บทที่ 492 สามีของเธอไม่เป็นห่วงเลยหรอ
เฉิงยูซิ่วเสียชีวิตแล้ว เธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงนี้ ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือทำให้ผ้าไหมกวางตุ้งเจริญรุ่งเรืองขึ้น กลับสู่ความรุ่งโรจน์เดิม มันไม่ควรหายไปจากโลกนี้เพียงเพราะ ใครบางคน
บางทีมีแค่ทำแบบนี้ ใจของเธอถึงจะสบายขึ้นมาหน่อย
ข่าวหยุนขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจความหมายของเธอ หลินซินเหยี ยนเองก็ไม่ได้อธิบายให้เขาฟัง เรื่องมันซับซ้อนเกินไป ถ้าจะพูด จริงๆ สองสามคำก็อธิบายไม่หมด ดังนั้นเธอก็เลยพูดอย่างน้อ เล่นว่า “อารองอย่าขมวดคิ้ว จะดูไม่ดีนะ
ชาวหยุนชอบที่คนอื่นชมเขาว่าหล่อ ชมเขาว่ายังหนุ่ม คำพูด ของหลินซินเหยียนทำให้เขาหัวเราะได้สำเร็จ “คืนนี้ เรียกทุกคน ออกไปกินข้าวเถอะ ฉันมาจัดการเอง เป็นไง? ”
เหมือนว่ากลัวหลินซินเหยียนจะปฏิเสธ เขาก็เลยรีบเสริมขึ้น มา “โรงงานทอผ้านี่ก็เข้าสู้เส้นหลักแล้ว ถึงแม้ว่าขนาดจะเล็กแต่ ก็พัฒนาอย่างเสถียรภาพ ควรต้องฉลองกันหน่อย เธอว่าล่ะ?
หลินซินเหยียนไม่ได้ขัดอารมณ์สนุกสนานของชาวหยุน พูดว่า “ได้ ลุงไปจัดการเถอะ
“แบบนี้ถึงจะถูก พวกคนงานพวกนี้ ไม่ใช่แค่ให้เงินเดือน อย่างน้อยก็ต้องทําแบบนี้ด้วย แบบนี้พวกเขาถึงจะพยายามในการทํางาน ข่าวหยุนกดเสียงพูดข้างหูของหลินซินเหยียน
อย่าดูท่าทางของเขาวันๆ เอ้อระเหยลอยชาย ที่จริงแล้วมี ความมีความสามารถ แต่ว่านิสัยของเขาก็เป็นแบบนี้
ตอนเย็น 5 โมงทุกคนเลิกงานแล้ว ชั้นสามคนน้อยมีแค่ 11 คน ชั้นสอง 20 คน ทั้งหมด 30 กว่าคน ข่าวหยุนได้เตรียมไว้ 3 โต๊ะ โต๊ะในร้านอาหารหรูและสภาพแวดล้อมก็เป็นชั้นยอด ทุก คนต่างมความสุขมาก
เด็กทั้งสองคนก็รับมาแล้ว นั่งอยู่ข้างเธอและฉินยา เรื่อง สังสรรค์หลินซินเหยียนปล่อยให้เป็นหน้าที่ของชาวหยุน เธอไม่ ไหวกับสถานการณ์แบบนี้
คนในโต๊ะของเธอเป็นคนชั้นสามทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ไม่ดื่มเหล้าเบียร์ ฉินยาเอาเหล้าขาวที่เปิดวางไว้ตรงหน้าของหลี ซิน “ถ้านายดื่มเป็นก็ไม่ต้องเกรงใจ ที่นี่เป็นผู้หญิงกันหมด ไม่มี ใครดื่มกับนาย ถ้านายดื่มได้ ก็ดื่มคนเดียวทีละคำสองคำ แต่ว่า ก็ไม่ต้องดื่มมากไป เมาแล้วไม่มีใครสนใจนาย
หลีซินเป็นคนพูดน้อย และไม่ชอบดื่มเหล้า เขาเงยหน้ามอง เหล้าที่ฉินยาเอามาแล้วเอากลับไป “ฉันไม่อยากทำให้งานพรุ่งนี้ ต้องล่าช้า”
ฉันยายักคิ้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
อีกสองโต๊ะไม่ได้เงียบแบบนี้ มีข่าวหยุนคอยทำให้บรรยากาศ ดีขึ้น ทางนั้นเป็นผู้ชายทั้งนั้นก็ต้องดื่มเหล้ากันเป็นธรรมดา
จงเหยียนเงินคืบผักให้หลินซินเหยียน “หม่ามี หม่ามี้กินเยอะ หน่อย”
เธอท้อง 3 เดือนแล้ว น้ำหนักไม่เพิ่มแม้แต่น้อยเลย
เขาเป็นห่วงจะแย่แล้ว
หลินซินเหยียนยิ้ม จับหัวของลูกชาย รู้สึกว่าเด็กคนนี้ไม่ได้ เลี้ยงเสียเปล่าจริงๆ ลำบากแค่ไหนก็คุ้มแล้ว พระเจ้าเองก็ได้ มอบของขวัญที่ดีขนาดนี้ให้เธอ
จงเหยียนซีเองก็ไม่ยอมแพ้ คืบผักไปวางไว้ในจานของหลิน นเหยียน “หม่ามีกินเยอะๆ หน่อย ให้น้องโตไวๆ
เธอไม่ได้อิจฉาพี่ชาย ต่อจากนี้ไปเธอจะตามพี่ชาย ถึงจะได้ เรียนรู้อะไรอีกมากมาย
“หมากินเยอะแล้วอ้วนน่าเกลียด ต่อไปส่งพวกลูกไป
โรงเรียน จะรังเกียจหม่ามีไหม? ”
เมื่อก่อนเธอเคยเห็นบทความหนึ่งเกี่ยวกับการเลี้ยงเด็กใน นิตยสารเล่มหนึ่ง นิตยสารเล่มนั้นชื่ออะไรเธอก็จำไม่ค่อยได้แล้ว แต่ว่าหนึ่งในตัวอย่างในนั้น ตอนนี้เธอยังจำได้อย่างดี ข้างในนั้น บอกเกี่ยวกับแม่ท่านหนึ่งที่ทำงาน เธอไม่ใช่คนที่ทำงานหนัก เพียงแต่ต้องไปในโรงงาน ปกติแม่สามีเป็นคนไปรับส่งเด็ก มี ครั้งหนึ่งที่แม่สามีไม่ทันไปโรงเรียน เธอก็เลยต้องลาหยุดหนาง ชั่วโมงในการไปรับเด็ก เพราะว่ารีบ เธอใส่ชุดเครื่องแบบที่ บริษัทกําหนด ในตอนที่ลงโรงงาน โรงงานผลิตเครื่องจักร จะมี น้ำมัน เข้าไปมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะโดนบนตัว
เธอก็เลยไปรับลูกชายทั้งสภาพแบบนั้นที่โรงเรียนอนุบาล
ตอนที่นั่งอยู่ในรถ ลูกชายบอกกับแม่ว่า “ต่อไปถ้ามารับผม ใส่ชุดที่สะอาดหน่อยได้ไหมครับ?
มีคนบอกว่าเด็กคนนี้ไม่ชอบคนจนรักคนรวย แต่ไม่ใช่เลย มีผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เด็กใส่ใจใครสักคน ก็จะยิ่งเรียกร้องเขา มากขึ้น
ที่เด็กบอกว่าสะอาด ไม่ได้อยากให้เธอใส่หรูหราแค่ไหน แต่ เป็นสะอาด ภาพลักษณ์ของแม่ที่อยู่ในสายตาของเด็กอายุไม่กี่ ขวบเท่ากับภาพลักษณ์ของบ้าน ถ้าเธอไม่จัดแต่ง แล้วที่บ้านจะ สะอาดไปถึงไหนล่ะ?
ผู้หญิงที่รักสะอาดกับรู้จักแต่งตัว ไม่เพียงแต่ตัวเองจะมีความ มั่นใจ ลูกเองก็จะมั่นใจขึ้นในสภาพแวดล้อมแบบนี้ กล้าที่จะ แสดงออก
“หม่ามีสวย อ้วนแล้วก็สวย” ในตาของจงเหยียนเฉินและจงเห ยียนซี หม่ามีของพวกเขาสวยที่สุดแล้ว
พวกเขาโตมาขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นเธอกินอ้วนมาก่อนเลย
หลินซินเหยียนยิ้มแล้วขยี้หัวของพวกเขา
“สามีของคุณไม่ได้มาหรอ? ” อาจารย์ท่านหนึ่งที่เย็บปักถัก ร้อยอยู่ๆ ก็ถามขึ้น
ปกติหลินซินเหยียนก็อยู่ที่โรงงานทอผ้า ช่วงวันอาทิตย์เด็กทั้งสองคนก็จะมาบ้าง แต่ไม่เคยเห็นสามีของเธอเลย
สงสัยเกี่ยวกับสามีของเธอก็เลยถาม ผู้หญิงคนหนึ่งพาเด็กทั้ง สองคนต่อสู้อยู่นอกบ้าน และยังท้องอีกด้วย สามีของเธอก็ไม่ เป็นห่วงเลยหรอ?
แม้ว่าหลินซินเหยียนจะไม่ได้แสดงออกมาเท่าไหร่ แต่พวก ป้าๆ พี่ๆ ที่ผ่านอะไรมาหลายๆ อย่าง มองทีเดียวก็มองออกแล้ว
ทุกคนเหมือนจะสนใจในคำถามนี้มาก ต่างส่งสายตามาที่ หลินซินเท่าไรยียนทั้งหมด
หลินซินเหยียนอึ้งไปทันที ในหัวยุ่งไปหมด ไม่รู้ว่าจะตอบ คําถามนี้ยังไง
ฉินยารีบหัวเราะแล้วแก้สถานการณ์ “สามีของพี่หลินไม่อยู่ใน เมืองนี้ เขางานยุ่งมาก ก็เลยกลับมาไม่ทัน
“แด๊ดดี้ไม่รู้ว่าพวกเราอยู่ที่นี่ใช่ไหม” จงเหยียนซีคิดถึงแด๊ดดี้
มากจนข้าวก็ไม่อยากกินแล้ว
ฉินยาพึ่งอธิบายเสร็จ จงเหยียนซีก็พูดแบบนั้นขึ้นมา ทำให้ บรรยากาศบนโต๊ะอึดอัดขึ้นมาทันที
เห็นได้ชัดว่ามีคนโกหก แต่ว่าทุกคนยืมเชื่อคำพูดของเด็ก มากกว่า
“กินข้าวกินข้าว ถามทำไมเยอะ? “หลีซินพูดขึ้นมาอย่างเป็น ชา “เขาว่ากันว่าผู้หญิงเป็นพวกสอดรู้สอดรู้ คำพูดนี้ไม่ผิดเลย ขนาดกินข้าวยังไม่สงบกันเลย”
มีความหมายอื่นแฝงอยู่ในคำพูดของเขา ทำนองกำลังว่าคนที่ พูดเรื่องนี้ขึ้นมา เขาเป็นคนที่พูดอะไรไม่อ้อมค้อม คนอื่นก็ต้องรู้ เรื่องเป็นธรรมดา ก็เลยไม่ยอมแล้วพูดขึ้นมาว่า “นาย หมายความว่าอะไร? ฉันถามเพราะว่าเป็นห่วงเฉยๆ เธอที่เป็นผู้ หญิงแล้วเลี้ยงลูกอีกสองคน ไม่เคยเห็นสามีของเธอปรากฏตัว เลยสักครั้ง ก็แค่ถามไปอย่างนั้น ทำไมถึงกลายเป็นสอดรู้สอด เห็นไปซะอย่างนั้นล่ะ?”
“เธอคืออยากรู้เรื่องส่วนตัวของชาวบ้าน”หลีในสายตาเย็นชา จ้องผู้หญิงที่พูดไว้ “เธอก็แค่อยากรู้ว่าคนอื่นหย่าหรือยัง แล้ว หย่ากันเพราะมีคนมาแทรกในครอบครัวเรื่องพวกนี้ไม่ใช่หรอที่ อยากรู้?
เธอคิดแบบนั้นจริงๆ ครอบครัวปกติถึงแม้ว่าผู้หญิงจะแกร่งแค่ ไหน สามีก็จะคอยอยู่ข้างกายเป็นบางเวลาอยู่ดี
หลินซินเหยียนลุกขึ้นยืน กลัวว่าพวกเขาจะมองหน้ากันไม่ติด ท้ายที่สุดทุกคนก็ต้องทำงานร่วมกันอยู่ดี ถ้าเกิดมีผลต่องานขึ้น มา นั้นเป็นสิ่งที่เธอไม่อยากเห็น
เธอยิ้มให้ทุกคนแล้วพูดว่า “ทุกคนเป็นเพื่อนร่วมงานกันทั้งนั้น ไม่จําเป็นต้องโกรธกัน เพื่อไม่ให้มองหน้ากันไม่ติด สำหรับเรื่อง ของสามีฉัน คืออย่างนี้ พวกเราตอนนี้ไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยกันก็ จริง แต่ไม่ใช่เพราะว่าปัญหาทางความสัมพันธ์ เป็นปัญหาทาง ครอบครัว เลยตัดสินใจใจเย็นกันทั้งสองฝ่าย ขอบคุณที่เป็นห่วง นะ และขอบคุณที่ทุกคนเชื่อใจฉัน สนับสนุนฉัน ฉันไม่สามารถ ดื่มเหล้าได้ ใช้น้ำผลไม้แทนละกัน ฉันดื่มเพื่อพวกเธอแก้วหนึ่ง
ไปยื่นหนึ่งที่มาคุยธุระที่นี่ก็ได้เดินลงมาจากห้องส่วนตัวชั้นบน ตอนที่ผ่านห้องโถง ก็ได้ยินเสียงของหลินซินเหยียน ทีแรกเขา คิดว่าตัวเองได้ยินผิด นึกว่าตัวเองหูฝาดไป แต่ตอนที่มองไป คน ที่เห็นเป็นเธอจริงๆ ด้วย
เธอยืนอยู่กลางผู้คน แต่ก็ยังโดดเด่นเหมือนเดิม
ไปยืนหนึ่งขมวดคิ้ว เธออยู่เมือง แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ