กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่179 ช่วยให้ถึงที่สุด



บทที่179 ช่วยให้ถึงที่สุด

“คุณหลิน? คุณหลิน?”

หลินซินเหยียนที่สะลึมสะลืออยู่ได้ยินคนเรียกตัวเอง เธอ ค่อยๆลืมตาขึ้น เห็นเสี่ยวหลิวยื่นศีรษะยืนอยู่ขอบเตียง เห็นหลิน ซินเหยียนลืมตาเธอได้ยิ้ม “คุณตื่นแล้วเหรอคะ?”

หลินซินเหยียนขยับตัวลุกขึ้นมานั่งที่เตียง เธอขยี้ตาพร่ามัว พอความง่วงจางหายไปได้ถามว่า “ตอนนี้กี่โมงแล้ว?”

“เที่ยงแล้วค่ะ คุณนอนมาทั้งเช้าเลย ลุกขึ้นมาทานอะไรหน่อย

เถอะค่ะ”เสี่ยวหลิวเคารพนอบน้อม คนที่คุณชายสั่งการว่าต้อง

ดูแลดีๆ เธอย่อมไม่กล้าปล่อยปละละเลยอยู่แล้ว

“เอาน้ำให้ฉันแก้วนึงได้มั้ย?” ตอนนี้เธอไม่หิวเลยสักนิด แต่ เพิ่งตื่นนอน คอค่อนข้างแห้ง

“ได้ค่ะ” เสี่ยวหลิวออกไปในน้ำให้เธอ

หลินซินเหยียนมองดูร่างเงาของเธอหายไปจากหน้าห้อง เธอ ดึงผ้าห่มแล้วลงจากเตียง ขาที่ได้รับบาดเจ็บข้างนั้นพันผ้าพัน แผลไว้ ข้อเท้ายังคงบวมแดงอยู่อีกเช่นเคย ยื่นมือกดเบาๆที่นั่ง รู้สึกเจ็บจนเธอขมวดคิ้ว เธอคิดอยู่ในใจว่าระยะเวลาสั้นๆไม่กี่วัน นี้คงไม่สามารถหายได้จริงๆ
เธอใช้ขาข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บออกแรง พยายามลองลุกขึ้น มา

“คุณอยากกลายเป็นง่อยหรือไง?” เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังมา จากหน้าห้อง

หลินซินเหยียนเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นผู้ชายที่นั่งอยู่บนรถเข็นคน

เขาบังคับรถเข็นเข้ามาในห้อง “เชิงกรานของข้อเท้าคุณได้รับ บาดเจ็บ ถ้าใช้แรงต่อ ไม่ใช่ว่าสิบวันครึ่งเดือนก็จะหายได้แล้วนะ ถ้าสาหัส……ก็จะเหมือนผมเลย

เขาแกล้งพูดคำสุดท้าย ให้เสียงสูง พูดเยาะเย้ยตัวเอง “นั่งรถ เข็นไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลยนะ”

หลินซินเหยียนนั่งกลับมาที่เตียง “ฉันแค่ลองดูเฉยๆค่ะ

“คุณหลิน น้ำของคุณค่ะ ” ขณะนี้เสี่ยวหลิวได้ยกน้ำเข้ามา

หลินซินเหยียนรับมาแล้วพูดว่า “ขอบคุณค่ะ”

“คุณเป็นแขกของคุณชาย ดิฉันก็ต้องต้อนรับเป็นอย่างดีอยู่ แล้วค่ะ”เสี่ยวหลิวยิ้ม ระหว่างที่พูดยังได้มองไปยื่นหนึ่งแว๊บนึง

มีคนอยู่ เธอก็ไม่กล้ากำเริบเสืบสานเกินไป แค่มองแว๊บเดียวก็ ดึงสายตากลับแล้ว

หลินซินเหยียนเห็นก็แกล้งทำเป็นไม่เห็น ยกแก้วดื่มไปหลาย นํา ถึงได้บรรเทาอาการคอแห้ง
“คุณหลินน่าจะหิวแล้วมั้งคะ?” เสี่ยวหลิวเอาโต๊ะคร่อมเตียงมา วางไว้บนผ้าห่ม “ขาของคุณได้รับบาดเจ็บเดินไม่ได้ คุณชายให้ ดิฉันยกกับข้าวเข้ามาในห้องค่ะ”

หลินซินเหยียนมองไปยื่นหนึ่งแล้วพูด “ขอบคุณค่ะ”

ไปยื่นหนังยักคิ้วสวยขึ้น ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ ท่ามกลางหมู่คน เราสามารถได้มาเจอกันก็ถือเป็นพรหมลิขิต คุณวางใจพักฟื้นอยู่ที่นี่เถอะ พอหายดีแล้ว ผมส่งคุณกลับไป อ้อ ใช่ คุณหลินเป็นคนที่ไหนครับ?

“เมืองBค่ะ” หลินซินเหยียนพูดตามตรง

ลึกๆแล้วค่อนข้างประหลาดใจ เธอจะโทรศัพท์เขาไม่ให้เธอ โทร ตอนนี้กลับมาบอกว่าจะส่งเธอกลับ

เขาจะมาไม้ไหนกันแน่?

“เมืองB?” ไปยื่นหนึ่งพึมพำสองคำนี้อยู่ในปาก สายตาของ เขาจ้องอยู่ที่กำไลหยกที่ข้อมือของหลินซินเหยียนอีกครั้ง เหมือน กำลังคิดอะไรอยู่ คิดจนเหม่อลอย

“คุณไป มีอะไรหรือเปล่าคะ?

ไปยื่นหนึ่งดึงสติกลับมา ส่ายหัวแล้วยิ้มอ่อนๆ “ไม่มีอะไรครับ แค่นึกถึงเรื่องบางเรื่องครับ” สายตาของเขาจ้องมองอยู่ที่ใบหน้า หลินซินเหยียน “ผมแก่เหรอครับ?”

หลินซินเหยียน”…”
เธอถูกถามจนมึนตึ๊บ

หมายความว่ายังไง?

“ผมเพิ่งจะอายุ26 คุณเรียกผมว่าคุณ ผมยังนึกว่าผมสามสิบ กว่าแล้วเสียอีก” ไม่รอให้หลินซินเหยียนตอบ เขาได้เปิดปากพูด อีกครั้ง “คุณเรียกผมยื่นหนังดีกว่า

หลินซินเหยียน .………….

เรียกชื่อเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะสมนะ มีแค่คนที่สนิทมากๆถึง เรียกแบบนี้มั้ง?

“ทําไมครับ ผมช่วยชีวิตคุณไว้ ตอนนี้แค่ชื่อก็ไม่ยอมเรียก ดัน จะต้องเรียกให้ผมดูแก่ขนาดนั้นคุณถึงจะดีใจเหรอ?” เสียงของ เขาเคร่งขรึม แววตากลับไม่มีความหมายที่จะตำหนิเลยสักนิด

หลินซินเหยียนหลุบตาลง “ฉันแค่รู้สึกว่าเรียกชื่อมันสนิทชิด

เชื้อเกินไปค่ะ”

“สนิทชิดเชื้อตรงไหนครับ? ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่อนุญาตให้คุณ เรียกผมคุณไป หรือคุณกะจะเรียกผมว่า “เฮ้ย หรือไม่ก็ นั่นใคร นะ ?”

หลินซินเหยียนถูกเขาหยอกจนหัวเราะ

“ไหนคุณลองเรียกให้ผมฟังดู” ไปยื่นหนังสีหน้ายิ้มแย้ม

หางตากับหางคิ้วล้วนเผยความรู้สึกลึกๆ ในใจออกมา เหมือน ยังค่อนข้างคาดหวังด้วย
หลินซินเหยียนเม้มปาก คิดอยู่ในใจเขาช่วยชีวิตตนเองไว้ แต่

เรียกชื่อหน่อย ก็ถือเป็นการตอบแทน สนองข้อเรียกร้องของเขา ก็แล้วกัน เลยลองเรียกว่า “ไปยื่นหนึ่ง?”

“ตัดไปทิ้ง”

หลินซินเหยียนอดแขวะอยู่ในใจไม่ได้ เรียกร้องเยอะจริงๆเลย เธอได้กัดฟันเรียก “ยื่นหนิง”

“เพราะครับ”

เขายิ้มได้ร่าเริงแจ่มใส

หลินซินเหยียนอยากแขวะเขาจริงๆ เพราะตรงไหน?

เห็นแก่ที่เขาเป็นผู้มีพระคุณของเธอไว้ จึงไม่ได้ตอกกลับเขา

เสี่ยวหลิวยกกับข้าวเข้ามา ก็ได้ยินเสียงหัวเราะของไปยื่นหนึ่ง เธออดมองหลินซินเหยียนอย่างห้ามใจไม่ได้ คุณชายดีกับเธอ เป็นพิเศษก็แล้วไป ไม่นึกเลยว่าตอนนี้เพราะผู้หญิงคนนี้แล้ว ยัง หัวเราะได้มีความสุขขนาดนี้อีก ผู้หญิงคนนี้คือใครกันแน่?

แล้วมีความสัมพันธ์อะไรกับคุณชายของเธอ?

เธอยกกับข้าวมาวางที่โต๊ะพร้อมกับความข้องใจ

“ผมไม่รู้ว่าคุณชอบทานอะไร ชอบทานอะไรก็บอกกับผมนะ ผมให้คนทำให้คุณ” ไปยื่นหนึ่งพูด

หลินซินเหยียนกลับไม่อยากรบกวนเขามากเกินไป น้ำใจนี้จะ ต้องคืนให้เขาแน่นอน เธอไม่อยากติดค้างเขามากเกินไป อีกอย่างเธอก็ไม่เรื่องมากกับอาหารการกิน ไม่มีอะไรที่ไม่ชอบทาน เป็นพิเศษหรอก

“ฉันไม่เรื่องมากค่ะ ทานอะไรก็ได้” หลินซินเหยียนยิ้ม เห็นได้ชัดว่ากำลังรักษาระยะห่างกับเขา ไปยื่นหนึ่งไม่ได้โกรธ แต่ได้พูดว่า ” โอเค ถ้าต้องการอะไรต้องบอกผมนะ

“โอเคค่ะ”

หลังจากทานข้าวเสร็จ หลินซินเหยียนเอนตัวอยู่บนเตียงอย่าง เบื่อหน่าย เธอมองไปยังนอกหน้าต่าง ในใจคิดอยู่ว่าทำยังไงถึง จะสามารถติดต่อกับหลิน เฉิน?

ไปยื่นหนิงคนนี้ ทำไมไม่ยืมโทรศัพท์ให้เธอใช้ เขามีวัตถุประสงค์อะไร?

“ห้องนี้ค่ะ” นอกห้องมีเสียงของเสี่ยวหลิวดังขึ้น จากนั้นก็เห็น เธอเดินเข้ามา ด้านหลังมีคนงานเดินตามอยู่ ในมือยกตู้ปลาไว้

เสี่ยวหลิว ให้คนงานวางไว้ที่ข้างเตียง “วางตรงนี้เลยค่ะ”

หลังจากคนงานจัดวางเสร็จจากไป หลินซินเหยียนถึงเปิดปาก ถาม “นี่คือทำอะไรเหรอ?”

“คุณชายบอกว่าคุณลงจากเตียงไม่ได้ อยู่ในห้องจะต้องเบื่อ หน่ายแน่นอน จึงได้หาปลาที่หายากพวกนี้มาให้คุณฆ่าเวลาค่ะ เสี่ยวหลิวยืนอยู่ขอบเตียง พูดอย่างค่อนข้างอิจฉา “คุณชายดีกับ คุณจังเลยค่ะ”
เธอไม่เคยเห็นไปยื่นหนังดีกับใครเท่านี้มาก่อน แถมยังเป็นผู้ หญิงด้วย

หลินซินเหยียนมองปลาในน้ำ มีทั้งหมดสามตัว สีสันสวยงาม หน้าตาแปลก อยู่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเธอก็ยังไม่เคยเห็นปลาสาย

พันธุ์นี้เลย เป็นสายพันธุ์ที่หายากจริงๆ ดูแล้วราคาก็ไม่เบาเลย

เธอไม่รู้สึกดีใจเลย ว่ากันว่าไม่ได้สร้างคุณงามความดี ก็อย่า รับผลประโยชน์จากคนอื่น เขาใช้ใจขนาดนี้ กลับทำให้เธอรู้สึก อึดอัดมากกว่า

“คุณหลิน คุณไม่ดีใจเหรอคะ?” เสี่ยวหลิวไม่เห็นความสุขจาก ใบหน้าหลินซินเหยียนเลย แม้กระทั่งไม่เห็นเธอยิ้มเลย จึงได้

ถาม

“เปล่า” หลินซินเหยียนฝืนยิ้ม

“คุณหลิน คุณรู้จักคุณชายตั้งแต่สมัยก่อนเหรอคะ?” เสี่ยว หลวถามความข้องใจออกมา

ระยะเวลาที่เธออยู่ตระกูลไปไม่สั้น ไม่เคยได้ยินชื่อของเธอเลย ยิ่งไม่เคยเห็นหน้าเธอเลย ถ้าเพิ่งเจอกันแค่ครั้งแรกก็ดีกับเธอ ขนาดนี้ เหมือนจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลมั้ง?

หลินซินเหยียนส่ายหัว “ทำไมถึงถามแบบนี้”

“ดิฉันแค่รู้สึกว่าคุณชายดีกับคุณมาก ถ้าไม่รู้จักคุณ ทำไมหลัง จากช่วยชีวิตคูณแล้ว ยังดีกับคุณอีกค่ะ?”

อันนี้หลินซินเหยียนก็สงสัยเหมือนกัน
เธอยื่นมือหยอกปลาเล่น ปลาได้แหวกว่ายไปทันที

หลินซินเหยียนก็แปลกใจกับไปยื่นหนึ่งเหมือนกัน แต่กลับไม่ แสดงออกมาทางสีหน้า น้ำเสียงเธอราบเรียบ เธอบอกว่า คุณชายของเธอเป็นคนที่ไม่ใช่เหรอ? เขาก็แค่ช่วยให้ถึงที่ สุดเฉยๆ”

เสี่ยวหลิวก็ยังรู้สึกว่าไม่ได้เพราะคุณชายเป็นคนดีอย่างเดียว น่าจะยังมีสาเหตุอื่นอีก

“ถ้าไม่อย่างนั้น ไหนเธอพูดว่าเพราะอะไร?” หลินซินเหยียน ค่อยๆเงยหน้าขึ้น

เสี่ยวหลิวพูดไม่ออก

“ช่างเถอะ” เสี่ยวหลิวไม่ได้รับคำตอบในใจไม่ค่อยสบอารมณ์ จึงได้เดินออกจากห้องไป

หลินซินเหยียนหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดน้ำในมือ ดึงผ้าห่ม ออกแล้วลงจากเตียง จับโต๊ะที่อยู่ข้างเตียงไว้ ใช้ขาข้างที่ไม่ได้ รับบาดเจ็บเคลื่อนไหวไปที่ประตู

บ้านหลังนี้ใหญ่มาก เธอพักอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ขาของไปยื่นหนึ่งไม่ สะดวกก็คงไม่พักชั้นบนหรอก ส่วนเสี่ยวหลิวไม่รู้ว่าไปทำอะไร แล้ว ห้องรับแขกที่กว้างใหญ่ว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เงาคนเลย

หลินซินเหยียนพบเห็นโทรศัพท์บ้านที่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆ

โซฟา

ดวงตาเธอเปล่งประกาย นี่เป็นโอกาสที่เธอจะสามารถติดต่อกับโลกภายนอก เธอมองซ้ายมองขวา หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่มี คนอยู่ เธอคอยจับผนังเดินไปหาโทรศัพท์บ้าน

เธอได้มาถึงห้องรับแขกอย่างราบรื่น ใช้มือข้างนึงยันโซฟาไว้ จากนั้นย่อมืออีกข้างไปหยิบโทรศัพท์บ้าน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ