บทที่91 หาผู้ชายที่ดีให้หม่าม
กินข้าวแล้ว ทั้งสองคนก็ออกไปจากร้านอาหาร
“คุณจะไปไหน เดี๋ยวผมไปส่งคุณเอง
หลินซินเหยียนคิดเล็กน้อย กลับบ้าน
ที่ร้านยังทำไม่เสร็จ ตอนนี้งานที่อยู่ในมือของเธอ ก็ยังให้ ประเทศAรับไว้
เธอนัดกับลูกค้าคนนั้นที่สั่งตัดชุดแต่งงานเรียบร้อย ว่าจะดู ภาพ
จากนั้นค่อยไปตัดชุด ตามแบบ และวัสดุที่เธอเลือกไว้
ได้ยินหลินซินเหยียนพูดว่าบ้าน จงจึงห้าวก็หันไปมองเธอ พูด เสียดสีเบาๆว่า “ลูกของคุณไม่มีแม้แต่พ่อ นับว่าเป็นบ้านได้ด้วย เหรอ? ”
หลินซินเหยียนอยากจะตอบโต้เขาไปสักประโยค แต่เธอยังไม่ ได้ทำ พอคำพูดอยู่ที่ปากเธอก็ต้องกล้ำกลืนลงไปอีกครั้ง
ถ้าเธอตอบโต้ล่ะก็ ไม่รู้ว่าเขาจะพูดอะไรอีก จึงหันหน้าไปจ้อง เขา แล้วก็เอนตัวเข้าไปนั่งในรถ
จงจิ่งห้าวยิ้มบางๆ
ด้านในรถเงียบมาก ไม่พูดอะไรบรรยากาศก็อึดอัดใจแปลกๆ หลินซินเหยียนพิงไปที่หน้าต่างรถ หลับตาลงแกล้งทำเป็น
หลับ
เทคนิคการแสดงของเธอนั้นไม่ยอดเยี่ยม แค่มองจงจึงห้าวก็ รู้ทันแล้ว แต่ว่าไม่ได้เปิดเผยเธอ
ผ่านไปประมาณยี่สิบนาที หลินซินเหยียนจึงแกล้งทําท่าทาง เพิ่งตื่นลืมตาขึ้นมา เธอนับเวลาไว้แล้ว แล้วรถก็มาถึงหมู่บ้าน พอดี
เธอขยี้ตา เปิดประตูรถออก แล้วเดินลงไป ขอบคุณนะ ขอบคุณที่เขามาส่งเธอกลับบ้าน
จงจิ่งห้าวแห่งนตัว ส่วนมือก็วางไว้ที่พวงมาลัย คำขอบคุณ
ของคุณไม่จริงใจเลย
มือหลินซินเหยียนที่ปิดประตูก็ชะงักไป คุณหมายความว่า อย่างไร?
“ถ้าอยากขอบคุณผม ไม่ใช่ว่าควรเชิญผมเข้าไปดื่มชาสักแก้ว หน่อยเหรอ? “มุมปากของเขามีรอยยิ้ม เหมือนว่ากำลังหยอก ล้อ
หลินซินเหยียนเป็นเป้าหมายที่เขาหยอกล้อ
หลินซินเหยียนปิดประตูรถเสียงดังปัง แล้วพูดอย่างเป็น ชา”เลี้ยงข้าวคุณไปแล้ว ก็แสดงความจริงใจของฉันแล้วไง
หลินซีเฉินมีความเป็นศัตรูต่อเขาหนักมาก ถ้าหากจวงจื่อจีน เห็นเขาก็จะไม่พอใจได้
เธอคงบ้าไปแล้ว ถึงให้เขาไปที่บ้านตัวเอง
หลินลุยซีกัดนิ้วมือ ตากลมโตจ้องอยู่อย่างนั้น มองไปที่หลิน นเหยียนที่ยืนอยู่ข้างถนน นั่นใช่หม่ามีไหม? ”
หลินเฉินกำลังคิดอยู่ว่า ทำอย่างไรถึงจะได้แท็บเล็ตและ โทรศัพท์มือถือจากในมือของหลินซินเหยียนคืนมา พอได้ยิน เสียงของน้องสาว ก็มองเธอหม่ามีที่ไหนกันล่ะ?”
หลินลุย ชี้ไปที่หน้าประตูหมู่บ้าน
หลินซีเฉินมองไป ก็มองเห็นหลินซินเหยียนยืนพูดกับใครตรง ข้างถนน ใบหน้าด้านข้างนั้น…
ทำไมถึงคุ้นขนาดนี้นะ
แป๊บเดียว เขาก็จำได้ ผู้ชายที่คุยกับหลินซินเหยียนนั้น ไม่ใช่ ผู้ชายที่ชอบล้อเล่นกับความรู้สึกของผู้หญิงนั่นเหรอ?
ทำไมหม่ามีถึงอยู่กับเขาล่ะ?
หลินซีเฉินซักสีหน้า แววตานั้นจ้องเขม็งอย่างหม่นหมอง หลินลุยซีดึงมือของเขา”พี่ พี่เป็นอะไรเหรอ? ”
หลินซีเฉินทำเสียงฮึดฮัด“เสี่ยวลุ่ย มองเห็นผู้ชายคนนั้นที่อยู่
ในรถไหม?
หลินลุยซีพยักหน้าอย่างซื่อสัตย์ เห็นแล้ว
“เขา…คือแด๊ดดี้ของพวกเรา “หลินซีเดินจับมือเล็กๆนั้นไว
เขาคืออดีตสามีของหม่านี้ ซึ่งก็คือพ่อของพวกเขานั่นเอง
หลินลุยซึกะพริบตา โลกของเธอนั้นไม่เคยปรากฏในการเรียก ชื่อว่าพ่อมาก่อน ก็แค่ได้ยินเพื่อนคนอื่นเรียกแด๊ดดี้ แต่เธอไม่ เคยเรียก
จู่ๆก็ได้ยินพี่ชายพูดว่ามีแดดดี้ ก็ตื่นเต้นสุดๆ จะวิ่งไปทาง นั้น”แด๊ดดี้…
หลินซีเฉินมือไว จับเธอไว้ แล้วอุดปากของเธอ”ชูว! ”
หลินลุยซีดิ้นไปมา “หนูจะไปหาแด๊ดดี้
เธอไม่ได้มีความคิดที่ลึกซึ้งพวกนั้นอย่างหลินเฉิน แค่รู้ว่ามีคนเป็นพ่อของตัวเอง ก็อยากไปดูว่ายังไงกันแน่ พ่อ ของเธอเป็นอย่างไร
“เขาไม่ใช่แด๊ดดี้ของพวกเรา” หลินซีเฉินพูดอย่างแน่วแน่
เอ๋?
ความคิดของหลินลุยซีจบสิ้นลง เดี๋ยวก็ใช่ เดี๋ยวก็ไม่ใช่ สรุป
ใช่หรือไม่?
ตาโตๆจ้องมองพี่ชายอย่างอื่นๆ
เหมือนกำลังถามอยู่
“เขาคือแด๊ดดี้ของพวกเรา แต่ว่าเขาทิ้งหม่ามี้กับพวกเรา พวกเราจะยอมรับเขาเป็นแด๊ดดี้ไม่ได้
หลินลุยซีไม่เข้าใจ ขนตายาวๆกะพริบไปมา พูดเสียงทุ้มไม่ ซัด” ใช่แด๊ดดี้หรือไม่ใช่ แต่ฉันอยากได้แดดดี้”
หลินซีเงินกอดน้องสาว พี่จะต้องหาพ่อที่ดีให้พวกเรา หา ผู้ชายดีๆ ให้หม่ามี้
หลินลุยซี”…..
เธอฟังไม่เข้าใจ
จ้องไปไม่ไกล ก็มองเห็นแต่ชายหนุ่มที่หน้าหันข้าง คิดในใจ ว่า นั่นคือแด๊ดดี้เหรอ?
เขาหน้าตาอย่างไร?
“พี่เคยเห็นแด๊ดดี้ไหม? ”
หลินซีเฉินพยักหน้า “เคยเห็นสิ
“หน้าตาหล่อไหม? “หลินลุยซีถาม เหมือนว่าอยากจะเข้าไปดู หลินซีเฉินไม่อยากยอมรับ แต่ว่าจงจึงห้าวหน้าตาหล่อจริงๆ นี่
ก็เป็นจุดที่เขาเป็นทุกข์
ไปหาผู้ชายที่หล่อกว่าเขาได้ที่ไหนกันนะ?
“หล่อ”
หลินลุยซีก็ยิ่งเฝ้าปรารถนามากขึ้น
“ยายเอามาแล้ว” ในมือจวงจื่อจีนถือร่มพับเดินเข้ามา วันนี้จะพาพวกเขาสองคนไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ พอถึงชั้นล่างจึงนึกขึ้นได้ ว่า บอกว่าตอนบ่ายสามฝนจะตก
เธอจึงขึ้นข้างบนไปหยิบร่ม
“คุณยาย”หลินลุยซีน้อยใจเล็กน้อย พี่ชายก็เคยเห็นพ่อแล้ว เธอยังไม่เคยเห็น ในใจจึงรู้สึกน้อยใจ
ไม่ง่ายเลยที่จะมีโอกาสได้เห็นว่าแด๊ดดี้เป็นยังไง แต่พี่ชายก็ ไม่ให้เธอดู
ไม่ชอบเลย
“เป็นอะไรไป? “จวงจื่อจีนอุ้มเธอขึ้นมา
หลินลุยซีเพิ่งพูดออกไป ก็ได้ยินหลินเฉินตะโกนว่า “หม่ามี จากนั้นคำพูดของเขาก็หยุดลง
หลินซินเหยียนเดินเข้ามา มองเห็นที่ตัวจวงจื่อจิ่นแบกกระเป๋า
ไว้ ก็ถามว่าจะออกไปเหรอคะ?
“ผมจะพาพวกเขาไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เอาแต่อยู่บ้านอย่าง เดียวก็ไม่ดี”
หลินซินเหยียนยื่นมือไปรับลูกสาวไปยังไง นั่งรถไฟใต้ดินเห
รอ? ”
ถ้าพาเด็กสองคนนั่งรถไฟใต้ดินก็คงไม่สะดวกเท่าไหร่
จวงจื่อจิ่นพูดว่า”นั่งแท็กซี่เถอะ พาพวกเขาสองคนรถไฟใต้ดิน ก็ต้องเปลี่ยนสายอีกคงไม่สะดวก
หลินซินเหยียนเดินไปข้างถนน”ฉันไปกับพวกแม่ไม่ได้หรอก ฉันยังมีงาน รอมีเวลา ฉันจะไปดูรถ แล้วซื้อสักคัน แบบนี้เดินทาง จะได้สะดวก”
“ลูกไปทำงานเถอะ แม่จะดูแลพวกเขาสองคนเอง”จวงจื่อจีน ยื่นมือไปอุ้มหลินลุยซี
หลินลุยซีไม่ให้จวงจื่อจีนอุ้ม และก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงน้อยใจ แปลกๆ โอบคอของหลินซินเหยียนไม่ยอมปล่อยออดอ้อน ทำตัวติด“หม่ามี้”
“ทำไมจ๊ะ? “หลินซินเหยียนมองลูกสาว แล้วลูบหัวของ เธออยากให้หม่ามี้พาลูกไปไหม?
หลินลุยซีส่ายหัว ไม่ใช่ พี่บอกว่า
“เสี่ยวลุ่ย ไม่ใช่ว่าคุณอยากดูการแสดงปลาโลมาเหรอ? ถ้า ยังไม่ไปอีก พวกเราก็จะไม่ได้เห็นนะ พี่รับปากคุณแล้ว ว่าจะใช้ เงินดั่งเปาซื้อตุ๊กตาปลาโลมาให้คุณ คุณยังจะเอาอีกไหม? ” หลินซีเฉินจงใจตัดบทของน้องสาว
เขาไม่อยากให้หลินซินเหยียนรู้ว่า เขารู้ว่าพ่อของพวกเขาคือ ใคร
หม่ามีไม่พูด จะต้องไม่อยากให้พวกเขารู้แน่ หลินลุยซีจ้องไปที่พี่ชาย “พี่จะซื้อให้ฉันจริงๆเหรอ? ”
หลินลุยซีนั้นใสซื่อบริสุทธิ์ แป๊บเดียวก็ถูกหลินเฉินเบี่ยงเบน
“ซื้อให้สิ”หลินซีเฉินพูดอย่างแน่วแน่
“งั้นฉันก็อยากได้อมยิ้มด้วย”หลินลุยซีหรี่ตาลงหัวเราะ
หลินซีเฉินมองไปที่หลินซินเหยียน “เอ่อ คุณต้องถามหม่ามีว่า ให้คุณกินไหม”
หลินลุยซีเบะปากเล็กๆนั้น หม่ามีเอาแต่บอกว่ากินลูกอมไม่ดี
ต่อฟัน หม่ามีไม่ให้เธอกินแน่
สาวน้อยก็ทำท่าทางน้อยใจอีกครั้ง
หลินซินเหยียนจูบไปที่หน้าของลูกสาววันนี้ให้ลูกกินอันหนึ่ง นะ”
หลินลุยซีตาเป็นประกายทันทีจริงเหรอ? ”
“จริง”หลินซินเหยียนตอบอย่างแน่ใจ
“หม่ามี้ ผมก็กินอันหนึ่งได้ด้วยใช่ไหม? “หลินเฉินเงยหน้า
“ได้สิ”หลินซินเหยียนย่อตัวลงกอดลูกชาย
มีลูกอมให้กินเด็กสองคนนี้ก็เชื่อฟังมาก จวงจื่อจีนพาพวกเขา ไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ส่วนหลินซินเหยียนกลับถึงบ้านก็ไปทำงาน
เหอรุ่ยหลินกลับถึงบ้านด้วยใบหน้าบึ้งตึง
เหอยเจ๋อไม่ได้ไปทำงานที่โรงพยาบาลแล้ว กำลังเรียนทำ ธุรกิจกับเหอยสิง
ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัวที่มีรากฐานมั่นคง เกรงว่าจะล้มเหลวนะ
ตระกูลเหอมาถึงรุ่นเหอยเจ๋อนี้ สองคนพี่น้องไม่ได้มีหัวการ ค้า งานอดิเรกของเหอยเจ๋อก็คือจิตแพทย์ เหอรุ่ยสิ่งยังดีหน่อย ผ่านความยากลำบากในโลกธุรกิจมาหลายปีแล้ว มีความ สามารถเล็กน้อย แต่ถ้าจะให้ตระกูลเหอมีความรุ่งโรจน์อีกอย่าง ที่เคยมีก็คงจะยากหน่อยๆ
ได้แต่รักษาให้คงอยู่ไว้ต่อไปอย่างไม่เต็มใจ
มองเห็นตาทั้งคู่ที่แดงของน้องสาว เหอยเจ๋อวางเอกสารที่ ชายให้เขา แล้วยืนขึ้นมาจากโซฟา “คุณ เป็นอะไรไป?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ