บทที่ 323 ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งล่อใจ
ป้าหนูไม่เคยแต่งงานมาก่อน แต่เรื่องของสามีภรรยาก็พอรู้อยู่ เพียงแต่ไม่คิดว่าจะบ้าได้ถึงขั้นนี้ ทุกสายตาก็หันไปมองตาม จงจึงห้าวก็เหมือนกัน “คุณได้รับ
บาดเจ็บหรอ? เจ็บตรงไหน?”
หลินซินเหยียนยังไม่ทันได้พูด ป้าหยูก็แย่งพูดขึ้นมาก่อน “เธอ อาบน้ำแล้วลื่นล้ม บนเอวมีรอยเขียวช้ำ ตอนที่เธอกินข้าว เสื้อ ยับขึ้นไป ป้าก็เลยเห็น ถ้าหากป้าไม่เห็นเข้า เธอก็คงไม่พูดมัน ออกมาแน่”
“เร่งด่วนรึเปล่า ไปตรวจที่โรงพยาบาลมั้ย? “เฉิงซิ่วพูดอย่าง เป็นห่วง
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไร”หลินซินเหยียนพยายามใช้เสียงปกติ พูดกับเฉิงยู่ซิ่ว
ขณะนั้นเอง เธออยากที่จะมุดดินหนีเหลือเกิน ไม่อยากเผชิญ หน้ากับใครทั้งนั้น จงจึงห้าวใช้ความคิด เมื่อคืนวานนี้เธอลื่นล้ม
เขาไม่รู้ได้ยังไง?
“เราไปกันเถอะ สายแล้วนะ”หลินซินเหยียนสวมเสื้อให้หลินซี เฉิน ตั้งใจข้ามประเด็นของทุกคน
สายตาของจงจิ่งห้าวจ้องมองไปยังเอวของเธอ ขนตาสั่นไหว เหมือนจะพอรู้สาเหตุแล้ว
เฉิงจิ๋วยังคงเป็นห่วง พุ่งไปข้างๆเธอ ถามเบาๆว่า “ไม่เป็นไร
จริงนะ?”
หลิยซินเหยียนไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา ตอบโดยอยู่ในท่าใส่ รองเท้าให้ลูกชาย “ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ”
เฉิงซิ่วมองออกว่าหลินซินเหยียนไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก
แต่ป้าหยูตาไม่มีแววสักนิด มองไม่ออกว่าหลินซินเหยียนพยา ยามหลีกเลี่ยงเรื่องนี้อยู่ตลอด เลยถามขึ้นมาอีก “ห้องอาบน้ำ ด้านบน ไม่ได้ทําที่กันลื่นใช่มั้ยคะ ถ้าไม่ได้ทำไม่ได้นะคะ จะลื่น ล้มเอาได้ง่าย”
“ทำแล้วล่ะ”เฉิงยู่ซิ่วตอบ แถมยังเป็นวัสดุกันลื่นอย่างดีอีก ด้วย ตามหลักแล้วไม่มีทางลื่นล้มได้ หลินซินเหยียนล้มน่าจะเป็น เหตุสุดวิสัย
เฉิงยู่ซิ่วไม่ได้คิดไปในทางอื่น
ป้าหยูยังไม่หายแคลงใจ ถ้าทำที่กันลื่นแล้วจริง แล้วทำไมยัง ล้มได้อีกล่ะ?
“เอาล่ะ ไปกันเถอะ”จงฉีเฟิงเอ่ยขึ้นมา
ทุกคนทยอยสวมเสื้อโค้ทแล้วเดินออกจากบ้านไป ด้านนอก ลมพัดแรง เหยียบลงบนพื้นหิมะ มีเสียงดังตึกตึก
หลินลุยซีก็ไม่ได้ให้หลินซินเหยียนอุ้มแล้ว อยู่ในอ้อมแขนของ จงจีนห้าวอย่างเชื่อฟัง
อาจจะเป็นเพราะถูกหิมะคลุมอยู่ ทั้งๆที่ฟ้ามืดลงไปแล้ว แต่ก็ ยังคงสว่างอยู่เหมือนเดิม
รถยนต์หลายคันค่อยๆขับออกจากวิลล่า
ถนนสีขาว ถูกยางรถยนต์ทับจนเป็นรอย
จงเฟิงเป็นคนจองสถานที่ ห้องส่วนตัวขนาดใหญ่พอที่บรรจุ ได้20กว่าคน ที่ผ่านมาจงจึงห้าวไม่ได้กลับมาฉลองปีใหม่ คนขับ รถและคนใช้ในบ้านก็จะมาร่วมโต๊ะ คนที่อยู่ในบ้านทุกวัน กับ คนในครอบครัวมันไม่เหมือนกัน
อีกอย่างแบบนั้นดูจะคึกคักมากขึ้น
ปีนี้ จงฉีเฟิงดีใจมาก เขาเองก็จำไม่ค่อยได้ว่าไม่ได้ฉลองวัน สิ้นปีกับจงจิ่งห้าวด้วยกันมานานแค่ไหนแล้ว
คนกลุ่มหนึ่งทยอยเข้ามานั่งประจำที่ พนักงานเดินเข้ามาถาม ว่าให้ตั้งโต๊ะได้เลยหรือไม่
จงเฟิงยังไม่ทันเอ่ยปากพูด หลินลุยซีก็แย่งพูดก่อน “ตั้งเถอะ ค่ะ หนูหิวแล้ว”
ยังไงก็เป็นแค่เด็ก พนักงานยิ้มแล้วหันไปมองความเห็นจากจง
ฉีเฟิง
จงฉีเฟิง โบกมือขึ้น “เอาตามที่หลานสาวผมบอก
พนักงานตอบรับทราบ จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป ใช้เวลา ไม่นานนัก พนักงานก็ทยอยเดินตามกันเข้ามาวางอาหารอร่อย หลากหลายจนเต็มจานหมุนบนโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ หลินลุยซีแทบจะน้ำลายไหล “ว้าว หอมจังเลย หนูจะกิน”
เธออดใจไม่ไหวอยากจะชิมแล้ว
“ก่อนที่จะกินกัน ผมขอพูดสักสองสามประโยค”จงฉีเฟิงเอ่ย ขึ้นมากะทันหัน เขาให้เฉิงซิ่วนของที่เขาเตรียมไว้เอาออกมา
“หกปีก่อน ผมไม่รู้ว่าผมมีหลานสาวกับหลานชาย เลยไม่ได้ ดูแลพวกเขาเลย ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก แน่นอน นี่ต้อง ขอบคุณหลินซินเหยียนที่ให้กำเนิดและเลี้ยงพวกเขามาจนโต”
จงฉีเฟิงส่งสัญญาณให้พนักงานในเหล้า พนักงานรู้งานอย่าง มาก ถือกาเหล้าในมือ เดินไปที่ข้างหลินซินเหยียน ใน ให้เธอจน เต็มจอก
“จอกแรก ผมดื่มแด่คุณจงเพิ่งยกจอกเหล้าขึ้น
หลินซินเหยียนรู้สึกลำบากใจ เธอกจอกเหล้าสองผืนแน่น แล้วลุกยืนขึ้น “คุณคิดมากเกินไปแล้วค่ะ ทั้งหมดนั้นฉันไม่เคย บ่นเลย ฉันเต็มใจทำ เหล้าของคุณ ฉันไม่กล้ารับหรอกค่ะ ฉัน เป็นผู้น้อย ควรจะเป็นฉันดื่มแก่คุณค่ะ”
หลินซินเหยียนชนแก้วก่อนเพื่อแสดงความเคารพ ยกเหล้า ขาวดื่มหมด ในรวดเดียว แสบคอจัง ในคอรู้สึกแสบร้อนไปหมด
เธอเอามือปิดปาก “ฉันดื่มเหล้าไม่เก่งน่ะค่ะ”
จงจิ่งห้าวตักอาหารให้เธอ “กินอะไรลองท้องก่อน จงเฟิงโบกมือให้เธอนั่งลง
หลินซินเหยียนตักอาหารที่จงจึงห้าวตักให้เธอเข้าปาก เคี้ยว สักหน่อยแล้วกลืนลงไป
จงเพิ่งรู้สึกอารมณ์ดีมาก รู้สึกพอใจกับลูกสะใภ้คนนี้มาก เพราะเธอทำให้จงจึงห้าวยอมกลับมาบ้าน และให้กำเนิดลูกที่น่า รักสองคนแก่ตระกูลจง
เขาหยิบซองเอกสารสองซองจากในมือเฉิงซิ่ว “นี่เป็นหุ้นใน บริษัทของฉัน ฉันแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งให้เสี่ยว อีกส่วน หนึ่งให้เสี่ยวลุ่ย”
บริษัทยกให้จงจิ่งห้าวดูแล หุ้น ในมือที่เขามีอยู่ ตอนนี้เขายก ให้เด็กทั้งสองคนแล้ว
หลินซินเหยียนลุกขึ้นอีกครั้ง “พวกเขายังเด็ก รับของที่สำคัญ ขนาดนี้ไม่ได้หรอกค่ะ
จงฉีเฟิงไม่ยอมให้ปฏิเสธง่ายๆ “ผมเอาให้เด็กทั้งสองคน เอกสารผมก็เซ็นชื่อเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พวกเขายังเด็ก เธอช่วย เก็บไว้แทนพวกเขาหน่อยแล้วกัน”
จงฉีเฟิงยื่นซองเอกสารให้หลินซินเหยียน หลินซินเหยียนไม่ กล้ารับไว้จริงๆ “นี่…
“ทําไม รังเกียจที่มันน้อยไปหรือไง?”จงฉีเฟิงแกล้งทำเป็น โกรธ นี่เป็นหุ้นครึ่งหนึ่งของว่านเชิงกรุ๊ปเลยนะ ล่อใจเธอไม่ได้เลยสักนิด
จงเพิ่งพยักหน้าเงียบๆ ในใจ คนที่อยู่เคียงข้างจงจึงห้าว แล้ว สามารถคุมตัวเองได้ ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งล่อใจ แบบนี้ เขาก็วางใจ ได้หมดแล้ว
“ไม่ใช่ค่ะ แต่แค่เด็กทั้งสองยังเด็กอยู่ ยังไม่ต้องการของพวก นี้ น้ำใจของคุณฉันเข้าใจดีค่ะ แล้วก็รับไว้ด้วยใจแล้วค่ะ สิ่งนี้ สําหรับพวกเขามันมากเกินไป ฉันไม่สามารถตัดสินใจแทนพวก เขาได้หรอกค่ะ”หลินซินเหยียนยังคงไม่กล้ารับไว้ ครึ่งหนึ่งของ ว่านเชิงกรุ๊ปเลยนะ
เธอรับเอาไว้ ครึ่งหนึ่งของว่านเพิ่งกรุ๊ปก็เป็นของเด็กทั้งสอง คนแล้ว พูดถึงเด็กทั้งสองคน พวกเขาจึงจะ6ขวบ เกรงว่าจะยัง ไม่รู้ว่านี่คืออะไร เธอเป็นผู้ปกครองมีสิทธิ์เก็บรักษามันไว้แทน เด็กทั้งสองคน
เพราะแบบนี้ เธอถึงไม่กล้ารับไว้
หากว่าเด็กทั้งสองคนโตขึ้น แล้วเขาให้เธอจะไม่รั้งเอาไว้เลย ยังไงพวกเขาก็เป็นสายเลือดตระกูลจง
จงจิ่งห้าวรับไว้แทนหลินซินเหยียน ธูปตระกูลจงไม่ได้งอกงาม อะไร รุ่นของจงฉีเฟิงมีกันแค่สองคนพี่น้อง จงฉีเฟิงมีพี่ชายคน หนึ่ง แต่ว่าตอนอายุสิบกว่าขวบก็ไม่มีแล้ว ตามรอยก่อนหน้าขึ้น ไปอีก ก็คือรุ่นพ่อของจงเฟิง ก็มีกันแค่สองคนพี่น้อง พ่อของจง ฉีเฟิงเป็นนายใหญ่ นายอันดับสองก็คืออาของจงฉีเฟิง ไม่เก่ง ด้านธุรกิจ สองบริษัทที่เปิดให้เขาต่างก็ต้องปิดตัวลง
ต่อมาเขาก็รู้ว่าตัวเองไม่เหมาะสม เลยไม่ทำแล้ว หุ้นว่านเชิงก รุ๊ปในมือ ก็แค่แบ่งเงิน แต่ไม่ได้ทำงาน
หลังจากนั้นเขาก็มีลูกชายคนหนึ่ง ก็เป็นรุ่นเดียวกับจงเพิ่ง แหละ ตามสายเลือด ก็สามารถแบ่งหุ้นว่านเชิงกรุ๊ปครึ่งหนึ่งได้
แต่ว่า เขาดันมีลูกไม่ได้ สเปิร์มไม่แข็งแรง เพื่อรักษาโรคนี้ หมดเงินไปเป็นจำนวนมาก ไปรักษาหลายที่ ต่อมาก็รักษาไม่ หาย อายุน้อยกว่าจงเฟิงไม่กี่ปี ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ แต่เพราะ สภาพร่างกายของตนเองเลยค่อนข้างรู้สึกแปลกแยก แต่ไหนแต่ ไรมาก็ไม่เคยไปมาหาสู่กับจงฉีเฟิง
ในมือเขายังมีหุ้นอยู่อีก20%
ส่วนที่เหลืออยู่ในมือจงฉีเฟิง50% และในมือจงจึงห้าว30% หุ้น20%ที่กระจายอยู่ด้านนอก แทบจะไม่มีประโยชน์อะไร ประโยชน์เพียงอย่างเดียวก็คือทรัพย์สินถูกแบ่งออก20% กำไร ทุกปีของบริษัทก็แบ่งออก20%เช่นกัน โอนเข้าบัญชีของเขา
ถึงแม้จะไม่มีทายาท แต่ชีวิตนี้ก็ถือว่าไม่เสียเปล่า ตอนหนุ่มก็ มีสง่าราศี ตอนนี้ถึงจะไม่หนุ่มแล้ว แต่มีเงินอยู่ในมือ จะทำอะไร ก็ได้
จงจิ่งห้าวตักอาหารให้หลินซินเหยียน “วางใจเก็บไว้เถอะ”
หลินซินเหยียนพูดอุบอิบเบาๆ “ไม่กลัวฉันแย่งตำแหน่งคุณไป หรือไง?”
เธอพูดเสียงเบามาก แต่จงจึงห้าวก็ยังได้ยิน เขาเขยิบเข้าไปใกล้ๆ ใช้น้ำเสียงที่เธอสามารถได้ยินแค่คนเดียว พูดข้างหูเธอ ว่า “ให้คุณหมดเลย ตัวผมก็ให้คุณ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ