กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่510 แด๊ดดีคะหนูกลัว



บทที่510 แด๊ดดีคะหนูกลัว

เมื่อจงเหยียนเฉินกำลังจะเดินไป หลินซินเหยียนที่อยู่ในครัว ตะโกนเรียกเขา ” เหยียนเฉิน ลูกมาช่วยหม่ามี้หน่อยได้ไหมจ๊ะ ”

” ได้ครับ ” จงเหยียนเฉันเดินเข้าไปในครัว หลินซินเหยียนจึง ชี้ไปยังหอมเล็กที่อยู่ในตะกร้าจ่ายตลาด ” ลูกช่วยหม่าม ปอก

หอมเล็กหน่อยได้ไหมจ๊ะ ”

จงเหยียนเฉินหยิบพร้อมๆ ขึ้นมา แล้วใช้ท่าทางตอบกลับหลิน ชินเหยียน

รอจนจงเหยียนเฉินปอกหอมเล็กเสร็จ หลินซินเหยียนก็ต้ม เกี๊ยวสุกแล้ว เธอจึงหยิบหอมเล็กที่ลูกชายบอกเรียบร้อยแล้ว น้ำ มาล้าง จากนั้นก็หั่นเป็นชิ้นๆ แล้วก็วางไว้ในชาม จากนั้นก็เอาน้ำ ซุปของเกี๊ยวเทลงใส่ชามโดยตรง จากนั้นเธอก็ใส่กุ้งแห้งและ น้ำมันหมูพร้อมกับหอมเล็กที่หันเป็นชิ้นเล็กเมื่อกี้ลงไป จากนั้นก็ ตักน้ำซุป ไปผ่านน้ำร้อนสักพัก แล้วค่อยตักเกี้ยวใส่ชาม แค่นี้ เกี๊ยวน้ำก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

” ไปล้างมือแล้วมากินข้าวจ้ะ ” หลินซินเหยียนพูดกับลูกชาย เธอหยิบชามที่ตัดเดี๋ยวน้ำใส่ลงไปแล้ววางบนจานรอง เวลายก จะได้ไม่ลวกมือ

จงเหยียนเฉินทำจมูกฟุดฟิด ก็ได้กลิ่นหอม แล้วก็ลืมเรื่องที่จะ ไปดู ‘คนบ้า’ ที่ว่านั่นแล้ว เด็กน้อยเดินไปล้างมือแล้วนั่งบน เก้าอี้ที่โต๊ะอาหาร รอที่จะกิน
เป็นเพราะว่าใส่น้ำมันหมูเลยทําให้น้ำซุปหอมขึ้น อีกทั้งใส่ กุ้งแห้งลงไปจึงเพิ่มรสชาติเหมือนอาหารทะเลเข้าไปด้วย และ แผ่นเกี๊ยวที่ใช้โซดาช่วยจึงทำให้มีความนุ่มเด้ง หลินซินเหยียน ตักเกี้ยวให้ลูกของเธอทั้งสองก่อน จากนั้นที่เหลืออีกชามก็ปาก แล้วยกไปให้ชาวหยุน ” ถ้าไม่พอกินก็บอกนะคะ เดี๋ยวฉันจะ ทำให้คุณต่างหาก ”

หลินซินเหยียนเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาเร็วขนาดนี้ ตอนแรก คิดว่าจะกลับมาพร้อมฉินยา ดังนั้นก็เลยไม่ได้เตรียมไว้เยอะ แต่ ก็ยังกลัวว่าชามเดียวเขาจะกินไม่อิ่ม

ข่าวหยุน โบกไม้โบกมือ ยิ้มแล้วพูดว่า ” ไม่ต้องหรอกไม่ต้อง บนเครื่องบินฉันก็กินมานิดหน่อยแล้ว แค่นี้ก็พอแล้วแหละ แต่ เป็นฉันต่างหากที่มาแย่งพวกเธอกินน่ะ

แล้วเขาก็มองไปที่เด็กน้อยทั้งสองแล้วถามขึ้นมา ” พวกเธอ กินพอหรือเปล่า ”

จงเหยียนซีทําท่าเลียปาก ในใจเกิดความคิดบางอย่าง เด็ก น้อยยิ้มหวานหยาดเยิ้มแล้วมองไปที่ชาวหยุน พูดจาปากหวาน ราวกับน้ำผึ้ง ” คุณปู่ข่าว อีกสักพักหนูกินเกี้ยวเสร็จแล้ว ถ้าหนู ไปเดินเล่นหน่อยได้ไหมคะ ”

เด็กน้อยอยากกินไอติม แต่หลินซินเหยียนไม่ยอมซื้อให้เธอ กิน เพราะว่ามันเย็นเกินไปไม่ดีต่อระบบย่อยอาหาร แต่ยังไงเด็ก น้อยก็ยังอยากกินอยู่ดี

จงเหยียนเฉินมองปร๊าดเดียวก็รู้ทันว่าน้องสาวตัวเองคิดจะทำอะไร ก็เลยพูดขึ้นมาว่า ” ผมก็อยากไปเหมือนกัน พาผมไปด้วย นะครับ ” เด็กชายก็อยากกิน โดยเฉพาะกินของร้อนเข้าไปแบบนี้ ก็ยิ่ง

อยากกินไอติมเข้าไปใหญ่ หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว ” พวกลูกแต่ละคนที่อยากจะทำอะไร กันอีกล่ะ หึม ”

” ไอ้หยา กินเข้าไปตั้งเยอะก็อยากไปเดินย่อยข้างนอกนี่คะ จงเหยียนซีทาปาก หันไปมองจงเหยียนเฉินแล้วพูดต่อ ” ใช่ ไหมคะพี่ชาย ”

จงเหยียนเฉินสนับสนุนทันควัน ” ใช่แล้วครับ กินข้าวเสร็จ แล้วไปเดินย่อยมันดีต่อสุขภาพมากเลยนะครับ 11

หลินซินเหยียนเหมือนจะพูดอะไรต่อ แต่ก็ถูกข่าวหยุนสกัดเอา

ไว้ ” ไอ้หยา เด็กสองคนก็อยากออกไป ก็ไปเถอะหน่า มีฉันทั้งคน

เธอไม่วางใจหรือไง”

ข่าวหยุนพูดออกมาขนาดนี้แล้ว เธอคงพูดอะไรต่อไม่ได้ เมื่อ กินข้าวกันเสร็จแล้ว หลินซินเหยียนเก็บกวาดโต๊ะอาหารชามและ ตะเกียบ ข่าวหยุนก็เอายูเอสบีอันหนึ่งวางไว้บนโต๊ะ ” ฉัน ให้คุณ บันทึกบรรยากาศในงานมา เธอว่างก็ลองดูแล้วกัน บรรยากาศ วันงานคึกคักมาก เธอไม่ไปมันน่าเสียดายจริงๆ นะ ”

ที่เขามาก็เพื่อจะส่งของชิ้นนี้ให้กับหลินซินเหยียน พอคิดก็อด ไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ” ไม่เข้าใจเลยจริงๆ เธอลําบากตรากตรํา ทำงานนี้มาตั้งสองเดือนเต็มๆ จนสุดท้ายมันก็สำเร็จ ทำไมไม่ยอมเปิดเผยหน้าตาสักหน่อยล่ะ”

หลินซินเหยียนก้มหน้า ไม่ได้อธิบายอะไรต่อแค่ตอบเสียง

เนิบๆ “อย่าพาเด็กๆออกไปนานนักล่ะ รีบกลับมานะคะ ”

ข่าวหยุนตอบรับ ” ได้เลย ”

หลินซินเหยียนยกชามไปไว้ในครัว เด็กทั้งสองก็ใส่รองเท้า

ด้วยตัวเอง ตอนนี้ไม่ต้องให้ใครช่วยเหลือแล้ว เพราะต่างคนต่าง

ดูแลตัวเองได้

ข่าวหยุนพาพวกเขาไปข้างนอก ตอนที่ลงลิฟต์ก็พูดขึ้นมาว่า ” พวกเธอจะขายยาอะไรในน้ำเต้าอีกล่ะ (คิดจะทำอะไรกันแน่) ”

ตั้งแต่รู้จักเด็กทั้งสองคนมาเดินเล่นกันเหรอ ไม่น่าใช่พวก เด็กๆ น่าจะมีแผนอะไรมากกว่า

จงเหยียนซีหัวเราะคิกคัก ก่อนจะคว้ามือชาวหยุน แล้วเหวี่ยง

ไปเหวี่ยงมาด้วยท่าทีออดอ้อน ” พวกเราไม่ใช่หมอ จะขายยาได้

ยังไงกันคะ พวกเราแค่อยากกินไอติมเฉยๆ เอง

ชาวหยุนรูปหัวเด็กน้อย ” ฉันรู้แล้วแหละว่าพวกเธอกินข้าว เสร็จคงไม่มาเดินเล่นหรอก เอะอะว่างทีไรก็ขลุกตัวอยู่ในบ้านดู แต่ทีวี จะให้พวกเธอออกมา ก็บอกว่าอะไร ร้อนบ้างล่ะ แล้วตอน นี้อยากกินไอติมก็ไม่ร้อนแล้วว่างั้น ”

” ไอติมมันเป็นของเย็นนะครับ แน่นอนว่ากินก็ต้องไปร้อนอยู่ แล้วล่ะ ” จงเหยียนเฉินพูดขึ้นมา

เมื่อมีเสียงติ้ง เวลานี้รีบก็หยุดลง ข่าวหยุนถ้าเด็กทั้งสองออกมาจากลิฟต์ เขายิ้มแล้วก็ลูบหัวจงเหยียนเฉินอย่างเอ็นดู ” ถือว่า เธอช่างพูดแล้วกันนะ”

เมื่อออกไปนอกคอนโดแล้วสายตาของจงเหยียนซีก็เหลือบไป เห็นใครบางคนที่กำลังรับโทรศัพท์อยู่ริมถนน ถึงผู้ชายคนนั้นจะ หันหลังให้กับเธอ ไม่ได้เห็นหน้า แต่เด็กน้อยก็จำได้ว่าแผ่นหลังนี้ เป็นของใคร เด็กน้อยอดไม่ได้ที่จะตะโกนเรียกคำว่าแดด ออก มาดังๆ

จงจึงห้าวที่กำลังโทรหากวนจิ้งอยู่ เมื่อได้ยินเสียงก็หันกลับมา จึงเห็นว่าหน้าคอนโดมีเด็กน้อยทั้งสองคนยืนอยู่ จงเหยียนซี ปล่อยมือออกจากข่าวหยุนแล้ววิ่งตรงไป ในขณะที่วิ่งก็ตะโกน เรียกพ่อไปด้วย

” ระวัง ” ข่าวหยุนตะโกนบอกเด็กน้อย จะวิ่งข้ามไปฝั่งโน้นได้ ต้องผ่านถนนไปเสียก่อน ซึ่งอันตรายมาก

ขนาดนี้ไม่ไกลนักมีรถที่กำลังวิ่งมาด้วยความเร็ว จงเหยียนซี ไม่ทันได้เห็น เพราะใจเอาแต่จดจ่อที่จะพุ่งไปหาจงจึงห้าวเท่านั้น สองเดือนแล้วในที่สุดเด็กน้อยก็ได้เจอพ่อ เธอกลัวว่าหากช้าไป กว่านี้พ่อของเธอจะหายวับไป

เธอต้องการพ่อ ส่วนเรื่องไอติมได้ลืมไปหมดแล้ว และไม่สนใจ ทั้งนั้นว่าจะอันตรายหรือไม่

ด้วยความที่รถขับมาด้วยความเร็ว จึงไม่ได้ระวังว่าข้างถนน คนพุ่งออกมา คนขับรีบเหยียบเบรกอย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้น แล้ว รถก็ไม่สามารถหยุดได้ทันที สายตาคนขับก็เห็นว่าอีกนิดก็จะชนเข้าแล้ว แต่ในขณะที่เป็นเส้นยาแดงผ่าแปดก็เห็นเงาของ ใครบางคน เคลื่อนตัวด้วยความเร็วราวกับสายลมผ่านหน้ารถ และคว้าร่างน้อยๆ นั้นออกจากหน้ารถไป เด็กน้อยถูกคว้าตัว ออกเพียงเสี้ยววินาที รถผ่านตัวพวกเขาก็อย่างเฉียดฉิว

เพียงเสี้ยววิเท่านั้น หากช้ากว่านี้ จงจึงห้าวก็คงถูกรถคันนั้น ชนไปแล้ว รถขับไปได้ไหมไกลก็หยุดจอด ชาวหยุนรีบพุ่งตัวไป ยังรถ แล้วถีบเข้าเต็มแรง ก่อนจะด่าคนขับยกใหญ่ ” ขับรถไม่ ตาม้าตาเรือเลยวะ ใกล้ทางเข้าคอนโดขับเร็วขนาดนี้ อยากตาย หรือไง! ”

คนขับรถตกใจมาก เพราะเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีคน พุ่ง มากลางถนน

เมื่อเห็นว่าคนขับรถไม่แสดงท่าทีใดๆ ข่าวหยุนก็ถีบลงไปอีก หนึ่งที จนประตูรถยุบลงไปเป็นหลุม ” ถ้าไม่อยากตาย ก็ลงมา จากรถเสียดีๆ ”

คนขับรถตกใจจนหน้าซีดปากสั่น เปิดประตูรถลงมาด้วย สีหน้าซีดเผือด

ชาวหยุนปกติเป็นคนที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ดูไม่มีนิสัยดุดันแต่ อย่างใด แต่พอโกรธขึ้นมาก็เป็นระเบิดได้เช่นเดียวกัน ประเด็น คือใครคนนั้นได้เหยียบเส้นที่เขาขีดเอาไว้แล้ว

จงเหยียนซีคือ ใครอะ นั่นเป็นลูกของหลินซินเหยียน แล้วหลิน ซินเหยียนคือใคร เธอคนนั้นก็คือลูกสาวของพี่ชายที่เขาเคารพ มาโดยตลอด อีกนิดเดียวเพราะไอ้คนคนนี้ ทำให้ต้องเกิดเรื่องอันตรายขึ้น ทำไมเขาถึงจะโกรธไม่ได้ล่ะ

ถ้ามีอันตรายขึ้นมาจริงๆ เขาจะรับผิดชอบยังไง

ส่วนทางนี้ จงจึงห้าวก็อุ้มจงเหยียนซีที่ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ มาไว้ในอ้อมอก ผ่านไปพักใหญ่เด็กน้อยก็ยังไม่หายตกใจ ยังคง ตาค้างปากค้างอยู่อย่างนั้น เห็นได้ชัดว่าคงตกใจอยู่ไม่น้อย

จงจึงห้าวหนูไปที่แผ่นหลังของเด็กน้อย แล้วพูดปลอบด้วยน้ำ เสียงอ่อนโยน ” ไม่เป็นไรนะลูก ไม่เป็นไร แด๊ดดี้อยู่ตรงนี้ ไม่ต้อง กลัว ”

เสียงร้องของจงเหยียนซี ทำให้ชาวหยุนที่กำลังโกรธเป็นฟืน เป็นไฟดึงสติกลับมาได้ แล้วมองไปที่คนขับรถด้วยสายตาดุดัน ” ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฉันคงปล่อยแกปางปางตายไปแล้ว ฉันสั่งให้แก ยืนอยู่ตรงนี้ แล้วอย่าหนีไปไหน เพราะหน้าคอนโดที่นี่มีกล้อง วงจรปิด ”

พูดจบชาวหยุนก็รีบวิ่งมาดูจงเหยียนซี เวลานี้เธอทิ้งตัวอยู่ใน อ้อมกอดของจงจิ่งห้าวแล้วร้องไห้เสียงดัง เอาแต่ร้องวอแวว่า ” แด๊ดดี้หนูกลัว ”

จงจิ่งห้าวจับไปที่แก้มของเด็กน้อย เพราะเธอร้องไห้จนหน้า อาบไปด้วยน้ำตา รสชาติที่ติดอยู่ที่ปากก็จะออกเค็มๆ หน่อย เขา ไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด แต่กลับเต็มไปด้วยความปวดใจ จึงเอา ริมฝีปากแนบไปที่ห่างตาของเด็กน้อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียง ปลอบใจว่า ” ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัวนะ แด๊ดดี้อยู่ตรงนี้ ”

เมื่อได้ยินคำว่าแด๊ดดี้สองคำนี้ จงเหยียนซีก็ร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม ในใจเต็มไปด้วยความสะเทือนใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ