กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 122 ให้ฉันก่อนสักหน่อย



บทที่ 122 ให้ฉันก่อนสักหน่อย

หลินซินเหยียนคิดว่ามีคนมา จึงเงียบลง

แต่เธอก็พบว่ารอบข้างไม่มีคนเลย

กลับมีแต่ความเงียบ

“คุณทําอะไรน่ะ?” หลินซินเหยียนถาม

จงจิ่งห้าวซ้อนตาลง ขนตาของเขาสั่นเล็กน้อย

ตอนนี้เธออยู่ในท่าที่แปลกประหลาดและนั่งอยู่บนตักของเขา ด้วยท่าที่มันหมิ่นเหม่เป็นที่สุด

หน้าของเธอแดงจนถึงจุดที่คอของเธอก็แดงขึ้นมาด้วยเหมือน กับกุ้งต้ม

“คะ…คุณ”

หลินซินเหยียนเอื้อมมือออกไปเพื่อปิดมัน แต่จงจึงห้าวคว้าข้อ มือของเธอและจับไว้ด้วยมือเขาทำให้เธอไม่สามารถเคลื่อนไหว

ได

ลูกกระเดือกของจงจึงห้าวกระดกขึ้นลง ดวงตาของเขามีแสง เปล่งประกายราวกับน้ำกลายเป็นเมฆหมอก

เขาหัวเราะออกมาด้วยเสียงแหบพร่า “ในเมื่อคิดจะฆ่าฉันแล้ว จะปล่อยให้ฉันตายอย่างค้างคางั้นเหรอ?”
สมองของหลินซินเหยียนขาวโพลน

ตอนนี้เธอลืมที่จะตอบสนองและสูญเสียความสามารถในการ คิดไปแล้ว

“เมื่อไหร่จะยอมรับฉันล่ะ?” ริมฝีปากของเขาเขยิบมาใกล้ อย่างเชื่องช้า ลมหายใจทำให้หลินซินเหยียนสั่นสะท้าน กระแส ไฟฟ้าวิ่งผ่านผิวหนังของเธอกระจายไปตามแขนขาของเธอ

ดวงตาของเธอปกคลุมไปด้วยหมอกบางและตื้นเขิน

“ฉันไม่รู้”

“แต่ฉันรอไม่ไหวแล้วนะ” สายตาที่เร่าร้อนของเขาร้อนแรงดั่ง พระอาทิตย์กลางทะเลทรายกำลังแผดเผาเธอจนทำให้เธอพูดไม่ ออกอยู่นาน

“เธอไม่พูดฉันจะถือว่าเธอยอมรับไปโดยปริยาย

มือข้างหนึ่งลูบหลังเธอลงมาเอวเธอ…

แสงจ้าสะท้อนจากกระจกมองหลังและกระทบกับดวงตาของ หลินซินเหยียนเธอเงียบในทันทีและผลักชายคนนั้นออกไป “ไม่ ได้ค่ะ ฉันยังไม่ได้เตรียมตัว คุณรับปากว่าต้องให้ฉันยินยอม ก่อน”

“เมื่อกี้เธอก็ยอมรับแล้ว

หลินซินเหยียน “

“ฉันเปล่านะ” เธอปฏิเสธ
“เหมือนจะมีคน” หลินซินเหยียนมองจากกระจกด้านหลังเห็น รถสีดำาคันหนึ่งจอดอยู่

จงจิ่งห้าวคิดว่าเธอกำลังหาข้ออ้างจึงได้กัดริมฝีปากแล้วพูด

“อย่ามาหลอกผม

หลินซินเหยียนสีหน้าจริงจัง “ฉันไม่ได้หลอกนะคะ รถสีดำ ทะเบียน 2Q6668

จงจิ่งห้าวอึ้งไปแล้วหันกลับไปดู

สีหน้าของเขาขรึมลงเล็กน้อย บรรยากาศที่เร่าร้อนกลับกลาย เป็นเย็นชา

“คุณรู้จักเหรอคะ?” หลินซินเหยียนดูออกว่าสีหน้าของจงจึง ห้าวเปลี่ยนไป

เขาลืมเบาๆ

นั่นมันรถของพ่อเขาเอง เขาจะไม่รู้จักได้ยังไง?

เขามาทําอะไรที่นี่ตอนนี้

เขาติดกระดุมเสื้อให้หลินซินเหยียนแล้วสั่ง “นั่งอยู่ในรถอย่า

ไปไหน”

หลินซินเหยียนพยักหน้า

เมื่อเขาจัดการกับหลินซินเหยียนเรียบร้อยแล้วจึงเปิดประตูรถ ลงไป เดินไปที่รถที่จอดอยู่ข้างหลัง

“เป็นจิ่งห้าวจริงด้วยค่ะ” ซิ่วพูดกับสามี
จงเฟิง สีหน้าเคร่งขรึม “เขาออกมาทำอะไรที่นี่ตอนนี้?”

ทำไมยิ่งอยู่ยิ่งไม่คงเส้นคงวานะ?

เดิมทีจงฉีเฟิงต้องการจะมาหาจงจิ้งห้าวด้วยตัวเองแต่ ซิ่วก ลัวว่าพวกเขาจะทะเลาะกันดังนั้นจึงตามมาด้วย

ลุงเพิ่งลงจากรถแล้วพูดกับจงจึงห้าวด้วยความเคารพ

“คุณชาย”

จงจึงห้าวไม่สนใจ แต่มองไปที่คนในรถ

“ว่างไหม?” จงฉีเฟิงถาม

จงจิ่งห้าวตอบเสี่ยงๆ ด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อน “มีอะไรครับ?”

“ไม่มีอะไรแล้วมาหาแกไม่ได้รึไง?” จงฉีเฟิงอยากจะคุยกับเขา อย่างสันติ แต่เขาก็มักจะมีท่าทางเย็นชาอยู่เสมอ

พอเห็นเขาก็โกรธ

ยู่ซิ่วจับมือเขาไว้และปลอบเขาอย่างเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้เขา โกรธ

จงจิ่งห้าวหัวเราะออกมา “พ่อมีเวลาไหมล่ะ?”

ตอนเขาอายุยี่สิบปี จงฉีเฟิงก็สละตำแหน่งแล้วยกบริษัทให้กับ

เขา

ตั้งแต่นั้นมา เขาก็เคยถามอะไรเกี่ยวกับบริษัทอีกเลย และอยู่ แต่บ้านเพื่อออ๋อกับผู้หญิงคนนี้เท่านั้น
จงจิ่งห้าวคิดบ่อยๆ ว่าถ้าหาเขากับผู้หญิงคนนี้มีลูกด้วยกัน บริษัทคงจะถูกส่งมอบให้กับลูกของพวกเขากระมัง

เขาไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ แต่เขารับไม่ได้ถึงจิตใจที่ เปลี่ยนแปลงไปของจงเฟิง

แม่ของเขาจากไปไม่ถึงเดือน เขาก็พาผู้หญิงคนนี้เข้าบ้านแล้ว

เป็นที่ชัดเจนมากว่า พวกเขาไม่ได้เริ่มคบหากันหลังจากที่แม่ เขาเสีย

“นี่แกทําท่าทําทางอะไร?” จงฉีเฟิงขมวดคิ้ว

ด้วยท่าทางประชดประชันอย่างเปิดเผยแบบนั้น จะให้เขาไม่ โมโหคงยาก

ยซิวมองดูสามีแล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ พ่อลูกคู่นี้มักจะ

เผชิญหน้ากันเสมอ

เธอผลักประตูรถลงมาด้วยท่าทางถ่อมตน “เหอเหวินหวยไป หาพ่อเธอที่บ้าน เพราะข่าวเรื่องหนึ่ง

จงจิ่งห้าวพูดออกมา “เรื่องของผม คุณไม่ต้องยุ่ง

เมื่อพูดจบก็ไป

“พวกเราก็แค่เป็นห่วงเธอนะ” ซิ่วมองร่างสูงใหญ่ของเขา ด้วยแววตาอบอุ่นเล็กน้อย “แม้ตระกูลเหอจะตกต่ำ แต่ก็ยังมีชื่อ เสียงและยังคงมีเส้นสาย การหักหน้าพวกเขา ฉันกลัวว่าจะไม่ เป็นผลดีกับเธอนะ
จงจิ่งห้าวทําหูทวนลมและยังคงก้าวเดินต่อไป

“หยุดนะ!” จงฉีเฟิงตะโกน เขาพูดเสียงขรึม “ตอนนี้แกคบอยู่ กับผู้หญิงแบบไหน?”

เท้าของจงจิ่งห้าวหยุดก้าวเดินและยืนอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งจึง ค่อยๆ หันมาแล้วมองไปที่ชายผมขาวที่ยืนอยู่ใต้ไฟส่องถนน “แล้วผมเคยถามพ่อสักคำไหมว่าคบกับผู้หญิงแบบไหนอยู่?

จงฉีเฟิงโกรธจนตัวสั่น “มันตั้งกี่ปีแล้ว แกควรจะปล่อยวางได้ แล้ว!”

“ผมไม่ยุ่งกับพ่อ พ่อก็อย่ามายุ่งกับผม” ครั้งนี้เขาไม่ได้พูดจา รุนแรงอะไร มีเพียงน้ำเสียงที่เย็นชามากเสียจนไร้ความรู้สึก เหมือนกับกําลังพูดอยู่กับคนแปลกหน้า

เมื่อพูดจบเขาก็หันหลังกลับแล้วเดินไปอีกสองก้าวแล้วหยุด เขาไม่ได้หันกลับมากลับพูดขึ้นกับคนที่อยู่ด้านหลัง “เรื่องข่าวนั่น ผมเตรียมการไว้แล้ว”

จงฉีเฟิงหงุดหงิด “ไป กลับบ้าน

ยวยืนอยู่ข้างทางไม่ไปไหน มองดูร่างสูงที่เดินห่างไกลออก ไปทุกที

“ไปเถอะ” จงฉีเฟิงดึงมือของซิ่ว

เขาเชื่อมั่นในความสามารถของจงจึงห้าว เชื่อว่าเขาจะ สามารถจัดการมันได้ดี
เขารับช่วงต่อว่านเยวกรุ๊ปตั้งแต่อายุยี่สิบ ตั้งแต่เพิ่งเรียนจบ มหาวิทยาลัยจนถึงตอนนี้ ความสำเร็จที่เขาทำมาทั้งหมดทำให้ เขาทะนงตนและหยิ่งยโส

“ฉันแค่อยากจะเห็นเขา” ซิ่วเช็ดที่มุมหางตา จงเพิ่งยืนอยู่ข้างเธอกุมมือเธอแน่นและมองดูเขาเช่นกัน “เธอคงจะมีความสุข”

ซิ่วรู้สึกเศร้าเล็กน้อย ใช่เธอควรจะมีความสุข

จงจิ่งห้าวกลับเข้าไปในรถและขับรถออกไปเงียบๆ

หลินซินเหยียนสังเกตได้ว่าเขาอารมณ์ไม่ดีจึงไม่ถามอะไรและ นั่งเงียบๆ อยู่ข้างๆ

เขาขับรถไปอย่างไรจุดหมายเพียงแค่เตร็ดเตร่อยู่ในเมือง

หลินซินเหยียนยื่นมือออกไปกุมหลังมือเขา

เธอเข้าใจความรู้สึกของเขา

เมื่อก่อนเธอเคยได้ยินเรื่องของเขากับจงเพิ่งที่ไม่ลงรอยกัน มาบ้างจากปากแม่ของเธอ

เมื่อครู่เธอเห็นคนที่ลงมาจากรถ ซิ่วเคยมาพบเธอ ดังนั้นเธอ จึงรู้จัก

ยู่ซิ่วไม่ได้ให้ความรู้สึกที่แย่กับเธอ ไม่ให้ความรู้สึกของคนที่ เป็นเมียน้อยเลย

แต่ที่สุดแล้วก็ยังตกอยู่ในฐานะเมียน้อย
“พ่อฉันทิ้งแม่ไป ฉันเข้าใจความรู้สึกคุณนะ

จงจิ่งห้าวมองมือของเธอที่กุมมือเขาไว้แล้วหันพวงมาลัยเพื่อ นํารถจอดเทียบข้าง เขายื่นมือออกไปกอดเธอ เมื่อร่างกาย อบอุ่นและอ่อนนุ่ม โอบกอดเขา เขารู้สึกว่าจิตใจของเขาไม่ว่าง เปล่าขนาดนั้นอีกต่อไป

เขาก้มหน้าลงที่ซอกคอเธอฝั่งหน้าลงบนผมของเธอแล้วพูด เบาๆ “ขอฉันกอดเธอสักพัก สักพักก็พอ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ