บทที่ 287 ลูกสาวของเขาเป็นคนที่จิตใจดีมาก
แค่การวู่วามเพียงชั่วครู่ จนทำตัวเองซวย
ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ว่าจองหองโอ้อวดเกินไปเหรอ แค่ใส่เสื้อผ้า ตัวพันกว่าเท่านั้นเอง ก็รู้สึกว่าดูสูงส่งแล้วเหรอ
นี่มันทำตัวเองซวยชัดๆ ไม่ใช่เหรอ?
จงจิ่งห้าวไม่ล้มเลิกในสิ่งที่พูดไป ผู้หญิงหวาดกลัวมาก ไม่มีมือ ชีวิตนี้ก็จบเห่กันแล้วเหรอ?
ไม่ ไม่ ไม่…เธอไม่อาจที่จะไม่มีมือได้ แต่ว่าคนพวกนี้ดูแล้วก็น่าหวาดกลัวมาก แต่ทว่ามันช่างน่าหวาดกลัวมาก ผู้หญิงพลัน ใช้พละกำลังใน
ตัวที่มี เธอสะบัดหลุดจากบอดี้การ์ด การกระทำของเธอช่าง รวดเร็วมาก จนขนาดบอดี้การ์ดยังตั้งตัวไม่ทัน
ผู้หญิงหลุกจากบอดี้การ์ดมาก็กระโจนเข้าหาหลินซินเหยียน
จงจึงห้าวคิดว่าผู้หญิงจะมาทำร้ายหลินซินเหยียน พลันสาว เท้าข้ามมา จากนั้นก็ใช้เท้าข้างหนึ่งเตะเธอไปทางด้านข้าง ร่างกายของผู้หญิงลอยออกไปติดอยู่บนต้นไม้แห้งในสระน้ำสี เขียวมรกต จนกิ่งมันสั่นไหวอยู่ตลอด
จงจิ่งห้าวโกรธจัดจนตาแดงแปร๊ด พร้อมทั้งสบถค่าอบรมบอดี้ การ์ดไปด้วย “พวกนายทำอะไรกันอยู่ แค่ผู้หญิงคนเดียวทำไมจับไว้ไม่ได้?”
ผู้หญิงเอามือกุมหน้าอกพร้อมทั้งเปล่งเสียงกระแอมออกมา
เพราะมันยากนักที่จะเปล่งเสียงออกมาจากลำคอ “ฉันจะไปกล้า คิดแบบนั้น ยิ่งไม่กล้าที่จะทำร้ายเธอ เธอเงยหน้าขึ้นมองหลินซินเหยียน “ฉันรู้สึกว่าคุณเองก็เป็นผู้ หญิงเช่นเดียวกัน ฉันอยากจะขอร้องให้คุณช่วยขอร้องให้ฉัน
ด้วย”
ท่าทางของหลินซินเหยียนเย็นชามาก ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคน ใจแข็งอะไร แต่คือ ผู้หญิงคนนี้กล้าเข้ามาล้ำเส้นของเธอ
ความเป็นแม่เธอไม่ได้ปกป้องลูกของตนเองให้ดี เธอย่อมโทษ ตัวเอง แต่คนที่มาทำร้ายลูกของตนเอง เธอก็ไม่สามารถปล่อย วางได้
เธอไม่ได้เป็นคนยิ่งใหญ่ขนาดนั้น เธอก็เป็นปุถุชนคนธรรมดา
ทั่วไป เป็นแม่ธรรมดาคนหนึ่ง
“ลูกสาวฉันเพิ่งจะห้าขวบเอง โตขนาดนี้แล้ว อย่าพูดว่าตบ เลย ขนาดฉันพูดแรงๆ ใส่ฉันยังไม่เคยพูดเลย แล้วคุณมีสิทธิ์ อะไร?” หลินซินเหยียนดวงตาแดงฉาน “แม้ว่าคุณมีความผิด แต่ ก็ไม่ถึงกับตัดมือทิ้ง แต่การอบรมสั่งสอนยังไงก็ต้องมี
ผู้หญิงอ้าปากอยู่นานแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ
หลินซินเหยียนกอดหลินลุยซีอยู่ ไม่อย่าให้เธอเห็นภาพ เหตุการณ์ที่รุนแรงเช่นนี้ เธอกระซิบพูด “ฉันขอขึ้นรถก่อน
จงจิ้งห้าวพยักหน้า
“เดี่ยวสิ”
หลินซินเหยียนก้าวเท้าเดินออกไปหนึ่งก้าว สาวน้อยที่อยู่ใน อ้อมอกของเธอ ก็ผงกหัวขึ้นมา และมองหลินซินเหยียน “หม่ามี หม่ามีไม่ใช่สอนหนูให้เป็นคนมีน้ำใจเผื่อแผ่กับคนอื่นเหรอ?”
หลินซินเหยียนพยักหน้าเล็กน้อย ใช่ คำพูดนี้เธอเป็นคนพูด ให้ลูกสาวฟังเอง
อย่าได้เป็นคนไม่มีเหตุผล ต้องเป็นคนที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ให้คนอื่น
แต่ว่าเรื่องนี้ตัวเธอเองทำไม่ได้
เธอ เป็นแม่คนหนึ่ง เมื่อเห็นลูกสาวของตนเองถูกตบหน้า ใน ใจก็รู้สึกตำหนิตนเอง ด้วยความโกรธเคือง
หลินลุยซีหันศีรษะไปมองผู้หญิงที่นั่งกองอยู่ที่พื้นด้วยความ อาย พร้อมทั้งพูดเสียบแหบพร่า “คุณรู้ว่าทำผิดแล้วใช่ไหม?”
ผู้หญิงนัยน์ตาหม่นหมอง ได้แต่หัวเราะเยาะให้ตัวเอง “ทำผิด ครั้งเดียว ถึงได้มองเห็นจิตใจของคนใกล้ตัวชัดมากขึ้น”
ปกติสามีของเธอเป็นคนช่างเอาอกเอาใจ แต่ครั้งนี้ เมื่อ เมื่อเห็น ว่าอีกฝ่ายมีอำนาจ พลันตัดขาดทันที ไม่เพียงแต่ทิ้งเธอเอาไว้ ยัง รังเกียจที่เธอเสียหน้า
หลินลุยซีถอนหายใจออก พลันรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่ารักมากหม่า” จากนั้นหันเถอะ หน้าหนู
จงห้าวลูกสาวมา ผิวพรรณของเธออ่อนนุ่ม แต่ยังคง แดงในเวลานี้ จนเห็นรอยนิ้วห้าอยู่ เขาออกไป อยากจะสัมผัสกับหน้าของเธอ แต่กลัวว่าเธอจะเจ็บ ปลาย ลูบบริเวณหน้าผากของเธอ ของเขาเป็นที่จิตใจดี
แต่ บนโลกใบอีกด้าน
หนูมั่นใจใช่ไหมเขาลูกสาวอย่างอ่อนโยน
หลินชีพยักหน้า หนูมั่นใจ ให้กันไป สุข”
จงจิ่งเลิกหม่าของยังอะไร
คนที่เขาไม่ได้ทำผิดกับเรา เราก็ไม่ต้องไปทำผิดกับเขา ถ้า ใครผิดเราจะกลับคืนสองเท่าหลินพูด แทรกแทน
หลินลุยซีจ้องมองพี่ชาย คำพูดนี้หม่าสอนไม่ได้พูดกับ
หนู”
สําหรับเด็กสองคน ที่สามารถควบคุมตนเองดี ความคิด ผู้หญิงที่จิตใจโอบอ้อมอารีตามนิสัยของผู้หญิง
ซึ่งไม่เหมือนกับผู้ชาย ผู้ชายต้องมีความเด็ดขาดและเด็ดเดี่ยว ไม่กลัวความทุกข์ยาก ไม่กลัวอนาคตที่จะเกิดขึ้น จนเติบโตเป็น ผู้ชายเต็มตัวที่แข็งแกร่งดั่งหินผาคนหนึ่ง
ดังนั้นการที่เธอพูดกับเด็กทั้งสองคนเลยไม่เหมือนกัน
“กรรมใดใครก่อกรรมนั้นคืนสนองหมายความว่ายังไง? หลินลุยกะพริบตา
หลินซีเฉินพูดจาอย่างไม่ต้องคิด “ก็คือน้องพี่ พี่ก็มีน้องกลับ
“แต่พอฉันพี่ พี่ไม่เห็นตีฉันกลับเลย” สาวน้อยพูดอย่างใสซื่อ
หลินซีเฉินถึงกับกลอกตาทันที น้องสาวคนนี้โง่ไปหรือเปล่า เนี่ย?
“ก็เธอเป็นน้องสาวฉัน ฉันก็เลยไม่ใช้คำว่าทำสิ่งไหนก็ได้สิ่ง นั้นเอามาใช้กับตัวเธอนะสิ หม่ามีพูดแล้ว เราเป็นฝาแฝดกัน บน ตัวเรามีเลือดมีเนื้อที่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเวลาไหน ฉันจะไม่มีน้อง เพราะว่าเธอเป็นน้องสาวของฉัน เพราะว่าเธอกับฉันหม่าเป็น คนให้กำเนิดมา”
หลินลุยซีเอนศีรษะไปมา พลันคิดอยู่ชั่วครู่ ราวกับเหมือน เข้าใจหลักการ “หรือว่าเธอตบหนู หนูก็ตบหน้าตอบก็เท่าเทียม กันแล้วใช่ไหม?”
หลิน เฉินกอดอก จากนั้นก็ขยับปาก “อื้อ น่าจะตบสองครั้ง เพราะว่าเธอเป็นคนลงมือก่อน ก็ถือว่าได้รับการลงโทษ แบบนี้เธอถึงจะได้จดจําได้นานๆ
“งั้นก็ตบสองทีก็แล้วกัน” หลินลุยซึมองมาทางจงจึงห้าว “งั้น ให้อาซูตบเธอสองที พวกเราก็เสมอภาคกันแล้ว พ่อก็ไม่ต้องไป ตัดมือเธอจริงๆ หรอก เธอถือตะเกียบกินข้าวไม่ได้แล้ว มันคงน่า สงสารมาก”
จงจึงห้าวมองนัยน์ตาลูกสาวอันใสซื่อบริสุทธิ์ เลยไม่รู้ว่าจะอ้า
ปากปฏิเสธเธออย่างไรดี
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมพูดอะไร หลินลุยคิดว่าเขาไม่เห็นด้วย กับเธอ พลัน โอบต้นคอของเขาอย่างออดอ้อน “คุณพ่อ คุณพ่อ ปล่อยเธอไปเถอะนะ”
สุดท้ายแล้ว คำขอของลูกสาวจงจึงห้าวถึงกับยอมอ่อนข้อให้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่โมโหแล้วนะ แต่ไม่อยากจะปฏิเสธลูกสาวเท่านั้น เอง
แต่ว่าจงจิ่งห้าวไม่ได้ให้ซูจ้านลงมือเอง แต่ให้บอกดี้การ์ดสอง คนนั้นลงมือ เพราะว่าพละกำลังมือของซูร้านนั้นเบามาก แต่บอดี้ การ์ดที่ไม่ได้มีการฝึกฝนมามีแรงมาก
“ไปเถอะ” จงจึงห้าวอุ้มลูกสาวเอาไว้ หลินซินเหยียนจูงมือ ลูกชายเอาไว้ ซูจ้านเดินนำหน้าเพื่อเป็นคนเปิดทางให้
บอดี้การ์ดทั้งสองคนคนหนึ่งก็จับผู้หญิงเอาไว้ไม่ให้เธอขยับ ตัว อีกคนก็ตบหน้าทันที
เมื่อพวกเราเดินไปเพียงไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงตบครั้งหนึ่งดัง
แต่ฟังก็เป็นเสียงดังชัดเจน ก็รู้ว่าตบนี้ลงแรงไม่เบาเลย
หลินลุยซีเงยหน้าขึ้นเพื่ออยากจะมองดู แต่จงจึงห้าวเอาศีรษะ
ที่เธอชะเง้อออกมามุดให้เข้าไปอยู่ในอ้อมอก ไม่ให้เธอมอง สาวน้อยผงกศีรษะออกมาจากอ้อมอกของเขา พลันกะพริบ ตาโตไปมา “แด๊ดดี้”
“หือ?” จงจิ่งห้าวหลุบตา
สาวน้อยยิ้มแย้มให้ “แด๊ดดี้โกรธ เพราะว่าหนูถูกตบเหรอ
จงจึงห้าวเลิกคิ้วขึ้น “ทำไมถามแบบนี้ล่ะคะ?”
“เพราะว่า แด๊ดดี้โกรธ ก็หมายความว่าแอ๊ดดี้กำลังสนใจหนู แด๊ดดี้สนใจหนู หนูก็ต้องดีใจส” สาวน้อยราวกับลืมไปสนิท ถึง เสียงตบหน้าที่ดังอย่างน่าหวาดกลัว
หลินลุยซึกะพริบตาไปมา จากนั้นก็พูดเน้นขึ้น “แด๊ดดี้ดีใจ มาก”
เพราะว่าพ่อรักเธอ หม่ามีกับพี่ชายก็รักเธอ เธอเลยรู้สึกว่า ตนเองมีความสุขมาก
แค่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เธอไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร เพราะว่าคนที่เธอชอบต่างก็ชื่นชอบเธอ
จงจิ่งห้าวกระแอมเสียงออก “เด็กโง่เอ๊ย หนูเป็นลูกของแด๊ดดี้นะ ไม่รักหนู จะไปรักใครล่ะ?”
สาวน้อยยิ้ม ลักษณะดวงตาโค้งตัวกับรอยยิ้มเหมือนกับหลิน นเหยียนทุกกระเบียดนิ้ว
จงจิ้งห้าวรู้สึกว่าสวยมาก แต่ร่องรอยที่อยู่บนใบหน้า เมื่อเจอ กับรอยยิ้มนั้น มันจมลงไปทันที
เขาอุ้มลูกสาวขึ้นรถ นั่งอยู่ด้านในสุด แถมไม่มองอะไรทั้งนั้น ไม่พูดไม่จา เอาแต่อุ้มลูกสาวไม่ยอมปล่อยมือ
หลินซีเฉินกลิ้งขนุนที่ซูจ้านซื้อมาให้ “เสี่ยวลุ่ย น้องจะกิน
ไหม?”
สาวน้อยได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน “ไม่กิน
หลินซีเฉินยังตั้งตัวไม่ทัน น้องสายที่เป็นสายกินหมดทำไมจู่ๆ วันนี้ถึงไม่ยอมกินนะ
แปลกประหลาดจริงๆ แปลกมาก
หลินลุยซีอยู่ในอ้อมกอดของจงจึงห้าวไม่ยอมขยับเขยื้อน ราวกับรู้สึกถึงอารมณ์ของจงจึงห้าว ดังนั้นต้องการที่จะอยู่เป็น เพื่อนกับเขา
หลินซินเหยียนรู้ว่า จงจิ่งห้าวยังคงครุ่นคิดกับเรื่องที่หลินลุยซี ถูกตบอยู่ เธอเองก็ตำหนิตัวเองเช่นกัน
รถยนต์เคลื่อนตัวออกจุดพักรถ และขึ้นบนทางด่วน
หลินซินเหยียนนั่งอยู่ด้านหน้า โทรศัพท์ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าจู่ๆกสั่นขึ้นมา
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้น
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ