บทที่ 463 หูฝาด
“คุณนายครับ บอดี้การ์ดที่มาด้วยเห็นว่าหลินซินเหยียนยืนนิ่ง ไม่ขยับเขยื้อนจึงเอ่ยเรียกขึ้นเบาๆ
หลินซินเหยียน โบกมือปัด จากนั้นก็เดินไปหาจวงจื่อจีน บอดี้การ์ดรีบเดินตามติดเธอไปอย่างใกล้ชิด
“แม่คะ”เธอตะโกนเรียกอยู่ห่างๆ
จวงจื่อจีนตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ พอหันกลับมาเห็นหลินซินเหยี ยนที่ยืนอยู่ไม่ไกลจึงฉีกยิ้มออกมาเหยียนเหยียน ลูกมาที่นี่ได้ ยังไง?
สีหน้าของเธอไม่ได้แย่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้มันดูมีเลือด
ฝาดขึ้นมานิดหน่อย
“หนูควรจะถามแม่มากกว่า ทำไมแม่ถึงสวมชุดคนป่วย แถม ยังมาอยู่ที่โรงพยาบาลด้วย แม่เป็นอะไร? “เสียงของเธอเบา มาก เพราะกลัวว่าจะได้ยินค่าตอบที่เป็นข่าวร้าย
การตายของเฉิงซิ่วมีผลกระทบต่อจิตใจของเธออย่างรุนแรง
แต่เพราะที่บ้านมีลูกๆ มีจงจึงห้าว เธอจึงไม่แสดงความเศร้าที่ อยู่ในใจออกมา แต่ถ้าจวงจื่อจีนเป็นอะไรขึ้นมาอีก เธอกลัวว่า เธอจะใจสลายจริงๆ
จวงจื่อจีนเดินเข้ามา พอเห็นเธอสวมเสื้อผ้าโคร่งๆ แถมยังใส่ รองเท้าส้นแบนอีก หล่อนจึงยิ้มพลางพูดขึ้น “แม่ได้ยินมาจากเงิน เผยชวนว่าหนูกำลังท้อง
เนื่องจากหล่อนไม่ยอมให้ความร่วมมือในการรักษา สภาพ จิตใจก็ย่ำแย่ แถมยังไม่มีความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ต่ออีก เสิ่นเผยชวนรู้สึกหมดปัญญาจึงบอกเรื่องที่หลินซินเหยียนกำลัง ท้องให้หล่อนฟัง ตอนนั้นเงินเผยชวนพูดออกมาว่า”เธอทน ลำบากกับคุณมาตั้งมากมาย ถ้าคุณไม่สนใจว่าเธอจะเป็นจะตาย ยังไง คุณก็ไม่ต้องให้ความร่วมมือในการรักษาแล้ว
พูดจบเขาก็เดินจากไป
หล่อนจึงนึกถึงตอนที่เธออายุสิบขวบ ตอนที่เธอตามตัวเองไป อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ความเป็นอยู่ก็ยากลำบาก พวกเธอทั้งสองคอยกอดให้ความอบอุ่นกันและกัน คอยพึ่งพา อาศัยกันและกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน
พอคิดว่าตอนนี้เธอกำลังตั้งท้อง แถมยังมีความสุขกับจงจึง ห้าวมากๆด้วย เพราะงั้นมันคงจะดีถ้าเธอมีชีวิตต่อได้นานขึ้นและ มีโอกาสได้เห็นเธอมีความสุข หรืออย่างน้อยได้ช่วยเธอดูแล ลูกๆ แค่นี้ก็พอแล้ว
หลังจากที่รู้ว่าหลินซินเหยียนท้อง หล่อนก็เริ่มให้ความร่วมมือ ในการรักษาอย่างจริงจัง
เคยเห็นตอนเธอลาบากแล้ว ต่อไปก็หวังว่าจะได้เห็นตอนเธอมีความสุขสักที
หล่อนจับมือหลินซินเหยียนไว้แม่ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล
หลินซีนเหยียนสะบัดมือหล่อนออก”หนูอยากฟังความจริง
เห็นได้ชัดว่าว่ามันต้องไม่ใช่อาการป่วยเล็กๆแน่เพราะหล่อน ตั้งใจปิดบังเธอ
จวงจื่อจีนรู้ว่าปิดเธอไม่ได้หรอกจึงถอนใจออกมาอย่างแรง แล้วพูดขึ้นลูกไปที่ห้องพักฟื้นกับแม่แล้วกัน”
หล่อนพักในห้องวีไอพีเดี๋ยวมันเลยค่อนข้างเงียบมันจึงเหมาะ ที่จะคุยมากกว่า เพราะว่าตอนนี้ที่สวนสาธารณะมันเต็มไปด้วย ผู้คน
หลินซินเหยียนไม่ตอบแต่ยอมรับข้อเสนอของหล่อนเป็นนัยๆ เธอเดินตามหล่อนไปยังห้องพักฟื้นที่หล่อนพักอยู่ อาคารหลังนี้ กับอาคารที่เธอเคยพักมีแค่สวนสาธารณะกั้นอยู่ตรงกลางแค่นั้น
เอง
“แม่เข้ามาอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว? “เธอถามขึ้น
“ซักพักแล้วล่ะ”จวงจื่อจีนนั่งลงที่ขอบเตียงแล้วกวักมือเรียก เธอเหยียนเหยียนมานี่สิ
หลินซินเหยียนเดินมานั่งที่ขอบเตียง จวงจื่อจิ่นดึงมือเธอมา จับไว้ พอรู้ว่าลูกกำลังท้องแม่ก็ดีใจมากๆเลย
หลินซินเหยียนหลับตาลงเบาๆ
“โรคของแม่ถูกถ่ายทอดมาทางกรรมพันธุ์ แต่ว่าลูกไม่ต้อง เป็นห่วงนะ หมอบอกว่าถ้าให้ความร่วมมือในการรักษา แม่ก็จะ อยู่ต่อได้อีกสองสามปีอย่างไม่มีปัญหาอะไร……..
จู่ๆหลินซินเหยียนก็เข้ามากอดหล่อนไว้แน่น พร้อมกับพูด เสียงสะอื้น ทำไมถึงทำแบบนี้? แม่รู้ไหมว่าหนูเสียใจมากแค่
จวงจื่อจีนตบหลังเธอเบาๆ “เหยียนเหยียนอย่าเศร้าไปเลยนะ แม่จะให้ความร่วมมือในการรักษาเป็นอย่างดี เพื่อที่ในอนาคต จะได้ช่วยลูกเลี้ยงหลาน เสิ่นเผยชวนบอกแล้วว่าขอแค่แม่ให้ ความร่วมมือในการรักษา ถึงตอนนั้นเขาจะหาคนมาช่วยท่าเรื่อง ลดโทษให้แม่ ตอนนั้นแม่คงจะอยู่ได้อีกซักปีครึ่ง ลูกก็คลอดพอดี แบบนี้แม่ก็จะได้ช่วยหนูดูแลลูกเหมือนกับที่แม่เคยช่วยดูแลเดี่ยว ลุยกับเสี่ยวไง”
หลินซินเหยียนได้แต่เงียบเพราะความเจ็บปวดในใจแม่คะ แม่คิดว่าเรื่องที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตของคนคนหนึ่งคืออะไร?
จวงจื่อจนนึกว่าเธอคิดถึงเรื่องในสมัยก่อนก็เลยรู้สึกเศร้า หล่อนก็เลยพูดปลอบออกไป เรื่องในอดีตล้วนผ่านไปหมดแล้ว จากนี้ไปลูกจะมีชีวิตที่มีความสุขมากแน่ๆ
หลินซินเหยียนส่ายหน้า”สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตของคนคน หนึ่งก็คือเห็นคนที่เรารักอยู่ตรงหน้า แต่เรากลับไม่รู้ เพราะงั้น ตอนที่เราสูญเสียเขาไปมันถึงได้เจ็บปวดจนแทบขาดใจ”
จวงจื่อจีนตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที นี่ลูกรู้อะไรมารึเปล่า? ”
ตอนอยู่ที่บ้านเธอไม่กล้าแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมา แต่ ทว่าตอนนี้อยู่ต่อหน้าจวงจื่อจีนเธอไม่อาจปิดบังมันได้อีก
เธอแทบไม่ได้สนใจที่จวงจื่อจิ่นพูดเลย
เธอกำลังคิดถึงเรื่องเฉิงจิ๋วกับจงจึงห้าวที่ผิดใจกันมาตลอด ทั้งชีวิต
จวงจื่อจิ่นถอนหายใจออกมาเหยียนเหยียน แม่ทำเหมือนลูก เป็นลูกแท้ๆของแม่มาตลอด ก็ตอนแรกไม่มีมีทางอื่นแล้วนี่นา พ่อของแม่มีเขามาตั้งแต่ก่อนแต่งงาน ซึ่งตัวตนของแม่เขาก็ไม่ เป็นที่ยอมรับ เขาเป็นลูกนอกสมรส เขาแทบไม่เคยโผล่หน้าออก มาเจอใครและไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นคนตระกูลจวง……
“แม่กำลังพูดอะไรคะ? “หลินซินเหยียนเอามือเช็ดหน้า เธอไม่ เข้าใจ เธอยื่นมืออกไปแตะหน้าผากจวงจื่อน หรือว่าอาการป่วย ทางจิตของหล่อนจะกลับกำเริบอีก?
จวงจื่อจีนดึงมือเธอออก”แม่สบายดี ก็เมื่อกี้ลูกพูดถึงเรื่องเห็น คนรักอยู่ต่อหน้าแต่กลับไม่รู้ มันเลยทำให้รู้สึกเจ็บปวดมากอะไร นั่นไม่ใช่หรอ นี่แสดงว่าลูกรู้เรื่องราวในชีวิตของลูกแล้วใช่ ไหม?
หลินซินเหยียนนั่งนิ่งอยู่ที่ขอบเตียง เธอสูญเสียความสามารถ ในการควบคุมตัวเองไป เธอจ้องเขม็งไปที่จวงจื่อจั่นอยู่ชั่วขณะ หนึ่ง จากนั้นถึงได้รู้สึกตัว เรื่องราวชีวิตของหนูนหรอ? แม่ก็คือ แม่หนูไง ส่วนพ่อหนูก็คือหลินกั๋วอัน”
“หลินกั๋วอันไม่ใช่พ่อของลูก”ถึงแม้หลินกั๋วอันจะตายไปแล้วแต่ความแค้นที่มีต่อผู้ชายคนนี้ก็ไม่เคยลดลงและไม่เคยจางหาย ไปไหนเลย อีกอย่างเขาไม่คู่ควรให้หลินซินเหยียนเรียกว่าพ่อ
พูดมาขนาดนี้แล้ว จวงจื่อจนไม่อยากปิดบังเธออีก หล่อนจับ มือหลินซินเหยียนไว้”เหยียนเหยียน พ่อของลูกชื่อจวงจื่อย เขา เป็นลูกจากพ่อเดียวกันกับแม่ แต่ว่าคนให้กำเนิดคนละคน ซึ่งมี แค่คนในตระกูลเท่านั้นที่รู้จักตัวตนของเขา…….
หลินซินเหยียนลุกพรวดขึ้น แม่กำลังพูดเรื่องอะไรคะ หนูเป็น ลูกสาวของแม่ หนูไม่เคยได้ยินชื่อจวงจื่ออะไรนั่นมาก่อน แถม ยังไม่เคยเจอหน้าเลยด้วยซ้ำ
เธอไม่สามารถทำใจยอมรับได้เนื่องจากมันกะทันหันเกินไป
“เหยียนเหยียน”จวงจื่อจีนเข้าใจดีว่านี่มันอาจจะกะทันเกินไป เธอเลยยอมรับไม่ได้ หล่อนถอนหายใจออกมา หล่อนนึกว่าเธอ สืบเจอแล้วก็เลยถือโอกาสเล่าให้เธอฟัง แต่ไม่นึกเลยว่าเธอไม่รู้ อะไรเลย
“แม่คงจะเหนื่อย นอนพักผ่อนดีกว่านะคะ เดี๋ยวหนูขอตัวกลับ ก่อน เสี่ยวซีกับเสี่ยวลุยรออยู่” หลินซินเหยียนไม่อยากฟัง เธอ เดินอ้าวหน้าไปที่ประตูทันที
จวงจื่อจีนก็ไม่ได้บังคับเธอ”ถ้าลูกอยากจะฟังเมื่อไหร่ก็มาหา แม่ได้ทุกเวลาเลยนะ แล้วสร้อยที่ห้อยคอไว้นะ นั่นเป็นของที่แม่ แท้ๆของลูกให้ไว้”
หลินซินเหยียนซะงักไปเล็กน้อยขณะที่จับลูกบิดประตู แต่จาก นั้นไม่นานเธอก็เปิดประตูออกแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากเธอรีบเดินออกไป บอดี้การ์ดที่เดินตามมาจึงเอ่ย น”เดินช้าๆหน่อยครับคุณนาย”
ดูเหมือนหลินซินเหยียนจะไม่ได้ยิน เธอคิดแค่ว่าอยากจะออก ไปจากที่นี้โดยเร็วที่สุด
เธอไม่อยากได้ยินจวงจื่อจีนพูดอะไรออกมาอีก
พอขึ้นรถเธอก็เอ่ยปากสั่งรีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า
คนขับสตาร์ทรถทันที ส่วนบอดี้การ์ดก็เหลือบมองเธอด้วย ความกังวล คุณนายเป็นอะไรไหมครับ?
หลินซินเหยียนเริ่มรู้สึกตัว เธอส่ายหัวปฏิเสธ ไม่เป็นไร” เหมือนว่าเธอจะคิดอะไรบางอย่างออกจึงพูดเสริมไปอีกประโยค หนึ่งเรื่องที่ฉันออกมาวันนี้ พวกนายห้ามเอาไปพูดกับใครนะ ได้ยินไหม?
ทั้งคนขับและบอดี้การ์ดต่างขานรับเป็นเสียงเดียวกันว่าเข้าใจ
แล้ว
ตลอดทางเธอเอาแต่เหม่อลอยราวกับว่าเธอกำลังฝันอยู่
เมื่อกลับไปถึงคฤหาสน์เธอก็ขึ้นไปชั้นบนแล้วเอาผ้าขนหนูสี เหลี่ยมผืนผ้าไปแช่น้ำในห้องน้ำ จากนั้นก็เอาออกมาพับวางไว้ที่ หน้าผากแล้วนอนลงบนโซฟา
เป็นเพราะเธอเป็นไข้แน่ๆ มันเลยทำให้สมองเธอเบลอ ดังนั้น เธอก็เลยหูฝาดไปจวงจื่อจะเป็นพ่อของเธอได้ไง?
เหอะ เธอไม่เคยเจอหน้าเลยด้วยซ้ำ มันจะเป็นไปได้ยังไง?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ