บทที่ 357 ไม่คิดจะให้คำอธิบายอะไรกับผมเลยเหรอ
เมื่อคนคนนั้นได้ยิน ” ภรรยาของประธานจงเป็นคนธรรมดา
สามัญชนหรอกเหรอ พนักงานคนนั้นไม่อยากจะเชื่อ รู้สึกเรื่องนี้เป็นอะไรที่คาดไม่
ถึงเลยจริงๆ
จงจิ่งห้าวถูกตาต้องใจผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นดันเป็นผู้ หญิงบ้านๆ ธรรมดาเนี่ยนะ
” ภรรยาของประธานจงมีด้านไหนที่เด่นออกมาหรือเปล่าล่ะ ” พนักงานคนนั้นยังคงถามเป็นนัยๆ ” หรือว่าจะมีส่วนไหนที่ดีเด่ กว่าคนอื่น ”
ไม่แปลกที่ทุกคนจะไม่เชื่อ ว่าจงจึงห้าวและแต่งงานกับผู้หญิง ธรรมดาทั่วไปคนหนึ่ง
ก่อนอื่นต้องมาดูคุณสมบัติต่างๆ ในตัวของจงจึงห้าวเสียก่อน เขาเป็นเศรษฐีอายุน้อยที่มีอิทธิพลในประเทศ ร่างกายสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลา สมกับเป็นหนุ่มในฝันอย่างแท้จริง คนที่มีฐานะ ร่ำรวยส่วนมากก็ต้องหาคู่ที่เหมาะสม เพื่อที่จะสืบฐานะของตัว เองให้มั่นคงยิ่งขึ้น
แต่ในความเป็นจริง มันคงไม่เหมือนในละครหรอก ที่ นเดอเรลล่าจะแปลงร่างกลายเป็นหงส์ด้วยกิ่งไม้โง่ๆ อันหนึ่ง นอกเสียจาก ซินเดอเรลล่าจะมีความโดดเด่นอย่างแท้จริง หรือต้องมีความสามารถบางด้านที่ล้ำหน้ากว่าคนอื่น
ไม่งั้น ก็คงไม่ถูกเลือกมาหรอก
ซินเดอเรลล่าแต่งงานเข้ามาอยู่ในบ้านตระกูลใหญ่ ในชีวิต จริงน้อยมากที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น กวนจิ้งชายตามองคนคนนั้น จะมีหรือไม่มีด้านที่โดดเด่น 11
กว่าคนอื่น พวกเธอก็ควรจะไปถามประธานจงเอง ฉันมันก็แค่ คนนอก จะไปรู้ได้ยังไงว่าภรรยาของหัวหน้าจะมีด้านไหนที่โดด เด่นไม่โดดเด่นกว่าคนอื่น ”
แล้วงานที่ต่อปากต่อค่คนนั้น ก็แค่นยิ้ม ” ก็ไม่กล้าไงล่ะ ”
จริงๆ เขาก็แค่ถามดูเฉยๆ ภรรยาของหัวหน้าจะมีหรือไม่มี ความสามารถอะไร เมื่อกวนจึงพูดออกมาแบบนี้แล้ว เรื่องที่เขา ถามก็คงเป็นเรื่องส่วนตัวมาก อาจจะมีความคลุมเครืออยู่ไม่น้อย กวนจิ้งหยิ้มออกมาอย่างเย็นชา ” ถ้าไม่กล้า ก็ไปทำงาน ของตัวเองซะ
จริงๆ แล้วเขาเองก็กลัวคนพวกนี้เหมือนกัน ถามไม่จบไม่สิ้น ก็ กลัวว่าเขาจะเผลอไผลพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกมา
แท้ที่จริงเรื่องระหว่างหลินซินเหยียนกับจงจิ่งห้าว ต้องใช้ค่า ว่า ‘ซับซ้อน ‘มาจำกัดความถึงจะถูก
ดูก็รู้ว่ากวนจิ้งไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดออกมาง่ายๆ สิ่งที่ พวกเขาถามไปก็คงไร้ประโยชน์
ทุกคนแยกตัวออกไปคนละทิศคนละทาง ต่างคนต่างคาดเดา กันไปต่างๆ นานา แค่คุณสมบัติของตัวจงจึงห้าวนั้น ก็ไม่ควรจะ หาคนที่ด้อยกว่าตัวเองสิ
แต่ตามที่กวนจิ้งและเปิดเผยออกมา เด็กสาวคนนั้นไม่ได้มา จากตระกูลเศรษฐีอะไร ถ้างั้น ทำไมถึงไม่รับความสนใจจากจง จึงห้าวล่ะ อีกทั้งยังทำให้จงจึงห้าวเอามาแสดงตัวต่อหน้าคนใน ห้องทํางานแห่งนี้ กล้าที่จะเปิดเผยสถานะของเธอตัวเอง แค่นี้ก็รู้ แล้วว่า จงจิ่งห้าวยอมรับเธอแค่ไหน
ถึงแม้จะเป็นเหอรุ่ยหลิน ในเมื่อก่อน เขาก็เคยทำแบบนี้ ที่จะ เปิดเผยหล่อนต่อหน้าผู้คนมากมาย
ก็แค่ยอมรับว่าคบกับเหอรุ่ยหลินเท่านั้น
ยอมรับกับป่าวประกาศ สองค่านี้ไม่ได้ต่างอะไรมากก็จริง ใน การแสดงออกช่างต่างกันอย่างสิ้นเชิง
การที่จะทำให้คนมีสถานะ ทั้งเป็นผู้ชายที่ร่ำรวย ป่าวประกาศ ความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนึงด้วยตัวเองนั้น แค่นี้ก็บอกได้แล้วว่า ในใจของเขาชอบผู้หญิงคนนั้นแค่ไหน
” ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าประธานจงแต่งงานแล้ว ผู้หญิง คนนั้นต้องมีอะไรไม่ธรรมดาแน่ ”
” ก็ใช่น่ะสิ หน้าตาดูนั้นๆ แต่แปลกที่จะดึงดูดหัวหน้าของเรา เข้าไปใกล้ ถ้าไม่มีความสามารถจริงๆ ก็คงทำไม่ได้หรอก ” พนักงานอีกคนคล้อยตาม
อะไรที่บอกว่าหน้าตางั้นๆ ” เพื่อนร่วมงานหนุ่มโพล่งขึ้น ก่อนจะพูดล้อเลียนเพื่อนพนักงานหญิงเมื่อกี้ ” ผู้หญิงคนนั้นยังดู กว่าเลขาไปคนก่อนอีกเหอะ แถมเธอคนนั้นก็ยังเคยมาที่บริษัท แล้วด้วย เธอเคยเห็นเลขาคนนั้นวางท่ากับภรรยาของหัวหน้า ไหมล่ะ ถ้าเทียบกับเลขาไปนั่นแล้วละก็ น่าคบหากว่าเยอะเลย อย่าคิดว่าเธอแต่งงานกับหัวหน้าแล้ว พวกเธอจะอิจฉา ยอมรับ เสียเถอะว่าคนเขาสวยจริงๆ ก็แค่ยอมรับมันทรมานขนาดนั้นเลย หรือไง
พนักงานชายคนนี้ สยบคำดูถูกทั้งหมดของพนักงานหญิงได้ อย่างแยบยล
” เฮ้อ ก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะผู้หญิงคนนี้รู้จักกับหัวหน้าหรือยัง ไง ทำไมถึงทำให้หลงได้ขนาดนั้นนะ ตอนแรกฉันก็นึกว่าตัวเอง ยังพอมีโอกาสนะเนี่ย ”
” ไปไหนก็ไปเหอะ คนอย่างเธอฉันมองยังไงก็ไม่ได้จริงๆ ”
พนักงานหญิงตีเข้าอย่างจัง คนอย่างนายชอบฉันไม่ลง ฉันจะ ไปชอบนายลงได้ยังไง ”
กวนจิ้งโกรธมาก ” ถ้าพวกเธออยากจะพูดนะ ไม่งั้นฉันโทรไป ถามหัวหน้าแล้วกัน ว่าเมื่อเขากลับมา ให้เขาปลอบคลายความ สงสัยของพวกเธอเรียงเป็นคนๆ เลยดีไหม ”
เป็นอย่างที่หลินซินเหยียนคิดไว้ทั้งหมด ถ้าสถานะของเธอถูก คนอื่นรู้ ก็จะเกิดการคาดเดากันไปต่างๆ นานา ก่อนหน้านี้ไม่มีสัญญาณอะไรเลย
อยู่ดีๆ เขาก็ประกาศออกมาโต้งๆ แบบนี้ ก็ต้องทำให้ทุกคน รู้สึกแปลกใจเป็นธรรมดา
และยิ่งไปกว่านั้นถ้ารู้ถึงการมีอยู่ของหลินซีเฉินกับหลินลุยซีล่ะ ก็การคาดเดาวคงหนักขึ้นกว่าเดิม
ณ ร้านจอดรถใต้ตึกของบริษัท หลินซินเหยียนจ้องจงจึงห้าว ตาเขม็ง
“ทำไมคุณถึงไม่ถามความเห็นของฉันก่อน ถึงได้ทำแบบนี้ รู้ หรือเปล่า ว่าฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลย ” 11 จงจึงห้าวยกมือข้างหนึ่งขึ้นมายันรถเอาไว้ก่อนจะโค้งตัวลง
มามองหลินซินเหยียน ” ผมพูดอะไรผิดไปล่ะ ”
ฉันไม่ได้บอกว่าคุณพูดอะไรผิดไป แต่คุณช่วยให้สัญญาณ ฉันก่อนได้ไหม ให้ฉันเตรียมใจก่อนนิดนึง ที่คุณทำแบบนี้ มัน ทำให้ฉันรู้สึกอายมาก ตอนนี้คนของบริษัทคุณ ไม่รู้จะมีใครพูด อะไรลับหลังฉันบ้าง ” หลินซินเหยียนกุมขมับ ไม่รู้จะทำอย่างไร
จงจิ่งห้าวขำกลายๆ ” เขายกมือขึ้นมาหนีบจมูกในน้อยๆ ของ เธอ ” คุณจะกลัวอะไร มีผมอยู่ตรงนี้ อีกอย่างคุณนอนกับผมมา ตั้งนานแล้ว ไม่คิดจะให้สถานะผมเลยเหรอ ”
หลินซินเหยียนหน้าแดงขึ้นทันควัน คนคนนี้นี่นะ นี่มันที่ไหน พูดจาไม่รู้ว่าหน้าต่างมีหูประตูมีช่องหรือไง
จงจึงห้าวทำท่าที่ยอมแพ้ ก่อนจะโอบเธอขึ้นรถไป ” เราควรไป ได้แล้วล่ะ ”
หลินซินเหยียนถ้าถึงตามองเขา ทำไมถึงทำตัวหน้าไม่อายได้ ขนาดนี้เนี่ย ท่าทางไร้ขอบเขตเหตุผลแบบนี้ เธอเห็นมันได้ แต่ถ้า พนักงานมาเห็นเข้าจะว่ายังไง
“วางใจเถอะ ไม่มีวันตายหรอก ของแบบนี้มันต้องฟันต่อฟัน ” จงจึงห้าวเอ่ยขึ้นมา หลินซินเหยียนไม่ได้ตอบสนองอะไร เมื่อผ่านไปสักพักใหญ่
เธอถึงเพิ่งจะเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดเมื่อกี้
หลินซินเหยียนมองเขาเงียบๆ เจ้าคนหน้าเนื้อใจเสือคนนี้ เหมือนกับหลินซีเฉินไม่มีผิด ไม่เสียแรงเลยที่เป็นพ่อลูกกัน
แค่รู้ว่าไปยื่นหนิงไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิตเธอก็สบายใจแล้ว ตอนนี้ รถของพวกเขา ก็ขับมาถึงบ้านของตระกูลเหวิน
เมื่อจงจิ่งห้าวจอดรถสนิทแล้วก็เดินลงมา ขณะที่หลินซินเหยี ยนเปิดประตูรถ เขาก็ยื่นมือออกมา หลินซินเหยียนเงยหน้ามอง เขา ก่อนจะวางมือเล็กๆ นั้นบนอุ้งมือของเขา
เขากุมมือของหลินซินเหยียนเอาไว้ เพื่อประคองเธอลงมา จากนั้นก็ปิดประตูรถ
” ไปกันเถอะ ”
นี่ไม่ใช่การมาครั้งแรก เพราะหลี่จิ้งก็เป็นคนที่พอจะเข้าหาง่าย แล้วไม่ได้กีดกันผู้คนออกจากตัวหล่อนเท่าไหร่นะ
เมื่อมาถึงหน้าประตูแล้วจงจึงห้าวก็กดออด
เพียงไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก เมื่อหลี่จิ้งเห็นพวกเขา ใบหน้า ก็ปรากฏรอยยิ้มต้อนรับ ” รีบเข้ามาสิจ๊ะ ”
หลินซินเหยียนเริ่มทักทายก่อน ตามด้วยจงจึงห้าวที่เดินเข้า มาทีหลัง
แขนของเหวินซึ่งยังคงมีผ้าล็อกแขนอยู่ เขาใช้มือเพียงข้าง เดียวหยิบหนังสือพิมพ์มานั่งอ่านบนโซฟา จริงๆ แล้วในยุคสมัย นี้ คนที่จะอ่านหนังสือพิมพ์ก็ไม่เยอะนัก เพราะคนส่วนใหญ่ก็มัก จะอ่านในโทรศัพท์
ไม่มีใครความอดทนสูงขนาดอ่านหนังสือพิมพ์ได้เลย จะมีก็แต่เหวินชิง ที่จะอดทนเช่นนี้
เมื่อได้ยินเสียงเขาก็วางหนังสือพิมพ์ลง ก่อนจะหันมาสนใจ แขกที่มาเยือน
จงจิ่งห้าวถาม ” ดีขึ้นหรือยังครับ ”
เหวินชิงโบกไม้โบกมือ ” ก็ไม่เป็นอะไรมาก แผลเล็กๆ น่ะ ” จงจิ่งห้าวนั่งลงบนโซฟา ” ที่เรียกผมมา มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ครับ ”
นอกจากฉลองปีใหม่ที่เขาจะมาเอง ปกติแล้ว เวลาที่เหวินชิง เรียกเขามา ไม่มากก็น้อยมักจะเป็นธุระเสมอ เพิ่งจะเรียกเขามา
ดังนั้น เขาก็เลยถาม
เหวินชิงชะงักไปเล็กน้อย ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ แสร้งพูดออกมาแบบโกรธๆ ” คิดถึงแกไม่ได้หรือไง ทำไม แม่แกไม่อยู่ แล้ว เกลียดฉันขึ้นมาหรือยังไง ”
จงจิ่งห้าวยิ้มพลางปฏิเสธ
“ไปกัน เรากินไปคุยไปดีกว่า ป้าของแกเตรียมอาหารเสร็จ แล้ว ” เหวินชิงลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินนำไปยังห้องอาหาร
จงจิ้งห้าวจูงมือหลินซินเหยียนเดินตามไปจากด้านหลัง หลี่จึงกำลังยุ่งอยู่กับการเอาอาหารในครัวยกมาวางบนโต๊ะ หลินซินเหยียนรีบลุกขึ้น ” เดี๋ยวฉันช่วยยกค่ะ ” หลี่จิ้งโบกมือพัลวัน ” ไม่ต้องหรอกจ้ะ เดี๋ยวเดียวก็เสร็จแล้ว เธอนั่งเถอะ “
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ