บทที่372 คำพูดที่ซ้อนคำพูดอีกที
เมื่อเหวินชิงเข้ามาในบ้าน หลี่จิ้งก็ช่วยเอาสลิปเปอร์มาให้เขา เปลี่ยน
เหวินชิงยืนนิ่งไม่ขยับ ก่อนจะเอ่ยปากถาม ” วันนี้เกิดอะไรขึ้น
” เข้ามาก่อนเถอะ ” นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะพูดคำสองคำแล้วรู้เรื่อง หลี่จิ้งวางสลิปเปอร์ลงไว้ข้างๆเท้าเขา
เหวินชิงถอนให้ใจเฮือกหนึ่ง เขาอยากจะรู้นักว่าหล่อนจะ อธิบายมันอย่างไร
กะอีกแค่นัดหลินซินเหยียนกินข้าวมื้อนึงมันจะไปยากอะไร นักหนา
เรื่องง่ายๆแค่นี้ก็ทำไม่ได้งั้นเหรอ
เขาใส่รองเท้าสลิปเปอร์แล้วเดินเข้ามา นั่งลงบนโซฟา” พูดสิ ว่าเรื่องเป็นยังไง ”
หลี่จิ้งก็นั่งลงตำแหน่งถัดไป หล่อนคิดมานานแล้ว ตั้งแต่กลับ มาจากร้านเสื้อผ้า หล่อนก็คิดมาตลอดว่าจะคุยเรื่องนี้กับเหวินชิง ยังไง
แต่พอถึงเวลาต้องพูดจริงๆ หล่อนก็ไม่รู้ว่าจะเปิดปากด้วย เรื่องอะไรก่อน
เธอก็พูดสักทีสิ “เหวินชิงเริ่มจะไม่สบอารมณ์
” ฉันว่าเด็กๆก็ดีอยู่แล้ว ก็เลยทนไม่ได้… ” กว่าหลี่จิ้งจะพูด ออกมาแต่ละค่า
เส้นเลือดตรงขมับของเหวินชิงก็ผุดขึ้นมา ก่อนจะพูดด้วยน้ำ เสียงกดต่ำลง ” เพราะงั้นเธอก็เลยไม่นัดหล่อนออกมางั้นเหรอ
หลี่จิ้งมองไปที่เขา ” ใช่ คุณก็รู้นิสัยของจงจึงห้าวดี ถ้าเขารู้ว่า คุณทำเรื่องอะไร ไปความสัมพันธ์ของคุณกับเขาต้องแย่แน่คุณ ไม่สนใจในท่าทีที่เขามีต่อคุณหรือไง”
หลี่จิ้งเข้าใจเหวินชิงดี เพราะเขาแคร์จงจึงห้าวมาก
และหล่อนก็รู้ว่า ความรู้สึกที่แคร์แปดสิบเปอร์เซ็นต์นั้นก็เป็น เพราะเหวินเสียน ” ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้พวกเราควรพูดกับจงจึงห้าวให้ชัดเจน ให้
เขาเล่าเรื่องหลินซินเหยียนให้คุณฟัง ก็เราไม่ควรเข้าไปแทรก
กลาง ในเรื่องนี้…”
” คุณรู้เรื่องที่หลินซินเหยียนทำผ้าไหมกวางตุ้งได้หรือเปล่าล่ะ ” เหวินชิงชักจะเริ่มรู้สึกรำคาญ ก็เลยพูดตัดบทหลี่จิ้ง
เรื่องที่หล่อนพูดคิดว่าเขาไม่รู้หรือไง
แล้วคิดว่าเขาไม่เคยคิดมาก่อนหรือไงกัน หลี่จิ้งตกตะลึง หลินซินเหยียนทำผ้าไหมกวางตุ้งได้ด้วยเหรอ นั่นไม่ใช่สิ่งที่สืบทอดของตระกูลเฉิงหรือไง ทำไมถึงสอนให้หลินซินเหยียนเสียล่ะ
คุณได้ยินมาจากใคร ” หลี่จิ้งไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
เหวินชิงถอนหายใจเบาๆ ” ผมให้คนที่ไปหาไปเฉิงเช็คให้ เรียบร้อยแล้ว คิดว่าผมไม่รู้ข้อดีข้อด้อยของเรื่องนี้เลยไง จึงห้าว เป็นคนที่ฉลาดมาก เขาจะไม่รู้จริงๆเหรอว่าหลินซินเหยียนทำผ้า ไหมกวางตุ้งได้ หรือคุณคิดว่า หลินซินเหยียนสามารถปิดบังเขา ว่าเธอทำเรื่องพวกนี้ได้ แล้วเขาจะไม่รู้งั้นสินะ ”
หลี่จิ้งทำตาโต ” คุณจะสื่อว่าเขาก็รู้ใช่ไหม ” ตอนนี้เหวินชิงมั่นใจมากว่าจงจึงห้าวต้องรู้เรื่องนี้
แต่เขาก็ไม่ได้ละทิ้งหลินซินเหยียน เป็นเพราะว่าเขาคงชอบผู้ หญิงคนนั้นจริงๆ แล้วหลินซินเหยียนก็ยังคลอดลูกที่น่ารักสอง คนให้กับเขาอีก
ถึงในใจของเขาจะไม่สบายใจยังไงก็ไม่ควรจะไปโทษหรือไป
โกรธเกลียดหลินซินเหยียน
แต่เขาแค่ทนไม่ได้ ที่เห็นว่าคนที่คู่เคียงจงจึงห้าวจะไปสนิทชิด เชื้อกับเฉิงซิ่ว” ถ้างั้นตอนนี้จะทำยังไง ” หลี่จึงคิดว่าแค่แบไพ่ที่ อยู่ในมือกับจงจิ่งห้าว แล้วให้เขาไปพูดกับหลินซินเหยียนให้อยู่ ห่างจากเฉิงซิ่วก็พอแล้ว
แต่เหมือนเรื่องราวตอนนี้จะเริ่มวุ่นวายไปกันใหญ่
จงจิ่งห้าวรู้ถึงการมีอยู่ของความสัมพันธ์หลินซินเหยียนกับเฉิง ยู่ซิ่วอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะขุดคุ้ยอะไร
เหวินซึ่งยิ้มอย่างเย็นชา ” เขาก็ยังเป็นเขาอยู่วันยังค่ำ เพื่อผู้ หญิงคนนั้น ก็กลับไปอยู่บ้านหลังเก่านั้นแล้ว ”
ในอกของเขามันปั่นป่วนไปหมด
เพราะรู้สึกโกรธจนเกินพอดี
หลี่จิ้งจับมือเขาเอาไว้ ” คุณอย่าโกรธไปเลยนะ ถ้าโกรธจะไม่ ดีต่อสุขภาพเอา ”
เขามองไปที่หลี่จิ้ง ” ถ้าผมไม่หยุดมันเอาไว้ เขาก็คงลืมว แม่ที่ ให้กำเนิดของเขาคือใคร ผมจะไม่ยอมให้เฉิงซิ่วแย่งลูกชาย ของเหงินเรียนเป็นอันขาด!”
เขาไม่อาจยับยั้งความโกรธนี้ไว้ได้
ในสายตาของเขาเฉิงซิ่วได้แย่งจงฉีเฟิงไปจากเหวินเสียน แล้ว
ตอนนี้เขายิ่งรับไม่ได้ ที่ลูกชายของเหวินเสียนจะยอมรับผู้
หญิงอย่างเฉิงซิ่วเข้ามา
นี่คือจุดต่ำสุดที่เขาไม่อาจแตะต้องมันได้ หลี่จิ้งรู้ว่าเรื่องนี้คงไม่มีทางที่จะผ่อนปรนมันได้
ก่อนจะถอนหายใจ เหวินชิงนั้นเป็นคนหัวแข็ง ในใจเขามีปม บางอย่าง หลายปีมานี้ เค้าไม่ยอมปล่อยวางมันเสียที ถึงอยาก จะพูดเตือนยังไง ก็ได้แต่เปลี่ยนคำพูดนั้นเข้าไป ในสถานการณ์ แบบนี้เธอทำได้แค่สนับสนุนสามีของตัวเองเท่านั้น
ครั้งนี้ขอโทษจริงๆ ฉันมีบางครั้งที่ใจอ่อนแล้วทนไม่ไหว เลย ทำให้แผนของคุณต้องพัง……..
” ไม่เป็นไร ” เหวินชิงหรี่ตา เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลาอยู่แล้ว
ท่าทีของจงจึงห้าวในวันนี้ มันแสดงออกมาอย่างชัดเจน เขา คงไม่มีโอกาสได้วางมือจากเรื่องนี้แล้ว
จงจิ่งห้าวจะต้องเตรียมรับมือกับเรื่องนี้แล้วแน่ๆ
เขาต้องทำ ทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ
ไม่ต้องรีบ ยังพอมีเวลาอยู่บ้าง
อีกด้านหนึ่ง จงจึงห้าวเดินจากห้องอาหารไปยังรถ หลินซินเห ยียนนั่งรอเขาอยู่ฝั่งที่นั่งคนขับ
” คุณดื่มจนเมาแล้วเหรอ ” จงจึงห้าวขึ้นรถมาเธอก็ได้กลิ่น
ทันที
” นิดหน่อยน่ะ ” จงจิ่งห้าวดึงคอเสื้อออก แล้วปลดกระดุมลง
สองเม็ด
หลินซินเหยียนไม่ถามอะไรเลยสักคำ ก่อนจะเปิดประตูรถแล้ว เดินลงไปฝังที่นั่งของเขา ” คุณลงมา ฉันขับเอง จงจิ่งห้าวทำปากงอ ” ไม่ไว้ใจผมงั้นเหรอ ”
หลินซินเหยียนทำที่เคร่งขรึมก่อนจะเอากุญแจรถไป ” ดื่ม เหล้าห้ามขับรถ ไม่รู้หรือไง ”
จงจึงห้าวเมื่อเห็นสีหน้าที่จริงจังของเธอ เขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ผมไม่ได้เมา ”
” ยังไงก็ไม่ได้ ” ท่าทีของหลินซินเหยียนแน่วแน่มาก
จงจึงห้าวยอมให้ความร่วมมือก่อนจะลงจากรถไปนั่งฝั่งที่นั่ง ข้างคนขับ เขาเอนตัวไปอยู่ข้างหูเธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ เหมือนจะเมาแต่ก็ไม่เมาว่า ” ภรรยาของผมพูดถูกทุกอย่าง
หลินซินเหยียนโยกตัวหนี ก่อนจะสตาร์ทรถ แล้วหันไปมอง เขา ” ปากหวานอย่างนี้ ทำเรื่องอะไรไม่ดีมาหรือเปล่า ” จงจิ่งห้าวได้ยิน ก็รู้สึกถึงความผิดปกติ
พูดแบบนี้ฟังยังไงก็เป็นคำพูดที่ซ้อนคำพูดอีกทีพูดออกมาสิ ว่าเจอคุณเฉินคนนั้นในบาร์ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้ว เจอกันทำอะไรลงไปบ้าง “
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ