บทที่292 มีผู้หญิงคนนึงมาหาคุณ
หลิวเฟยเฟย ใส่เสื้อกันหนาวDown jacketสีขาว กางเกงยีนส์ สีน้ำเงิน รองเท้าบูทสั้นสีดำ ผมเงาดกดำทิ้งตัวไว้ ดูแล้วยังสาว ยังใสเหมือนเมื่อก่อนอยู่เลย
ตอนนั้นเธอบอกไปก็ไปเฉยเลย แม้แต่คำพูดก็ไม่ได้ทิ้งไว้สัก คำ เขาวิ่งตามเธอไปที่สนามบิน ไปถามหาสาเหตุที่เลิกกับเขา แค่หน้าเธอก็ยังไม่ให้เขาได้เจอเลย
หายไปทีเดียวเป็นสิบปีเลย
ซูจ้านเคยคาดการณ์ ถ้าเจอเธออีกครั้งเขาจะต้องเค้นถามเธอ อย่างควบคุมตัวเองไม่ได้แน่นอน ทำไมตอนนั้นถึงจากไปอย่าง เด็ดขาดขนาดนั้น
ทำไม แม้แต่สาเหตุที่เลิกก็ยังไม่บอกเขา
แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเจอหน้าเธออีกครั้ง เขาจะสงบขนาดนี้ อาจ จะเป็นเพราะเวลาทำให้จืดจางแล้ว
เขาดึงสายตากลับอย่างเย็นชา และเปิดประตูรถ
ท่านย่าชายตามองหลิวเฟยเฟยทีนึงเหมือนมองไม่เห็น จาก นั้นได้กุมมือของฉินยาไว้ “เราไปกันเถอะ”
ฉินยารู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่พูดยาก เธอมองไปที่บ้าน กำลังอยากจะเปิดปากถาม ก็ถูกซูจ้านพูดขัดจังหวะก่อน “แค่คนไม่ สำคัญเฉยๆ เราเข้าไปกันเถอะ
“ซูจ้าน คุณโกรธฉันอยู่เหรอคะ?” หลิวเฟยเฟยมองซูจ้าน ซูจ้านยิ้มทีนึง รอยยิ้มของเขาเป็นชายิ่งกว่าสายลมของฤดู หนาว
ฉินยาที่ยืนอยู่ข้างกายเขารู้สึกได้ถึงความโกรธของเขาใน นาทีนี้อย่างชัดเจน
มือสองข้างสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ ท่านย่าเห็นแล้วได้จูงมือ เธอไว้ “ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนเก่าของซูจ้าน เลิกกันไปตั้งนานแล้ว
ฉินยามองไปที่หลิวเฟยเฟย ผู้หญิงคนนี้มีความเกี่ยวข้องกับ จ้านจริงๆด้วย เพราะฉะนั้น อารมณ์ของซูจ้านถึงได้แปรปรวน พอ รู้สถานะของผู้หญิงคนนี้แล้ว เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างไร้สาเหตุ
ท่านย่ามองหลิวเฟยเฟยด้วยหางตาอย่างเย็นชา “อารมณ์เสีย แต่เช้าจริงๆ เสี่ยวยา ไป เราเข้าไปข้างในกัน
ท่านย่าดึงซูจ้าน “หลานก็ไปด้วย”
เดิมทีจ้านก็ไม่อยากจะอะไรกับผู้หญิงคนนี้อยู่แล้ว สิบปี เขา หมดรักเธอไปตั้งนานแล้ว จะมีก็แต่ความเจ็บใจของตอนนั้น เฉยๆ
หลิวเฟยเฟยกัดริมฝีปากไว้ “ซูจ้าน ตอนนั้นที่ฉันจากไปเพราะ มีความลำบากใจ…….
“เธอกับซูจ้านเลิกกันไปแล้ว ตอนนี้ซูจ้านเองก็แต่งงานแล้ว กรุณาอย่ามารบกวนเขาอีก ฉันว่าคุณหลิวก็คงไม่อยากเป็นผู้ หญิงที่ไม่มีศีลธรรม เป็นมือที่สามของคนอื่นหรอกมั้ง” ท่านย่า พูดขัดจังหวะหลิวเฟยเฟย
“คุณย่า หนู…….
“อย่าเรียกฉันว่าย่า ฉันรับไว้ไม่ไหว” ท่าทีของท่านย่าชัดเจน มาก เธอยอมรับแค่ฉินยาคนเดียว
ตอนนั้นผู้หญิงคนนี้ทำให้บ้านล้มแล้วลุกขึ้นมาไม่ได้เป็นเวลา นาน เดินออกมาจากปมของการอกหักไม่ได้ ตอนนี้กลับมาอยาก มาคืนดี?
ไม่มีทาง!
ซูจ้านแต่งงานกับใคร ก็ไม่มีทางแต่งกับเธอ
“ซูจ้าน…….”
“สิบปีก่อรเราก็เลิกกันไปแล้ว ตอนนี้เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน อีก เรื่องของเมื่อก่อนผมไม่อยากถาม และไม่อยากเอ่ยขึ้นมาอีก ซูจ้านจับมือฉินยาไว้ “เราไปกันเถอะ”
หลิวเฟยเฟยขมวดคิ้ว เธอเคยสอบถามมาว่าจ้านไม่ได้ แต่งงาน อีกอย่างหลายปีมานี้ ข้างกายเธอแม้แต่แฟนเป็นตัวเป็น ตัวก็ยังไม่มีเลย เป็นไปได้ยังไงที่จู่ๆข้างกายจะมีผู้หญิง โผล่มาคน นึง แถมยังแต่งงานแล้วด้วย?
ไม่ว่าซูจ้านจะแต่งงานแล้วหรือยัง ครั้งนี้ เธอก็จะไขว่คว้าผู้ชายคนนี้ไว้
เธอเลือกผิดมาแล้วครั้งนึง จะสูญเสียไปอีกครั้งไม่ได้
เธอเพิ่งกลับประเทศได้ไม่นาน เดิมทีคืออยากมาเลือก เฟอร์นิเจอร์สักหน่อย แต่ว่า ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์จะเลือกแล้ว จึงได้หันหลังจากไป
หลังจากที่หลิวเฟยเฟยปรากฏตัว บรรยากาศของพวกเขาสาม คนก็เปลี่ยนไป ฉันยาสามารถรู้สึกได้ว่าจ้านกลายมาเป็นเงียบ สงบลง ตอนที่ขอความเห็นจากเขา เขามักจะใจไม่อยู่กับเนื้อกับ ตัวและใช้คำว่า “อะไรที่คุณชอบล้วนดีหมดเลย” มาตบตาเธอ
ฉินยาหลุบตาลง “ฉันว่าไม่ต้องซื้อแล้วมั้งคะ ฉันอยากไปดูที่ ร้านเสื้อผ้าหน่อย ฉันจากมานานขนาดนี้ ไม่รู้ตอนนี้ที่ร้านเป็นยัง ไงบ้าง”
“ไหนๆมาก็มาแล้ว ซื้อไปเถอะ” ท่านย่าดึงฉินยาไว้
ฉินยามองหน้าซูจ้าน “ถ้าหัวใจไม่อยู่ ซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่แพงแค่ ไหน ตกแต่งบ้านได้อบอุ่นมากแค่ไหนก็มัดใจคนไม่ได้หรอกค่ะ”
ซูจ้านเงยหน้าขึ้น สบตากับดวงตาใสสะอาดของฉันยา ในใจ อึ้งเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้แต่งงานกับเขา ไม่ได้ร้องขออะไรเลย สามารถบอกได้ว่าเขาเป็นฝ่ายบังคับหลอกล่อให้เธอแต่งงานกับ เขาเอง
เขาไม่ควรละเลยความรู้สึกของเธอ หลังจากได้ที่เจอหลิว เฟยเฟย
ลูกกระเดือกของเขาเคลื่อนไหวขึ้นลง พร้อมอธิบาย “เธอเป็น
รักแรกของผม ตอนนั้นเราต่างก็รักอีกฝ่ายมาก ต่อมาได้เลิกรา กันไป ตอนนี้เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว ที่อารมณ์ผม แปรปรวนเพราะเธอ ไม่ใช่เพราะผมยังรักเธอ แต่เพราะผมถึงกับ การเจอกันแบบนี้ เพราะยังไงซะมันก็สิบปีแล้ว”
ซูจ้านสารภาพตรงๆขนาดนี้ กินยากลับรู้สึกขืนตัวเองถือสาต่อ จะดูใจแคบ อีกอย่างก็เลิกรากันไปเป็นสิบปีแล้ว สิบปี สามพัน กว่าคืนวัน ถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากแค่ไหนก็จืดจางไปแล้ว
เธอเป็นฝ่ายไปควงแผนเขาไว้ ถึงแม้คิดได้กระจ่างมาก แต่ก็ ยังรู้สึกกลัวนิดหน่อย เสียงของเธอมีความสั่นคลอนอยู่เสี้ยวนึ่ง “คุณรู้ว่าฉันแต่งงานกับคุณได้ใช้ความกล้าหาญไปมากเท่าไหร่ ถ้าคุณยังรักเธออยู่ สามารถพูดตรงๆได้ แต่จะไปเจอเธอลับหลัง ฉันไม่ได้ หรือทั้งๆที่ใจยังรักเธออยู่ แต่ยังจงใจมาหลอกฉันอีก
นาทีนี้หัวใจของซูจ้านว้าวุ่นไปหมด
“เสี่ยวยา หนูวางใจนะ ถ้าซูจ้านกล้าไปมาหาสู่กับหลิวเฟยเฟย ย่าจะมีขาเขาให้หักเป็นคนแรกเลย ตระกูลซูของเรายอมรับหนู คนเดียว” ท่านย่าพูดจาเคร่งขรึม
ซูจ้านตบมือเธอเบาๆ “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ดูสิคุณย่ายังอยู่
ข้างคุณเลย”
“ย่าว่าต้องเปลี่ยนเตียงก่อน” ท่านย่าเดินเข้ามาที่ร้านขาย เตียงโดยเฉพาะ “เตียงที่บ้านนอนอยู่ เล็กไปหน่อย เดี๋ยวนี้ไม่ ฮิตกันแล้ว”
“ย่าครับ แล้วตอนนี้ฮิตแบบไหนครับ?” ซูจ้านแกล้งใกล้เข้ามา ถาม
ท่านยาครุ่นคิดไปครู่นึง จากนั้นได้เตียงสีขาวที่หัวเตียงเป็น หนังแท้ สไตล์ยุโรปแบบนึง “ย่าว่าแบบนี้ดีมาก เหมาะกับคน หนุ่มสาวอย่างหลานสองคน
“ของแบบนี้ มีแต่คนหนุ่มสาวที่ไม่มีแววเท่านั้นแหละถึงชอบ ซูจ้านพูดบั่นทอนกำลังใจท่านย่า
ท่านย่าตบไปที่หลังซูจ้านเข้าให้ทีนึง “งั้นหลานพูด อันไหน สวย?”
“ไป ผมพาคุณกับคุณย่าไปร้านๆนึง” ซูจ้านกอดฉินยาไว้ เหมือนกับเรื่องของหลิวเฟยเฟยไม่เคยโผล่มาก่อนเลย ฟื้นฟูกลับ มาสู่บรรยากาศที่ผ่อนคลายของพวกเขา
“คุณจะพาพวกเราไปดูอะไรคะ?” ฉินยาถาม
ซูจ้านก้มไปจูบหน้าผากเธอทีนึง “เดี๋ยวถึงแล้วคุณก็จะรู้เอง
ไม่นาน ซูจ้านก็ได้พาพวกเธอมาถึงร้านเฟอร์นิเจอร์ที่มีพื้นที่ ขนาดใหญ่มากร้านนึง เฟอร์นิเจอร์ของพวกเขาจะเป็นสไตล์จีน แต่ก็มีความแปลกใหม่กว่าสไตล์จีน
“อันนี้เรียกว่าสไตล์จีนแบบใหม่ครับ ตอนนี้ต่างก็ฮิตแบบนี้ทั้ง นั้น ลองเข้าไปดูมั้ย?” ซูจ้านถาม
ดวงตาของฉินยาเปล่งประกาย “ลองเข้าไปดูกันค่ะ”
จีนสไตล์ใหม่ ไม้เนื้อแข็งจะขาดไม่ได้เลย สีล้วนเป็นสีเข้มที่ดู หนักแน่น บวกกับแบบที่เป็นแนวคิดใหม่ ดูไม่เบื่อเลย อีกอย่าง ยิ่งดูยิ่งรู้สึกประทับใจ
“ฉันชอบค่ะ” ฉินยาถูก ใจเตียงไม้เนื้อแข็งตัวนึง หัวเตียงสูง โปร่ง การตกแต่งดูไม่ฉูดฉาดเกินไป โทนสีเข้ม หนักแน่นและดูมี รสนิยมมาก
“คุณชอบ งั้นเราก็ซื้อทั้งชุดเลย” ซูจ้านเอารูปตัวอย่างให้เธอ ใบนึง “มีครบทั้งหมดเลย คุณว่าเป็นไงบ้าง”
ฉินยารับมาดูแว๊บนึง “แต่สไตล์การตกแต่งของที่บ้าน ก็ไม่เข้า กับเฟอร์นิเจอร์พวกนี้นี่คะ” “หลังตรุษจีนตกแต่งใหม่” ท่านย่าพูด นี่ก็ใกล้จะตรุษจีนแล้ว
ก่อนตรุษจีนนี้คงไม่มีเวลาแน่นอน
ซูจ้านคิดอยู่ครู่นึง “เราซื้อบ้านหลังใหม่ดีกว่า ซื้อวิลล่าหลังนึง เอาแบบที่มีเนื้อที่กว้างขวาง ต่อไปมีลูกสามารถมีที่ให้ลูกเล่นได้ บ้านหลังเก่ามีความทรงจำอยู่มากมาย ก็เก็บเอาไว้ที่นั่นเถอะ”
ท่านย่าจ้องหน้าท้องของฉินยา แล้วตื่นเต้นจนพูดจาสะเปะสะ ปะไปหมด “เสียว เสี่ยวยาท้องแล้วเหรอ?”
ฉินยาหน้าแดงก่ำ พร้อมหันไปจ้องซูจ้าน “คุณดูคุณสิ พูดจา มั่วซั่วจนทำให้คุณย่าเข้าใจผิดแล้ว
ซูจ้านยิ้ม “ช้าเร็วก็ต้องมีอยู่ดีแหละ
“ใช่ๆๆ ย่าอยากอุ้มเหลนเร็วๆแล้ว” ท่านย่าพูดคล้อยตาม
เพราะฉินยาถูกใจเฟอร์นิเจอร์ชุดนั้น ซูจ้านเลยตัดสินใจซื้อ บ้านหลังใหม่
ตอนนี้ไม่ซื้อเฟอร์นิเจอร์ แต่จะต้องไปดูบ้านก่อนแล้ว
พอออกมาจากร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ซูจ้านได้ส่งท่านย่ากลับ บ้าน แล้วค่อยส่งฉินยาไปที่ร้าน มาถึงหน้าร้าน ฉินยาเปิดประตู ลงจากรถ ซูจ้านมองเธอ “เลิกงานเมื่อไหร่โทรหาผมนะ ผมมารับ คุณ”
ฉินยาพยักหน้า “โอเคค่ะ คุณขับช้าๆนะคะ”
“อืม ผมมองดูคุณเดินเข้าไป แล้วผมค่อยไป” ซูจ้านจับจับพวง มาลัยไว้ แล้วมองดูเธอ
ฉันยายิ้มอย่างเก้อเขินทีนึง จากนั้นได้เดินเข้าไปในร้าน
ซูจ้านมองเธอเดินเข้าไป ถึงขับรถจากไป
ถึงเขาไม่อยู่สำนักงานก็สามารถดำเนินงานได้ปกติ ทนายความของสำนักงานเขาต่างก็มีความสามารถกันทั้งนั้น เพียงแต่ไม่ได้มานานมากแล้ว เขาจะต้องมาดูสักหน่อย
“ลูกพี่ครับ มีผู้หญิงคนนึงมาหาลูกพี่ครับ ตอนนี้อยู่ห้อง รับแขกครับ”
ซูจ้านเพิ่งเหยียบเข้ามาในสำนักงาน ผู้ช่วยของเขาก็ได้เดิน มาบอก
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ