กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 9 รับสมัครล่าม



บทที่ 9 รับสมัครล่าม

“คุณอยากให้ฉันตอบยังไงคะ?” คำพูดของไปจเวย ท่าเธอพูดต่อไม่ได้ เลยด้วยซ้ำ

หรือจะให้พูดว่าขอโทษค่ะ ฉันไม่ควรมีการหมั้นหมายกับจงจึงห้าว และ แยกพวกคุณออกจากกัน?

แบบนั้นมันเสแสร้งเกินไป

อีกอย่างการหมั้นหมายคือแม่ของทั้งสองตกลงกันไว้ จะให้เธอทำยังไง?

จงจิ้งห้าวหรี่ตาจ้องมองเธอไว้ก้าวเท้าอย่างไม่ช้าไม่เร็ว บรรยากาศมี ความอึดอัดอบอวลอยู่โดยที่ไม่รู้ตัว หลินซินเหยียนถอยหลังไปก้าวหนึ่ง อย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ “ฉันไม่ได้แต่หาเรื่องคุณมั้งคะ?”

ไป๋จวเวยเดินมาควงแขนของเขาไว้ “อะห้าว อย่าโกรธเลยค่ะ ฉันไม่ดี เอง ไม่ควรพูดคําพูดเหล่านั้น เธอเพิ่งแต่งเข้ามาไม่นาน ที่จริงฉันไม่ควรมา เลย คุณพักผ่อนเช้าๆ หน่อยนะคะ ฉันกลับก่อนแล้วค่ะ”

“คนที่ควรไปไม่ใช่คุณ” จงจึงห้าวย้อนกลับมาดึงข้อมือเธอขั้นชั้นบน

ไปจเวยแอบดีใจ ถึงแม้จงจึงห้าวได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าจะ อยู่กับเธอ แต่ไม่เคยมีความคิดด้านนั้นกับเธอเลย

พฤติกรรมของจงจิ้งห้าวในวันนี้ ทำให้เธอดีใจจนเนื้อเต้น

เพราะยังไงผู้หญิงในคืนนั้นไม่ใช่เธอ มีแค่เกิดความสัมพันธ์กันจริงๆ เธอถึงจะมัดใจผู้ชายคนนี้ได้อยู่หมัด

หลินซินเหยียนไม่ได้มองไปด้านบน แค่หันกลับเข้าห้องนอนอย่างเงียบๆ
ไปจเลยหันกลับไปก็เห็นรูปร่างผอมเพรียวของหลินซินเหยียนเข้าห้อง นอนพอดี จู่ๆเธอพบว่าเหมือนเงาของผู้หญิงคนนั้นมาก

คืนนั้น เธอควบคุมความริษยาและความเกลียดชังในใจไว้ หาสาว บริสุทธิ์คนหนึ่งให้จงจึงห้าวถือเป็นขีดจำกัดสูงสุดของเธอแล้ว เธอไม่อยาก ไปดูผู้หญิงที่นัวเนียคลอเคลียกับจงจิ้งห้าวคือผู้หญิงแบบไหน

แต่ว่าตอนที่ผู้หญิงคนนั้นจากไป เธอเห็นเงาที่ผอมเพรียวเงานั้นอยู่

แว็บๆ

ถึงว่าเธอถึงรู้สึกแปลกใจตลอดว่าเห็นหลินซินเหยียนแล้วมีความรู้สึก

คุ้นเคย

ที่แท้ความคุ้นเคยแบบนี้ ไม่ได้อยู่ดีๆก็โผล่มาเอง

พอนึกถึงผู้หญิงในคืนนั้นอาจจะเป็นหลินซินเหยียน ไปเลยก็ กระวนกระวายอย่างแรง

เธอจะปล่อยให้หลินซินเหยียนอยู่ข้างกายของจงจึงห้าวไม่ได้อีกเด็ด

ขาด

การสัมผัสอย่างใกล้ชิด จะทำให้จงจึงห้าวพบพิรุธอย่างเลี่ยงไม่ได้

เพราะยังไงซะก็เป็นผู้หญิงที่เคยกายแนบชิดกายกับเขา

ไปจเวยเข้ามาในห้องนอนก็ไม่มีเวลามาแคร์ว่าเป็นกุลสตรีหรือเปล่า เธอกอดเอวบางของจงจึงห้าวไว้ ซบอยู่ที่อ้อมอกเขาแล้วพูดเสียงอ่อนโยน “อะห้าว ให้ฉันเป็นผู้หญิงของคุณอีกครั้งนะคะ

ระหว่างที่พูดเธอก็ได้จูบมา จงจึงห้าวอึ้ง กับการเสนอของไปจเวย เขา กลับไม่มีอารมณ์ที่ผู้ชายปกติควรจะมีเลย

นอกจากคืนนั้น เขาไม่มีความต้องการกับเธอเลยสักนิด!

ในขณะที่ปากของไปจเวยจะประกบมา เขาได้หันหน้าไปอีกทาง ทำให้ไปจ เวยผิดหวัง

“นี่ก็ดึกแล้ว คุณนอนเช้าๆนะครับ” จงจึงห้าวดึงคอเสื้อที่ไม่ได้แน่นเลย

อารมณ์ค่อนข้างหงุดหงิด ส่วนหงุดหงิดอะไรนั้นเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน หงุดหงิดตัวเอง หงุดหงิดที่

ตัวเองไม่มีอารมณ์ที่ผู้ชายควรจะมีกับเธอ นี่ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติ

มือทั้งสองของไปจเวยกุมไว้แน่น สีหน้าค่อนข้างน้อยใจ “อะห้าว คุณ

ไม่ชอบฉันหรือเปล่าคะ

คุณอย่าคิดมากเลยนะ” จงจิ้งห้าวกดเสียงไว้ และกอดไหล่ของเธอคืน นี้นอนพักที่นี่นะ”

ไปจาเวยเป็นผู้หญิง เธอเข้าใจเป็นอย่างดีว่าผู้ชายคนหนึ่งไม่มีอารมณ์ กับเธอ มันหมายความว่ายังไง

เธอนอนลงบนเตียงอย่างเชื่อฟัง แต่ว่าเบ้าตาแดง น้ำตาหมุนอยู่ใน

เบ้าตา แต่กลับไม่ไหลลงมาเลย

หน้าตาที่กล้ำกลืนน้อยใจแท้ๆ แต่กลับอดทนปานนั้น

จงจึงห้าว ใจสั่นเล็กน้อย คืนนั้นเธอก็อดทนปานนี้แหละ ไม่ว่าเขาจะ ทรมานยังไง เธอก็ไม่เคยส่งเสียงออกมาเลย

ใจอ่อนลงมามาก เขานั่งอยู่ที่ขอบเตียงและห่มผ้าให้เธอ “อย่าคิด ฟุ้งซ่านเลยนะ รอผมให้ฐานะชื่อเสียงกับคุณแล้ว ผม…..เอาคุณแน่นอน

ไปจเวยพยักหน้า เธออยู่ข้างกายจงจึงห้าวมานาน รู้นิสัยของเขาดีพอ สมควร ถึงไม่รัก แต่ด้วยหน้าที่เขาจะต้องรับผิดชอบเธอแน่นอน

จงจึงห้าวถอดเสื้อสูทแล้วเดินออกมาจากห้องนอน เขาลงมาชั้นล่าง โยนเสื้อสูทไปที่ที่บนโซฟา ตามมาด้วยทิ้งตัวลงไปในโซฟา ขาที่เรียวยาว พาดอยู่บนโต๊ะน้ำชา แหงนหน้าพิงอยู่บนโซฟา ดูแล้วค่อนข้างเหนื่อยล้า
เช้าวันรุ่งขึ้น

ตอนที่หลินซินเหยียนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเดินออกมา จงจึงห้าวกำลังนั่ง ดูข่าวสารการเงินและเศรษฐกิจวันนี้อยู่หน้าโต๊ะทานข้าว เหมือนไปจเวย จะเข้าใจเขาเป็นอย่างดี ได้ต้มการแฟเข้มข้น ให้เขาไว้ว่าหนึ่ง

ป้าหยูได้เตรียมอาหารเช้าเสร็จ หลินซินเหยียนพยายามทำเหมือนไม่มี ตัวตน ไม่ส่งเสียง นั่งอยู่ที่ปลายโต๊ะ เว้นระยะห่างกับพวกเขา และก้มหน้า ก้มตาทานโจ๊ก

ป้าหยูยกไข่ดาวมา เห็นหน้าตาที่ไม่เอาไหนของหลินซินเหยียนแล้ว ขมวดคิ้วแน่น เธอต่างหากที่เป็นคนมีฐานะชื่อเสียง ทำไมอยู่ต่อหน้าเมีย น้อยต้องต่ำต้อยขนาดนี้ด้วย?

ป้าหยูแกล้งส่งเสียง “คุณผู้หญิงคะ คุณน่าจะนั่งใกล้คุณชายนะคะ

เอ่อ?

หลินซินเหยียนเงยหน้า

จงจึงห้าวก็แกล้งวางหนังสือพิมพ์ในมือลง

ทั้งคู่สบตากันแล้วต่างก็อึ้ง หลินซินเหยียนแค่นึกถึงเมื่อคืนผู้ชายคนนี้ มองหน้าตัวเองอย่างเย็นชาขนาดนั้น เธอก็หนาวสั่นไปถึงทรวงอกแล้ว

ตอนที่จงจึงห้าวยังเด็กอยู่ก็เสียแม่ไปแล้ว ป้าหนูเป็นคนคอยดูแลเขามา โดยตลอด

สำหรับคนแก่ที่ดูแลเขาท่านนี้ เขาเคารพนับถือมาก ดังนั้นป้าหยูพูดจาก เลยค่อนข้างตามสบาย

แต่งงานกับเขา พวกเขาต่างคนต่างเอาสิ่งที่ตัวเองต้องการ หลินซินเหยี ยนรู้สึกไม่ควรรบกวนชีวิตส่วนตัวของเขา กินโจ๊กคำสุดท้ายเสร็จ เธอได้ พูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันทานอิ่มแล้ว พวกคุณค่อยๆทานนะคะ”
หลังจากเมื่อคืน หลินซินเหยียนรู้สึกได้ว่าจงจึงห้าวแคร่ไปจเวยมาก เพราะฉะนั้นเธออยู่เป็นหน่อยจะดีกว่า

เหมือนข้างหลังมีภัยพิบัติกำลังไล่ตามเธออยู่ เธอเดินเร็วมาก

จงจึงห้าวมองเงาที่เร่งรีบของหลินซินเหยียนแล้วหรี่ตาลงมา

ไปจเวยเก็บความคิดไว้ พร้อมถามเสียงต่ำ “อาจจะเพราะมีฉันอยู่ เธอ ไม่ค่อยคุ้นซิน ต่อไป”

จงจึงห้าวยกันมแก้วหนึ่งมาวางที่ตรงหน้าเธอ “อีกหนึ่งเดือน เธอก็จะไป จากที่นี่แล้ว”

ไปจวเวยหลุบตาลง สำหรับเธอแล้วหนึ่งเดือนนี้มันช่างยาวนาน

หลินซินเหยียนกลับมาที่ห้องนอน เปิดดูข้อความที่ฝากไว้ที่58.com ได้ รับการตอบรับแล้วว่าให้เธอไปสัมภาษณ์งาน พอจงจิ้งห้าวกับไปจเวย จากไป หลินซินเหยียนเองก็ได้เดินออกมาจากวิลล่า และนั่งรถไปสัมภาษณ์ งาน

ว่านเยวกรุ๊ป ตึกสูงระฟ้า ใหญ่โตโอ่อ่า

หลินซินเหยียนยืนอยู่หน้าตึก สูดหายใจลึกๆ ที่นึง ถึงก้าวเท้าเดินเข้าไป เธอเรียนมหาลัยไม่จบ สามารถหางานที่เหมาะสมได้มันไม่ง่ายเลย เพราะฉะนั้นจึงอยากสมัครงานครั้งนี้สำเร็จ และมีโอกาสได้ทำงาน

โซนสัมภาษณ์มีผู้คนยืนเต็มไปหมด แต่ละคนใส่เสื้อผ้าที่เป็นทางการ ในมือถือเรซูเม่ไว้เหมือนทำการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีกับการสัมภาษณ์ งานครั้งนี้ แต่หลินซินเหยียนใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์ ดูเหมือนไม่ เข้ากันเลย

ไม่เหมือนคนมาสัมภาษณ์งานเลย

เธอมองข้ามสายตาแปลกๆที่มองมาเป็นพักๆ นั่งรออยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ

ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง ถึงเรียกชื่อของหลินซินเหยียน

งานล้างจานและส่งหนังสือพิมพ์แบบนี้ ก็เอามาเป็นประสบการณ์การ ทำงานไม่ได้ เธอไม่มีวุฒิการศึกษา เลยไม่ได้ทำประวัติย่อ

คนสัมภาษณ์งาน ประวัติการทำงานที่เหมือนกระดาษขาวของเธอแล้ว ขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณเป็นภาษาของประเทศ ได้ยังไงคะ?

นี่ไม่ใช่ภาษาที่ใช้กันโดยทั่วไป

ป้ายรับสมัครงานนี้โพสต์อยู่นานมาก ก็ไม่มีผู้สมัครงานเลย

หลินซินเหยียนนึกถึงทุกอย่างของอดีตแล้วก็ได้กำมือไว้แน่น “ฉันเคย ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น เพื่อสื่อสารกับคนในท้องถิ่นได้ดีกว่า เป็นภาษาและตัว หนังสือที่ฉันตั้งใจเรียน โดยเฉพาะค่ะ..……….

เสียงนี้

ในมือของไปจเวยถือเอกสารอยู่เดินผ่านโซนสัมภาษณ์งาน ได้ยิน เสียงที่ค่อนข้างคุ้นเคยนี้ เธอมองไปตามเสียงก็เห็นหลินซินเหยียน หัวใจ เธอหยุดเต้นกะทันหัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ