กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 477 ชายที่สวมชุดดูฉูดฉาด



บทที่ 477 ชายที่สวมชุดดูฉูดฉาด

ตอนที่เหวินเสียนจากไปจงจึงห้าวก็คงจะอายุประมาณเจ็ด แปดขวบได้ ตอนนั้นเธอเพิ่งเกิดเสียด้วยซ้ำ คิดไปคิดมาแล้ว จดหมายฉบับนั้นก็คงจะมีอายุมากกว่าเธอเสียอีก

เวลาผ่านไปนานแล้ว คนที่ว่านั่นจะยังมีชีวิตอยู่ไหมนะ หรือว่า

จะจากไปที่อื่นแล้ว

เป็นไปได้ที่จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เธอก็เลยอยากให้ มันชัดเจน

พนักงานเมื่อครู่ก็ยังคงมองสำรวจตัวเธอ ” ไม่ทราบว่าคุณ เป็นอะไรกับเขาเหรอคะ

พาลูกสองมาบริษัท แถมยังเรียกชื่อประธานชาวออกมาโต้งๆ

แบบนี้ ผู้หญิงคนนี้มายังไงกันแน่

คุณแค่จัดการบอกเรื่องที่พวกเราอยากรู้ก็พอว่าคนคนนี้อยู่ที่ นี่หรือเปล่า จะถามอะไรเยอะแยะ ” หลินซีเฉินพูดออกไปเชิง รำคาญ พนักงานคนนี้ดูก็รู้ว่าจงใจที่จะไม่พูด แล้วก็ถามคำถามที่ ไม่เกี่ยวกับหัวข้อที่พูดออกไปเลย

หลินซินเหยียนลากลูกชายออกมา ” แม่ไม่อนุญาตให้ลูก พูดจาไม่มีมารยาทนะ ”

” ก็พ่อบอกว่าคนเราอ่ะไม่ควรอาศัยอำนาจที่มีรังแกคนอื่น แต่ เราก็ไม่ควรยอมให้ใครมารังแกง่ายๆ เช่นกัน พวกเราแค่ถามดีๆ ว่ามีคนที่ชื่อข่าวหยุนอยู่ไหม แต่เธอดันมาถามแม่ว่าเป็นใคร เป็นอะไรกัน มันหมายความว่ายังไงล่ะ มันก็เห็นอยู่คนโทแล้วว่า เธอกำลังสงสัยสถานะของแม่ แล้วจงใจที่จะไม่พูด เพราะเราไป กันเถอะ ไม่ต้องถามแล้ว แค่คนคนนี้ยังไม่ตาย ยังไงเสียพวกเรา ก็หาต้องหาจนเจออยู่แล้วว่า ” ‘หลินซีเฉินว่าแล้วก็จูงมือหลินซิน เหยียนไป หลินลุยซีเองก็เห็นด้วยกับคำพูดของพี่ชาย ลูกทั้งสอง เลยจูงมือคนละข้างของเธอไปยังประตูทางออก ” หม่ามี้ พวกเรา ไปกันเถอะ ”

พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ยังคงตะลึงอยู่ ไม่คิดเลยว่าเด็กไม่กี่ ขวบจะพูดถ้อยคำแบบนี้ออกมาได้ แสดงว่าต้องผ่านโลกมามาก พอสมควร ก็เลยดูไม่กลัวคนเท่าไหร่

” ถ้างั้น ฉันโทรถามให้ไหมคะ ” พนักงานตะโกนรั้งพวกเขา เอาไว้

เด็กน้อยหยุดเดินอยู่กับที่ แต่ก็ยังไม่ได้กลับไป พนักงานคนนั้นจึงต่อสายไปยังเลขาท่านประธานโดยตรง ” ที่ นี่มีคนมาหาประธานข่าว ”

” นัดไว้หรือเปล่าล่ะ ”

” ไม่ได้นัด ”

” ไม่ได้นัดตามขั้นตอนแล้วก็คงเข้าพบไม่ได้ ยังจะต้องโทรมา

ถามอีกหรือไง ”

” ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ ” ขณะที่พนักงานพูดสายตาก็มองมายังหลินซินเหยียน ” เป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง พาลูกสองคน มาด้วย แล้วเรียกชื่อของประธานข่าวออกมาโดยตรง ”

ผู้หญิงพาลูกมาด้วยเนี่ยนะ ” ดูเหมือนเลขาจะอยากรู้อยาก เห็นไปด้วยคน พาลูกเข้ามาบริษัทจะเป็นอะไรไปได้เสียอีก

เลขาจึงตอบว่า ” เธอถามว่าให้เรียกว่าอะไร ”

หลินซินเหยียนอ้าปากเตรียมจะพูดชื่อตัวเอง แต่คิดว่าถ้าคนที่ ชื่อข่าวหยุนคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ ก็คงจะรุ่นราวคราวเดียวกับเหวิน เสียน อาจจะไม่ได้รู้จักเธอก็ได้ จึงพูดออกไปว่า ” เหวินเสียน ”

พนักงานเคาน์เตอร์บอกกับเลขาอีกที ไปสายแล้วบอกทราบ แล้ว จึงวางโทรศัพท์ไป พนักงานหน้าเคาน์เตอร์จึงบอกให้หลิน นเหยียนรอสักครู่

” ไม่งั้นคุณไปนั่งก่อนก็ได้นะคะ ” พนักงานลองพูดขึ้นมา ” ไม่ต้อง ” หลินซีเฉินปฏิเสธอย่างเย็นชา

หลินซินเหยียนขมวดคิ้วมองลูกชาย ” เสียว…… ” เมื่อเธอ กำลังจะอ้าปากเรียกชื่อเด็กชายว่าเสียวซี ก็มันชินนี่นา มันแก้ ยากจริงๆ ก็เลยไม่เรียกมันเสียเลย

จากนั้นเลขาจึงไปเคาะห้องทำงานของประธานชาว

ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังออกมา เลขาจึงเปิด ประตูเข้าไปห้องทำงานนั้นดูกว้างขวางและสว่างไสว มีเก้าอี้นั่ง ทำงาน รวมทั้งโต๊ะเก้าอี้ใหญ่ที่เอาไว้ใช้เจรจาพูดคุยทุกตั้งอยู่ ด้านหน้า และทั้งหมดก็เป็นเฟอร์นิเจอร์สีแดงเข้มที่ถูกสั่งทำจากประเทศลาว โดยเฉพาะ ตัวเฟอร์นิเจอร์อ่านดูหม่นไปบ้าง ส่วน โต๊ะทํางานด้านหลัง ก็มีภาพวาดโบราณที่มองยังไงก็เตะตา แขวนอยู่บนนั้นยังมีชื่อของนักว่าชื่อดังเขียนเอาไว้ ตัวกระดาษ เริ่มจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้ว แต่ก็ไม่ได้ดูเหมือนของปลอมเท่า ไหร่ แต่เป็นถึงประธาน JK อย่างประธานข่าว คงไม่ถึงกับของมี ค่าไม่กี่ชิ้นก็ไม่มีปัญญาซื้อหรอก เพราะขนาดเฟอร์นิเจอร์สีแดง ทั้งชุด ก็ปาเข้าไปเป็นล้านแล้ว

ชายตรงหน้าก็อายุราวๆ ห้าสิบปี แต่ดูเหมือนจะไม่ยอมแก่ ตามอายุง่ายๆ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าลายดอกไม้เต็มตัว ส่วนล่าง ใส่เป็นกางเกงเก้าส่วนโชว์ข้อเท้าที่กำลังเป็นเทรนด์นิยมของวัย รุ่น ในตอนนี้ ส่วนเท้าใส่เป็นรองเท้าหนังสีขาวที่มีเชือกผูก อายุ เท่านี้แต่งตัวแบบนี้ ไม่เพียงแค่จิตใจยังไม่ยอมแก่ แต่เกรงว่า ร่างกายก็เช่นกัน

ดูเหมือนไม่มีภูมิฐานตามอายุที่ควรจะเป็น ขาทั้งสองข้างไขว่ ห้างอยู่บนโต๊ะทำงาน แล้วก็แกว่งไปมาไม่หยุด

ท่าที่ดูสบายอารมณ์ เลขาเองก็ชินกับท่าทีแบบนี้ไปแล้ว ก็เลย ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร ” ชั้นล่างมีคนมาขอเข้าพบคุณค่ะ

ในมือของชายวัยกลางคนกำลังถือแฟ้มสีฟ้าอยู่ สายตาไม่ได้ ละไปจากเอกสาร แต่ก็ถามต่อ ” เป็นผู้ร่วมธุรกิจกับเราใช่ไหม ”

” ไม่ใช่ค่ะ เป็นผู้หญิง ได้ยินพนักงานด้านล่างบอกว่าสวย แล้วยัง…. ยังพาลูกมาด้วยอีกสองคน แล้วเรียกชื่อคุณห้วนๆ เลยค่ะ ”
ข่าวหยุนวางเอกสารในมือลง แล้ววางเท้าลงจากโต๊ะ แล้ว ค่อยๆ นั่งตัวตรง ” เธอพูดว่าไงนะ ผู้หญิงคนหนึ่ง พาลูกมาอีก แล้วเรียกชื่อผมห้วนๆ เนี่ยนะ ”

ในตอนนี้ ในใจของชาวหยุนเริ่มคิด หลายปีมานี้เขาก็เคย พัวพันกับผู้หญิง อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงจำนวนที่ไม่น้อย แต่ทุกคน เมื่อมีโอกาสก็เล่นสนุกบางครั้งก็หาวไม่ได้จริงจังอะไร แล้วก็ไม่มี ใครท้องและคลอดลูกออกมาแน่นอน

สถานะห้องเขามีลูกไม่ได้เด็ดขาด เพราะกิจการที่ใหญ่โตแห่ง นี้ไม่ใช่ของเขาด้วยซ้ำ

ที่มีชีวิตมาได้ถึงทุกวันนี้ แค่คิดก็ยังไกลเกินเอื้อม เมื่อเขา หลุดจากภวังค์ออกมาได้ ก็หันไปมองเลขา และพูดด้วยน้ำเสียงที่ ดูสนอกสนใจว่า ” ได้บอกไหมว่าชื่ออะไร ”

” เธอบอกว่าชื่อเหงินเสียนมั้งคะ ” เลขาพูด

สีหน้าของชาวหยุนเปลี่ยนเป็นนิ่งสุขุมอย่างรวดเร็ว นี่เป็นชื่อที่ สูญหายไปจากหูของเขาถึงยี่สิบกว่าปีแล้ว พอได้ยินอีกครั้ง ก็ เหมือนได้ย้อนกลับไปในช่วง 20 กว่าปีที่แล้วนั่น พอดีตัวขึ้นมา ยืน ” แล้วคนล่ะอยู่ที่ไหน ”

” ชั้นล่างค่ะ ” เลขาตอบ

เขารีบทิ้งเอกสารในมือ แล้วเดินดื่มๆ ออกจากห้องทำงาน แล้วรีบขึ้นลิฟต์กดชั้นหนึ่งอย่างไว

เมื่อมีเสียงติ้ง ลิฟต์จึงหยุดอยู่กับที่ ข่าวหยุนก็เดินออกมาจากลิฟต์ หลินซินเหยียนกับลูกอีกสองคนยังคงยืนอยู่ตรงโถง เธอ กำลังจัดแจงผ้าวผมให้ลูกสาวของเธออยู่ ไม่ได้สังเกตว่ามีใคร บางคนกำลังเดินมาทางเธอ

คุณตามหาผมอยู่เหรอ ” ข่าวหยุนยืนห่างจากเธอไม่ไกล มาก หลินซินเหยียนหันกลับมามองเห็นชายคนหนึ่งที่ไม่ใช่วัย รุ่นแล้ว แต่ยังคงแต่งตัวด้วยชุดลายดอก เธอตกใจเล็กน้อย แล้ว ค่อยพยักหน้าหงิกหงัก

” เหวินเสียนเป็นอะไรกับคุณ คุณรู้จักเธอได้ยังไง ” ชาวหยุ นทําออกมาง่ายๆ และเถรตรง

ในใจกับกระวนกระวายอยากรู้สถานะของหลินซินเหยียน หลินซินเหยียนไม่ได้ตอบเขา เพราะไม่แน่ใจว่าผู้ชายคนนี้เป็น ใคร ” ฉันมาตามหาคนที่ชื่อชาวหยุนค่ะ ”

” ก็ผมไง ” ชาวหยุนตอบอย่างหนักแน่น

นี่มันห่างไกลจากสิ่งที่เธอคิดไว้มาก หลินซินเหยียนไม่อยาก จะเชื่อเลยด้วยซ้ำ เธอรู้สึกว่าคนที่ทำให้เหวินเสียนพึ่งพาได้ จะ ต้องเป็นคนที่ดูสุขุมและมั่นคง

แต่ภาพตรงหน้าที่เห็นนี้………

ใส่เป็นเสื้อผ้าสีฉูดฉาด ดูไม่เหมือนผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกอะไรมา เลย และไม่ได้ดูเรียบง่ายแต่อย่างใด

ข่าวหยุนมันจะดูออกว่าหลินซินเหยียนไม่เชื่อเขา เลยอดไม่ ได้ที่จะรู้สึกเฟล ” ผมดูไม่เหมือนหรือ ”
หลินซินเหยียนพยักหน้าโดยอัตโนมัติ

ข่าวหยุน ”

เอาเถอะ เขายอมก็ได้ ” ที่นี่ไม่ใช่ที่คุยกัน ตามผมมาเถอะ

เขาเดินนำทางไป หลินซินเหยียนจับมือลูกทั้งสองคนไว้แน่น แต่ก็ไม่ได้ขยับไปไหน ผู้ชายคนนี้ทำให้คนที่ได้พบเจอรู้สึกไม่ ปลอดภัย

หลินซินเหยียนไม่อยากเดินตาม ใครสุ่มสี่สุ่มห้า

ข่าวหยุนรู้สึกเหมือนไม่มีใครเดินตามตัวเอง ก็เลยหันกลับไป มองหลินซินเหยียน ก็พบว่าเธอยังยืนอยู่ที่เดิม พอจะถามเธอว่า ทำไมเธอไม่เดินมา ก็เพราะว่าเธออาจจะไม่เชื่อที่เขาบอกไป เขา จึงขมวดคิ้วแน่น แล้วก็ชี้ไปที่เลขาของตัวเอง ที่พนักงาน เคาน์เตอร์ ไม่สิ ชี้ไปทุกที่ในJKกรุ๊ป ” ไม่เชื่อคุณก็ไปถามใคร ก็ได้ ว่าผม ใช่หรือไม่ใช่ชาวหยุน ”

พูดจบเขาก็มองดูตัวเองว่าตัวเขาไม่เหมือนชาวหยุนตรงไหน

ทำไมถึงไม่เชื่อเขาล่ะ

” คุณอายุเท่าไหร่เหรอ ” หลินซีเฉินถามขึ้นมา

ชาวหยุนเพิ่งจะสังเกต ว่าข้างๆ เธอยังมีเด็กน้อยสองคนยืนอยู่ เขาเดินเข้าไปแล้วมองอย่างละเอียด แล้วสายตาก็เป็นประกาย ออกมา ” หน้าตาของเจ้าเด็กพวกนี้ ก็ดีใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย ”

” พ่อนายเป็นใครเหรอ ” เขาอดไม่ได้ที่จะถามอย่างอยากรู้อยากเห็น

หลินซีเงินยืนตัวตรงแนว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา ” ผมกำลัง ถามคุณอยู่ คุณยังไม่ได้ตอบผมเลยนะชาวหยุน ”

เจ้าเด็กนี้ยังไม่ทันจะโต แต่ไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบเลยแฮะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ