล่าครับเปล่า ก็พื้นหลังในรูปนั้นมันเป็นมหาวิทยาลัยว ซึ่งไม่ใช่เหรอ เมื่อกี้เพื่อนคุณบอกว่ามหาลัย ผมก็เลยเดาว่าคุณ น่าจะอยากไปที่มหาวิทยาลัย วชิง” คนขับยิ้มแล้วพูด ไม่ได้ สังเกตเห็นเลยว่าจ้านไม่พอใจ

คนขับเป็นคนที่พูดเก่งมาก ในฐานะที่เป็นคนขับแท็กซี่ ขับรถ ทั้งวันมันน่าเบื่อ เขาก็เลยชอบคุยกับผู้โดยสาร แบบนี้จะได้รู้สึก ว่าวันเวลามันผ่านไปเร็วขึ้น

ซูจ้านหลับตาลง เสแสร้งทำเป็นเหนื่อยมากเลยไม่อยากจะคุย คนขับก็ไม่กล้ารบกวนการพักผ่อนของเขา ขับรถต่อไปเงียบๆ พอมาถึงแล้วก็เตือนเขา “ถึงแล้วครับ”

ซูจ้านลืมตาขึ้น แล้วก็หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋า หยิบแบงก์แดงออกมาแล้วยื่นให้คนขับ จากนั้นก็รอให้เขา หาเงินทอน ตอนที่รับเงินทอนมาจากคนขับนั้นเขาก็พูดว่า “เฮ้อ ทุกวันนี้หาเงินไม่ง่ายเลยเนอะ”

ที่จริงแล้วเขาอยากจะพูดว่า ไม่ว่าจะเป็นใครเงินก็ไม่ได้หล่น ลงมาจากฟ้าหรอก

ประโยคที่เมื่อกี้คนขับพูดถึงคนรวยนั้น เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกไม่ชอบคนรวย

แล้วอีกอย่างตัวตนของเสิ่นเผยชวน จะเรียกว่า ‘คนรวยก็ไม่ใช่คำที่ดีเท่าไหร่นัก
สร้างความเดือดร้อนให้กับเขา

รอยยิ้มบนใบหน้าของคนขับได้หายไปแล้ว เหมือนกับว่าเขา สังเกตได้ว่าจ้านไม่แฮปปี้ พอซูจ้านลงจากรถ เขาก็รีบขับออก ไปทันที

ซูจ้านหัวเราะอย่างเย็นชาแต่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก คนแบบนี้มี เยอะแยะ เขาขี้เกียจจะลดตัวลงไปต่อล้อต่อเถียง เขาเดินไปทาง ประตูป้อมยาม แล้วก็ไปถามที่ป้อมยาม “ผมมาหาซางหมูชั้นปี หนึ่งครับ”

ยามเหลือบมองเขาแล้วถามว่า “คุณเป็นอะไรกับเธอเหรอ ครับ? ”

“ผมเป็นญาติของเธอครับ รบกวนบอกเธอให้หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ”ซูจ้านยิ้มแล้วตอบ

ยามหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาครูประจำชั้นของซางหมู

เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ได้เผยแพร่ไปทั่วทั้งมหาลัยแล้ว ส่วนตอนนี้ ซางหยูก็กำลังถูกสอบสวนอยู่ในห้องทำงานของครูประจำชั้น

เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นที่มหาลัย มันส่งผลกระทบต่อมหาลัยอย่าง แน่นอน

มีคนสงสัยถึงคุณภาพการสั่งสอนของมหาลัยนี้ บางคนก็ สงสัยศีลธรรมของนักศึกษาที่จบมาจากมหาลัยนี้ ว่าจะถูกปฏิเสธ และเป็นที่สงสัยของคนในสังคม

หลังจากยามวางสาย ก็พูดกับซูจํานว่า “เข้าไปสิครับ ไปที่อาคารสำนักงานสอง ห้องครูประจำชั้นนักศึกษาปีหนึ่งที่ชั้นสาม ยามเปิดประตูกั้น ซูจ้านเอ่ยขอบคุณแล้วก็เดินเข้าไป

วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เพราะฉะนั้นนักเรียนก็เลยไม่ค่อย เยอะเท่าไหร่ บางทีก็เห็นนักเรียนสองสามคนเดินจับกลุ่มกัน พูด คุยและหัวเราะคิกคัก ราวกับกำลังพูดคุยอะไรบางอย่าง

พอเดินเข้าไปใกล้บ้านก็ได้ยินว่าพวกเธอกำลังพูดอะไรกันอยู่ คิ้วก็อดขมวดเข้าหากันไม่ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ