บทที่ 42 ไม่ยอมรับเธอเพราะลูก
สถานการณ์แบบนี้ สิ่งที่คุยกันมีแต่เรื่องธุรกิจ เทอรุ่ยเจ๋อก็ พยายามเข้าสังคม หลินซินเหยียนดูออก เขาไม่ชอบสถานการณ์ แบบนี้ ดึงแขนของเหอยเจ๋อ พูดเบาๆ “ฉันอยากออกไปสูด อากาศ”
เหอรุ่ยเจ๋อดึงมือของเธอ “ฉันพาเธอไปด้านหลัง
แสงไฟ เสียง พูดคุย ประจบ ค่อยๆ หายไปจากข้
เดินผ่านระเบียง พวกเขามาถึงด้านหลัง กว้าง สว่าง เงียบกว่า ด้านหน้ามากๆ บางทีก็มีคนมาพูดคุยด้านหน้าหน้าต่าง
“เธอไม่ชอบฟังการพูดคุยแบบนั้นใช่ไหม” เหอยเจ๋อยิ้ม
“จริงๆ แล้วฉันก็ไม่ชอบ
ครั้งนี้เซี่ยเจินหยูพยายามให้เขามา เขาก็ต้องตกลงแล้วมา เขาไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบวางอุบาย ไม่ชอบคิดทุกวิธีเพื่อ หาเงิน
บางทีอาจจะเกี่ยวกับการเกิดมาของเขา เกิดมาก็มีทุกอย่าง ครบ ไม่เคยเครียดเพราะเรื่องเงิน
“ฉันดูออกแล้ว ดังนั้นนายต้องขอบคุณฉันหรือเปล่า พานาย หนีออกมาจากความเลวร้าย?”
“เธอจะให้พี่ขอบคุณยังไง?” เหอรุ่ยเจ๋อขยับเข้าใกล้เธอ หลินซินเหยียนได้กลิ่นความเป็นชายบนตัวของเขา ก้องอยู่ข้างหู เธอ อดไม่ได้ที่อยากขยับหนี แต่กลับถูกเหอยเจอล็อกเอาไว้
“เมื่อก่อนรู้สึกว่าเธอเด็ก เวลาผ่านไปไม่รู้ตัวเธอก็โตขึ้น เมื่อ ก่อนคอยติดตามเธอ ไม่มีความคิดอื่น ความคิดแบบนี้ไม่รู้ว่าเกิด ขึ้นกับตัวเองตั้งแต่เมื่อไร
หลินซินเหยียนรู้สึกว่าท่าทางเหอยเจอไม่เหมือนกับที่ตัวเอง รู้จัก เขาอบอุ่น ใบหน้ามักจะมีรอยยิ้มที่อ่อนโยน ดูแลเธอ ใส่ใจ เธอเหมือนพี่ชาย
แต่ว่าตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เขามักจะ “ขืนใจ เธอ?
“นายเปลี่ยนไปแล้ว” หลินซินเหยียนหันหน้า มือสองข้าง ประสานกันแน่น
“เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว แน่นอนว่าฉันมองเธอเป็นเด็กไม่ได้อีกต่อ
ไป เธอว่าถูกไหม?” เขายิ้ม
หลินซินเหยียนผลักเขาออก แต่ว่าฉันเป็นน้องสาวของนาย
เหอยเจ๋อถูกผลักอย่างไม่ทันตั้งตัว ถอยหลังไปหนึ่งก้าว หลัง จากที่รู้ตัว มองเธอ “ไม่ใช่แท้ๆ”
หลินซินเหยียนเดินไปด้านหน้าหน้าต่าง เงยหน้ามองท้องฟ้าที่ เต็มไปด้วยดวงดาว “ฉันอยากให้นายเป็นพี่ชาย
เหอรุ่ยเจ๋อมองแผ่นหลังของเธอ นี่เธอปฏิเสธเขาแล้ว?
“ฉันอาจจะรู้แล้วว่าพ่อของลูกในท้องคือใคร” น้ำเสียงของเธอนิ่งๆ เหมือนกำลังพูดกับตัวเอง แต่ก็เหมือนพูดกับเหอยเจ๋อ
เหอยเจ๋อเปลี่ยนสีหน้ายิ้มแย้มเมื่อกี้ ถามอย่างจริงจัง “ใคร?”
“ฉันไม่แน่ใจ มีหลายเรื่องที่ฉันยังไม่เข้าใจ” หลินซินเหยียน สูดหายใจเข้าลึกๆ หมุนตัวมามองเหอยเจ๋อ “ฉันอยู่ในภาวะที่ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก และไม่รู้จะทำยังไง ฉันไม่รู้”
เธอไม่สามารถอธิบายอารมณ์ของตัวเองได้
“คนที่เธอสงสัยคือใคร?” เหอยเจ๋อขมวดคิ้ว หรือว่าเป็น คนในประเทศ?”
นึกถึงเรื่องคืนนั้น เขาก็โมโห “ตอนนั้นทำไมไม่หาฉัน?หลินซินเหยียนก้มหน้า “ฉันไปหาแล้ว ไม่เจอนาย
เธอไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณคนอื่น แต่มันเกี่ยวข้องกับความ ปลอดภัยของน้องชายและคุณแม่ เธอไม่สนใจเรื่องพวกนั้น เธอ ไปหาแล้ว แต่ไม่เจอคน หลังจากนั้นเป็นผู้หญิงคนนั้นที่หาเธอ
ตอนนั้นไม่มีทางเลือก เธอต้องการเงินก้อนนั้น ช่วยคุณแม่และ
น้องชาย
เหอยเจ๋อนึกถึงเรื่องคืนนั้น วันนั้นคือวันที่เหอรุ่ยหลินหายไป เขาอารมณ์ไม่ดี ดื่มเหล้าไปไม่น้อย อาจจะเป็นตอนที่เธอเคาะ ประตู เขาหลับแล้วไม่ได้ยิน
เขาคิดว่าหลินซินเหยียนไม่หาตัวเองมาตลอด
ตอนนี้อารมณ์ตึงเครียดกว่าเดิม
“ขอโทษ” ถ้าตัวเองไม่เมา ได้ยินเสียงเธอเคาะประตู ตอนนี้ อาจจะไม่เหมือนเดิมแล้ว
เธอไม่ต้องเป็นภาระกับความโกลาหล ถูกตราไว้
แต่ง
และเขาสามารถดูแลเธออย่างสมบูรณ์
แต่ทั้งหมดนี้เปลี่ยนไปเพราะเขาเมา
“นายไม่ได้ติดอะไรฉัน พูดแบบนี้ ฉันกลับรู้สึกละอายใจ” หลิน ซินเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยตัวเอง
เธอเลือกเอง และเป็นชีวิตของเธอ
“ฉันอยากกลับไปแล้ว”
“ฉันส่งเธอ”
เหอยเจ๋อเดินมา กุมมือของเธอ จับแน่นๆ หลังจากนี้จะไม่ ให้เธอไม่เจอพี่อีก จะดูแลเธอดีๆ”
หลินซินเหยียนไม่ขยับ และไม่ผละออก ขณะนี้เธอเข้าใจบาง อย่าง เขาไม่ได้ชอบตัวเอง แต่เป็นความรู้สึกที่มีต่อน้อง
เพียงแค่เขาแยกไม่ออก
พวกเขาออกมาจากประตูหลัง ไฟนีออนนอกอาคารยังคง กะพริบอยู่ แสงไฟสลัว สว่างไสว!
ทําให้กลางคืนเหมือนกลางวัน
เหอรุ่ยเจ๋อเปิดประตูให้เธอ หลินซินเหยียนขึ้นรถ
ตลอดทางทั้งสองไม่คุยกัน ต่างก็มีเรื่องในใย หลินซินเหยียนไม่ได้ให้เขาส่งถึงวิลล่า ถึงทางเข้าก็ให้เขาจอด “ฉันลงตรงนี้ก็พอแล้ว”
เธอปลดเข็มขัดนิรภัย เปิดประตูรถ
“เหยียนเหยียน” เหอยเจ๋อเรียกเธอไว้
“หืม?” หลินซินเหยียนยืนอยู่หน้ากระจกรถ ก้มลงมองเขา เหอยเจ๋อเงียบไปสักพัก “คนที่เธอสงสัยคือใคร?”
หลินซินเหยียนหลุบตาลง เธอไม่มีหลักฐานที่แน่นอน ยังแค่ คาดเดา “ฉันไม่แน่ใจ
เหอยเจ๋อเม้มปาก เงียบไปสักครู่ “ฉันช่วยเธอ “เธอบอกฉันก่อนว่าเธอสงสัยใคร เขาหยุดลง
อารมณ์ของเขากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เกลียดที่รู้ แต่ก็อยากรู้ หลินซินเหยียนคิดสักพัก พึ่งตัวเอง เธอหาความลับที่ซ่อนอยู่
ในนั้นไม่ได้
“จงจิ่งห้าว”
หลินซินเหยียนพูดจบ อากาศรอบข้างถูกแช่แข็ง
เหอยเจ๋อก็ตะลึงไปนาน
คิดไม่ถึงว่าหลินซินเหยียนสงสัยจงจิ่งห้าว
นี่เป็นไปได้อย่างไร?
หรือว่าเป็นข้ออ้างที่เธอตั้งใจปฏิเสธเขา?
“นายรู้ที่อยู่ประเทศAของฉัน คนที่แนะนำฉันคือผู้หญิงที่ชื่อ เหมยหลัน ถ้าหาเธอเจอ อาจจะรู้เหตุการณ์คืนนั้น—”
“ทำไมเธอถึงอยากหาผู้ชายคนนั้นให้เจอ?” เหอรุ่ยเจ๋อตัดบท
เธอ
เริ่มแรกหลินซินเหยียนไม่ได้อยากหา
แค่บังเอิญ พบเบาะแสบนร่างของจงจึงห้าว
“นายบอกไม่ใช่เหรอ เด็กเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่มีพ่อแม่ เลี้ยงเดี่ยว จะมีข้อบกพร่องด้านบุคลิกภาพ”
“ฉันเคยบอก ฉันดูแลเธอและลูกได้” เหอรุ่ยเจ๋อตัดบทเธออีก
ครั้ง
หลินซินเหยียนเม้มปาก มองเหอยเจ๋อตรงๆ “แต่ว่านาย ไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของลูก
เธอตั้งใจ เธอและเหอรุ่ยเจ๋อเป็นไปไม่ได้
อีกส่วนหนึ่งให้เหอรุ่ยเจอชัดเจนว่าเธอกับเขาไม่มีทางอยู่ด้วย กัน อีกส่วนหนึ่งเพราะเธออยากรู้ความจริง กับจงจิ่งห้าวก็ไม่ได้ ในใจของเธอรู้ดี
เธอแค่อยากรู้ว่าพ่อของลูก ใช้เขาหรือไม่ สถานการณ์ในตอน นั้นเป็นอย่างไร
อนาคตลูกเกิดออกมา อย่างน้อยเธอสามารถบอกลูก พ่อของ เขาเป็นคนแบบไหน
อาจเป็นการเยียวยาแบบหนึ่ง
“ฉันคิดว่าไม่รบกวนนายแล้ว ดึกมาแล้ว พี่รีบกลับไปพักผ่อน เถอะ” หลินซินเหยียนยืนตรงแล้วยิ้ม “ขับรถช้าๆ ฉันกลับไปก่อน แล้วนะ”
พูดจบเธอก็หมุนตัวเดินไปทางวิลล่า
หลจากเดินหลายก้าว เหอรุ่ยเจ๋อเรียกเธอไว้ “ฉันสัญญากับ เธอแล้ว ก็จะทำให้เธอ แต่ฉันหวังว่าถึงเวลาแล้วเธอก็ไปจาก เขา”
“พวกเธอไม่รู้จักกัน เขาไม่มีทางรักเธอ และยิ่งไม่ยอมรับเธอ
เพราะลูก”
หลินซินเหยียนหยุดฝีเท้า จากนั้นก็เดินต่อ
เธอรู้ไม่มีความคิดอื่น แค่อยากรู้ความจริง เธอเดินริมถนน ไฟรามถนนสองร่างของเธอ สะท้อนเงาที่
ยาวๆ
ไม่ไกล มีรถสีดำจอดอยู่ ร่างสูงดูดียืนพิงรถ ไฟสีเหลืองอ่อน ส่องกระทบใบหน้าด้านข้างของเขา ทำให้เขาดูดีกว่าเดิม ความแข็งลดลง ความอ่อนโยนเพิ่มมากขึ้น
หลินซินเหยียนหยุดฝีเท้า คิดว่าเขายังไม่กลับมา คิดไม่ถึงว่า
กลับมาก่อนตัวเอง
ห่างไม่ไกล ขาของเธอเหมือนจมลงในโคลน ไม่สามารถขยับ ได้
เขาหันมาจ้องเธอสองวินาที น้ำเสียงน่าฟัง “มานี่”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ