บทที่ 371 แสดงจุดยืน
คุณเฉินคุณพูดจาน่าขันจริงๆ ความสัมพันธ์ของคนอื่น คนนอกจะไปรู้อะไร อีกอย่างคุณก็ไม่ใช่ซุนหงอคงเสียหน่อย ที่จะ มีตาวงแหวนอะไรนั่น ตามหลักแล้วก็คงมองไม่ออกหรอกค่ะ อีก อย่างอาหารมื้อนี้คุณเฉินก็เป็นตัวหลักอยู่แล้ว “หลินซินเหยียน ยิ้มอย่างนุ่มนวล ไม่ต้องเปลืองแรงอะไรมากมายก็สามารถทิ้ง ประเด็นหัวข้อสนทนาให้กลับมาได้
เงินซื้อหานแสร้งยิ้มออกมาทั้งที่ในใจไม่ได้ยิ้มก่อนจะพูดว่า ” ฉันจะเป็นตัวหลักได้ยังไงกันล่ะ ไม่ควรเป็นคุณหรอกเหรอ
หลินซินเหยียนค่อยๆกลืนอาหารในปากยังไม่รีบร้อน ก่อนจะ ตอบกลับไปว่า ” ฉันกับจึงห้าวเป็นสามีภรรยากัน ส่วนคนนี้คือ คุณลุง พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน จะมีก็แต่คุณเฉินที่เป็น แขกไม่ใช่หรอกเหรอคะ ”
ตอนนี้ใบหน้าของคุณเฉินแทบจะไม่มีรอยยิ้มผุดออกมา
หลินซินเหยียนทำเป็นมองไม่เห็น ก่อนจะพูดต่อ ” ตั้งแต่ โบราณ เขาว่าแขกนั้นเป็นใหญ่ โดยเฉพาะแขกที่เชิญมายังโต๊ะ อาหาร คุณเฉินไม่ใช่ตัวหลักของวันนี้เหรอคะ”
จริงๆแล้วเธอไม่ใช่คนโหดร้าย ใจดำขนาดนั้น แต่เมื่อต้อง เผชิญหน้ากับคนที่เริ่มยั่วยุเธอก่อน เธอก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้ ง่ายๆ!
เพราะเธอรู้มาตั้งนานแล้วว่า ยิ่งอ่อนแอมากเท่าไหร่ คนอื่นก็ จะอาศัยจุดด้อยของเธอรังแกเธอมากขึ้นเท่านั้น
ตั้งแต่เข้ามา เฉินซื้อหานเหมือนจงใจที่จะพูดอะไรบางอย่าง
หวังที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับจงจึงห้าว เธอไม่รู้ว่าคำพูดของเฉินซื้อหานที่บอกว่าเคยเจอที่บาร์นั้นคือ
เมื่อไหร่
เพราะในขณะเดียวกันเธอก็ไม่แน่ใจแล้วรู้สึกไม่สบายใจแบบ แปลกๆ
แต่ว่า เธอรู้ดี ถ้าแสดงจุดยืนออกไปตอนนี้ ก็จะทำให้คนอื่น สงสัยความสัมพันธ์ของเธอและจงจึงห้าว
เรื่องแบบนี้ เธอจึงยอมที่จะถามจงจึงห้าวแบบส่วนตัว แน่นอนว่าจะไม่ยอมถามต่อหน้าคนอื่น ไปซักถาม และสงสัย
สีหน้าของเฉินซื้อหานตอนนี้ดูซีดขาว จากที่ดูไม่ได้แล้วก็ยิ่งดู
ไม่ได้เข้าไปใหญ่
สุดท้ายก็กลั้นมันไว้ไม่อยู่ ก่อนที่จะยืนเก้าอี้แล้วลุกขึ้นยืน ” ปากนี่มีลิ้นเหมือนมีขลุ่ยจริงๆเลยนะ!”
หลินซินเหยียนยังคงพูดยิ้มขึ้นมาบนใบหน้าดังเดิม ” คุณเฉิ นก็ชมเกินไปแล้วนะคะ ฉันแค่อยากรู้ความจริงเฉยๆ ทำไมคุณ ต้องโกรธด้วยล่ะคะ ”
“ลุงเหวิน ฉันอิ่มแล้วค่ะ ” เฉินซื้อหานพูดจบก็คว้ากระเป๋าแล้วตรงดิ่งออกจากห้องอาหารไป
หล่อนรู้สึกว่าหลินซินเหยียนทำให้หล่อนขายหน้า
เกรงว่าถ้าหล่อนยังอยู่ต่อ ก็มีแต่จะขายหน้าคนอื่น
โตมาขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่หล่อนรู้สึกจนตรอกสู้ไม่ได้ สีหน้าเหวินชิงก็ดูเคร่งขรึมมากกว่าเดิม ” หล่อนเป็นคนที่ฉัน เชิญมา ทำไมเธอต้องพูดจาเสียดสีเพื่ออะไรกัน
หลินซินเหยียนกำลังจะเปิดปากพูด จงจึงห้าวกลับกุมมือเธอ ไว้ ” ไปรอผมในรถไป ”
เขามีเรื่องจะคุยกับเหวินชิง
หลินซินเหยียนลังเลไปพักหนึ่ง ไม่อยากไปจากตรงนี้ เพราะไม่
วางใจจงจิ่งห้าว
เธอไม่รู้เลยว่าเขาจะพูดอะไรกับเหวินชิง ก็เป็นเพราะว่าไม่รู้
มันเลยทำให้เธอลังเลแบบนี้
กลัวว่าพวกเขาจะทะเลาะกันใหญ่โต
เพราะเธอยังอยากรักษาความสัมพันธ์ระหว่างเหวินชิงกับจง จิ่งห้าวเอาไว้
” เมื่อกี้เป็นเพราะว่าฉันทำตัวเป็นเหตุไปหน่อย ทำให้คุณเฉิน ไม่ค่อยพอใจ…..”
” ออกไปก่อน “จงจิ่งห้าวพูดตัดบทเธอขึ้นมา
ความผิดของใคร ตัวเขานั้นรู้ดีที่สุด
เธอไม่จําเป็นต้องขอโทษใคร
เธอไม่ผิด และไม่จําเป็นต้องทำเรื่องแบบนี้ด้วย
หลินซินเหยียนเม้มปาก ความสามารถของเธอมีขีดจํากัด จริงๆ เธอไม่สามารถควบคุมสถานการณ์นี้ไว้ได้
เธอลุกขึ้นแล้วลากเก้าอี้ จากนั้นเดินออกไปจากห้องอาหาร
ไม่นานนักห้องก็เงียบสงบลง
จงจิ่งห้าวเช็ดมือ ก่อนจะเอาผ้าเช็ดมือทิ้งลงไปบนโต๊ะ ก่อนจะ เอนตัวไปข้างหลังเพื่อพิงเก้าอี้
ถ้าจะบอกว่าเมื่อก่อนท่าทีของเหวินซึ่งทำให้เขารู้สึกสงสัย ถ้า อย่างนั้น มื้ออาหารครั้งนี้ ทำให้เขามั่นใจแล้ว
คุณมีปัญหาอะไรกับเธอหรือเปล่า ” เสียงของเขากดต่ำลง
สำหรับเหวินชิงแล้วเขาก็ยังคงมีความเคารพอยู่
เพราะเขาก็หวังเช่นกันว่าคนที่เขาแคร์นั้น จะแคร์เขาอย่างเท่า
เทียมกัน
แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนสิ่งที่แสดงออกมาจะแตกต่างจากที่เขา
คิด
ก่อนหน้านี้ท่าทีของเหวินชิงที่แสดงต่อหลินซินเหยียนไม่ได้บ่ง บอกถึงความเกลียดชังอะไร….
ร่างกายและท่าทางของเขา ซึ่งเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย
เหวินซึ่งไม่ได้ตอบออกมาตรงๆ แต่พูดออกมาว่า ” ดื่มกับฉัน สักแก้วสิ ”
พูดจบก็ให้พนักงานเข้ามา เทเหล้าให้พวกเขา
เป็นเพราะจงจึงห้าวไว้หน้า เลยดื่มเข้าไปหนึ่งแก้ว
เหวินชิงวางแก้วเหล้าลง เขาอยากจะพูดกับจงจึงห้าวให้
ชัดเจน
แต่พอเห็นท่าทีที่เขามีต่อหลินซินเหยียน เหวินซึ่งก็ยังไม่กล้า
พูดมันออกมา
ฉันกับพ่อของซื้อหานเราเป็นเพื่อนร่วมงานกัน แล้วก็ยังเป็น เพื่อนรักกันอีกด้วย วันนี้บังเอิญเจอกันที่ร้านอาหาร ก็เลยชวนมา กินข้าวด้วยกัน ฉันก็เลยไม่ได้บอกแกล่วงหน้า ฉันเห็นว่าท่าที ของแกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เป็นเพราะเรื่องนี้เหรอ ” เหวินชิงจงใจที่ จะเปลี่ยนประเด็น
พยายามไม่พูดถึงเรื่องของหลินซินเหยียน
จงจึงห้าวเป็นคนยังไง ทำไมเขาจะดูเจตนาของเหวินซึ่งไม่ออก เขาไม่สนใจว่าเหวินซึ่งจะคิดอะไร แต่เขาอยากจะบอกท่าที ของเขาให้รับรู้
เขาเทเหล้าลงไปในแก้วของตัวเองอีกครั้ง จากนั้นก็ดื่มเข้าไป พรวดเดียว
เมื่อวางแก้วลงมาแล้ว เสียงแก้วที่กระทบลงบนโต๊ะก็ดังสนั่น ผมกับเธอ….. ระยะเวลาที่เราแต่งงานกันนั้นมันสั้น แล้วก็จากกัน อย่างรวดเร็ว ถึงเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีพร้อมที่สุดเท่าที่ผมเคย เจอ แต่ก็เป็นคนที่ผมชอบที่สุด ”
เขาช้อนสายตาขึ้นมามองเหวินชิง ” เมื่อรู้ว่าเธอตั้งท้องลูก สองคนให้กับผม มันทำให้ผมสั่นไหว แล้วก็.. แล้วก็แปลกใจเช่น กัน ” แต่เรื่องระหว่างนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปมากมาย
” เธอเป็นภรรยาของผม ผมรู้สึกว่าผู้ชายคนหนึ่ง แค่ผู้หญิง ของตัวเองยังปกป้องไว้ไม่ได้ ก็คงเป็นขยะดีๆนี่เอง คุณว่าไหมล่ะ
เหวินซึ่งเข้าใจจงจึงห้าว ว่าเขากำลังบอกถึงจุดยืนของตัวเอง ว่าถ้าหลังจากนี้เขาทำอะไรกระทบถึงหลินซินเหยียนล่ะก็ จงจึง ห้าวก็พร้อมที่จะยืนอยู่ฝั่งหลินซินเหยียน
” จิ่งห้าว ฉันเป็นลุงของแก กี่ปีมานี้
” ผมรู้ครับ รู้มาตลอด ” จงจิ่งห้าวพูดตัดบท เขารู้ดีว่าเหวินชิง ต้องการจะเล่นไพ่ความรู้สึกกับเขา
ดังนั้นเขาเลยจงใจที่จะตัดบท แล้วแสดงจุดยืนอีกครั้ง ” ผมรู้ ผมไม่เคยลืม แล้วก็ไม่เคย….สงสัยมาก่อนว่าการปกป้องคนที่ เราแคร์ มันคือสิ่งที่ลุงสอนผม ผมจะไม่ทำให้ลุงผิดหวังหรอก ครับ ”
เมื่อก่อนเขาก็สงสัยมาโดยตลอด แต่ตอนนี้น่ะเหรอ….
เหวินซึ่งอ้าปากค้าง ไม่มีคำใดหลุดออกมาจากปากของเขา ค่าพูดนี้เป็นคำที่เขาเคยบอกจงจิ้งห้าวจริงๆ
” แกต้องเชื่อสิ ว่าสิ่งที่ฉันทำไปทั้งหมดเป็นเพราะอยากให้แก ได้ดี แม่ของแกน่ะชื่อเหวินเสียน ฉันชื่อเหวินชิง เราเป็นลูกแม่ เดียวกัน แกก็เป็นลูกชายคนเดียวของเธอ ฉันจะทำร้ายแกไป ทำไม ” เหวินชิงเจ็บหัวใจยังถึงที่สุด ก่อนจะเอาฝ่ามือทุบลงไปที่ โต๊ะอย่างแรง ” ตอนแรกถ้าไม่ได้เป็นเพราะเพิ่งซิ่วแม่แกก็คงไม่ จากไปเร็วขนาดนี้ ”
เขาทั้งโกรธและเกลียดเฉิงซิ่วถึงเรื่องจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่มันก็ไม่เคยจางหายไปไหนเลย
แต่ยิ่งนานวันเข้ากลับยิ่งฝังลึกลงไปทุกที
จงจึงห้าวหรี่ตามองเล็กน้อย เขาจับประเด็นในสิ่งที่เหวินซึ่งพูด ออกมาตอนท้าย
เฉิงซิ่วเขาเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อหลินซินเหยียนแล้วมันเกี่ยว อะไรกับเฉิงซิ่วหรือเป็นเพราะเขารู้ความสัมพันธ์ระหว่างหลิน นเหยียนกับเฉิงซิ่วอาหารค่ำวันนี้ก็เลย เอาเรื่องที่ไปเอา เอกสารวันนี้แล้วบังเอิญเจอเข้ากับเฉินซื้อหาน
เรื่องทั้งหมดเขาจงใจทำ
เป้าหมายของลุงคืออยากให้ตัวเขาเลิกกับหลินซินเหยียน แล้วไปคืนดีกับเฉินซื้อหานเนี่ยนะ
เขาหลับตาทั้งสองข้างลง แล้วรู้สึกว่า… เรื่องนี้มันไร้สาระสิ้น
เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป ผมหวังว่าคุณจะรักษา สุขภาพของตัวเองให้มากๆ วันนี้ก็ถึงเวลาแล้ว ผมขอตัว ”
จงจึงห้าวลุกขึ้น ก่อนจะออกจากห้องอาหารไป
” จิ่งห้าว ”
เมื่อจงจิ้งห้าวเดินไปถึงประตู เหวินซึ่งก็เรียกเขาเอาไว้ ” วันนี้ คงโกรธมากเลยสินะ ”
จงจึงห้าวหยุดฝีเท้าลง ก่อนจะพูดทั้งๆที่ไม่ได้หันหน้ากลับมา มองเหวินชิง ” ใช่ผมก็โกรธ โกรธที่คุณเอาคนนอกมาร่วมมือกัน ดูถูกเธอแบบนี้ ผมมีลูกสองคนแต่ถ้าผมทำให้แม่ของพวกเขา ต้องถูกทำร้าย ผมไม่มีอะไรที่จะทดแทนหรือชดใช้พวกเขาได้ คุณลุงก็เป็นพ่อคน ก็ควรจะเข้าใจความคิดของผมว่าเป็นเช่นไร
พูดจบเขาก็จากไปไม่หันกลับมา
เหวินชิงพูดไม่ออก
ถึงแม้ตัวเขาเองจะเต็มไปด้วยคำพร่ำบ่นต่อลูกชายเชื่อฟังคำ สั่งสอนเขา แต่หากใครกล้ามารังแก เขาก็จะไม่ยอมทนเป็นอัน ขาด
เขาหลับตาลง รู้สึกว่าการที่จะให้จงจึงห้าวกับหลินซินเหยียน นั้นแยกทางกันมันจะมีปัญหาอะไรบางอย่าง
ทำไมวันนี้หลี่จิ้งไม่จัดการหลินซินเหยียนให้เรียบร้อยนะ
ไม่แน่ว่าจงจิ้งห้าวเหมือนจะระแคะระคายอะไรบางอย่าง ก็เลย แสดงจุดยืนต่อหน้าเขาขนาดนี้
เมื่อจ่ายเงินเสร็จ เหวินซึ่งก็เดินออกไปจากร้านอาหาร ยืนรอ ตรงหน้าประตูก็มีรถจี๊ปคันหนึ่งขับเข้ามา บอดี้การ์ดก็ลงมาเปิด ประตูให้กับเหวินชิง ” กลับเลยไหมครับ ”
เหวินชิงตอบกลับไปสั้นๆ ด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อน ก่อนจะโค้งตัว ลงเพื่อเข้าไปในรถ
ผ่านไปยี่สิบนาทีกว่า รถก็จอดตรงหน้าประตูบ้าน งานรักษา ความปลอดภัยก็ลงมาเปิดประตูรถ เหวินชิงย่างเท้าลงมา ” คุณ เลิกงานเถอะ ”
” พรุ่งนี้ตอนเช้าให้มารับท่านที่โมงครับ “บอดี้การ์ดถาม ” เวลาเดิม ” พูดจบเหวินซึ่งก็เข้าบ้านไป ในบ้านหลี่จิ้งเองก็ กําลังรอเขาอยู่
เพราะว่าเป็นเรื่องของหลินซินเหยียน หล่อนก็เลยอยาก ปรึกษาเรื่องนี้กับเหวินชิง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ