บทที่369 เอาวิธีการเก่ามาใช้ใหม่
หลินซินเหยียนไม่ได้พูดเจตนารมณ์ของหลี่จิ้งออกมาตรงๆ แต่ แกล้งพูดว่า “คุณป้าบอกว่าคุณเป็นคนที่มีฐานะสูงส่ง ส่วนฉัน ไม่ใช่อะไรเลย เหมือนคุณป้ากำลังบอกฉันว่าฉันไม่เหมาะกับคุณ เพราะฉันไม่มีฐานะครอบครัวที่ร่ำรวย และไม่มีเงินทองที่นับไม่ ถ้วน เราอยู่ด้วยกันไม่เหมาะสมกันเลย
เธอคิดอยู่ในใจว่า ใช่ เธอไม่มีสิ่งเหล่านี้ ทั้งชีวิตนี้ก็ไม่ สามารถครอบครองสิ่งเหล่านี้ สิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้ก็คือ ยืนอยู่ข้างกายเขา
ร่วมเดินหน้าถอยหลังด้วยกันร่วมทุกข์ยากด้วยกัน
จงจึงห้าวมองเธอแว๊บนึงแต่ไม่ได้พูดอะไรเลย แค่นั่งกลับมาที่ เดิมแล้วสตาร์ทรถ
หลินซินเหยียนหันไปมองหน้าเขา “คุณไม่มีอะไรจะพูดเลยเห รอคะ?”
เขาเพ่งมองตรงหน้า แววตาลึกๆเกิดความสงสัย ถ้าก่อนหน้า นั้นเขาแค่รู้สึกว่าเหวินชิงอาจจะมีเรื่องปิดบังเขา ขั้นตอนนี้เขา สามารถแน่ใจได้แล้ว
ถ้าอยากเรียกเขากับหลินซินเหยียนทานข้าวจริงๆ แจ้งเขาคน เดียวก็พอแล้ว
หลี่จิ้งไม่จําเป็นต้องวิ่งมาที่ร้านเสื้อผ้าของหลินซินเหยียนเลย
อีกอย่าง ตั้งแต่เขาจําความได้ ทุกครั้งคนที่รับผิดชอบติดต่อ เขาล้วนเป็นหลี่จิ้งถึงแม้เหวินซึ่งมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับเขา แต่น้อยมากที่จะโทรศัพท์ติดต่อตัวเอง
ไม่ใช่เขาไม่ยอมติดต่อ แต่ว่าเวลานานเข้า เขาติดนิสัยชอบ ให้หลี่จิ้งทําแทน
แต่คราวนี้ เขาเป็นฝ่ายติดต่อกันสองครั้งรวด
นี่เพียงพออธิบายปัญหาได้แล้ว บวกกับอารมณ์ของหลินซินเห ยียนผิดสังเกต จะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ
เรื่องนี้ หลินซินเหยียนก็คงรู้อยู่บ้าง ส่วนเธอรู้เท่าไหร่นั้นเขาก็ ไม่ทราบเหมือนกัน
“ไม่มีใครสามารถก้าวก่ายเรื่องของผมได้
เหวินชิงก็ไม่ได้!
เขาแสดงท่าทีของตัวเองออกมาอย่างชัดเจน ขอแค่เขาชอบ ไม่มีใครสามารถขัดขวางเขาได้!
หลินซินเหยียนเป็นฝ่ายใกล้เข้ามาซบที่ไหล่เขา “คุณเชื่อเรื่อง
โชคชะตามั้ยคะ?”
“ไม่เชื่อ” เขาเชื่อแค่ตัวเองเท่านั้น
หลินซินเหยียนเงยหน้ามองเขา และมองอย่างจริงจัง “แต่ฉัน เชื่อค่ะ”
“คุณไม่รู้สึกว่าเรามีวาสนาต่อกันเหรอคะ?”
คืนที่จับพลัดจับผลูคืนนั้น เดิมทีนึกว่าชีวิตนี้จะไม่มีการคลุกคลี กันอีก แต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นคู่ครองที่ถูก หมั้นหมายกับตัวเองไว้ตั้งแต่เด็ก
เป็นวาสนาที่มหัศจรรย์มาก
จงจึงห้าวเว้นมือออกมาข้างนึงกอดเธอไว้ มุมปากยกขึ้นเล็ก น้อย เผยฟันที่ขาวสวยออกมา “ที่คุณพูดถูกหมดเลย
หลินซินเหยียนจ้องเขาแว๊บนึง “นี่พูดจาลวกๆกับฉันเหรอ?” จงจึงห้าวจับมือเธอมากดไว้ที่ทรวงอก พร้อมกับอมยิ้ม “ผม พูดจากใจจริงครับ ไม่มีอะไรต้องละอายใจ
หลินซินเหยียนไม่พูดจาไร้สาระกับเขา ถ้าจะเถียงขึ้นมาจริงๆ เธอเถียงเขาไม่ไหวจริงๆด้วย
เวลาเขาไร้ยางอายขึ้นมา พอๆกับนักเลงเลย
ตอนนี้รถได้จอดลงที่ร้านอาหารที่เหวินชิงนัด
ร้านอาหารจีน
นิสัยของเหวินชิงค่อนข้างหัวโบราณ และไม่ชอบทานอาหาร ตะวันตก ร้านอาหารที่เขาเลือกส่วนมากจะเป็นร้านอาหารจีนทั้ง หลายที่รสชาติค่อนข้างดีในเมืองB
ร้านอาหารร้านนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น เพื่อให้ลูกค้าได้ฟิวที่ไม่ เหมือนกัน สไตล์การตกแต่งของร้านอาหารดูมีเอกลักษณ์มาก โครงสร้างของสไตล์จีน รายละเอียดของสมัยใหม่ พนักงานชายใส่สูทสีดำ ส่วนพนักงานหญิงใส่กี่เพ้า พนักงานชายหญิงยืนด้วย กัน ช่างสามัคคีปรองดองและเหมาะสมกันมาก
พวกเขาเดินมา พนักงานต้อนรับที่หน้าร้านได้เปิดประตูทันที
พร้อมกับทําท่าทางเชิญ หลังจากเข้ามาในร้าน พนักงานชายที่ใส่สูทผูกโบว์ได้เดินมา
“ไม่ทราบได้นัดไว้หรือเปล่าครับ?”
จงจึงห้าวพยักหน้าเล็กน้อย “หาคุณเหวิน”
“เชิญมากับผมเลยครับ” พนักงานชายแค่ฟังก็รู้เลยว่านี่เป็น ลูกค้าของห้องนั้น เขาได้เดินไปนำทางที่ข้างหน้าอย่างมีมารยาท และเคารพนอบน้อม
มาถึงหน้าห้องVIP เขายืนไปที่ข้างๆ “ห้องนี้เลยครับ
หลินซินเหยียนจับแขนจงจึงห้าวไว้แน่น จะเผชิญหน้ากับเหวิน ชิง ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
จวจิ่งห้าวกลับเป็นฝ่ายเอามือมาคลุมอยู่บนหลังมือเธอ เอามือ ของเธอไว้ที่ข้อพับแขนตัวเองพร้อมพูดด้วยเสียงทุ้ม “มีผม อยู่”
หลินซินเหยียนเม้มปากแน่น และพยักหน้าเบาๆ
ผลักประตูห้องVIPออก ในห้องอาหารที่กว้างขวาง คนที่นั่งอยู่ ตรงกลางคือเหวินชิง ข้างกายเขามีหญิงสาวหน้าตาสะสวยมาก นั่งอยู่คนนึง
ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ดูเหมือนยังพูดคุยกันอย่างมีความสุ ขมากๆ ใบหน้าของทั้งสองต่างก็ประดับด้วยรอยยิ้ม
ประตูห้องถูกผลักออก พวกเขาได้มองมาที่หน้าห้องพร้อมกัน
สายตาของผู้หญิงมองมาที่จงจึงห้าวก่อน จากนั้นค่อยเคลื่อน ย้ายไปที่หลินซินเหยียน
วินาทีที่เหวินชิงเห็นหลินซินเหยียนก็มาด้วยรอยยิ้มบน ใบหน้าได้ค่อยๆจางหายไป สิ่งที่มาแทนที่คือใบหน้าอันเย็นชา เคร่งขรึม
สีหน้าแววตาเขาเปลี่ยนแปลงเยอะขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จงจึง ห้าวจะไม่เห็น
แววตาเขาระยิบระยับเล็กน้อย ไม่นานก็ได้กลบเอาไว้ และพา หลินซินเหยียนเดินเข้ามา
ส่วนเฉินซื้อหานกระตือรือร้นมาก “เมื่อกี้ฉันกับลุงเหวินยังพูด
ถึงพวกคุณอยู่เลยค่ะ?”
หลินซินเหยียนมองเฉินซื้อหานแว๊บนึง อาจจะเพราะต่างก็เป็น ผู้หญิง เลยค่อนข้างเข้าใจผู้หญิงเป็นอย่างดี เธอรู้สึกได้อย่าง ชัดเจนว่าผู้หญิงคนนี้กำลังแกล้งตีสนิทกับพวกเขาอยู่ โดนเฉพาะ กับจงจิ่งห้าว
“ไม่ทราบว่าพูดถึงพวกเราอะไรคะ?” หลินซินเหยียนถามด้วย รอยยิ้ม
“คุณก็คือคุณนายจง ใช่มั้ยคะ?” เฉินซื้อหานตอบไม่ตรงคำ
ถาม “ยังสาว ยังสวยจังเลยค่ะ”
เฉินซือหานพูดจาเก่งจริงๆ
หลินซินเหยียนรักษารอยยิ้มที่เหมาะสมไว้ “คุณชมเกินไปแล้ว ค่ะ ก็ไม่อ่อนเยาว์แล้วค่ะ ลูกก็หกขวบแล้ว คุณอ่อนเยาว์กว่าเยอะ เลย”
หางตาของเฉินซือหานกระตุกเล็กน้อย เหวินชิงบอกเธอแล้ว ว่าจงจิ่งห้าวแต่งงานแล้ว แต่เป็นการแอบซุ่มแต่งงาน ทำไม แม้แต่ลูกก็มีแล้วล่ะ?
เดิมทีเหวินซึ่งจะบอกกับเฉินซื้อหานอยู่ แต่แค่ยังไม่ทันได้พูด เฉยๆ
เหวินชิงตบไหล่เงินซื้อหานหนึ่ง ทั้งสองไม่ได้พูดจา แค่สื่อสาร กันทางสายตาที่นึ่งเท่านั้น
เหมือนกำลังบอกว่า เรื่องนี้เขาจะพูดเธอเอง
ในใจลึกๆของเหวินชิงรู้สึกไม่พอใจ โกรธที่หลี่จึงไม่จัดการ เรื่องให้เสร็จ แต่ไหนๆคนก็มาแล้ว เขาก็จนปัญญาเหมือนกัน
เขาไม่ได้พูดกับจงจิ่งห้าวตรงๆว่าให้เขาหย่ากับหลินซินเห ยียน เพราะเขาดูออกว่าจงจึงห้าวแคร์หลินซินเหยียนมาก
จำได้ว่าครั้งแรกที่ไปตระกูลเหวิน เขาคอยปกป้องเธอทุกอย่าง แม้แต่นามสกุลของเด็กทั้งสองล้วนสามารถไม่แคร่ได้
เขารู้นิสัยของจงจึงห้าวอยู่ไม่มากก็น้อย เขาเลยไม่กล้าพูดกับจงจิ่งห้าวด้วยซ้ำ ขอแค่จงจึงห้าวไม่เห็นด้วย เขาก็จะหมดหนทาง
เลย
ถึงเวลาเขาเล่นลูกไม้อะไรอีกก็สายไปแล้ว เพราะขอแค่เขาเล่นลูกไม้ จงจึงห้าวก็จะรู้ว่าเป็นฝีมือของเขา ตอนนี้ได้แค่ทำให้หลินซินเหยียนจากไปอย่างลับๆ ถ้าไม่ได้……..
อย่างมากก็แค่เอาวิธีการเก่ามาใช้ใหม่
เขาจะไม่ยอมให้คนเคียงหมอนของจงจึงห้าวมีหนึ่งใจเดียวกัน กับเฉิงยู่ซิ่วเด็ดขาด!
“ลุงมาแนะนำหน่อย คนนี้คือลูกสาวของเพื่อนร่วมงานลง ชื่อ เฉินซือหาน” เหวินซึ่งมองจงจึงห้าวและแกล้งพูด “วันนั้นหลาน สองคนเคยเจอกันที่โรงแรมแล้วใช่มั้ย?”
หัวใจของหลินซินเหยียนกระตุกที่นั่ง
จงจึงห้าวเคยเจอหน้าผู้หญิงคนนี้ แถมยังเจอกันในโรงแรม ด้วย?
“ลุงเหวินอันนี้คุณลุงก็ไม่ต้องแนะนำแล้วค่ะ อยู่เมืองทั้ง ประเทศคงไม่มีใครไม่รู้จักจงจึงห้าวมั้งคะ ยิ่งไปกว่านั้นเรายัง เคยเจอหน้ากันด้วย……
ตอนพูดสายตาของเธอได้แว๊บผ่านใบหน้าของหลินซินเหยียนโดยที่ไม่ตั้งใจ
มือที่หลินซินเหยียนวางอยู่ใต้โต๊ะได้กุมไว้ด้วยกัน ฝ่ามือมี เหงื่อซึมออกมา แต่สีหน้าเธอสงบนิ่งมาก “คุณเฉินพูดถูกค่ะ ที่รู้จักเขามีอยู่ไม่น้อย รู้จักกับคุณก็ไม่แปลกเลยค่ะ คน
เฉินซื้อหานสำลักทีนึง รอยยิ้มบนใบหน้าแอบแข็งกระด้างเล็ก
น้อย
จงจึงห้าวหันมามองเล็กน้อย เขาจำได้ว่าครั้งแรกที่ต่อกรกับ หลินซินเหยียน เธอก็ฟันคมปากคล่องแบบนี้แหละ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ