บทที่ 496 ฉันกับภรรยานายเป็นชู้กัน
ซูจ้านที่หงอยเหงาซึมเศร้าเห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญคนนี้ ก็ กระตือรือร้นขึ้น สำหรับผู้ชายคนนี้ที่อยากได้ภรรยาคนอื่น ไม่ ชอบใจเลย “โย่ว นี่เป็นแขกหายากนี่น่า อยากทำอะไรอีก? ”
ไปยื่นหนึ่งไม่ได้อยากคุยกับเขา แต่มองไปทางกวนจิ้น “รบกวนไปช่วยฉันแจ้งให้ที
“อย่าแสร้งทำเป็นสูงส่งเลย ทั้งๆ ที่มีหัวใจที่สกปรก แต่กลับ
พยายามทำให้เป็นสุภาพบุรุษ ทำไมถึงหน้าด้านขนาดนี้นะ? ”
“ฉันหน้าด้าน? ” เขายิ้มแห้งที่หนึ่ง เดิมทีเขาไม่อยากสนใจซ จ้านจริงๆ แต่ว่า เป็นคนก็ต้องมีอารมณ์เขาก็เหมือนกัน “ฉันเป็น ชู้กับเมียนายหรอ? ถึงทำให้นายเกลียดฉันขนาดนี้? ”
เสิ่นเผยชวนดึงซูจ้านไว้ เกรงว่าทั้งสองคนจะสู้กันที่นี่ “เป็นคน มีหน้ามีตากันทั้งนั้น พูดจาหยาบคายแบบนั้น ไม่กลัวเสียหน้า เลย”
ไปยื่นหนังเงยหน้ามองพวกเขาสองคนไว้ “หัสหน้าเงินเขาเป็น คนยั่วยฉันก่อน ฉันขาเป๋ ไม่ใช้ไม่มีอารมณ์OK? ”
เสิ่นเผยชวนมองที่ขาของเขาแล้วยิ้มไม่พอใจที่หนึ่ง ดึงซูจ้าน จากไป ซูจ้านกลืนน้ำลายนี้ไม่ลง พยายามขัดขืนมือของเสิ่นเผย ชวนให้หลุด
“หยุด จะต่อยกับเขาที่นี่จริงๆ หรือ? ” เท่าไรเผยชวนห้าม ปราม ดึงเขาไว้ ไปกินข้าว”
ซูจ่ายไม่พอใจ “ไม่มีอารมณ์กินข้าว
“ไม่มีอารมณ์กินก็ต้องกิน ทำไม อยากมีชีวิต โดยพึ่งอากาศ หรอ? ” เสิ่นเผยชวนไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่านเลย แต่ละ คนเอาแต่ทรมานตัวเองคือยังไงเนี่ย?
“ถ้าจะล่อให้เปยขึ้นเบ็ด ยังต้องการกำลังคน ฉันจะแบ่งคน ไปตามหาเบาะแสของพี่สะใภ้และฉินยา รอให้เรื่องจบลง ฉันก็จะ ส่งคนไปทันที”
ถ้าไม่ใช่เพราะกำลังคนไม่พอ เขาก็ส่งคนไปตามหานั้นแล้ว
“ฉันโกรธที่ไปยื่นหนิงพูดน่าเกลียดเกินไป”
“ฉันรู้สั่งสอนเขาไม่ต้องรียในตอนนี้ ไม่ช้าก็เร็วเขาจะตกอยู่ ในมือพวกเรา” เสิ่นเผยซวนตบไหล่ของเขาเบาๆ
ซูจ้านอิ่มทีหนึ่ง ข้างในตึกตรงข้ามมีร้านอาหารเช้า เสิ่นเผย เท่าไรกับซูจ้านเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม
ร้านอาหารเช้าอยู่ชั้นสาม ล้อมรอบด้วยกระจกผนัง ไม่ว่าจะนั่ง ตรงไหน ก็สามารถมองเห็นข้างนอกได้ วิวสวยดี ทั้งสองคนหาที่ นั่งลงอย่างไม่เลือกมาก เสิ่นเผยชวนสั่งอาหาร โจ๊กหมูไข่เยี่ยว ม้าของที่นี่มีชื่อเสียงมาก เขาสั่งมาสามชุด ยังสั่งอาหารที่น่ากิน อีกหลายอย่าง ตอนที่ยื่นเมนูคืนพนักงาน เสิ่นเผยชวนก็พูดว่า “ชุดหนึ่งห่อกลับไป”
“ได้ค่ะ รบกวนรอสักครู่ จะรีบเอาอาหารมาเสิร์ฟให้ค่ะ พนัก งานถยลงไปอย่างมีมารยาท
เส้นเผยชวนยกน้ำเปล่าให้ดื่มฟรีที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาดื่มหนึ่ง ตอนที่วางแก้วลง มองซูจ้านแล้วถามว่า “ฉันว่านายจะแปลกๆ ไปนะ นายเป็นไรของนาย?
ซูจ้านถอนหายใจทีหนึ่ง “นายรู้สึกว่าพวกเราสามคน ประหลาดไหม?
“ประหลาดตรงไหน? ” เสิ่นเผยชวนขมวดคิ้ว นี่มันเป็นบ้า
อะไรอีก
“ถึงอายุของพวกเราแล้ว นอกจากเรื่องงานที่ยังใช้ได้ ยังเหลือ อะไรอีก?
นี่เป็นครั้งแรกที่เสิ่นเผยชวนเห็นบ้านท้อขนาดนี้ ในพวกเขา
สามคน ซูจ้านเป็นคนที่ร่าเริงที่สุด แม้ว่าบางทีจะพูดมาก แต่ว่า
ถ้าเขาเงียบไป ก็จะรู้สึกว่าไม่ชินเลย
เขายอมให้ซูจ้านเอาเรื่องของเขาที่ยังไม่เคยนอนกับผู้เป็น หัวข้อหลักในการพูด ก็อยากให้เขากลับไปเป็นอิสระแบบนั้น เหมือนเดิม
ต่อหน้าซูจ้านที่เป็นแบบนี้ เสิ่นเผยชวนกินข้าวไม่อร่อยเลย
ทั้งๆ ที่ในปากอร่อยจะตาย แต่กลับเหมือนกับกำลังเคี้ยวขี้ผึ้งแ
เพลง เสียงแก้วน้ำตกแตก พนักงานที่มาใหม่คนหนึ่ง บังเอิญไปชนโดนลูกค้าที่มากินอาหารเช้าที่นี่ น้ำในจานก็หกใส่ตัวของลูกค้า แก้วน้ำเองก็ตกแตก
“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ พนักงานใหม่รีบขอโทษทันที
เสียงนี้ค่อนข้างคุ้นเคยเส้นเผยชวนเลยหันไปดู ก็เห็นซางหมู ใส่ชุดพนักงานของที่นี่ไว้รอบเอวใส่คาดผ้ากันเปื้อนลายดอกไม้ ก้มตัวขอโทษพนักงานอยู่
ที่จริงเป็นเพราะว่าลูกค้าผู้ชายท่านนี้ตอนที่ลุกขึ้นไม่ได้มองเธอ ก็เลยชน โดน ตอนที่เธอมาทำงานผู้จัดการบอกว่า “คนที่มากิน ข้าวที่นี่ เป็นคนที่ทำงานอยู่ในตึกแถวนี้ ต่างมีฐานะไม่ว่าเกิด ไรขึ้น พวกเราที่ทำงานพนักงานต้อนรับ ก็ต้องขอโทษเป็น อันดับแรก ลูกค้าก็คือพระเจ้าของพวกเรา
นี่เป็นสิ่งที่ผู้จัดการบอกกับพวกเขา ดังนั้นทางหยูก็เลยรีบ ขอโทษทันที
แต่ว่าชายวัยกลางท่านนี้ที่ใส่สูทครบชุด กลับไม่ยอมให้อภัย “มีตาไว้ทำอะไรหะ? เดี๋ยวฉันจะต้องไปเจอลูกค้าที่สำคัญอีก เธอ ดูที่เธอทำไว้บนตัวของฉัน จะให้ไปเจอคนยังไง?
ซางหยูก็ได้ขอโทษต่อ “ขอโทษจริงๆ ค่ะ”
“ขอโทษมีประโยชน์อะไร? ” ชายวัยกลาง ใส่แว่น ดูเป็นคนที่ เข้าหาง่าย แต่คิดไม่ถึงว่า กลับพูดคุยยากขนาดนี้
ตอนนี้เองผู้จัดการทางร้านก็เดินออกมา “ต้องขออภัยจริงๆ ครับ บริการคุณไม่ดีเลย ผมรู้สึกขอโทษจริงๆ ค่ะ เธอพึ่งมา ทำงานครั้งแรก ยังไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อม ต้องขออภัยจริงๆนะค่ะ
ชายวัยกลาง ที่หนึ่ง “รู้ไหมว่าสูทของฉันราคาเท่าไหร่ ? ดูสิ ข้างบนเป็นครบ หมดเลย ฉันจะไปเจอลูกค้ายังไง? ”
ผู้จัดการขอโทษต่อ “ขอโทษจริงๆ ค่ะ ฉันจะสั่งสอนเธอดีๆ โปรดยกโทษให้ด้วยค่ะ
“พูดว่าขอโทษเพียงคำเดียว เพื่อต้องการค่ายกโทษ นี่คือท่าที ที่อยากจะแก้ปัญหาหรอ?
ชายวัยกลางก็ยังไม่ยอม
“แล้วคุณอยากแก้ปัญหายังไง? ” เสิ่นเผยชวนเดินขึ้นไป ที่นี่ เป็นย่านธุรกิจการเงิน ผู้ชายที่มากินข้าวที่นี่ แทบจะใส่ครบสูท ผู้ หญิงเองก็เป็นเสื้อผ้าที่เป็นทางการ สถานะของวงการก็เป็นแบบ นี้ แต่ว่าเสิ่นเผยชวนไม่ใช่คนในวงการนี้ เพราะว่าไม่ได้เข้างาน ก็เลยไม่ได้ใส่ชุดเครื่องแบบแต่เป็นชุดลำรอง แต่ว่าตัวสูง 180กว่าเมตรเดินมาแบบนี้ ก็กดอยชายวัยกลางคนนั้นไปแล้ว บวกกับหน้าที่หล่อและเย็นชา ให้ออร่าที่แกร่ง
สถานะของเขา เป็นเรื่องปกติมากที่จะถือปืนจัดการกับผู้ร้าย ออร่านั้นคนปกติเทียบไม่ได้เลย
ชายวัยกลางเงยหน้ามองเสิ่นเผยชวนไว้ “แกเป็นใคร? ”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เสิ่นเผยชวนมากินข้าวที่นี่ เมื่อก่อนมากับจง จึงห้าวหลายครั้ง ผู้จัดการก็สนิทกับเสิ่นเผยชวน เพราะว่าคุณ ชายว่านเยวอยู่ตรงข้าม เธอยิ้ม “หัวหน้าเงิน
เส้นเผยชวนตอบกลับแล้วมองไปทางซางหยู ถามเธอว่า “เกิด อะไรขึ้น? 糖
ที่ผู้ชายคนนี้ไม่ยอมก็เพราะอยากได้เงิน ถ้าเป็นความผิดของ ซางหยูจริง เงินนี้ก็สมควรให้เขา ถ้าไม่ใช่ความผิดของซางหยู ก็ ต้องไม่ให้เงินเขาแม้แต่น้อย
ชายวัยกลางอึ้งไปที่หนึ่ง ที่นี่เป็นธุรกิจใหญ่ๆ ทั้งนั้น หัวหน้า หัวหน้าอะไร? ทำไมเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน?
คิดแล้วก็เขม็งใส่ผู้จัดการ “อย่าคิดจะหลอกฉัน
ซางหมูมองผู้ชายที่ดูถูกเหยียดหยาม พูดตามความจริง “ฉัน เอาน้ำจะไปเสิร์ฟให้แขกทางโต๊ะนั้น เขาก็นั่งอยู่ที่โต๊ะนี้
ซางหยูชี้ตรงที่ผู้ชายนั่ง “เขาลุกขึ้นมามองดูโทรศัพท์แล้วเดิน มาทางนี้…….…..
“แกพูดบ้าอะไร? ” ผู้ชายคนนี้ร้อนตัวแล้ว
เสิ่นเผยชวนมองมือขวาของผู้ชายที่จับโทรศัพท์ไว้ ผู้ชายถอย หลังไปตามสัญชาตญาณ ซูจ้านไม่ชอบคนที่ข่มเหงรังแกคนที่ อ่อนแอกว่าและไร้ยางอายแบบนี้เป็นอย่างมาก เขาพิงไว้ที่เก้าอี้ อย่างเกียจคร้าน “ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายทำงานอยู่ที่ไหน?
ชายวัยกลางมองซูจ้านแล้วมองเสิ่นเผยชวน เหมือนกับว่าสอง คนนี้ไม่ธรรมดา ก็เลยทีหนึ่ง “ถือว่าฉันซวยละกัน
พูดจบก็ไปแล้ว
ซูจ้านชอบพูดอะไรไร้สาระ “อย่าพึ่งไปสิ ทำไมถึงไปแล้วล่ะ? เสื้อยังไม่ได้คืนให้นายเลย รู้จักทางไปว่านเยวกรุ๊ปที่อยู่ตรงข้าม ไหม? พาวเรารอคุณตลอดนะ”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ