บทที่ 35 โอกาสดีที่ไม่ได้มาง่ายๆ
นิ้วมือของจงจิ้งห้าวที่จับพวงมาลัยรถอยู่นั้นขยับเล็กน้อย เหลือบตามองเธอแล้วพูดว่า”ก็พอใช้ได้”
หลินซินเหยียนผ่อยคลายลงไม่พูดอะไรอีก
ทั้งสองไม่มีบทสนทนากันเลย
บรรยากาศในรถเงียบสงบ
สายตาของหลินซินเหยียนนั้นไปหยุดอยู่ที่มือที่จับพวงมาลัย ของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ นิ้วมือเขานั้นเรียวยาว สัดส่วนข้อนิ้ว ชัดเจน เล็บมือตัดอย่างสะอาดเรียบร้อย ดูดีน่ามองเป็นอย่าง มาก
ทำให้คนที่มองนั้นสามารถที่จะจดจำได้เหมือนกับเจ้าตัวเลย
“สวยไหม?” เขาพูดโดยที่ไม่หันมามอง
ตอนนี้หลินซินเหยียนถึงจะรู้ตัวว่าเมื่อสักครู่เธอมองตาค้างไป แล้ว จึงรีบหันออกไปมองนอกหน้าต่าง ทำเป็นไม่ได้ยิน
จงจึงห้าวหันไปมองเธอ มุมปากยกยิ้มบางๆ “ใบหน้าของผม ดูดีกว่านิ้วมือใช่ไหม?”
หลินซินเหยียนยังคงทำเป็นไม่ได้ยิน เลยหลับตาทำเป็นว่า
นอนซะเลย
ในใจก็อดที่จะบ่นขึ้นมา ไหนละสง่าสุขุมที่ว่า
ทําไมตอนนี้ถึงเหมือนเป็นคนขี้อวยตัวเองขนาดนี้?
ผ่านไปประมาณยี่สิบนาที รถคันหรูก็จอดที่หน้าตระกูลหลิน แล้ว
หลินกั๋วอันกลับมานานแล้ว เสิ่นวนิ่งเตรียมอาหารเย็นอย่าง หรูหราน่าทาน หลินถั่วอันพอใจเป็นอย่างมาก ความโกรธเคือง ก่อนหน้าก็หายไปหมด
“คุณหนูกลับมาแล้วค่ะ” คนใช้เดินเข้ามาแจ้ง
หลินกั๋วอันมองไปที่เสิ่นซิ่วฉิงและหลินหยู่หาน พูดเตือนว่า “เรื่องครั้งนี้สำคัญกับผมมาก อย่าทำให้เสียงานก็แล้วกัน!”
เงินซิ่วฉิงเก็บความโกรธไว้ ส่งยิ้มให้เขาแล้วจัดชุดสูท ให้คุณวางใจเถอะค่ะ มาฉันไม่ตีกลับ ด่ามาฉันก็จะไม่ด่ากลับ ก็คือจะทำให้นางนั้นหายโกรธ ให้นางช่วยบริษัทของเราผ่านช่วง วิกฤต เรื่องทางบริษัทฉันช่วยอะไรคุณไม่ได้ เรื่องแค่นี้ฉันก็ยัง พอทําให้คุณได้อยู่”
หลินกั๋วอันรู้สึกไม่เสียแรงที่รักเธอ “รอจัดการเรื่องของบริษัท ได้แล้วผมจะทดแทนให้คุณเอง
พูดจบหลินกั๋วอันก็เดินออกไปต้อนรับพวกเขาด้วยตัวเอง
หลินซินเหยียนยืนอยู่ข้างๆจงจึงห้าว ในมือก็ถือเอกสาร สัญญาที่ดินอ่าวรีพัลส์เบย์ที่อยู่ตรงอ่าวพัลส์เบย์
จงจึงห้าวมองไปที่เธอแล้วยกแขนขึ้นมา “ควงแขนผมไว้
หลินซินเหยียนยกมือขึ้นดวง แล้วก้าวเดินเข้าไปในบ้านพร้อม กัน
“ผมกำลังรออยู่เลย เข้ามาเร็วเข้า” หลินกั๋วอันเดินเข้ามาผาย มือเป็นการบอกให้เชิญเข้าไป
ณ ตอนนี้ไม่มีการถือตัวแม้แต่น้อย เหมือนคนต่ำต้อยที่เข้า
ประจบประแจงเอาใจ
กับหลินกั๋วอันแล้วจงจึงห้าวไม่เคยรู้สึกดีด้วยเลย มุมปากของ เขาเบ้เล็กน้อย ให้ความรู้สึกเยือกเย็นไปหมด เขาเพียงพยัก หน้าตอบ
หลินกั๋วอันหน้าตึง เดิมเขาคิดว่าตัวเองเป็นถึงคุณพ่อของหลิน ซินเหยียน เป็นพ่อตาของเขา อย่างน้อยก็คงไว้หน้ากันหน่อย ใครจะคิดว่าจงจิ่งห้าวนั้นไม่ไว้หน้าเขาเลยสักนิด
สีหน้าเขาถึงกับเอาไม่อยู่
หลินซินเหยียนยิ้มตอบว่า “เขาก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ
สีหน้าของหลินกั๋วอันถึงจะดีขึ้นมาบ้าง “รีบเข้ามาเถอะ”
เงินซิ่วฉิง ในวันนี้รับเป็นศรีภรรยาที่ดี กำลังวุ่นอยู่กับการจัด โต๊ะทานข้าว พอเห็นพวกเขาเดินเข้ามาก็ส่งยิ้มที่แสนฝืนใจออก ไปกลับมากันแล้วเหรอคะ มานั่งทานข้าวกันเร็ว เหยียนเหยียน ลูกรู้ไหมว่าตอนที่พ่อบอกว่าลูกจะกลับมา ก็เรียกแม่เตรียม อาหารไว้รอเลย บอกว่าต้องหรูหรา ไม่รู้ว่าพวกเธอพอจะทานได้ หรือเปล่า”
รอยยิ้มยังคงประดับอยู่บนใบหน้าของหลินซินเหยียน แสดง ละคร ใครจะทำไม่เป็นกัน?
“หนูก็ไม่ได้เป็นคนนอก ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้ก็ได้ค่ะ” พูด แล้วก็กระชับมือที่ควงแขนจงจึงห้าวไว้แน่นขึ้น
จงใจที่จะทำพวกเขาดู
เงินซิ่วจึงมองการแต่งตัวของหลินซินเหยียนก็รู้สึกหงุดหงิดใจ แต่สีหน้าของเธอก็ยังคงเต็มไปด้วยความเอ็นดู “ลูกพูดถูก”
หลินซินเหยียนเดินควงจงจึงห้าวไปนั่งลง ตรงข้ามเป็นเงิน ซิ่วฉิงกับหลินหยู่หาน
วันนี้หลินหยู่หาน ใส่กระโปรงสีแดง ใบหน้าถูกแต่งอย่าง สวยงาม อายุยังน้อยแต่กลับแต่งตัวเซ็กซี่เกินวัย หลินซินเหยียนเหลือบมองเธอไม่ให้เธอนั้นรู้ตัว
ยิ้มเยาะในใจ นี่คือคิดจะอ่อยจงจึงห้าวเหรอ?
ดูสายตาของนางสิ เธอพูดขึ้นเล่นๆว่า “น้องมองหน้าพี่เขยตัว เองขนาดนั้นทำไมเหรอ? บนหน้าเขามีดอกไม้บานอยู่หรือไง? หางตาของจงจิ่งห้าวกระตุกเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้นี่มัน
ผู้หญิงที่แต่งหน้าแต่งตัวจัดจ้านนั้นเขาพบเห็นมาเยอะแล้ว ชุด สีแดงเหมือนกัน แต่ หลินซินเหยียนที่ไม่แต่งหน้าเลยนั้นสวยงาม กว่า มองแล้วดูสบายตา
หลินหยู่หานรีบก้มหน้า
มือเสิ่นซิ่วฉิงที่อยู่ใต้โต๊ะนั้นกุมมือของหลินหยู่หานไว้ บ่งบอก ให้เธอกลั้นเอาไว้
“พอๆ นี่ก็คแล้วก็คงหิวกันแล้ว” หลินกั๋วอันหาโอกาสที่จะคุย กับจงจึงห้าว แต่กลับไม่มีหัวข้อดีๆที่จะเริ่มพูด
ตั้งแต่ที่จงจิ่งห้าวเดินเข้ามา ทำตัวเหมือนเป็นคนนอกตลอด
เวลา
เว้นแค่บางครั้งจะคีบอาหารให้หลินซินเหยียนบ้าง สวีทให้ เห็นว่ารักกัน
หลินกั๋วอันคอยจับตาดูอยู่อย่างเงียบๆ ในใจก็คิดไปด้วยว่า ลูกสาวที่ไม่ได้ให้เห็นดีคนนี้กลับทำให้จงจึงห้าวชอบได้
ทำให้เขานั้นมองลูกสาวคนนี้เปลี่ยนไปทันที
วันนี้หลินซินเหยียนไม่ได้คิดแค่มาทานข้าวหรอกนะ เธอหยิบ เอกสารสัญญาที่ดินนั้นขึ้นมาวางบนโต๊ะ “นี่คือสิ่งที่พ่อขอ วันนี้ หนูเอามาแล้ว สิ่งที่ตกลงกับหนูไว้พ่อคงไม่ได้ลืมหรอกใช่ไหม?”
ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้จงจึงห้าวยอมมาให้ท้ายเธอได้ เธอก็ต้อง ใช้โอกาสนี้เอาสิ่งที่เป็นของของแม่กับเธอนั้นกลับมาให้ได้
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินกั๋วอันเหมือนจะยิ้มไม่ค่อยออก แล้ว “เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ลูกอยากได้อะไรแค่ลูกพูดออก มาก็พอ”
ตอนนี้ที่บริษัทนั้นเกิดเรื่อง ที่ดินผืนนี้ให้เขาก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ณ ตอนนี้ต้องจัดการปัญหาภายในบริษัทก่อน
เขาพยายามส่งสายตาให้กับหลินซินเหยียน ให้เธอบอกให้ จงจิ่งห้าวเป็นคนพูด หลินซินเหยียนที่เข้าใจความหมายนั้นก็ทํา เป็นไข อ ถามไถด้วยความเป็นห่วงว่า “ตาเป็นตะคิวหรือเปล่า คะ?”
ถ้าไม่ใช่เพราะจงจึงห้าวอยู่ด้วย หลินกั๋วอันคงจะโกรธจน กระทืบเท้าแน่ๆ
จงจึงห้าวก็มองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง
ที่คือรู้แต่ทำเป็นไขสือชัดๆ
ก็ฉลาดอยู่ไม่น้อยน่ารัก
เงินซิ่วจึงออกมาพูดไกล่เกลี่ย คีบผักให้หลินซินเหยียน “เหยี ยนเหยียน ที่บริษัทของพ่อเกิดปัญหานิดหน่อย” พูดแล้วก็ มองไปทางจงจิ่งห้าว “ลูกกับจึงห้าว เป็นลูกเขยของเรา เรื่องนี้ คงต้องให้พวกเธอมาช่วยหน่อย ก่อนหน้านั้นที่แม่เคยทำอะไรไม่ พอใจให้ก็อย่าถือสากันนะ”
หลินซินเหยียนหน้าตึง จงจึงห้าวเป็นลูกเขยของเธอนั้นเหรอ กล้าที่จะเอาทองติดหน้าตัวเองซะจริง
“แล้วคุณเป็นคนคลอดฉันหรือเป็นคนเลี้ยงดูฉันกันล่ะ?” หลิน ซินเหยียนเอนตัวซบไปพิงที่อกของจงจึงห้าว เธอเงยหน้ามองไป ที่จงจึงห้าว “สามีของฉัน ทำไมถึงกลายเป็นลูกเขยคุณได้?”
เส้นวงกำมือสองข้างแน่น ใบหน้ายังคงยิ้มเข้าไว้ “แม่รู้ว่า ลูกโกรธที่พ่อกับแม่ในตอนนั้น แต่เราทั้งสองรักกันด้วยใจจริง
“วันนี้ที่หนูมาก็คือมาเอาสิ่งที่เป็นของๆหนูคืน!” หลินซินเหยีย นพูดแทรกเสิ่นซิ่วฉิงขึ้นมา รักกันอย่างจริงใจงั้นเหรอ?
เธอก็อยากรู้ว่าเมื่อผลประโยชน์อยู่ตรงหน้าแล้ว หลินกั๋วอันจะ เลือกเธอหรือผลประโยชน์
หลินกั๋วอันที่เห็นว่าไม่สามารถคุยกันต่อได้นั้นก็ลุกยืนขึ้น “ลูก ตามพ่อมาสักครู่
หลินซินเหยียนยืนขึ้นแล้วหันกลับไปมองจงจิ่งห้าว พูดด้วย ใบหน้าแต้มยิ้มว่า “เดี๋ยวฉันมานะ”
“อืม” เขาตอบรับเบาๆ
หลินซินเหยียนตามหลินกั๋วอันเข้าไปในห้องทำงาน
หลินกั๋วอันเปลี่ยนสีหน้าแสนเป็นมิตรที่ห้องทานข้าวเป็นสีหน้า เคร่งเครียดทันที “ลูกได้บอกกับจงจึงห้าวหรือยัง?”
หลินซินเหยียนมองสีหน้าของหลินกั๋วกัน แต่ก็ไม่มีผลกระทบ อะไรกับเธอ เหมือนว่าถูกทำร้ายมาเยอะแล้ว ก็เห็นเป็นเรื่อง ปกติไปแล้ว เอาของของหนูมาให้ฉันก่อน” โอกาสแบบนี้ไม่ได้มี ขึ้นง่ายๆ เธอต้องเอาสิ่งที่เป็นของเธอคืนมาก่อน
หลินกั๋วอันจ้องหน้าเธอเขม็ง “ของสิ่งนั้นให้ลูกได้แน่นอน แต่ ลูกต้องให้จงจิ่งห้าวช่วยบริษัทของพ่อผ่านช่วงวิกฤตนี้ให้ได้”
“คราวนั้นพ่อบอกว่าให้หนูเอาที่ดินผืนนั้นมาแลก ตอนนี้หนูเอามาแล้ว ส่วนเรื่องบริษัทก็เป็นข้อแลกเปลี่ยนอีกอัน หนูเคย บอกแล้วว่าจะให้คุยกับจงจึงห้าวให้ช่วยพ่อนั้นย่อมได้อยู่แล้ว แค่พ่อหย่ากับเงินซิ่วฉิง หนูก็จะช่วยพ่อเอง” พูดถึงตรงนี้แล้วหลิน ซีนเหยียนก็หยุดไปเล็กน้อย “พ่อก็เห็นแล้วว่าจงจึงห้าวนก็ชอบ หนูค่อนข้างมากอยู่ แค่หนูขอ เขาก็ตกลงแน่นอน”
หลินกั๋วอันนิ่งคิด
หลินซินเหยียนพูดเข้าไปอีกว่า “บริษัทสำคัญหรือเป็นผู้หญิงที่ ไม่สามารถมีลูกชายสำคัญ พ่อพิจารณาเองแล้วกัน”
พูดจบเธอก็เดินออกจากห้องไป
ทันใดนั้นเองหลินกั๋วอันก็เรียกเธอไว้ “พ่อตกลง
เป็นไปตามคาด
หลินซินเหยียนหยุดเดินหันกลับมามอง “ของของหนู หนูจะ เอากลับวันนี้”
เพื่อไม่ให้ยืดยาวไปมากกว่านี้ ของชิ้นใหญ่เอากลับไม่ไหวก็ เอาไว้ก่อน ของชิ้นเล็กกับเงินสามารถเอากลับได้ และค่ารักษา พยาบาลของแม่ในเดือนนี้ก็ใกล้ที่จะต้องจ่ายแล้ว
หลินกั๋วอันกัดฟันกรอด “เหยียนเหยียน พวกเราเป็นครอบครัว เดียวกัน”
หลินซินเหยียนยิ้ม “หนูรู้ แต่สิ่งที่เป็นของหนูกับแม่ก็ต้องเอา คืนให้พวกเราไม่ใช่หรอ?”
ครอบครัวเดียวกัน?
ตอนนี้คิดได้แล้วหรือไงว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ