บทที่ 379 ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ
กวนจิ้งตัวแข็งทื่อ ในใจรู้สึกลุกลี้ลุกลน ใครเนี่ย ใครมันโทร หาเขาตอนนี้ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาในขณะที่สายตาอันเฉียบ คมของจงจึงห้าวกำลังมองอยู่ เมื่อเห็นเบอร์ที่โชว์ขึ้นมา ก็ทำให้ รู้สึกราวกับยกภูเขาออกจากอก
กวนจิ้งยืนตัวตั้งหลังตรง ก่อนจะรับสาย
หลินซินเหยียนกลืนอาหารที่อยู่ในปากก่อนจะพูดสายกับเขา ” เรื่องที่ฉันให้คุณไปหา เป็นยังไงบ้าง ”
กวนจึงนึกอยู่นานแต่ก็นึกไม่ออก เธอให้เขาไปหาเรื่องอะไร
กัน
หลินซินเหยียนวางตะเกียบลง ” ฉันให้คุณไปหาข้อมูลของหลี่
จ้านจ้างบริษัทนายหน้าทั้งหมดไง คุณลืมไปแล้วเหรอ หรือว่ายัง
ไม่ได้หา ”
กวนจิ้งเลิกลักอยู่พักใหญ่ ถึงจะเป็นสายของหลินซินเหยียน เถอะ แต่เขาไม่สามารถคุยโทรศัพท์ต่อหน้าผู้บริหารทางบริษัท ได้หรอก ที่จะมานั่งฟังเสียงโทรศัพท์ จนเสียเวลาการประชุม กวนจิ้งหันไปมองจงจิ้งห้าว แล้วยกหน้าจอโทรศัพท์หันไปทาง
เขา ให้เขามองเห็นเบอร์ที่ปรากฏบนจอ
กวนจิ้งบันทึกชื่อของหลินซินเหยียนไว้ว่า ภรรยาของท่านประธาน ‘
จงจึงห้าวเลิกคิ้วขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้ตำหนิอะไร จากนั้นก็บอกปัด ให้เขาออกไปรับสายข้างนอก
กวนจิ้งชิ้นแหยๆ ก่อนตอบตกลง
ยังไม่ทันที่กวนจิ้งจะตอบกลับมา หลินซินเหยียนก็รู้สึกรีบร้อน เล็กน้อย ” คุณยุ่งอยู่เหรอ ”
” ไม่ยุ่งครับ ไม่ยุ่ง ” กวนจิ้งปิดประตูห้องประชุม
ก่อนจะเดินหาที่เงียบๆ ไม่มีคน ” ครั้งที่แล้วคุณวางสายเร็ว เกินไป ผมเลยบอกไม่ทัน หลี่บ้านไม่มีบริษัทนายหน้าครับ แต่เขา มีแค่คนกลางหรือนายหน้าแค่คนเดียวเท่านั้น ”
หลินซินเหยียนขมวดคิ้วหนักกว่าเก่า ” แล้วหาคนอื่นเจอไหม
” เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาเพิ่งกลับเข้ามาในประเทศครับ ตอน
นี้น่าจะอยู่ที่108ถนนางหลิงซี ” กวนจิ้งบอก
หลินซินเหยียนรู้สึกพอใจกับคำตอบ ” ยิ้ม ”
” เดี๋ยวครับ ” ขณะที่หลินซินเหยียนกำลังจะวางสาย ก็ถูกกวน 11 จึงเรียกไว้ก่อน ” คุณรู้จักหลี่จ้านด้วยเหรอ ”
หลินซินเหยียนพูดออกมาตามความเป็นจริง ” ไม่รู้จักหรอก ”
” แล้วคุณจะหาเขาทำไม ”
” จําเป็นสำหรับการทำงานน่ะ ทำไมเหรอ หาไม่ได้หรือไง ” 11 หลินซินเหยียนรู้สึกว่ากวนจิ้งชักจะถามมากเกินไปแล้ว
“นี่คุณ คุณไม่รู้จริงๆ เหรอว่าสถานะของเขาคืออะไร ” กวนจิ้ง ถามหยั่งเชิง
หลินซินเหยียนเริ่มรู้สึกสนใจ ” สถานะเขาคืออะไรล่ะ
กวนจิ้งกำลังจะเปิดปากพูด แต่พอจะพูด ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้เขาไม่ ควรพูดออกมา
” ถึงเวลาเดี๋ยวคุณก็รู้เองแหละ ” พูดจบกวนจิ้งก็วางสายไป
หลินซินเหยียนไม่รู้ มันก็หมายความว่าเรื่องที่เธอตามหาหล จ้านนี้ จงจึงห้าวไม่รู้อย่างแน่นอน ไม่งั้นจะให้เขามาหาที่อยู่ทำไม
หลินซินเหยียนมองไปที่โทรศัพท์ รู้สึกเหมือนจะร้องไห้หรือ หัวเราะดี ทำไมคนคนนี้ถึงชอบพูดจาครึ่งเดียวตลอดเลย จะพูดก็ พูดไม่หมด
ชอบทําให้คนอยากรู้อยากเห็น แล้วก็ไม่พูด
สนุกนักหรือไง
เธอวางโทรศัพท์ลง เมื่อกินข้าวเสร็จแล้วก็ออกจากบ้าน เตรียมตัวขึ้นรถ แล้วเปิดโทรศัพท์ให้นำทางเธอไปที่108ถนนถึง หลิงซี เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันอยู่ถนนเส้นไหน ก็ได้แต่ตาม นําทางไป
เธอขับรถไปตามที่นําทางบอก แต่ใช้ยิ่งใกล้ปลายทางเท่าไหร่ ก็ยิ่งห่างไกลทางเจริญขึ้นเรื่อยๆ ในใจทำให้เกิดความลังเล สับสนว่าดาราชื่อดังทำไมถึงอยู่ที่ซึ่งไร้ความเจริญขนาดนี้
บ้านเรือนที่อยู่ขนาบสองข้างทางนั้นดูเก่ามาก แล้วก็มีร้าน ของอยู่บ้างบางจุด บางครั้งบนถนนก็ไม่มีคนเดินอยู่เลยแต่ บางครั้งก็มีบ้างเล็กน้อย แต่โดยมากก็เป็นคนที่สูงอายุแล้ว
ในเขตพื้นที่นี้ส่วนมากก็จะเป็นคนสูงอายุที่อาศัยอยู่ จากที่เธอ ค้นหาหลีบ้านในเว็บป่าย ไม่ใช่เพียงแค่ดาราดังเท่านั้น แต่อายุ ก็ยังไม่มาก ทำไมถึงมาอยู่ในพื้นที่ที่เก่าแก่แบบนี้
อีกอย่าง ดาราดังอย่างเขาคงไม่มีปัญหาเรื่องเงินหรอกมั้ง หลินซินเหยียนเกรงว่าข้อมูลที่กวนจิ้งให้เธอมาคงจะเป็น ข้อมูลปลอม
ในจังหวะที่เธอกำลังจะวางมือจากเรื่องนี้ เธอก็เห็นป้ายของ บ้านเลขที่ 108 แต่ประเด็นก็คือตอนนี้เธอเห็น เด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง ยืนยึกยักอยู่หน้าตึก แล้วยังใส่หมวกแก๊ปลิ้นเป็ด แล้วยังกอด กล้อง เห็นได้ชัดว่าเป็นนักข่าวที่กำลังแอบถ่ายอยู่แน่ๆ
หลินซินเหยียนจอดรถ เห็นแบบนี้ เธอคงจะเจอตัวหลานยาก
สินะ
ตอนนี้เหมือนเธอจะเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมหลี่จ้านถึงเลือกมา อยู่เขตพื้นที่เล็กๆ แบบนี้ จุดประสงค์ก็เพื่อจะหลีกเลี่ยงจากนัก ข่าวนี่เอง
เธอมองผ่านกระจกรถออกไปยังตึก ก็น่าจะมีแค่ประมาณสิบ ห้าสิบหกชั้น หน้าต่างก็เต็มไปด้วยผ้าที่ตากอยู่ ทั้งเสื้อในกางเกง ในก็บอกสะบัดพัดปลิวไปตามลม สภาพคือหมด จะพูด
หลินซีนเหยียนอ้าปากค้าง ในใจก็คิด เธอต้องทำยังไงถึงจะ ได้เจอกับหลานนะ
เห็นแบบนี้ถึงเธอจะเดินไปเคาะประตู เขาก็คงไม่เปิดประตูให้ เธอหรอก
ไม่แน่เขาอาจจะคิดว่าเธอเป็นปาปารัสซี่ด้วยก็ได้
ขณะที่หลินซินเหยียนพยายามคิดหาวิธีที่จะเจอกับหลาน อย่างยิ่งยวด ประตูก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นชายคนหนึ่ง เขาใส่ ผ้าปิดปากสีดำ สวมชุดลำลอง ฮู้ดที่ติดกับเสื้อคลุมหัวจนมิด แทบจะบังไปครึ่งหน้า จนจะดูแทบไม่ออกว่าเขาเป็นใคร
ความวุ่นวายเกิดขึ้นกับเธอขึ้นโดยพลัน เธอยังไม่ทันได้มอง ชัดเจนเลยด้วยซ้ำ ท่านใดนั้นก็มีผู้คนกลุ่มนึงวิ่งเพ่นพ่านไปมา ก่อนจะไปกระจุกกันอยู่ตรงประตู
คนส่วนใหญ่ตรงนั้นเป็นเด็กสาว ในมือถือป้าย (หจ้าน ฉัน รักคุณ (หจ้าน สามีของฉัน ต่างๆ นานา ปากก็ตะโกน โหวกเหวก พูดคำสองพยางค์ซ้ำๆ หลี่จ้าน
นี่คือครั้งแรกที่หลินซินเหยียนเห็นติ่งดารากับตา
เมื่อก่อนเห็นแต่ในข่าว ที่เขาบอกว่าคนเยอะจนกลายเป็น ภูเขาคนทะเลคนที่ยืนกระจุกรวมกันมากมายแบบนั้น รู้สึกว่ามัน ไม่มีอยู่จริง แต่พอมาวันนี้ เธอคิดว่ามันบ้าคลั่งยิ่งกว่าที่เห็นใน ทีวีเสียอีก
ข้างกายของหลี่จ้านมีเพียงคนอ้วนคนหนึ่งยืนอยู่เท่านั้น บน ศีรษะถักเป็นเปีย ข้างหลังยังสะพายกระเป๋าเป้ ใส่แว่นตา เหมือน อยากจะกันตัวหลานเอาไว้ แต่ว่าคนเยอะเกินไป
หลินซินเหยียนเริ่มลุกลี้ลุกลน รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝันอยู่
คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีวันที่เธอตามเป็นติ่งดารา เธอกลับมันมีความหวังที่จะอยากเห็นหน้าจริงของหลี่บ้าน ว่า
หล่อถึงขั้นที่ทำให้คนเป็นบ้าเลยหรือเปล่า
ตอนนี้มันเธอเริ่มรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ว่าหลี่บ้านจะเดินออก มาได้ยังไง คนล้อมรอบเยอะขนาดนั้น ข้างกายก็มีแค่คนคน เดียว ในขณะที่เธอกำลังจ้องมองเหตุการณ์อย่างออกรสออก ชาติ ประตูหลังของเธอก็ถูกเปิดออก
รีบขับไปสิ ”
หลินซินเหยียนหันกลับไปมอง ก็เห็นแค่ผู้ชายรูปร่างพร้อมส่ง คนหนึ่ง ใส่แว่นตาสีดำ ใบหน้านั้นทรวมผ้าปิดปากสีดำเช่นกัน เหมือนทั้งไม่น่าจะถูกปกปิดเอาไว้
รูปลักษณ์แบบนี้มัน…..เหมือนเธอจะเห็นว่าดูคล้ายกับหลาน ในเว็บป่ายตู้เมื่อกี้
เธอหันกลับไปมองที่ประตู ก็ยังเห็นแฟนคลับยังคงยืนอัดแน่น ตรงนั้นเพื่อรอหลีบ้านอย่างบ้าคลั่ง
คุณเป็นใคร “หัวของหลินซินเหยียนผุดเครื่องหมายคำถาม อันใหญ่ออกมา
หลีบ้านใช้นิ้วกันสะพานจมูกของแว่นตาลง ก่อนจะมองหน้า หลินซินเหยียน ” เป็นคุณนี่เอง…
” หลี่จ้านเหรอ ” หลินซินเหยียนเห็นหน้าเขาก็ถามขึ้น 11
หลีจ้านยันแว่นกลับขึ้นมาเหมือนเดิม ” พาผมไปให้ไกลจากที่
หลินซินเหยียนไม่ได้ต่อปากต่อคำอะไร ก่อนจะสตาร์ทรถแล้ว ขับออกไป
เหมือนกับคำโบราณที่ว่า จนรองเท้าเหล็กสึกไม่พบพาน ยามได้มากลับไม่เสียเวลาเลย จะสื่อว่าพยายามหาแทบตายก็ไม่ เจอแต่พอเลิกสนใจก็กลับมาเจอง่ายๆ เสียอย่างงั้น
” คุณจะไปไหนล่ะ ” หลินซินเหยียนถาม 11
” ไปใจกลางเมือง ”
วันนี้จะมีมีตติ้งแฟนคลับ ด้านนั้นจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย แล้ว ที่เหลือก็แค่ให้เขาไปถึงที่นั่น
ก่อนขึ้นรถ เขาคิดว่าทางนั้นส่งรถมาให้เขาแล้ว หลังจากที่ได้ เจอหลินซินเหยียน เขาก็รู้ทันทีว่าเขาได้ขึ้นรถผิดคัน
แต่ก็ช่างเถอะไม่ว่าจะยังไง เขาก็คงต้องเอาตัวให้รอดจาก แฟนคลับที่พยายามขวางเขาก่อน
เขาถอดแว่นและผ้าปิดปากออก เผยให้เห็นใบหน้าเต็มๆ ผมสีดำน้ำเงิน ที่ถูกตัดออกมายังเป็นเอกลักษณ์ กลับดวงตาที่ลีก คมคายนั้น สุขสกาวราวกับดวงจันทร์ ใบหน้าทุกส่วนดูดี ราวกับเป็นรูปปั้น มีมุมที่ดูหล่อต่างจากคนธรรมดาทั่วไป
เขาสวมเสื้อเชิ้ตลายตารางสีฟ้าอ่อน ม้วนแขนเสื้อขึ้นจากข้อ
มือคลายๆ แต่ดูเป็นระเบียบและสวยงาม และยังมีความรู้สึก เซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก จมูกที่เป็นส้นสูง รับกับริมฝีปากอวบอิ่มที่เมื่อยิ้มแล้วก็ทำให้
คนมองแทบจะตาลายกันเลยทีเดียว
ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ “
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ