กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 518 ห้ามไม่ทัน



บทที่ 518 ห้ามไม่ทัน

ดูไปดูมา มันทำให้เขาคิดถึงท่าทางตอนที่หลินซินเหยียนกอด และจูบเขาตามอำเภอใจ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไหร่นัก แต่ว่าเขาชอบเธอที่เป็นแบบนั้น มีเลือดมีเนื้อ มีอารมณ์ความรู้สึก ปรารถนาเหมือนคนทั่วไป แสดงอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริงของ ตัวเองได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องเก็บเอาไว้

ท่าทางที่มีชีวิตชีวาของเธอนั้น ทำให้เขารู้สึกชอบ

ถึงแม้ว่าจะได้อยู่กับเธอแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ว่ามันก็สามารถเติม เต็มความว่างเปล่า ในช่วงเวลานี้ได้

หรือว่า อาจจะเป็นเพราะว่าอารมณ์ดีที่ได้เจอเธอ เขาก็เลย ไม่ทันเก็บสีหน้า อารมณ์ของเขาแสดงออกมาบนใบหน้าทั้งหมด ซูจ้านที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงาน พอเห็นรอยยิ้มที่หายากบนใบหน้า ของจงจิ่งห้าว เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองตาฝาดไป เขาเอามือขยี้ ตาอีกที แต่ว่าเขาก็ยังคงยิ้มอยู่

“แก แกเก็บเงินได้เหรอ? “ไม่อย่างนั้นทำไมถึงได้ยิ้มอย่างมี ความสุขขนาดนี้

ช่างหลอกลวงจริงๆ เห็นได้ยากมาก

เขาน่าจะมีความสุขเพราะว่าอะไรบางอย่างในโทรศัพท์ ซูจ้าน ยื่นหน้าเข้าไปเพื่อจะมอง แต่ผลก็คือยังไม่ทันจะได้เห็นว่ามันคือ อะไร จงจิ่งห้าวที่ได้สติกลับมาทันก็รีบกดปิดหน้าจอ เก็บสีหน้าของตัวเองแล้วก็มองเขาอย่างมืดมน

ซูจ้านเกาหัว ในใจคิดว่าเขาช่างงักจริงๆ เลย

ก็แค่ดูนิดเดียวเอง ไม่ให้ดูก็ไม่ให้ดูสิ ทำไมต้องดุขนาดนี้ ด้วย?

ตอนนี้เองก็มีสายโทรเข้ามา เสียงของหัวหน้าฝ่าย ประชาสัมพันธ์ก็ดังเข้ามา “ประธานจง เรียกผมเหรอครับ?

สายตาของจงจึงห้าวกลับมามองที่หน้าจออีกครั้ง “เห็นข่าว หรือยัง? ”

อีกฝ่ายตอบว่าเห็นแล้ว

“ผมคิดว่า รูปนี้ถูกเผยแพร่โดยบังเอิญ ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง คุณไปหาพวกสื่อหน่อย แล้วก็บอกให้พวกเขาหยุดแพร่กระจาย”

หลังจากเห็นข่าวแล้ว เขาก็ตรวจสอบคนที่เริ่มโพสต์ เป็นแค่ account เล็กๆ ของคนคนหนึ่ง ตอนแรกก็ไม่มีใครเห็นเท่าไหร่ ใต้รูปภาพมีคนคอมเม้นเพียงแค่ 2-3 คนเท่านั้น แต่ว่าพอ account สื่อช่องใหญ่เห็นเข้า ก็เผยแพร่ต่อ ก่อให้เกิดความฮือ ฮาขึ้นมาในทันที

ขอแค่ไม่มีคนอยู่เบื้องหลังก็แก้ไขไม่ยากเท่าไหร่นัก

“ได้ครับ ประธานจง ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”

จงจิ่งห้าวตอบรับอย่างเรียบง่ายแล้วก็ตัดสาย เขาหยิบ โทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมา ยืนขึ้น พร้อมกับหยิบเสื้อคลุมบนเก้าอี้และมองซูจ้าน แกต้องมหาลัย หนึ่งชื่อว่า ฉันคือซอสมะเขือเทศ ให้ทางมหาลัยเขียนฝ่ายประชาสัมพันธ์ติดต่อ สื่อมวลเพื่อแถลงการณ์ต่อไป

พอพูดจบเขาก็ออก

ยังคงไม่เข้าใจ เรียกเขาให้หยุด “แล้วเรื่องนั้นจะ

ยังไงก็ยังมีหน้าอยู่บนนั้น จะพูดยังไงให้เคลียร์ จงจึงไม่ได้หันหน้า

ตอนนี้แค่ต้องหยุดไหมให้เรื่องเกิดหมักหมม ลบข่าวออก ให้ คนเป็นแค่เรื่องที่แค่เขาหาคำอธิบายที่เหมาะสม แก้ไขแล้วเหรอ?

จ้านพยักหน้า “งั้นโอเค เดี๋ยวฉันกลับไปมหาลัยอีกรอบ

จงจิ่งห้าวเดินออกไปโดยที่ได้ตอบอะไร เขาควรอยู่มาก และเขารู้สึกอึดอัดอย่างรุนแรง

ซูจ้านหันกลับมองหยู ไม่ควรจะพาซางหยูกลับมหาลัยแล้ว มันเหมือนพาเธอตะลอนไปตะลอนมา
ตอนที่เขาไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงกับชางหยูนั้น โทรศัพท์ที่อยู่ ในกระเป๋าเสื้อนั้นก็ดังขึ้น เสิ่นเผยชวนเป็นคนโทรมา พอเห็นชื่อ ที่ปรากฏที่หน้าจอ เขาก็รีบรับสายและเอ่ยปากว่า “แกเป็นยังไง บ้าง? ”

“เพิ่งจะกลับมาที่กรม เดี๋ยวต้องไปเจอหัวหน้า แกเจอซางหยู หรือยัง? เธอเป็นยังไงบ้าง? ”

ซูจ้านหันกลับไปมองซางหมูที่ยืนเงียบไม่พูดอะไร ในใจก็ พลางคิดว่าทั้งสองคนนี้นี่ช่างรู้ใจกันจริงๆ สิ่งแรกที่ทำก็คือถาม ถึงสถานการณ์ของอีกฝ่าย

“ไม่ได้เป็นอะไร ตอนนี้อยู่กับฉัน แกห่วงตัวเองเถอะ อย่าเสีย การเสียงานไปล่ะ คนซื่อบื่ออย่างแก ไปทำอาชีพอื่นไม่ได้หรอก นะ”ซูจ้านจงใจพูดแบบนี้ต่อหน้าซางหยู ถ้าจัดการได้ไม่ดีต้องถูก ลงโทษอย่างแน่นอน แต่ว่าไม่ถึงขั้นโดนไล่ออกหรอก

“หัวหน้าเงิน ผู้บัญชาการส่งให้คุณไปพบที่ห้องทำงานครับ

ซูจ้านได้ยินเสียงทางฝั่งเสิ่นเผยชวน หลังจากนั้นเสียงของเงิน เผยชวนก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว “ฉันมีธุระ เดี๋ยวติดต่อไป ใหม่นะ”

พอพูดจบเขาก็ตัดสายไปทันทีแบบไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ

ชางหยูเอ่ยถามทันที “หัวหน้าเงินใช่ไหมคะ? ” ซูจ้านพยักหน้า “เดาว่าน่าจะถูกเรียกไปตำหนิ “คุณบอกฉันได้ไหมคะว่าเขาอยู่สถานีไหน ฉันอยากจะไปเจอเขาหน่อย ซางหยดูว่าการจะไปเจอเขาตอนนี้มันไม่ค่อยเหมาะ สมเท่าไหร่นัก แต่ว่าเธอจะไม่สร้างปัญหา “ฉันจะแค่รออยู่ด้าน นอก ไม่โผล่หน้าไปสร้างปัญหาให้เขาแม้แต่น้อย

ซูจ้านมองเธอเงียบๆ อยู่ 2 วินาทีแล้วก็พยักหน้า ” โอเค งั้น เดี๋ยวฉันไปส่ง

เขาวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากไปส่งซางหยูแล้วก็ ฝากฝังเธอไว้กับลูกน้องของเส้นเผยชวน แล้วเขาค่อยไปที่มหา

การที่จะส่งซางหมูไปที่นั่น เพราะว่าเขาอยากจะให้เธอกลับ

เสิ่นเผยชวนมีเวลาร่วมกัน

ถึงแม้ว่ารูปถ่ายที่สนิทชิดเชื้อของพวกเขานั้นจะสร้างความ โกลาหล แต่ซูจ้านรู้ดีว่า จากนิสัยของเสิ่นเผยชวนแล้ว ต่อให้เขา รู้สึกดีกับซางหยู ก็ไม่มีทางจะเริ่มจูบเธอก่อนต่อหน้าสาธารณชน หรอก

ถ้าดูจากในมุมนี้เหมือนซางหยูเป็นคนเริ่มซะอีก

เขาเงยหน้าขึ้นมองซางหยู ไม่คิดเลยว่าเธอจะใจกว้างขนาดนี้

พอเดินออกมาจากห้องทำงานของจงจึงห้าว เขาก็ไปหากวน จิ้ง เขาไม่ได้ขับรถมาเอง เอาแต่นั่งแท็กซี่มันไม่ค่อยสะดวกเท่า ไหร่นะ บางทีก็ต้องรอ ก็เลยตัดสินใจจะยืมรถของกวนจิ้ง

วันนี้กวนจึงไม่ได้จะออกไปไหน ก็เอากุญแจรถให้กับเขาทันที เขาพาซางหมูมาที่สำนักงานเทศบาล ระหว่างทางนั้นเขาก็ได้โทรหาลูกน้องของเส้นเผยชวน ให้เขารออยู่ที่หน้าประตู

พอถึงแล้วเขาฝากยางหยูไว้กับลูกน้องของเส้นเผยชวน แล้วก็ ขับรถไปมหาลัย

ที่จริงแล้วไม่จําเป็นต้องให้จ้านบอกหรอกว่าซางหยูเป็นใคร เกรงว่าลูกน้องของเสิ่นเผยชวนก็จำได้อย่างชัดเจนแล้วว่าผู้หญิง คนนี้คือใคร ยังไงซะตอนนี้ก็ไม่มีใครที่ไม่รู้เรื่องนี้

ตอนนั้น ที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกมา คนที่ติดตามเส้นเผยชวน ต่างไม่มีใครเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง

แต่ว่าคนในข่าวนั้นกลับยืนอยู่ตรงหน้าเขา ในตอนนี้ ทำให้เขา จําเป็นต้องเชื่อ เสิ่นเผยชวนมีผู้หญิงแล้วจริงๆ แถมยังเป็น เด็กผู้ หญิง’ อีกต่างหาก

“เข้าไปกับผมเถอะครับ เสี่ยวหลิวลูกน้องของเสิ่นเผยชวนพูด

กับชางหยู

ซางหยูยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ แล้วก็ถามว่า “การที่ฉันปรากฏตัว ที่นี่ จะสร้างความเดือดร้อนให้เขามากขึ้นกว่าเดิมไหมคะ?

พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น เธอก็ระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น

เสี่ยวหลิวตอบอย่างไม่อ้อมค้อม เขาพูดตรงๆ ว่า “มันเดือด ร้อนไปแล้วครับ”

ซางหยูเม้มปาก

เสี่ยวหลิวเพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองพูดตรงเกินไปหน่อย ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ ก็เลยรีบอธิบายว่า “ผมเป็นคนหยาบๆ พูดไม่

ค่อยเก่ง คุณอย่าถือสาเลยนะ”

“ไม่หรอกค่ะ”ซางหยูรีบตอบ

“ผมพาคุณไปรอหัวหน้าเงิน ที่ห้องทำงานของเขาแล้วกัน ครับ” เสี่ยวหลิ่วพูดจบแล้วก็เดินทาง กลัวว่าตัวเองจะพูดอะไร ผิดไปอีก ก็เลยเลือกที่จะไม่พูดอะไรดีกว่า

ระหว่างทางที่เดินตามเสี่ยวหลิวไปนั้น ซางหยูก็พยายามถาม สถานการณ์จากเส้นเผยชวน “ตอนนี้หัวหน้าเงินเป็นยังไงบ้างเห รอคะ? ”

“อยู่ในห้องผู้อำนวยการครับ”เสี่ยวหลิวตอบ

“มันจะไม่ดีแต่เขาหรือเปล่าคะ? “ซางหนูถามอีกครั้ง

เสี่ยวหลิวคิดครู่หนึ่ง “ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะถูกลงโทษ ยังไง อาจจะไม่ดีก็ได้ ด้วยสถานะของเขา กับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มันสร้างผลกระทบที่ร้ายแรง

“ให้ฉันไปเจอผู้อำนวยการของพวกคุณได้ไหมคะ? ที่จริงแล้ว เรื่องนี้มันเป็นความผิดของฉันเอง ไม่เกี่ยวหัวหน้าเงินเลย” ซางห

เสี่ยวหลิวหันหน้ามามองเธอ หลังจากคิดไปครู่หนึ่งก็ตอบว่า

“ก็ได้ครับ”

เขาคิดว่าในเมื่อซางหยูก็เป็นคนในเหตุการณ์ ไปอธิบายให้ผู้ อำนวยการฟังพร้อมกับหัวหน้าเป็นก็น่าจะดีกว่ามั้ง?
ตอนแรกจะพาซางหมูไปที่ห้องทำงานของเส้นเผยชวน หลัง จากนั้นเสี่ยวหลิวก็เปลี่ยนทางไปที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการ แทน

พอมาถึงหน้าประตู ตอนที่เขายกมือขึ้นเตรียมเคาะประตูด้าน ในก็มีเสียงแก้วแตก เสี่ยวหลิวชะงักไปในทันที เขาไม่กล้าเคาะ ประตูแล้ว โกรธจนปาข้าวของ แสดงว่าโมโหมากเลย

ถ้าเข้าไปในตอนนี้ จะโดนลูกหลงไปด้วยไหม?

คิดว่าตอนนี้หัวหน้าเงินน่าจะถูกดุอย่างรุนแรง

ซางหยูอยู่ใกล้ก็ต้องได้ยินเสียงนั้นอย่างแน่นอน เธอเดิน เข้าไปแล้วก็ยกมือขึ้นเคาะประตู

มันเป็นความผิดของเธอเอง จะปล่อยให้หัวหน้าเงินรับผิด ชอบแทนเธอไม่ได้หรอก

เสี่ยวหลิวมองหน้าเธอยังไม่อยากจะเชื่อ ไม่คิดว่าเธอจะกล้า

เคาะประตู “คุณไม่ได้ยินเสียงข้างในเหรอ?

“เขาว่าได้ยินก็เลยเคาะไงคะ”ซางหยูกำมือแน่น น้ำเสียงดู แน่วแน่เป็นพิเศษ

ถึงแม้ว่าในใจจะรู้สึกหวาดกลัว แต่ว่า เธอก็อยากจะอธิบาย ให้หัวหน้าของเสิ่นเผยชวนเข้าใจอย่างชัดเจน

“เข้ามา”

เสียงจากด้านในดังขึ้น ต่อให้เสี่ยวหลิวอยากจะห้ามก็ห้ามไม่ทันแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ