กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่262 ซื้อขายมนุษย์



บทที่262 ซื้อขายมนุษย์

ไปยื่นหนึ่งที่ถูกขัดจังหวะนั้นรู้สึกไม่พอใจมาก เขามองเสียว หลิวด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม “มีอะไร ทำไมถึงต้องแตกตื่นขนาด

เสี่ยวหลิวพักหายใจ “ที่หน้าประตูมีผู้ชายพาคนกลุ่มหนึ่งมา บอกว่าให้คุณส่งตัวน้องสาวของเขาไปค่ะ”

ไปยื่นหนังกับหลินซินเหยียนหันมาสบตากัน ถึงไม่พูดออกมา ทั้งสองก็น่าจะเดาออกว่าคนที่อยู่ด้านนอกคือใคร

“เดี๋ยวผมขอออกไปดูหน่อย คุณรออยู่ในนี้อย่าออกไปนะ ครับ” ที่วิลล่ามีคนอยู่ไม่เยอะ นอกประตูก็มีแค่เกาหยวนเท่านั้น ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขากลัวเธอจะได้รับบาดเจ็บ

หลินซินเหยียนลุกขึ้นยืน ถ้ามันเกิดมีการปะทะกันขึ้นมาจริงๆ แล้วคิดว่าเธอที่หลบอยู่ในห้องจะรอดไปได้อย่างนั้นเหรอ?

อีกอย่างเธอไม่คิดว่าน้องชายของเหยาชิงชิงคนนี้มาถึงที่นี่ จะ มาเพื่อ ช่วย พี่สาวจริงๆ พอรู้ว่าพี่สาวรู้จักกับไปยื่นหนึ่ง เกรงว่า จะมาเพื่อข่มขู่เอาผลประโยชน์มากกว่า

“ขอแค่คุณยอมจ่ายเงิน ฉันคิดว่ามันคงไม่มีการปะทะกันเกิด ข็นหรอกค่ะ”

หลินซินเหยียนพูดเยาะเย้ยออกมาเบาๆ เยาะเย้ยที่ทำไมโลก นี้ต้องมีคนอย่าง ตระกูลเหยาด้วย
ไปยื่นหนิงเองก็สีหน้าเคร่งขรึม เขามีแผนอยู่ในใจแล้ว เขา เหลือบตาขึ้นมามองหลินซินเหยียน “ผมไม่มีทางปล่อยให้คุณได้ รับอันตรายใดๆ ในถิ่นของผมเด็ดขาด”

พูดจบ เขาก็บังคับรถเข็นออกไป เสี่ยวหลิวตามไปอย่าง เงียบๆ แล้วแอบมองมาที่หลินซินเหยียน

เธอรู้สึกว่าไปยื่นหนิงนั้นทำดีกับหลินซินเหยียนมาก

เหยาปืนพากลุ่มเพื่อนหน้าโง่สิบกว่าคนที่กินเที่ยวด้วยกันเป็น ประจำมาถึงที่หน้าประตู เขาหาเหยาชิงชิงไม่เจอแล้ว พอรู้จาก ปากลูกน้องว่าเหยาชิงชิงรู้จักกับไปยื่นหนึ่ง เขาจึงยกพวกมา ตามตัวกับไปยื่นหนัง

จากปัญหาเรื่องขาไปยื่นหนึ่งจึงไม่ค่อยได้ปรากฏต่อหน้า สาธารณชนสักเท่าไหร่ คนไปเฉิงต่างก็เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน รู้ ว่ามีคนคนนี้อยู่ แต่มีน้อยคนที่จะเคยได้เจอ เหยาปืนก็แค่เคย ได้ยินชื่อของไปยื่นหนิงแต่ไม่เคยได้เจอหน้าเหมือนกัน

“เรียกไปยื่นหนิงออกมา ผมอยากถามว่าเขาเอาพี่สาวของผม ไปซ่อนไว้ไหนแล้ว” เหยาปินนั่งอยู่ตรงข้างน้ำพุที่อยู่หน้าวิลล่า เขาคาบบุหรี่ไว้ในปากโดยมีนักเลงกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ด้านหลัง

พอไปยื่นหนึ่งมาถึงหน้าประตูก็ได้ยินเสียงนั้นทันที สีหน้า เคร่งขรึม เขาบังคับรถเข็นมาที่หน้าประตู แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ จริงจังว่า “ผมนี่แหละไปยื่นหนิง”

เหยาปืนที่เห็นไปยื่นหนิงนั่งอยู่บนรถเข็น ได้แต่กะพริบตา สับสนไปชั่วขณะ
“ฮ่าฮ่า….ที่แท้ไปยื่นหนึ่งก็เป็นคนขาเป็นเอง โลกภายนอก ลือกันว่าเขาเป็นคนที่เก่งกาจแค่ไหน แต่เขากลับเป็นแค่คนขาเป คนหนึ่งซะได้!” เหยาปืนเอามือตบไปที่ต้นขาแล้วหัวเราะออกมา เสียงดัง

หลินซีนเหยียนขมวดคิ้ว เธอตกใจกับความไร้เดียงสาของเห ยาปิน

ไปยื่นหญิงสีหน้าเรียบเฉย เขามองดูเหยาปืนที่หัวเราะอยู่ตรง นั้น ใบหน้านั่น เขารู้สึกคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

ทันใดนั้น เขาก็นึกขึ้นได้ว่าเคยเจอใบหน้านี้จากที่ไหน ตอนที่ ออกจากบ้านของเหยาชิงชิง เขาเคยเจอคนคนนี้ในลิฟต์ ตอนนั้น ชายคนนี้ก็เคยล้อเลียนเรื่องขาของเขามาแล้ว เขาจำเรื่องนี้ได้ดี

วันนั้นเขาไปตามหา เหยาชิงชิงอย่างนั้นเหรอ?

“เกาหยวน พักนี้คุณทำงานไม่ได้เรื่องเข้าไปทุกทีแล้วนะ” เขา จําได้ว่าตอนนั้นเกาหยวนได้ส่งคนไปจับตาดูเหยาชิงชิง แต่เขาก็ ไม่ได้ความคืบหน้าอะไรเลย

เกาหยวนเองก็ไม่กล้าออกความเห็นใดๆ ได้แต่ก้มหน้า เขา แค่ส่งคนไปเฝ้าอยู่หน้าหมู่บ้านเท่านั้น แล้วเขาจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในนั้นบ้าง?

ตอนนี้เหยาปืนหยุดหัวเราะแล้ว “พี่สาวของผมอยู่ที่คุณ เปล่า?”

“อยู่ที่ผมนี่แหละ” ไปยื่นหนังยอมรับไปตามตรง ทำให้เหยาปืนไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปเลยดีกว่า

ตอนแรกเขาคิดว่าถ้าไปยื่นหนึ่งไม่ยอมรับ เขาก็จะใช้ความ สัมพันธ์ในฐานะญาติของเหยาชิงชิงมาเป็นข้ออ้าง ถ้ายังไม่ยอม ส่งคนออกมา เขาก็จะใช้สิ่งนี้เป็นเหตุผลมาแสวงหาผลประโยชน์ สักหน่อย แต่ไปยื่นหนังกลับมายอมรับไปแบบนี้ แล้วเขาจะเปิด ปากเรียกร้องอะไรได้อีก?

“แล้ว พี่สาวของผมอยู่ไหน? ส่งเธอออกมานะ ผมจะพาเธอ กลับไป แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าพี่สาวของผมยังมีประโยชน์อยู่ละก็ ผม ก็สามารถขายเธอให้คุณได้” เหยาปืนพูดออกมาหน้าด้านๆ

เป้าหมายในการมาของเขาก็เพื่อเงิน ต้องรู้ว่าไปยื่นหนึ่งนั้น เป็นคนที่รวยมากแค่ไหน เป็นคนที่รวยที่สุดในไปเฉิงเลยนะ

สีหน้าของไปยื่นหนึ่งนั้นเคร่งขรึมและเย็นชา สองมือกำแน่น

อยู่ที่ราวจับ เยี่ยม เยี่ยมมาก เยี่ยมมากจริงๆ คนเป็นๆ ทั้งคนเขา

กลับมาขายกันง่ายๆ แบบนี้เลยสินะ!

“ได้สิ” ไปยื่นหนิงตอบตกลง

เหยาปินดีอกดีใจ ไม่นึกเลยว่าไปยื่นหนิงจะตัดสินใจง่ายแบบ นี้ หัวเราะด้วยความดีใจ “คนรวยนี่มันใจกว้างแบบนี้นี่เอง”

พวกนักเลงที่อยู่ด้านหลังเขาก็เห็นด้วยขึ้นเหมือนกัน

“บอกมา ว่าจะเอาเท่าไหร่?” ไปยื่นหนึ่งเก็บความรู้สึกไว้ แล้ว พูดไปอย่างเรียบเฉย

เมื่อพูดถึงเรื่องเงิน เหยาปืนก็จริงจังขึ้นมาทันที เขาเอามือคาง ใช้ความคิดไปครู่หนึ่ง “พี่สาวของผมหน้าตาก็ถือว่าใช้ได้ ทำงานเก่ง ถ้าคุณอยากที่จะซื้อเธอ ถึงคุณจะไม่ได้ชอบเธอ แต่ เธอก็ยังมีประโยชน์ เอาแบบนี้แล้วกัน ให้ผมล้านหนึ่งผมก็จะ ยอมขายเธอให้กับคุณ ถ้าคุณจ่ายเงินให้ผมแล้ว เธอก็จะกลาย เป็นของคุณ”

ไปยื่นหนึ่งแสร้งทำเป็นไม่สบายใจ “คุณบอกว่าจะขายเธอให้ ผม ก็ขายเลยอย่างนั้นเหรอ? คำพูดของคุณมันมีประโยชน์ด้วย เหรอ? เธอยังเป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่เลยนะ”

เหยาปืนกลัวไปยื่นหนังจะเปลี่ยนใจ จึงรีบพูดไปว่า “คุณไม่ ต้องเป็นห่วง คำพูดของผมนั้นมีประโยชน์แน่นอน ในครอบครัว ของผม คำพูดของผมถือเป็นคำขาด เธอก็แค่เด็กไม่มีหัวนอน ปลายเท้าที่ครอบครัวของผมเก็บมาเลี้ยงเท่านั้น เลี้ยงดูเธอโตมา จนถึงป่านนี้ เธอก็ควรตอบแทนครอบครัวของเราแล้ว”

“ก่อนหน้านี้คุณก็เอาแต่มาขอเงินเธออยู่บ่อยครั้งไม่ใช่รึไง?” ไปยื่นหนิงแสร้งถามไปอย่างไม่ได้ใส่ใจ

เหยาปืนเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เด็กที่ถูกตามใจจนเสียคน ใน ตอนที่ทำตัวไม่ดีก็ยังมีความไร้เดียงสาอยู่ “ครอบครัวของผม เลี้ยงดูเธอจนโตขนาดนี้ การที่ผมไปไถเงินจากเธอมันก็เป็นเรื่อง ที่ปกติดีนี่”

ไปยื่นหนิงยิ้มเยาะเย้ย คำก็เลี้ยงจนโตสองคำก็เลี้ยงจนโต พวกเขาได้เลี้ยงดูจริงๆ เหรอ?

เขาต้องหลับตาลงถึงสามารถก็ความรู้สึกลงได้ “คุณต้องเขียนมันออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อเป็นหลักประกัน

พอเหยาปืนได้ยินเขาก็สนใจขึ้นมาทันที ดูกระตือรือร้นขึ้นมา “แต่ผมเขียนมันออกมา คุณก็จะจ่ายให้ผมล้านหนึ่งแล้วใช่มั้ย?”

“ถูกต้อง” ไปยื่นหนังตอบ

“เกาหยวนเอากระดาษกับปากกามาให้เขา” ไปยื่นหนังสั่ง

เกาหยวนหมุนตัวแล้วเดินเข้าไปหยิบกระดาษกับปากกาใน บ้านมาให้เหยาปิน

เหยาปืนเรียนมาน้อย เรียนถึงม.ต้นก็เริ่มออกนอกลู่นอกทาง แล้ว กระดาษกับปากกาที่อยู่ในมือก็ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรได้ เขา เอามือเกาหัว “จะเขียนยังไงเนี่ย?”

เกาหยวนคุณไปสอนเขาเขียนไป

เกาหยวนเหลือบมองไปยื่นหนึ่ง แล้วกระซิบถามว่า “จะให้เขา เขียนว่าอะไรครับ?”

ไปยื่นหนังตอบไปอย่างเรียบเฉย “ซื้อขายมนุษย์”

เกาหยวนเข้าใจทันที นี่เขาต้องการเก็บหลักฐานในการค้า มนุษย์ของ เหยาปืนเอาไว้

เกาหยวนบอกให้เหยาปืนเขียน ในใจของเหยาปืนมีแต่เงิน ล้านหนึ่งนั่น ดังนั้น เมื่อเกาหยวนบอกให้เขียนอะไร เขาก็เขียน ตามนั้น

ตัวหนังสือหงิกๆ งอๆ เทียบกับของเด็กประถมยังไม่ได้เลย แต่เนื้อหายังถือว่าเลว มันคืนเกาหยวน ให้นิ้วมือ

เกาหยวนยื่นกระดาษให้เหยาปืน พิมพ์ลายนิ้วลงไปด้วย

คุณไม่หมึกประทับให้

เกาหยวนกางสองข้างออก ผมไม่สิ่งคุณพูดถึง ถ้า เลือดแล้วกัน

สีหน้าของเหยาปืน

ถ้าอยากได้เงินล้านไปซะ ผมไม่เวลามากพอเสียคุณ” ยื่นหนึ่งแสร้งทำเป็นเร่งรีบ

ความจริงก็เพื่อลดว่างให้พวกพวกนักเลงที่ข้างหลังเหยาพูดเสียเลือดนิดเดียวเอง? กรีดนิดเดียวได้แล้ว”

เหยาปืนตาใส่เดียวอย่างนั้นเหรอ? งั้นกรีดของนายล่ะ

ความเหยานั้นจงใจต่างหาก เขาอยากโดนกรีด กลัวเจ็บ

ยังไงเขาเงิน สามารถพาพวกเขากินเที่ยวเล่นได้ อย่างเต็มที่เลย

“ของแบ่งฉันหมื่น”
เหยาปืนตอบไปแบบไม่คิดเลย “ตกลง” หนึ่งล้าน ให้เขาไปสองหมื่น ยังเหลืออีกเก้าแสนแปด ชายคนนั้นกัดนิ้วของตัวเองแล้วยื่นให้เหยาปืน “นี่

เหยาปืนใช้นิ้วชี้จิ้มเลือดแล้วกดลงไปในกระดาษ แล้วโยนกระ ดาษไปที่อกของเกาหยวน “แค่นี้ก็พอใช่มั้ย?

“โอเค หนึ่งล้านตอนนี้ผมยังไม่มีเงินสด เดี๋ยวผมโทรให้คน เอาเงินมาส่งให้” พูดจบไปยื่นหนึ่งก็หยิบมือถือขึ้นมา กดเลขชุด หนึ่งแล้วโทรออกไป

เหยาปืนกำลังจินตนาการว่าจะเอาเงินไปใช้ยังไงด้วยความ ตื่นเต้นแล้ว “ถ้าได้เงินมา เดี๋ยวฉันพาพวกนายไปเลี้ยงก่อนเลย จากนั้นก็ไปที่สถานกลางคืนได้ยินว่าที่นั่นมีผู้หญิงเด็ดๆ เต็มเลย เดี๋ยวฉันพาพวกนายไปเล่นกับผู้หญิงที่เด็ดที่สุดเลย

ตั้งแต่ต้นจนจบหลินซินเหยียนไม่ได้พูดอะไรเลย เธอยืนดูสิ่งที่ เกิดขึ้นอยู่ข้างๆ เธอรู้ดีว่า ไปยื่นหนึ่งไม่มีทางปล่อย เหยาปืนไป ง่ายๆ แบบนี้แน่นอน

ไม่นาน คนที่เอาเงินมาให้ มีรถขับมาด้วยหน้าหลังสิบกว่าคัน จนล้อมวิลล่าไว้ทั้งหมด ประตูรถเปิดออก ก็มีคนลงมาจากรถกว่า สี่ห้าสิบคน แล้วล้อมเหยาปืนกับพวกนักเลงสิบกว่าคนไว้ตรง กลาง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ