บทที่ 124 หนูอยากให้แดดดี้อุ้ม
สีหน้าของเหอรุ่ยสิงยิ่งเย็นซากว่าเดิมและไม่ชอบที่เธอมีข้อแม้ กับเขา “อย่าลืมล่ะ เรื่องนี้เธอเป็นคนก่อ เดิมเธอมีต้องรับผิดชอบ ในการแก้ไขมัน แล้วจู่ ๆ เธอก็หาเรื่องมาต่อรองกับพี่? ถ้าพ่อ เข้า พ่อจะต้องโมโหแน่
เหอรุ่ยหลินหัวเราะออกมา “พี่ใหญ่ พี่กลัวว่าฉันจะแย่งผลงาน พี่เหรอ?”
“ตลก” เหอรุ่ยสิงเบื่อที่จะสนใจเธอ “จงจึงห้าวมีจุดอ่อนที่จับ ง่ายขนาดนั้นเหรอ? ถ้าหากเธอมีจุดอ่อนของเขาจริง สู้เอาไปขู่ เขาตรงๆ ให้เขามาขอเธอก็ได้ จะมาทำให้มากเรื่องไปทำไม? นอกจากเธอจะบ้า?”
เหอรุ่ยสิงใจเย็นลงแล้ว ในตอนนี้ แต่ไม่เชื่อว่าเหอรุ่ยหลินจะมี
จุดอ่อนของจงจิ่งห้าวอยู่จริง
ถ้าหากมีก็เอาไปขู่เขาเลยตรงๆ แล้วจะยังถอนหมั้นแล้วทำ เรื่องพวกนี้ทําไม
“พี่สิบ้า!” เหอรุ่ยหลินรู้สึกโกรธทันใด “เดิมทีฉันคิดจะช่วยพี่ แต่พี่ไม่ต้องการ ก็อย่ามาโทษฉันแล้วกัน”
พูดจบเธอก็หันหลังเดินกลับขึ้นชั้นบน
เหอรุ่ยสิงฮึดฮัดออกมาอย่างเย็นชา “อยู่บ้านดีๆ ไปเถอะ อย่า ทำให้พ่อโมโหอีกก็แล้วกัน”
เซียเงินหยูออกมาจากห้องและได้ยินเหยรุ่ยสิ่งพูดเสียงดัง จึง ตำหนิเบาๆ “สองวันนี้พ่อลูกอารมณ์ไม่ดี อย่าเอะอะโวยวายใน บ้านกัน เขาจะได้ไม่โมโห
ในที่สุดเธอก็สงบลงและเต็มใจที่จะพักผ่อนในห้อง
“อือ” เหอรุ่ยสิงเดินเข้าห้องไปเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาหยิบเสื้อ ออกมาแต่ไม่ได้เปลี่ยนมันในทันทีแต่กลับนั่งอยู่บนโซฟา หยิบ โทรศัพท์ออกมาหาเบอร์ของกวนจิ้งและโทรออก
เขากระแอม ในลำคอและคิดในใจว่าจะพูดอะไร การติดต่อ เขาในช่วงเวลาคับขันแบบนี้ชัดเจนว่าเพราะข่าวนั่น กวนจึงอาจ จะไม่ยอมรับสายหรืออาจจะปฏิเสธเขาต่อหน้าก็ได้
โทรศัพท์ดังจนสุดท้ายก็ไม่มีใครรับสาย เหอรุ่ยสิงโทรศัพท์ แน่นแต่ไม่ได้ท้อใจเพราะเหตุนี้ เขาวางโทรศัพท์กระดุมชุดสูท และเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไป
เหอรุ่ยหลินยืนอยู่หน้าบานหน้าต่างชั้นสอง มือหนึ่งจับผ้าม่าน มองดูเหอรุ่ยสิงขับรถออกจากประตูหลัง
ไม่ว่าจงจิ่งห้าวจะรักหรือไม่รักเธอ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธออยู่ กับเขามาเป็นเวลาไม่น้อย พอเข้าใจเขาอยู่บ้าง จงจิ้งห้าวไม่มี ทางจะเจอเขาแน่
เธอยกมุมปาก “พี่ใหญ่ ฉันให้โอกาสพแล้วนะ พี่ไม่คว้าไว้เอง อย่าโทษฉันล่ะ”
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดเบอร์โทรศัพท์มือถือของจงจิ่งห้าวและส่งอีเมลส่วนตัวด้วยเผื่อในกรณีที่เขามองไม่เห็น
วิลล่า
ป้าหยูทําอาหารเต็มโต๊ะประหนึ่งเหมือนกับงานปีใหม่
จวงจื่อนช่วยถือจานชาม หลินลุยซีจึงเล่นคนเดียวในห้องนั่ง เล่น หลินเฉินยังอยู่ในห้องไม่ยอมออกมาบอกว่าหน้าตาน่า เกลียดเกินไปไม่อยากจะเจอใคร
มีไฟสีขาวเข้ามา และมีรถสีดำขับเข้ามา ในไม่ช้าหลินซินเหยี ยนและจงจึงห้าวก็ออกจากรถและเดินเข้าไปในบ้านด้วยกัน
เมื่อประตูเปิด หลินลุยซีได้ยินเสียงก็รีบชะโงกหน้าจากโซฟา หันไปมองที่ประตู เมื่อเห็นที่เข้ามาแววตาก็ส่องเป็นประกาย
พี่ชายบอกว่านี่คือคุณพ่อ
เธอเลื่อนลงจากโซฟาอย่างคล่องแคล่วและวิ่งไปที่ประตูด้วย ขาสั้นของเธอ หลินซินเหยียนคิดว่าเธอมารับตนเอง เธอจึงนั่งลง และอ้าแขนทักทายเธอ “เสี่ยวลุ่ย”
หลินลุยซีไม่ได้กระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของเธอ แต่หยุดอยู่ ตรงหน้าจงจึงห้าวเงยหน้าขึ้น กะพริบตาเป็นประกายและมองไป ที่ชายร่างสูงคนนี้ เขาสูงและหล่อมาก
“แด๊ดดี้”
หลินซินเหยียน ” ”
จงจิ่งห้าว
“แด๊ดดี้” หลินลุยซียื่นมือออกไปกอดขาจงจึงห้าว “แด๊ดดี้ อุ้มๆ”
หลินซินเหยียนเข้าไปปลอบเธอ “เสี่ยวลุ่ย เด็กดี มากับแม่นะ เธอส่ายหน้า “หนูจะให้แต๊ดดี้อุ้ม”
หลินซินเหยียนเกิดกระอักกระอ่วนใจขึ้นทันทีและรู้สึกปวดใจ เด็กคนนี้ถึงแม้จะขาดความรักจากพ่อ แต่เธอก็ไม่เคยเรียกคนอื่น มั่วซั่วว่าพ่อ
“เสี่ยวลุยลูกมากับหม่ามีทางนี้ดีกว่านะ นี่ไม่ใช่แต๊ดดี้นะจ๊ะ”
“หนูจะเอาแด๊ดดี้” หลินลุยไม่รับฟังคำพูดของหลินซินเหยียน เลย มือทั้งสองข้างกอดแน่นขึ้น ใบหน้าเล็กๆ แนบติดกับขาของ จงจึงห้าวและเงยหน้าขึ้นกะพริบตาแป๋วปริบๆ “คุณพ่อ อุ้มเสียว ลุ่ยได้ไหมคะ?”
จงจิ่งห้าวตัวแข็งทื่อไปแล้วในวินาทีที่ถูกเธอเข้ามากอดขา เขา ก้มลงมองดวงตาคู่นั้นของเธอที่จ้องม องมองเขา ดูเหมือนน้ำใน ทะเลสาบที่ค่อย ๆ เคลื่อนไหว ส่องแสงสว่างไสวและเต็มไปด้วย ความคาดหวัง
เขาก้มลงไปอุ้มเธอขึ้นมา เธอบริสุทธิ์มาก อาจจะเป็นเพราะ เธอตัวเบา จงจิ่งห้าวแทบจะไม่ต้องออกแรงอะไรเลย
เธอมองดูชายหนุ่มด้วยความใกล้ในระดับนี้ หลินลุยซึมองเขา อย่างละเอียด คุณพ่อหล่อมากเลย
เธอยื่นมือออกไปกอดคอเขาแน่นมาก ราวกับกลัวว่าเขาจะวางเธอลง หัวของเธอฝังเข้าไปตรงซอกแขนของเขา
หลินซินเหยียนอยากจะอุ้มเธอกลับมา “เสี่ยวลุย…
“หม่ามี้คะ หนูอยากให้แต๊ดดี้อุ้ม” น้ำเสียงของเธอเหมือนจะ ร้องไห้ ในใจของเธอ เธอเฝ้าหวังว่าจะมีพ่อ เฝ้าหวังอยากจะให้ พ่ออุ้มเธอ
เฝ้าหวังว่าจะมีคนให้เธอเรียกเขาว่าแด๊ดดี้
“ผมอุ้มเอง” ไม่ได้รับการปฏิเสธอย่างที่จินตนาการไว้ สาว น้อยที่อ่อนโยนและน่ารักเช่นนี้ไม่มีใครปฏิเสธได้
หลินซินเหยียนรู้สึกจนใจ “แต่ก่อนเธอไม่เคยเป็นแบบนี้”
จงจึงห้าวมองเธออย่างเรียบเฉย เยาะเย้ยที่มุมริมฝีปากของ เขา “ไม่มีแด๊ดดี้ตั้งแต่เด็ก ย่อมขาดความรักเป็นธรรมดา”
หลินซินเหยียนยืนอยู่ตรงนั้นสีหน้าสงบนิ่งแต่ในใจกลับ เหมือนจะถูกกรงเล็บเหล็กแน่น แน่นจนเธอหายใจไม่ออก มี เพียงความรู้สึกเจ็บปวดตุบๆ เท่านั้น
เธอก้มหน้าแล้วเดินเข้าไปวางของ
จงจิ่งห้าวอุ้มหลินลุยซีไปที่ห้องนั่งเล่นและให้เธอนั่งบนตัก จากนั้นก็มองหน้าเธอ เธอหน้าตาเหมือนหลินเฉินมาก แต่เธอ น่ารักน่าเข้าใกล้กว่าหลินซีเฉิน
หน้าขาวเหมือนเครื่องลายครามไร้ที่ติ ละเอียดอ่อนและอ่อน นุ่มซึ่งทำให้คนอดไม่ได้อยากจะเข้าไปหยิก
เมื่อคิดแบบนี้จงจิ่งห้าวก็ทำแบบนั้น แก้มมีความยืดหยุ่นและ เรียบเนียนมากเมื่อถูกหยิกอยู่ระหว่างนิ้ว “หนูชื่อเสี่ยวลุ่ยเหรอ?”
หลินลุยซีพยักหน้ายิ้มด้วยปากสีชมพูเล็กๆ ของเธอ เผยให้ เห็นฟันขาว “หม่ามีบอกว่า เดี๋ยวลุ่ย อ่อนหวาน แสงตะวัน ตะวัน ยามเช้า บานสะพรั่ง ความหวัง”
หลินซินเหยียนไม่เพียงแต่หวังว่าลูกสาวของเธอจะมีความงาม ที่ผู้หญิงควรมีเท่านั้น แต่ยังหวังว่าเธอจะเปล่งประกายราวกับ ดวงตะวันอีกด้วย
เพราะเธอลูกสาวของเธอ จึงหวังให้เธอไม่มีความมืดมน มีแต่ เจิดจรัสตลอดไป
เธอกะพริบตาแล้วมองจงจึงห้าว “เพราะไหมคะ?”
“เพราะจ้ะ”
ไม่ใช่พูดแบบขอไปที แต่มันเพราะจริงๆ หลินซินเหยียนตั้งชื่อ ลูกได้ดีมากๆ
หลินลุยยิ้มอย่างมีความสุขและเอนกายลงในอ้อมแขน ใบ หน้าเล็กๆ ของเธอกดทับที่หน้าอกของเขาและฟังเสียงหัวใจของ เขา “แด๊ดดี้”
เส้นประสาทของจงจึงห้าวดึงขึ้นมาอีกครั้ง สองคำนี้ เขาอายุ ตั้งสามสิบกว่าปีแล้ว เพิ่งจะเคยได้ยิน
ทำให้เกิดความตื่นเต้นในใจอย่างบอกไม่ถูก
เหมือนกับน้ำนิ่งที่สงบนิ่งถูกก้อนหินก้อนหนึ่งที่ตกลงมาอย่าง ไม่ทันตั้งตัว ก่อให้เกิดคลื่นเป็นชั้นๆ กระทบหัวใจของเขาเป็นระ ลอกๆ
ไม่สามารถจะสงบนิ่งได้อีก
มือเล็กๆ ของหลินลุยซีจับที่คอเสื้อของเขา และตลาไปเรื่อยๆ
จงจิ่งห้าว
เขาจับมือของเธอ หลินลุยซีคว้าขอเสื้อของเขาแน่น “เสี่ยวลุย จะเอานมนม”
จงจิ่งห้าว “.….”
เขาไม่มีของพวกนั้นหรอกนะ
“หม่ามีก็มี” เธอกะพริบตาปริบๆ ทำไมแด๊ดดี้ไม่มี?
หลินลุยซียังคงขยับมือเล็ก ๆ ของเธอต่อไปและสัมผัสหน้าอก ของเขาอย่างสะเปะสะปะมันแบน ๆ และแข็งมาก “ของแม่มันนุ่ม ๆ ทำไมคุณพ่อไม่มี?” หลินลุยซีรู้สึกน้อยใจ
จงจึงห้าวหน้านิ่วคิ้วขมวดกว่าเดิม
เขาแหงนหน้าขึ้นแล้วถอนหายใจแรง
ไม่ใช่ว่าเป็นฝาแฝดกับหลินซีเฉินรึไง?
ทำไมถึงได้มีบุคลิกต่างกันดั่งฟ้ากับเหวแบบนี้?
เห็นได้ชัดว่าหลินซีเฉินเป็นคนอิสระและเธอก็เป็นคนที่ติดคน
ตอนนี้เองที่โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นแต่เขากลับไม่มีแก่ใจ จะดูอะไร
หลินลุยซีรู้สึกแปลกๆ เอื้อมมือไปแตะกระเป๋าของเขา และ ตั้งใจเตือน “คุณพ่อคะ โทรศัพท์มือถือดังค่ะ”
“อือ”
“หนูหยิบให้นะ” หลินลุยพูดเอาใจ
เธออยากให้พ่อชอบเธอ เธอจะต้องทำตัวดีๆ
หลินลุยซีหยิบโทรศัพท์ออกมาและมีข้อความวิดีโอปรากฏบน หน้าจอ เธอกะพริบตา และนิ้วก้อยของเธอปัดไปเปิดโดยไม่ได้ ตั้งใจ
ในไม่ช้าภาพภายในก็ปรากฏขึ้น
“หม่ามี้ นมนม” หลินลุยคนบนหน้าจอได้
จงจิ่งห้าวขมวดคิ้ว เขาก้มลงมองและเห็นภาพที่เล่นในวิดีโอ…
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ