บทที่178 เรามาหมั้นหมายกันไว้ตั้งแต่วัยเด็กเถอะ
หลินซีเฉินหมอบอยู่ในอ้อมอกเขา รู้สึกได้ถึงทรวงอกที่สั่นเทา ของเขาอย่างชัดเจน
หลินซีเฉินยื่นมือกอดเขาไว้ไม่ว่าเขารักหม่ามีหรือเปล่า ความ กระวนกระวายใจและความรู้สึกผิดของนาทีนี้ต่างก็ไม่ใช่สิ่งจอม ปลอม
“เราไปหาหม่ามี้กัน” จงจึงห้าวให้เขามองหน้าตัวเอง “ไปมั้ย ครับ?”
“ไปครับ” หลินซีเฉินตอบอย่างไม่ลังเลใจเลยสักนิด
“แต่น้องสาวล่ะครับ? หม่ามีไม่อยู่ ผมก็ไม่อยู่ เธอจะต้อง
โวยวายแน่เลย” หลินซีเฉินพูดด้วยความกังวล
“แด๊ดดี้คะ”
ไม่รู้ว่าหลินลุยซีเห็นจงจึงห้าวตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอได้วิ่งออกมา จากในบ้าน ตลอดทางที่วิ่งมา เธอยื่นแขนอวบอั๋นขาวเนียนสอง ข้างไว้ กอดขาของจงจิ่งห้าวไว้แน่น “แด๊ดดี้” เธอแหงนหน้าไว้ ปากชมพูทำปากจู๋ไว้ “แด๊ดดี้วางพี่ชายลง แล้วอุ้มหนูได้มั้ยคะ?”
ขณะที่พูด ยัยตัวแสบเบิกตากว้างแล้วยังได้กะพริบตาปริบๆ “พี่ชายเป็นลูกผู้ชายไม่จําเป็นต้องอุ้มแล้ว แด๊ดดี้อุ้มหนูเถอะ”
หลิน เฉิน “………..
จงจึงห้าวนั่งลงมาคว้าเจ้าหนูน้อยเข้ามาในอ้อมอก วันนี้ยัยตัว แสบใส่กระโปรงสีชมพู มัดหางม้าสูงไว้ข้างหูกับหน้าผากมีผมมี ที่ผมชี้ฟูอยู่นิดหน่อย กลับสามารถเห็นหน้าผากโหนกนูนของเธอ ดวงตาใสแบ๊ว เธอกอดคอของจงจิ้งห้าวไว้แน่น ใช้หน้าได ใบหน้าเขา “แด๊ดดี้กลับมาแล้ว ทำไมหม่ามีถึงไม่กลับมาพร้อม กับแด๊ดดี้คะ หนูไม่ได้เจอหม่ามมาหลายวันแล้ว เรายังไม่เคย แยกจากกันเลย หนูคิดถึงหม่าค่ะ”
จงจึงห้าวมองไปไกลๆ เอาศีรษะน้อยๆของทั้งสองมาซบที่
อ้อมอก เขาพยายามให้น้ำเสียงตัวเองเรียบสงบ “แด๊ดดี้พาพวก หนูไปหาหม่ามี้นะ” “จริงเหรอคะ?” หลินลุยซีค่อนข้างตื่นเต้น “หม่ามีกำลังเล่น
ซ่อนแอบกับพวกเราอยู่เหรอคะ? พวกเราถึงต้องไปหาหม่ามี
“อืม”
“ว้าว ดีใจจังเลย” ร่างเล็กๆที่ตื่นเต้นของหลินลุ่ยดุ๊กดิ๊กอยู่ ในอ้อมกอดของจงจิ่งห้าว แต่หลินซีเฉินกลับไม่ได้มองโลกในแง่ ดีเหมือนเธอ “เป็นเด็กนี่ดีจริงๆเลย”
คำพูดนี้ถูกหลินลุยซีได้ยินเข้า เธอหันมาจ้องหน้าเขา “ก็แค่ คลอดก่อนหนูไม่กี่นาทีไม่ใช่เหรอ? ก็ไม่ได้โตกว่าหนูเท่าไหร่ ยายบอกแล้วว่า เป็นส่วนเกิน
หลินซีเฉินหน้านิ่วคิ้วขมวด “ยายว่าเธอต่างหากที่เป็นส่วน เกิน?”
ขณะนี้จวงจื่อจิ่นได้เดินออกมาจากบ้าน บนตัวยังคลุมผ้ากัน
เปื้อนไว้ เธอเอามือวางไว้ข้างหน้า “เข้าบ้านกันเถอะ ได้เวลาทาน ข้าวแล้ว” “ยายคะ พี่ชายเป็นส่วนเกินถูกมั้ยคะ?” เพื่อพิสูจน์ว่าคำพูด
ของตัวเองเป็นความจริง หลินลุยได้ชิงหลินเฉินถามก่อน
อย่างกับว่าใครพูดก่อน คนนั้นก็เป็นฝ่ายพูดถูกอย่างงั้นแหละ
ความคิดของยัยตัวแสบคนนี้ ทำให้คนแค่เห็นก็มองทะลุ ปรุโปร่งแล้ว ใสซื่อกว่าพี่ชายเธอเยอะ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม จวงจื่อจีน หยอกเธอเล่น “หนูเนี่ยแหละส่วนเกิน
หลินลุยซีซักจะไม่พอใจแล้ว เธอทำหน้ามุ่ย “ทำไมไม่ใช่พี่ชาย เป็นส่วนเกินคะ? เขาน่าเกลียด…ขนาดนี้”
แย่งอ้อมกอดของแด๊ดดี้กับเธอ
เขาน่าเกลียด!
จวงจื่อจิ่นมองจงจิ่งห้าวแว๊บนึง ถึงเปิดปากพูด “เพราะตอน แรกในท้องของหม่ามีพวกหนูมีแค่เบบี้อยู่คนเดียว ต่อมาถึงพบ ว่ายังมีอีกคน คนที่พบทีหลังก็เป็นส่วนเกินไม่ใช่รึไง?”
หลินลุยซีพูดด้วยความไม่พอใจ “งั้นก็ควรจะเป็นพี่ชายเหมือน กัน พี่ชายต่างหากที่เป็นส่วนเกิน
“แต่พี่ชายคลอดออกมาก่อน……..
“หนูไม่สนพี่ชายนั่นแหละที่เป็นส่วนเกิน” หลินลุยซีขี้โกง เธอกอดคอจงจึงห้าวไว้แน่นแล้วออดอ้อน “แด๊ดดี้ พี่ชายเป็นส่วน
เกินใช่หรือเปล่าคะ?” จงจึงห้าวอุ้มเธอขึ้นมา ขยี้ผมของเธอ “ลูกสองคน ใครก็ขาด ไม่ได้
“ไป เข้าไปทานข้าวกันเถอะ” จวงจื่อจีนจูงมือหลินซีเงินไว้
“ผมเตรียมจะพาเขาสองคนออกไปเที่ยวนึงครับ หลินซินเหยี ยนคิดถึงพวกเขา” จงจึงห้าวอาศัยตอนนี้บรรยากาศยังครื้นเครง ได้พูดเรื่องที่จะพาพวกเขาออกไปกับจวงจื่อจีน
จวงจื่อจีนรับเต็มปากเต็มคำ “โอเค”
เธอรู้สึกค่อนข้างผิดปกติ แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองคิดมากไปแล้ว
มองดูเด็กสองคนโดยเฉพาะหลินลุยซีชอบจงจึงห้าวขนาดนั้น จวงจื่อจีนรู้สึกถ้าเขาสามารถสร้างครอบครัวกับหลินซินเหยียน คงดีที่สุดเลย ให้พวกเขาศึกษาดูใจ พัฒนาความสัมพันธ์กันก็ดี เหมือนกัน
“แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่?” จวงจื่อจีนถาม
จงจึงห้าวไม่รู้ว่าจะสามารถหาเธอเจอเมื่อไหร่ จึงได้พูดว่า “ไม่มีเวลาเฉพาะเจาะจงครับ ผมอยากพาพวกเขาออกไปเที่ยว เพื่อไม่ถูกรบกวน พวกเราจะไม่ติดต่อกับในประเทศครับ
จวงจื่อจีนพยักหน้า “ได้ แล้วเตรียมตัวไปเมื่อไหร่?
“คืนนี้ครับ”
“เร็วขนาดนี้เลย”
“อืม” ไม่มีคำอธิบายที่มากกว่า เขาไม่อยากเสียเวลาไป
มากกว่า
“งั้นพวกคุณไปทานข้าวก่อน ฉันไปเก็บเสื้อผ้าให้เด็กสองคน จวงจื่อจีนถอดผ้ากันเปื้อนออก และได้เข้าไปในห้องนอน
จงจึงห้าวพาลูกสองคนไปล้างมือ หลินลุยซีค่อนข้างติดเขา อยู่ ในอ้อมกอดเขาไม่ยอมลงมา จงจึงห้าวอุ้มเธอล้างมือ จากนั้นอุ้ม เธอมาถึงที่โต๊ะอาหาร ให้เธอนั่งอยู่บนตักตัวเอง
ป้าหนูยกกับข้าวมาและถือโอกาสถาม “คุณนายน้อย ยังไม่ กลับมาเหรอคะ?”
การเรียกชื่อของป้าหยูเปลี่ยนไปอีกแล้ว
เธอคิดว่าหลินซินเหยียนคลอดลูกออกมาสองคน ตอนนี้ก็คือ
คุณนายน้อยแห่งตระกูลจงแล้ว
จงจิ่งห้าวคีบกับข้าวให้หลินลุยซี แม้แต่หน้าก็ไม่ได้เงยขึ้นแค่ ตอบลืมอย่างราบเรียบคำนึง
เขาไม่อยากพูดที่เรื่องเกี่ยวข้องกับหลินซินเหยียน พูดเยอะ ง่ายที่จะถูกพบเห็นพิรุธ
ป้าหยูเป็นคนที่คอยดูแลเขามาโดยตลอด รู้จักนิสัยเขาดี เขา พูดน้ำเสียงแบบนี้ก็แสดงว่าเขาไม่อยากพูดเรื่องนี้ เธอจึงได้ ปิดปากเงียบอย่างรู้สถานการณ์
“แด๊ตดี้กินค่ะ” หลินลุย ใช้ช้อนตักบล็อกโคลีชิ้นนึง แล้วยื่น มาที่ปากของจงจึงห้าว
ยัยตัวแสบกระพริบตาปริบๆ เต็มไปด้วยความคาดหวัง จงจิ่งห้าวอ้าปากเอาบล็อกโคลี่ชิ้นนั้นอมไว้ที่ปาก ถึงไม่อยาก อาหารก็ได้ให้เกียรติมากคอยเคี้ยวอยู่ในปากเบาๆ
“อร่อยใช่มั้ยล่ะ?” หลินลุยยิ้มอย่างมีความสุข “หม่ามีหนูทำ อร่อยกว่านี้อีก”
สีหน้าแววตาของจงจึงห้าวนิ่งไว้ เด็กสองคนนี้พูดอะไรก็หนีไม่ พ้นจะต้องเอ่ยถึงหลินซินเหยียนสักคำสองคำ สามารถเห็นความ รู้สึกที่พวกเขามีต่อหลินซินเหยียนได้
หลินเฉินมองน้องสาวแว๊บนึงแล้วเม้มปาก จากนั้นหลุบตาลง เอาข้าวผัดปากไปไม่กี่คำก็ได้วางตะเกียบลงแล้ว หาหม่ามีไม่ เจอเขาก็กินไม่ลงเหมือนกัน
“ผมกินเสร็จแล้วครับ ผมไปดูหน่อยว่าคุณยายเก็บเสื้อผ้าเสร็จ หรือยัง” พูดจบเขาสไลด์ลงมาจากเก้าอี้แล้วเดินไปที่ห้องนอน
“พี่กินแค่นี้เองเหรอ?” หลินลุยซีมองหน้าพี่ชาย ถึงแม้บางครั้ง ทั้งสองจะทะเลาะกันบ้าง เถียงกันบ้าง แต่มีความห่วงใยมากกว่า
“พี่กินอิ่มแล้ว” หลินซีเฉยยิ้มให้กับน้องสาว
“พี่ไม่ใช่ส่วนเกิน” จู่ๆหลินลุยซีพูดกับหลินซีเฉิน หลินซีเฉินยิ้มเล็กน้อย
หลังจากทานข้าวเสร็จ ผ่านไปไม่นานเส้นเผยชวนก็ได้พาลูก น้องกับรถมาแล้ว รู้ว่าจงจึงห้าวจะพาเด็กสองคนไปด้วย เขาได้ เตรียมรถบ้านไว้คันนึงให้เด็กสองคนสามารถพักผ่อนดีๆ แถมยัง มีออฟโรดสามคัน ลูกน้องเจ็ดคน ล้วนเป็นคนที่ฝีมือเก่งและไว้ใจ
ตอนที่เสิ่นเผยชวนเห็นหลินซีเฉิน ได้ถอนหายใจหนึ่ง “เขา หน้าตาเหมือนนายจริงๆ ดูตากับจมูกสิ”
“แล้วหนูหน้าตาเหมือนแด๊ดดี้มั้ยคะ?” หลินลุยแหงนหน้า
ถาม
เสิ่นเผยชวนนั่งลงมามองเด็กน้อยอย่างละเอียด เธอขาวมาก ดวงตาใสแบ๊ว โดยเฉพาะตอนที่กะพริบตา เหมือนดวงดาวที่ส่อง แสงระยิบระยับ เขายื่นมือไปหยิกแก้มเธอ แต่นิ้วมือยังไม่ได้จับ ต้องเธอ ก็ถูกคนจับข้อมือไว้ เขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นใบหน้าเย็นชา ของจงจิ่งห้าว
เสิ่นเผยชวนถึงกับมึนไปเลย “ฉันแค่หยิกแก้มเธอหน่อยเอง นายมีลูกสาว แต่ก็หวงขนาดนี้ไม่ได้มั้ง?”
เวลาหยอกเล่นกับเล่น ก็ลูบศีรษะ หยิกแก้ม หอมแกมแล้วก็ กอดไม่ใช่เหรอ?
อีกอย่างเขายังไม่ได้หอมแก้มหรือว่ากอดเลย จงจิ่งห้าวสลัดมือของเขาทิ้ง “นายห้ามใช้มือจับต้องเธอ” หลินลุยซีเป็นเด็กผู้หญิง มักจะถูกคนจับแก้มอยู่เรื่อย โดยเฉพาะถูกผู้ชายจับแก้ม เขารู้สึกสะอิดสะเอียน
เขาอุ้มลูกสาวขึ้นมาแล้วจูงมือลูกชายไว้ ใส่เสร็จแล้วก็ไป
เถอะ”
พูดจบเขาก็ได้เดินออกไปก่อน
เสิ่นเผยชวนยืนอยู่กับที่ด้วยสีหน้างงเป็นไก่ตาแตก เขาก้ม
หน้าดูมือของตัวเอง มือของเขาไม่ได้สกปรกสักหน่อย หวงขนาด นี้ทำไม?
เขารีบตามมา “จงจิ่งห้าว ฉันจะต้องคุยกับนายหน่อย เขาไม่ใช่พวกนักโทษข่มขืนสักหน่อย ทำไมต้องกันเขาด้วย?
“นายมีลูกนายเอ็นดู อันนี้ฉันเข้าใจ ก็คนมันมามีลูกตอนแก่อะ เนอะ แต่นายไม่ต้องหวงขนาดนี้ก็ได้…”
จงจึงห้าวหันหน้ามา “นายว่าอะไรนะ? มีลูกตอนแก่?”
เขาแก่เหรอ?
เสิ่นเผยชวนทําสีหน้าไม่เต็มใจ “ไม่แก่
แต่กลับแขวะอยู่ในใจ สามสิบกว่าจะสี่สิบอยู่แล้ว ยังไม่แก่อีก
เหรอ?
เขาเดินมา “เดี๋ยววันหลังฉันมลูกชายออกมาคนนึง เรามา หมั้นหมายกันไว้ตั้งแต่วัยเด็กเถอะ?”
เสิ่นเผยชวนคิดอยู่ในใจ ไม่ให้ฉันจับต้อง งั้นฉันก็ปั้มลูกชาย คนนึงให้ไปสู่ขอลูกสาวนาย ให้ลูกสาวนายมาเป็นภรรยาของลูกชายตัวเอง
มาเป็นลูกสะใภ้ของเขา
ฮ่าๆ
สีหน้าของจวงห้าวห้อยลงมาทันที
เส้นเผยชวนไหวตัวอย่าไวอาศัยตอนที่จงจึงห้าวยังไม่กำเริบ ก็ได้วิ่งขึ้นรถไปก่อน
หลินลุยซึกะพริบตา “แด๊ดดี้ อะไรคือหมั้นหมายกันไว้ตั้งแต่ เด็กเหรอคะ?”
จงจิ่งห้าว “..………….
จงจิ่งห้าวลูบผมของลูกสาวแล้วอุ้มเธอขึ้นรถ “เขาพูดจาเหลวไหล”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ