บทที่ 256 ครอบครองอย่างล้นหลาม
ราวกับมีสายฟ้าฟาดผ่านใจกลางหัวใจของเหยาชิงชิง เธอ ชะงักอยู่ตรงนั้น มือที่จับมือไปยื่นหนึ่งค่อยๆ คลายออก เธอไม่ เหมาะสมกับเขา เธอสกปรกแล้ว ร่างกายเธอสกปรกแล้ว
ไม่เหมาะสมกับเขา ไม่เหมาะสมกับเขาแล้ว
เธอหวาดกลัว สูญเสีย เธอถอยหลังไม่หยุด กลัวว่าความ สกปรกบนร่างกายตัวเอง จะไปแปดเปื้อนบนร่างกายเขา
เธอเกลียด เธอแค้น คนที่ทำลายเธอ เกลียดโชคชะตาที่ไม่ ยุติธรรม “กลับตัวตอนนี้ยังทันนะ” ไปยื่นหนึ่งใช้ความใจเย็นเชือก
สุดท้ายโน้มน้าวเธอ หวังว่าเธอจะเข้าใจ ก้มหน้ายอมรับความ
ผิด เขาคิดว่าด้วยความจิตใจดีของหลินซินเหยียน เธอจะต้อง
ยอมให้โอกาสเธอแน่นอน
“เหอะ เหอะๆ …” เหยาชิงชิงหัวเราะ เสียงหัวเราะดังขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาของเธอแดงก่ำ จ้องมองไปยื่นหนึ่งด้วยความผิดหวังอย่าง เปิดเผย “คนที่ควรกลับตัวกลับใจคือคุณต่างหาก คือคุณ ไปยื่น หนิง”
ไปยื่นหนึ่งหลับตาลง รู้อยู่แก่ใจ เหยาชิงชิงหมดทางช่วยแล้ว จริงๆ
สิ่งที่เขาทำได้เขาก็ทำแล้ว ไม่รู้สึกละอายใจแล้ว ตอนนี้เธอบีบให้ตัวเองมาถึงจุดจบ ใครก็ช่วยเธอไม่ได้แล้ว
สิ่งที่ผมทำได้ผมก็ทำแล้ว หลังจากนี้ อย่ามาโทษผม และหวัง ว่าอนาคตคุณจะไม่เสียใจ” ไปยื่นหนึ่งหยิบโทรศัพท์ออกมาต่อ สายหาเกาหยวน
ไม่นานก็มีเขาก็รับสาย เขาไม่เงยหน้าขึ้นมา ไม่มองเหยาชิง ชิงเลยสักนิด “ส่งตัวเธอไปเถอะ”
ดวงตาเหยาชิงชิงเบิกกว้าง ลูกตาแทบจะถลนออกมาด้วยซ้ำ ท่าทางไม่สงบ “คุณ คุณจะส่งฉันให้ใคร
ไปยื่นหนึ่งไม่ตอบ ไม่อยากมองเธอด้วยซ้ำ
“ฉันถามคุณอีกครั้ง คุณจะส่งฉันให้ใคร” เหยาชิงชิงพุ่งเข้ามา จับเขาอีกครั้ง มือผอมบาง เส้นเลือดเกร็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “คุณจะส่งฉันไปให้พวกเขาจัดการเหรอ”
ไปยื่นหนังยังคงไม่พูด แม้ว่าแขนของเขาถูกเธอจับแน่นจน
รู้สึกเจ็บ ก็ไม่เผยความรู้สึกใดๆ ให้เธอได้เห็น
เธอไม่คู่ควร
เธอทําให้เขาผิดหวังมาก
เขาเห็นแก่มิตรภาพที่มีต่อกัน แต่ว่าเธอกลับทำลายมันด้วย
มือของเธอเอง
เขาไร้ความสามารถ
“เพื่อเอาใจผู้หญิงคนนั้น คุณถึงกับต้องส่งฉันไปให้พวกเขาจัดการเลยเหรอ” เหยาชิงชิงตกใจ อยากได้คําตอบจากเขา ค่า ตอบที่เธอไม่อยากยอมรับ แต่มันเป็นเรื่องจริง
“คุณลืมไปแล้วเหรอ ฤดูหนาวตอนนั้น หิมะตกหนัก ผ้าห่มของ เราบางมาก คุณม้วนตัวอยู่หัวเตียง เป็นฉันไง ที่เอาผ้าห่มไปแบ่ง ให้คุณหมด้วยเราถึงได้ไม่หนาวตาย ตอนนี้คุณทำเพื่อเอาใจผู้ หญิงคนเดียว จะส่งฉันไป เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก สู้ไม่ได้กับผู้ หญิงเพียงคนเดียวเลยเหรอ”
เธอรู้สึกสิ้นหวัง เธอตั้งใจอยากให้เขาได้ดี แต่เขากลับส่งเธอ ไปโดยไร้ความรู้สึก เพื่อเอาใจผู้หญิงคนเดียวนั้นเหรอ
ฮ่า ฮ่าๆ …
“ไปยื่นหนิง ฉันตาบอดเอง หรือว่าคุณลืมมิตรภาพระหว่างเรา
ไปแล้ว”
ในที่สุดไปยื่นหนึ่งก็เงยหน้าขึ้นมามองเธอ แต่ว่าไม่อยากคุย กับเธออีกแล้ว
เพราะเขารู้ ถึงเขาจะโน้มน้าวเธอต่อไป เธอก็จะไม่ฟัง
ใครก็ปลุกให้คนที่แกล้งหลับตื่นไม่ได้หรอก
ผลัก ประตูห้องหนังสือถูกเปิดออก เกาหยวนพาผู้ชายสองคน เข้ามา มองเห็นว่าเหยาชิงชิงกำลังจับไปยื่นหนังอยู่เกาหยวนจึง สั่งให้คนจับตัวเหยาชิงชิงเอาไว้
“พวกนายอย่าเข้ามานะ อย่าเข้ามา… เหยาชิงชิงหวาดกลัว เธอคุกเข่าอยู่แทบเท้าไปยื่นหนิง คว้าขากางเกงเขาเอาไว้
“นหนิง ฉันทําเพื่อคุณนะ แต่คุณจะผลักฉันออกไปแบบนี้ใช่ ไหม”
ไปยื่นหนึ่งมองดูเธอ เขาเกลี้ยกล่อมแล้ว ไม่เพียงไม่สามารถ
ทําให้เธอกลับตัวได้ แถมยังมาโทษเขาอีก เขากดอารมณ์ไว้ “นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของคุณ หากคุณ ขอโทษเธอด้วยความจริงใจ ผมรับปากว่าคุณจะไม่โดน
ทําร้าย…”
“เลิกคิดซะเถอะ อย่าได้หวังว่าฉันจะขอโทษ” เหยาชิงชิง ตะคอกออกมาจนสุดเสียง
“เกาหยวน พาตัวเธอไป” ไม่มีความลังเลสักนิด ครั้งนี้ไปยื่น หนังตัดสินใจแล้ว เขาเองที่ไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าจะเตือนสติ เธอได้
เธอเดินเข้ากองไฟไปนานแล้ว ไม่มีใครเตือนเธอได้แล้ว
“ไม่เอา ฉันไม่ไป…” เหยาชิงชิงดิ้นรนไม่ยอมไป แต่ห้องนี้ ใหญ่มาก ชายร่างใหญ่สองคนเข้ามาจับเธออย่างง่ายดาย อยากวิ่งหนีไปคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
“ยื่นหนิง ยิ่นหนึ่งคุณจะไร้จิตใจกับฉันแบบนี้ไม่ได้…” เหยาชิง ชิงหวาดกลัว แต่ก็ไม่ยอมเชื่อและยอมรับ ไปยื่นหนังยอมสละเธอ เพื่อหลินซินเหยียน
เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองทำผิด หรือว่าผิดที่ตรงไหน
เธอคิดว่าเธอทําเพื่อไปยื่นหนัง
แต่ไปยื่นหนึ่งกลับไม่รับรู้ คิดถึงเพียงหลินซินเหยียน
เธอเจ็บปวด
“คุณต้องเสียใจ คุณจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน…
สีหน้าของไปยื่นหนังเข้มขึ้น เกาหยวนมองเห็น ส่งสัญญาณให้ ชายร่างใหญ่สองคนที่จับเธอเอาไว้ “ไม่ได้ยินเหรอว่าเสียงดัง เกินไป”
ชายหนุ่มมองหน้ากัน ปิดปากเธอไว้ไม่สนใจการดิ้นรนต่อสู้ ของเธอ ลากออกไปด้านนอก
ไม่นาน เสียงของเหยาชิงชิงก็หายไปจากห้อง เกาหยวนยืนอยู่ หน้าประตู ถามย้ำอีกครั้ง “ส่งไปเลยเหรอครับ” เขากลัวว่าจะเป็นการตัดสินใจด้วยความใจร้อนของไปยื่น
หนิง
ไปยื่นหนังคว้ากระดุมคอเสื้อท่าทางหงุดหงิด เขาอยากแกะ กระดุมออก แต่ไม่รู้ทำไมถึงแกะไม่ออก เขาหมดความอดทน กระชากมันขาดทันที “สิ่งที่ฉันพูดนายฟังไม่รู้เรื่องเหรอ”
เกาหยวนไม่กล้าถามต่อ ก้มหน้าเดินออกจากห้องหนังสือไป
โรงแรม
หลินซินเหยียนรู้สึกร้อน ร้อนมาก รู้สึกว่าร่างกายเต็มไปด้วย เหงื่อ เธอขยับร่างกายให้ผ้าห่มหลุดออกไปจากตัว จงจึงห้าวถูก หลินลุยซียื้อให้อยู่เล่นเป็นเพื่อนที่ห้องอีกห้อง ก่อนที่จะกลับมาที่ห้องนี้
แต่เปิดยียน มันปกปิดแค่ส่วนสำคัญบางเท่านั้น ส่วนนุ่ม
จงจึงห้าวเหมือนจะยืนไม่อยู่ เกือบล้มอยู่หน้าประตูแล้ว เขารีบ สาวเท้า
เขาเดินหยุดอยู่ข้างเตียง กำลังจะดึงผ้าคลุมร่างเธอ เธอกลับพลิกตัว ทำให้ห่มเขายืนมองร่างเพรียวสวยที่นอนอยู่บนเตียง ดวงสองข้าง เต็มด้วยเลือด ลูกกระเดือกของเขาเคลื่อนตัวแห้งผาก ไม่อะไรผ่อนคลายได้เลย เพียงหญิงอยู่
“…”
หลินซินเหยียนพลิกตัวอีกครั้ง เธอรู้สึกร้อน ใกล้จะหายใจออกแล้ว
หลินซินเหยียนจงจิ่งห้าวโน้มตัวไป สองมืออยู่ด้าน เธอ จ้อง
เหมือนคนเธอ แต่ทั้งง่วงไม่อยากลืมตา เธอขยับตัว เล็กน้อยแล้วต่อ
ตอนนั้นเอง ร่างกายเปลือยเปล่าของก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะทานยาลดไข้ด้วยหรือเปล่า เธอมีเหงื่อออก มากทีเดียว ร่างกายมันเงา ในสีขาวยังมีสีแดงเผยให้เห็น เหงื่อ เม็ดเล็กซึมไปทั่ว โดยเฉพาะริมฝีปากนั้น ราวกับถูกแช่อยู่ในน้ำ ดูชุ่มฉ่ำ
ราวกับลูกท้อที่พึ่งล้างมา กำลังสดใหม่ ทำให้คนอดไม่ได้ อยากชิม เมื่อคิดแบบนี้ จงจึงห้าวก็ทำตามที่คิดทันที เขาก้มลง ไปเชยชิมริมฝีปากของเธอ กัดเบาๆ
แอร์ในห้องจงจิ่งห้าวปรับอุณหภูมิไว้สูง ไม่นานก็รู้สึกร้อนขึ้น มา จูบไปสักพักเขาเองก็รู้สึกร้อน แผ่นหลังมีเหงื่อซึมออกมา แต่ เท่านี้ยังทำให้เขาพอใจไม่ได้ ริมฝีปากขยับเลื่อนออกจากริม ฝีปากของเธอช้าๆ ลงไปด้านล่าง จูบเบาๆ ที่ลำคอของเธอ กระดูกไหปลาร้าของเธอ ร่างกายของเธอมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายกับเป็นกลิ่นเหงื่อ และเหมือนจะเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของเธอ ยังไงซะก็ทำให้เขาอยากได้กลิ่น น่าหลงใหล
ตอนที่ริมฝีปากของเขาจูบลงที่กระดูกไหปลาร้า จงจึงห้าวเงย หน้ามองดูว่าเธอตื่นหรือยัง เธอยังคงหลับตา ราวกับกำลังหลับ ลีก
ความมัวเมาทำให้เขายากที่จะห้ามใจ ก้มหน้าลงต่ำ เขาสูญ เสียการควบคุม ตอนนี้มีเพียงเป้าหมายเดียว ให้เธอเข้ามาใกล้ ร่างกายตัวเอง
เขาขยับเข้าใกล้ มือใหญ่วางลงข้างแก้มของเธอ ใบหน้าเธอเล็กเขา เขาหวงแหน ยับยั้งชั่งใจ ลังเลที่สัมผัส กลัวว่าจะเธอ เจ็บ กลัวว่าเธอตื่น
เขา โน้มตัวจูบหน้าผากเธอ ผมคน
เขาเขารู้สึกว่าเลือดของเรากำลังเดือด
ผมจะเบาและอ่อนโยน” ร่างกายสอดประสาน จูบลงของเธอ ลาดไหล่บาง
หลินซินเหยียนที่กำลังสะลึมสะลือนั้นรู้สึกจักจี้ ราวกับมีแมลง กำลังไต่อยู่บนและลำคอของและรู้สึกเหมือนมีภูเขาใหญ่กำลังกดทับร่างกายของเธออยู่ ทำให้เธอหายใจไม่
อื้อ…”
แพขนตาขยับ เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้น
จงห้าวเงยหน้ามองเธอ น้ำเสียงแหบพร่า ตื่นแล้วเหรอ”
หลินซินเหยียนครางตอบรับเสียงเบา เธอเลิกคิ้ว คิ้วขมวด
มุ่น
ทรมานตรงไหนเขาถามอย่างอ่อนโยน
“ฉัน”
ชิ้น กว้าง อยากขยับเท้า พบว่าถูกกดเอาไว้
“จงจิ่งห้าว” น้ำเสียงของเธอสั้น มาพร้อมกับเสียงสะอื้นให้
นี่มันอะไรกัน
เมื่อมองสบตากับดวงตาสับสนของเธอ หัวใจของจงจึงห้าว กระตุก กอดเธอเอาไว้ “ผมเอง ผมเอง…
หลินซินเหยียนตัวแข็งทื่อ มองไปรอบๆ ห้อง ตอนนี้เธอสัมผัส
ได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของเธอไม่มีเสื้อผ้าเลยสักชิ้น
เธอหายงัวเงียและตื่นตัวขึ้นมาทันที
“คุณเคยบอกว่าคุณจะให้เกียรติฉัน…” เธอกผ้าปูเตียงแน่น ร่างกายสั่นเทาอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างห้ามไม่ได้
จงจิ่งห้าวลูบหลังเธอ เอ่ยปลอบอย่างเอาใจ “ผมรอมานาน มาก ถ้าคุณให้ผมรอต่อไป คงจะขาดใจ ผมจะเบามือ จะระวัง
เขาลูบหน้าผากเธอ จูบเบาๆ ที่หางตาเธอ คว้ามือเธอมากดไว้
ที่หน้าอก “คุณสัมผัสดูสิ ในนี้มีแต่คุณ
หลินซินเหยียนอ้าปาก แต่พบว่าเธอพูดอะไรไม่ออก ร่างกาย ราวกับโดนไฟเผา แผดเผา ทุกหยดในร่างกายของเธอ
ใกล้จะแห้งเหือด เขาเอนกายลงมาบนตัวเธอ เธอเป็นประกาย ไฟในดวงตาของเขา น้ำที่มองไม่เห็นก้นบึง เห็นได้ชัดว่าร้อนแรง แต่กำลังถูกกดเอาไว้
เธอรู้ เขากำลังรอคำตอบจากเธอ
มือของเธอ เข้าช้าๆ กลายเป็นหมัดที่กำแน่น
เธอเอ่ยตะกุกตะกัก “คุณรักฉันหรือเปล่า ชอบฉันหรือเปล่า”
“ผมรักคุณ ขอบคุณ… เขาจูบลำคอเธอเบาๆ จักเล็กน้อย ร้อนหน่อยๆ หลินซินเหยียนยกมือขึ้นไปคล้องคอเขาเอาไว้
คล้ายกับกำลังให้คำตอบเธอ เชยปลายคางขึ้น จูบริมฝีปาก เขาเบาๆ ในตอนที่เธอกำลังจะถอนออก ก็ถูกจงจิ่งห้าวกดศีรษะ เธอเอาไว้ ขยับองศาให้แนบชิดมากยิ่งขึ้น บีบให้เธอเปิดปาก กว้าง เพื่อให้เขากลืนกินได้หมด จูบดูดดื่มดำเนินต่อไปกว่าสิบ นาที
หลินซินเหยียน โดนจูบจนจะขาดอากาศ ในสมองของเธอขาว โพลน ต้องการหาอากาศ เดิมคิดจะหยุดลิ้นเขาได้ ดึงอากาศ หายใจจากเขา จงจิ้งห้าวคิดว่านี่คือการตอบสนองของเธอ เขา จึงไม่ยอมปล่อย
เมื่ออารมณ์ปะทุ เขาจึงครอบครองเอาไว้ให้ถึงที่สุด
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ