บทที่ 109 อย่าดีกับฉันมาก
จงจึงห้าวเงยหน้าขึ้นมา พลางมองไปบนมือที่กำลังกุมหน้าอก ของเธออยู่ จากนั้นก็ถามไปตรงๆ “ลวกถูกหรือเปล่า?
หลินซินเหยียนหันไป เพราะรับกับสายตาเขาที่มองมาตรงๆ ไม่ได้ “เปล่า”
เมื่อพูดจบก็หันเดินไปทางห้องประชุม ก่อนจะนั่งลงบนโซฟา พลางก้มหยิบกระดาษทิชชู แล้วมาเช็ดน้ำบนคอ
แสงด้านหน้า จู่ๆ ก็ถูกปิดกั้นไป ไม่รู้ว่าจงจึงห้าวเดินมาตั้งแต่ เมื่อไหร่ หลินซินเหยียนกระแอมเบาๆ “คุณมีเรื่องอีกมากที่ต้อง
จัดการไม่ใช่เหรอ? มาตรงนี้ทำไม?
ตอนที่เธอเอาน้ำไปให้ บนโต๊ะทำงานของเขามีเอกสารที่ต้อง เซ็น กองเป็นตั้งๆ
จงจิ่งห้าวทำเหมือนไม่ได้ยิน ก่อนจะหยิบกระดาษทิชชูในมือ เธอไป “เดี๋ยวฉันช่วยคุณเช็ดเอง”
“ไม่ต้อง” หลินซินเหยียนคว้ามาจากมือเขา แต่เมื่อเขายกมือ ขึ้น เธอก็คว้าได้แต่อากาศ
“ฟังหน่อย” จงจึงห้าวนั่งยองลง ตรงหน้าขาทั้งสองข้างของ เธอ ก่อนจะดึงปกคอเสื้อของเธอเบาๆ เพื่อเช็ดน้ำบนตัวเธอ
เขาก้มหน้าลง ก่อนจะเห็นขนตายาวๆ ทำให้เกิดเงาสาดมาที่ ใบหน้าของเขา ท่าที่จริงจัง เหมือนกำลังเช็ดเครื่องเคลือบราคา แพงอยู่เลย มันทำให้หลินซินเหยียนนิ่งไปสักพัก
เธอหันหัวไปเบาๆ เพราะไม่อยากมองเขามากเกินไป เธอกลัว
กลัวว่าทั้งหมดนี้ มันจะเป็นแค่ฝันที่สวยงามเท่านั้น
ไม่ใช่ความจริง
“อย่าทำดีกับฉันมากเกินไป” เธอไม่อยากหลงไปมาก
หลงความอบอุ่นของเขา เธอลืมตำแหน่งของตัวเองไปสักพัก แต่ว่าเรื่องจริงมันก็ยังมี
หลังจากคืนนั้น เธอก็คิดว่าชาตินี้เธอคงไม่มีความรักแล้ว
อยู่
เธอสูญเสียคุณสมบัติที่สวยงามไปเสียแล้ว
เธอเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าจงจึงห้าวนั้นสร้างบาดแผลลึกให้กับ ใจของเธอ ถึงจะไม่ถึงกับไม่มีทางหายไป แต่ก็กลับไม่สนใจมัน ไม่ได้ เธอเหมือนจะชินแล้ว กับความเอาแต่ใจของเขา ท่าทีที่ไม่ เหมือนปกติ บางทีก็อบอุ่น ค่อยๆ เอาใจที่เธอไม่เปิดให้ใครไปที ละเล็กทีละน้อย
เขายิ้มเบาๆ “ฉันอยากทำดีกับคุณ หลินซินเหยียนตาแดงบริเวณรอบดวงตาเล็กน้อย เขาไม่อยากให้จงจึงห้าวรู้เลยพูดเสียงแข็ง “ตาไม่ถึง
ครั้งแรกที่ได้ยินคนดูถูกตัวเองแบบนี้ เขายิ้มมุมปากขึ้นมา “ตาไม่ถึงจริงๆ ด้วย ถึงสวยแต่ก็ไม่ควร มอง”
ทำไมถึงเสียดายอย่างน่าประหลาดใจขนาดนี้นะ?
เขามองผู้หญิงตรงหน้าอย่างละเอียด หน้าตา จมูก ริมฝีปาก คาง แก้มของเธอ ไม่ได้โดดเด่นมากเท่าไหร่ แต่เมื่อมารวมกัน มันกลับน่ามองมากจริงๆ
หกปีก่อนหน้านี้เธอให้คนรู้สึกถึงความบริสุทธิ์ เหมือนผู้หญิง ใสๆ
แต่เมื่อเธอผ่านเรื่องราวมากมายมาในชีวิต ความนิ่งและ ความอ่อนโยนยิ่งทำให้มีความเป็นหญิงมากขึ้น
ก็อกๆ…
ประตูใหญ่ของห้องทำงานถูกเคาะ ท่าทีของจงจิ่งห้าวเลย ชะงักไป ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับเธอสักพัก เขาเลยยืนขึ้น ก่อนจะเอาสูบบนโซฟาส่งให้เธอ “ใส่ซะ”
หลินซินเหยียนก้มหน้ามองท่าทีของตัวเอง ก่อนจะรับมา คลุม บนตัว
เธอจัดการจนได้ดี จงจิ่งห้าวถึงจะพูดเสียงต่ำ “เข้ามา”
กวนจิ้งพาหยูโต้วโต้วเดินเข้ามา
หยูโต้วโต้วมาที่นี่เป็นครั้งแรก ตอนเดินเข้ามาก็สอดส่องอะไร มากมาย เมื่อเดินเข้ามาในห้องทำงานของจงจึงห้าวแล้ว ก็ยิ่ง ตกใจมากขึ้นไปอีก และคิดว่าคนมีเงินก็สามารถมีความสุขความ บันเทิงได้
ครอบครัวทั้งหมดของเขา ยังไม่ใหญ่เท่าห้องทำงานเขาเลย “นั่งลงเถอะ” กวนจิ้งเตือนเขา
หยูโวโวยิ้มไม่ออก เพราะรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ เมื่อครู่เหมือน จะเสียมารยาทไปสักหน่อย
เขานั่งลงตรงข้ามหลินซินเหยียน “ของที่คุณต้องการฉันเอามา ให้แล้ว คุณคิดดีแล้วว่าจะทำอย่างไรใช่ไหม?
หลินซินเหยียนเงยหน้าขึ้นมามองจงจึงห้าว พลางพยักหน้า
“ใช่ คุณเอาของมาให้ฉันเถอะ”
หยูโต้วโต้วไม่ได้หยิบออกมาทันที แต่พลางถามให้ถึงที่สุด “คุณอยากจะทำอย่างไรเหรอ? ฉันบอกคุณก่อนนะ คุณเพิ่งกลับ มาเลยไม่รู้สถานการณ์ภายในประเทศ ที่ทำการของทนายใน เมืองนั้นมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ทนายในนั้นมีแต่คนเก่งๆ ทั้ง นั้นเลย ถ้าพวกเราสามารถเชิญมาได้หนึ่งคน แล้วมาเป็นทนาย
ให้กับพวกเรา ก็มีโอกาสชนะได้มากขึ้น”
เมื่อพูดไป แววตาของเขาก็มืดลง “จริงๆ ฉันอยากจะเชิญมา สักคน แต่ว่าได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็นคนของตระกูลเหอ เลยปฏิเสธไป”
หลินซินเหยียน เข้าใจความหมายของจงจึงห้าวได้ในทันที ถ้าใช้เพียงหลักฐานในมือของหยูโต้วโต้ว เกรงว่าจะทําอะไร เหอรุ่ยหลินไม่ได้มาก
เดี๋ยวตระกูลเหอก็จะออกหน้ามาเอง แล้วจ่ายเงินเพื่อกลบเรื่อง นี้ไป
“ทำไมคุณไม่พูดอะไร? ” หยู โต้วโต้วจ้องมองหลินซินเหยียน “คุณเอามาให้ฉัน แล้วเดี๋ยวเอาเรื่องนี้มาให้ฉันทำด้วยเหมือน
“คุณเตรียมจะทำอะไรเหรอ คุณสามารถช่วยได้นะ” หยูโต้วโต้ วไม่ใช่ไม่เชื่อในตัวหลินซินเหยียน เพียงแต่ว่านี่ไม่ใช่เรื่องของ คนคนเดียว แต่พวกเขาทั้งสองคนก็ต้องขยันขันแข็งด้วย จะเอา ภาระไปให้เธอคนเดียวไม่ได้
เขารู้ว่าเรื่องนี้มันไม่ง่าย
ถึงอย่างไรมันก็ผ่านไปหกปีแล้ว
หลินซินเหยียนจับสูทบนตัว ก่อนจะพูดเสียงอ่อนโยน “คุณ ควรจะตรวจสอบได้แล้ว เรื่องนี้มันไม่ง่าย ตระกูลเหอเป็นคน มีหน้ามีตา ไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นแน่นอน คุณกับฉันคงทำอะไร ไม่ได้”
“งั้นทำอย่างไรดี? ” หยูโต้วโต้วนั่งไม่ติด เลยลุกขึ้นมาจากโซฟาทันที
“คุณไม่ต้องร้อนใจไป” หลินซินเหยียนรีบปลอบเขา “ดังนั้น ฉันเลย ให้คุณเอาของมาให้ฉัน ส่วนเรื่องเหล่านี้มีคนช่วยพวกเรา อยู่แล้ว”
“ใคร……
หยูโต้วโต้วมีสติกลับมาอย่างรวดเร็ว
เขาตกใจจนอ้าปากค้าง เพียงไม่นานเขาก็รีบปิดปาก จนเม้ม ปากอย่างแรง
เขาชี้ไปทางผู้ชายที่มีหน้าตาเย็นชาที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความ ระมัดระวัง “เขาจะช่วยพวกเราเหรอ? ”
หลินซินเหยียนพยักหน้า
เขารีบชักมือกลับ ก่อนจะจับนิ้วของตัวเองที่เพิ่งยื่นออกไปเมื่อ
เมื่อมีสติก็รีบเอาของที่เขาเอามานั้นวางลงบนโต๊ะ “ถ้าต้องการให้ฉันทำอะไร ก็รีบบอกนะ” หยูโต้วโต้วยิ้มสดใส
หลินซินเหยียนมองเล็กน้อย มันเป็นของที่เขาเคยให้ตัวเองดู แล้วจริงๆ ด้วย
ในขณะเดียวกัน
ประตูของที่พักของหลินซินเหยียนนั้นถูกเคาะขึ้น
จวงจื่อจิ่นไปเปิดประตู
มีผ้าคลุมอยู่บนหัวของเหอรุ่ยเจ๋อ และได้ทำแผลแล้ว แล้วก็ เปลี่ยนชุดไปแล้ว
จวงจื่อจิ่นอึ้งไป “หัวของคุณ ไปโดนอะไรมาเหรอ? ทำไมเป็น แผลล่ะ? ”
แววตาของเหอรุ่ยเจ๋อนั้นเปลี่ยนไป ก่อนจะยิ้มให้ “ชนเพราะ ไม่ระวังนะ”
“ระวังหน่อยนะ” จวงจื่อจีนพูดด้วยความเป็นห่วง
ถึงอย่างไรก็รู้จักกันมานานแล้ว ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าลูกสาวกับเขา นั้นไม่มีทาง แต่ว่าก็น่าจะไม่ขาดมารยาทที่ควรมี
“แน่นอน แล้วเหยียนเหยียนล่ะ? ” เขามองภายในห้อง แต่ไม่
เห็นแม้แต่เงาของหลินซินเหยียน
“ไม่กลับมาทั้งคืน กลับมาตอนเช้าก็จะออกไปอีกแล้ว ไม่รู้ว่า ยุ่งอะไรขนาดนั้น” จวงจื่อจิ่นพูด
“อ๋อ คือ ฉันมาหาเธอ ทำไมคุณป้าไม่ให้ฉันเข้าไปล่ะ? ” เห อรุ่ยเจ๋อยิ้มพลางถาม
“อ๋อ ฉันลืม” จวงจื่อจีนรีบเปิด แล้วให้เขาเข้ามา
เหอยเจ๋อเดินเข้ามาด้านใน “เด็กสองคนล่ะ? ”
จวงจื่อจีนมือที่ผ้ากันเปื้อน พลางเทน้ำให้เขา “เสี่ยวซีพา เสี่ยวลุ่ยไปเล่นอยู่ในห้อง
“อ๋อ” เหอยเจ๋อนั่งลงบนโซฟา พลางถามด้วยความมี มารยาท “เหยียนเหยียนกลับมาแล้วได้พูดอะไรหรือเปล่า?
เขาเอาน้ำมาแก้วหนึ่ง ก่อนจะปิดความร้อนรนในใจ “เปล่า กลับมาดูลูกสองคน แต่ก็ไม่ได้กินข้าวในบ้านนะ” จวง
จื่อนยิ้มให้
“เมื่อคืนฉันไม่ได้เจอเหยียนเหยียนแล้วเหรอ ฉันพูดเรื่องของ พวกเราทั้งสองคนอีกครั้ง เหมือนเธอจะโกรธ เลยรีบออกไปเลย ล่ะ ฉันกลัวว่าเธอจะโกรธ ดังนั้นเลยมาดูเสียหน่อย
จวงจื่อจีนมีรอยยิ้มบนใบหน้า ไม่เหมือนกับลูกสาวเลยล่ะ
ถึงเธอจะปฏิเสธ แต่ก็คงไม่ทอดทิ้งคนกลางคันหรอก เธอแบ่งแยกออกอยู่ไม่น้อย
ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบเหอยเจ๋อ แต่ว่าหลายปีมานี้เขาก็ช่วยเธอ ไม่น้อย คงไม่หักหน้าเขา ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง
“คุณป้า ตอนเที่ยงฉันอยากชวนพวกคุณไปกินข้าว แล้ว ขอโทษเหยียนเหยียนสักหน่อย” เหอยเจ๋อแววตาเป็นประกาย เพราะไม่กล้ามองไปทางจวงจื่อจีนตรงๆ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ