บทที่ 366 แผนการของเหวินชิง
เขาจะคอยดูว่าความลับนี้จะถูกปกปิดได้อีกนานเท่าไหร่
หลินซินเหยียนหรี่ตาเล็กน้อย มิน่าล่ะคราวที่แล้วไปตระกูลเห วิน หลี่จิ้งถึงได้เก็บถ้วยชามที่จงจึงห้าวเคยใช้
ตอนนี้ เธอรู้ว่าปัญหาเกิดจากตรงไหนแล้ว ที่แท้ไปยื่นหนึ่ง คอยชักใยอยู่ข้างหลังนี่เอง
“ที่แท้คือคุณนี่เอง!” เสียงของหลินซินเหยียนเย็นชาลงอย่าง เห็นได้ชัด
ครั้งนี้ เธอเข้าใจผิดแล้วจริงๆ
ที่เหวินชิงสงสัยเพราะหลี่จึงได้ยินบทสนทนาของเธอกับเฉิง
คนที่เหวินชิงส่งไปตรวจสอบยังไม่กลับมา
เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ ว่าไปแล้วไม่มีความเกี่ยวข้องกับไปยื่นหนึ่ง
เท่าไหร่
แต่ตอนนี้หลินซินเหยียนเข้าใจผิดแล้ว
นี่ก็ไม่โทษที่หลินซินเหยียนไม่พอใจหรอก ไปยื่นหนิงคอยคิด แต่อยากจะเปิดโปงความลับของอดีต
“นี่มีประโยชน์อะไรกับคุณ?” หลินซินเหยียนมองเขาอย่างเป็นชา
สบตากับสายตาเย็นชาของหลินซินเหยียน ไปยื่นหนังอึ้งเล็ก น้อย นี่เป็นครั้งแรกที่หลินซินเหยียนใช้สายตาแบบนี้มองเขา
แน่นหน้าอกอย่างรุนแรง
แต่ภายนอกเขาไม่ได้เผยออกมาเยอะ แค่พูดอย่างสงบจิต สงบใจ “คุณก็รู้ๆอยู่ ทำไมยังต้องมาถามอีก?”
ถ้าจงจิ่งห้าวเป็นลูกชายของเฉิงซิ่ว รู้ว่าตอนนั้นเฉิงซิ่วเคย ถูกเหวินชิงกักขังหน่วงเหนี่ยว
ความสัมพันธ์ของจงจึงห้าวกับเหวินซึ่งจะต้องแตกร้าวแน่นอน
ถึงเวลา ไปยื่นหนังค่อยคิดแก้แค้นให้ไปหงเฟย ไม่มีจงจึงห้าว คอยขัดขวาง แม้กระทั่งยังอาจจะร่วมมือกับไปยื่นหนึ่งมาจัดการ เหวินชิงด้วยซ้ำ
ความคิดนี้ของไปยื่นหนึ่ง หลินซินเหยียนเข้าใจดี
ถึงจะเป็นแบบนี้ก็เหอะ เขาก็ยังเห็นแก่ตัวอยู่ดี
“อยากแก้แค้น ก็อาศัยความสามารถของตัวเองสิคะ ไปขุดคุ้ย ความเจ็บปวดของคนอื่น ไม่ใช่การกระทำของลูกผู้ชายเลย” หลินซินเหยียนก็ไม่อยากให้ความลับถูกเปิดเผย
สถานะของตอนนี้ก็ดีมากแล้ว
เธอกำมือสองข้างไว้แน่น เหวินชิงเกิดความข้องใจและตอนนี้ กำลังตรวจสอบฐานะของจงจึงห้าว เธอกังวลว่าเครื่องใช้บนโต๊ะ อาหารที่เธอสลับสับเปลี่ยนไปไม่สามารถขัดขวางเหวินชิงเลย
ตอนนี้สิ่งที่ทำได้ก็คือให้ไปยื่นหนึ่งอย่ามาแทรกแซงเรื่องนี้ ยัง มีอีกก็คือ เขาอยู่ไปเฉิงมีรากฐานที่มั่นคง ถ้าเล่นลูกไม้กับคนที่เห วินชิงส่งไปหน่อย หรือว่าขัดขวางหน่อย คนของเหวินซึ่งก็น่าจะ ตรวจสอบไม่เจออะไร
เธอมองหน้าไปยื่นหนึ่ง พร้อมพูดอย่างจริงจังและจริงใจ “ถือว่าฉันขอร้องคุณล่ะ อย่าเข้ามาเหยียบดินโคลนนี้เลย เหวิน ชิงทำผิด ช้าเร็วเขาจะต้องถูกกรรมตามสนองแน่นอน ทำไมต้อง รีบร้อนในชั่วขณะคะ?”
ไปยื่นหนังหัวเราะเบาๆเสียงนึง “คุณเชื่อว่าโลกใบนี้มีทำดีได้ ดี ทําชั่วได้ชั่วด้วยเหรอ?”
“ทำไมจะไม่เชื่อล่ะคะ” หลินซินเหยียนรีบพูด
ไปยื่นหนิงมองหลินซินเหยียนอย่างลึกซึ้ง มือสองข้างของเขา กุมราวจับไว้แน่นอย่างไม่ขาดสาย ฝ่ามือมีเหงื่อซึมออกมาเล็ก น้อย
“ที่ผมรับปากคุณ ไม่ใช่เพราะผมละทิ้งความมุ่งมั่นที่จะช่วยพ่อ เลี้ยงแก้แค้น แต่ว่าผมไม่อยากเห็นคุณกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะเรื่องนี้”
พอพูดจบ เขาก็ได้หมุนรถเข็นออกไปข้างนอก
สุดท้ายเขาก็เลือกหลินซินเหยียนอยู่ดี เรื่องนี้ เขาไม่อยากให้เธอทำตัวลำบาก ไม่อยากให้เธอต้อง คอยมากังวลเรื่องนี้
เรื่องแก้แค้น ช้าเร็วต้องมีโอกาส ที่สำคัญคือเขายังหนุ่มอยู่ว่า กันว่าลูกผู้ชายสิบปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย
หลินซินเหยียนเองก็ใจคอไม่ดีเหมือนกัน เธอรู้สึกลางๆถึงไป ยื่นหนังไม่เข้ามาข้องเกี่ยว ช้าเร็วเรื่องนี้ก็ต้องถูกขุดคุ้ยขึ้นมา อยู่ดี
เธอมองร่างเงาของไปยื่นหนึ่งและพูดจากใจจริง “ขอบคุณค่ะ”
ไม่ว่ายังไง ถ้าเขาไม่ขัดแข้งขัดขา เรื่องนี้ก็อาจจะยังปิดบังต่อ ไปได้
ไปยื่นหนึ่งเป็นมาถึงหน้าห้อง เขาหันหลังให้กับหลินซินเหยียน “ที่ผมอยากได้ไม่ใช่คำว่าขอบคุณ แต่ผมรู้ ผมอยากได้อย่างอื่น คุณก็ไม่อาจให้ผมได้เสมอไปหรอก ถ้าอยากขอบคุณผมจริงๆ ก็ ติดค้างน้ำใจผมครั้งนึง—”
หลินซินเหยียนรับปากเต็มที่ “โอเคค่ะ ต่อไปถ้ามีอะไรให้ฉัน ช่วยเหลือก็บอกมาได้เลยค่ะ ขอแค่ฉันสามารถทำได้ ฉันจะไม่ ปฏิเสธเด็ดขาดค่ะ”
ไปยื่นหนิงตาหยีและหัวเราะที่นึง “มีคำนี้ของคุณ ผมก็ไม่เสีย เปรียบแล้ว”
ไปยื่นหนึ่งเป็นออกมาจากร้านเสื้อผ้า เกาหยวนที่อยู่หน้าร้าน
ได้เข็นเขารถขึ้นจากไป
หลินซินเหยียนนั่งอยู่บนโซฟาไม่ขยับ เธอมองมือถือที่วางอยู่ บนโต๊ะ อยากติดต่อกับหลี่จึงอยากลองหยั่งเชิงเธอดู
แต่เธอก็กลัวถ้าโทรหาหงนุ่มบ่าม จะทำให้เธอเกิดความ สงสัย
ตอนนี้เธออยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ไม่รู้ควรจะทำยังไงดีในชั่วขณะ
เธอถอนหายใจหนึ่ง ตอนที่ลุกขึ้นเตรียมตัวจะเดินขึ้นไปชั้นบน หน้าร้านมีร่างเงาจึงเดินเข้ามา เธอหันไปมอง ก็เห็นหลจึงกำลัง ถือกระเป๋าเดินเข้ามาพอดี
หลินซินเหยียนหยุดฝีเท้าไว้ พร้อมหันหลังเดินลงมาจากบันได
มาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม “คุณป้ามาได้ยังไงคะ?”
หลี่จิ้งยิ้มแฉ่ง มองดูรอบๆห้องรับแขกแว๊บนึง เพราะเป็นร้าน สั่งตัดเสื้อผ้า ด้านหน้าของตู้กระจกใส มีหุ่นโชว์เสื้อผ้าวางอยู่ จำนวนไม่น้อย บนตัวหุ่นโชว์ใส่เดรสที่สวยงาม ชุดแต่งงาน แต่ละชุดล้วนสวยมาก แถมยังมีแค่ชิ้นเดียวในโลกด้วย
หลี่จิ้งแต่งงานเร็ว อีกอย่างเหวินซึ่งเป็นคนแข็งกระด้าง ความ คิดค่อนข้างหัวโบราณ ตอนที่แต่งงานกับหลี่จิ้งห้ามไม่ให้เธอใส่ ชุดแต่งงาน สมัยนั้นชุดแต่งงานสไตล์จีนก็มีน้อย ตอนที่แต่งงาน กับเหวินชิงคือใส่กี่เพ้า
ในใจของผู้หญิงล้วนมีความฝันที่จะได้ใส่ชุดเจ้าสาวสีขาว
ตอนนี้ได้แค่เสียใจภายหลัง
หลี่จิ้งดึงสายตากลับ “ลุงหนูไม่อยู่บ้าน ที่บ้านมีแค่ป้าอยู่คน เดียว ป้าเลยคิดมาชวนหนูไปทานข้าวกับป้า”
หลินซินเหยียนรับปากที่เต็มที่ เธออยากหยั่งเชิงอยู่พอดีเลย คิดไม่ถึงว่าหลี่จิ้งจะหามาเอง
“หนูคงไม่รู้สึกว่าป้าทำให้หนูเสียเวลามั้ง?” หลี่จิ้งพูดด้วยรอย
ยิ้ม
หลินซินเหยียนบอกว่าไม่ “คุณป้ามาหาหนู หนูรู้สึกดีใจมาก ค่ะ”
ตั้งแต่เข้ามา สายตาของหลี่จิ้งก็ไม่ได้เคลื่อนย้ายจากเสื้อผ้า ของห้องโถงเลย แววตาลึกๆของเธอมีแสงเปล่งประกาย เหมือน ชื่นชมชุดเหล่านี้มาก
หลินซินเหยียนมีแววมาก ดูออกว่าเธอชื่นชมชุดพวกนี้มาก จึง ได้เป็นฝ่ายเดินมาประคองแขนของเธอ “หนูพาคุณป้าชมดูค่ะ”
หลี่จิ้งตอบตกลงด้วยรอยยิ้ม
ชุดของตู้โชว์ชั้นหนึ่งล้วนไม่ใช่สินค้าที่นำมาจำหน่าย เอาไว้
ใช้เป็นโซนแสดงผลงานของดีไซน์เนอร์
ลูกค้าเข้ามาสามารถชมเสื้อผ้าเหล่านี้และเลือกดีไซน์เนอร์มา ช่วยพวกเธอออกแบบเสื้อผ้า
แน่นอนว่าก็มีคนมากมายที่มาเพราะดีไซน์เนอร์ที่พวกเธอชอบ หลี่จิ้งยื่นมือสัมผัสชุดแต่งงาน ในตู้โชว์ เนื้อผ้านุ่มลื่น จับอยู่ใน
มือรู้สึกสบายมาก
“อันนี้เป็นเนื้อผ้าอะไร จับแล้วสบายดี”
หลี่จิ้งก็ไม่ได้ไปศึกษาสิ่งเหล่านี้ แค่ถามเรื่อยเปื่อยคำนึง
เนื้อผ้าชนิดนี้เนื้อผ้าที่ก๊อปผ้าไหมกวางตุ้ง หลังจากที่ผ้าไหม กวางตุ้งถอนตัวออกจากตลาดผ้าไหม ผ่านการปรับปรุงใหม่ ถือว่าใกล้เคียงผ้าไหมกวางตุ้งมากแล้ว แต่ข้อเสียอย่างเดียวก็ คือเป็นรอยยับ ผ้าไหมกวางตุ้งนี้จะไม่เป็นรอยยับนะ เนื้อผ้าจะมี ความนุ่มลื่น ใส่สบาย เนื้อผ้าอันนี้เมื่อเทียบกับผ้าไหมกวางตุ้ง แล้วยังแย่กว่านิดหน่อย
“คุณป้าชอบเนื้อผ้าอันนี้มั้ยคะ? หนูสามารถใช้ผ้าอันนี้ตัดชุด ให้คุณป้านะคะ คุณป้าชอบแบบไหนคะ? หนูว่าคุณป้าน่าจะ เหมาะกับแบบนี้ค่ะ”
เธอ เดรสแบบนึงไว้ ตอนนี้อากาศค่อยๆอบอุ่นขึ้น ด้านนอก แมทช์กับเสื้อคลุมก็ใส่ได้ อีกอย่างไม่ถือว่ามิดชิดเกินไป
เธอดูออกว่าหลี่จิ้งเป็นคนที่เรียบร้อยมาก
หลี่จิ้งยิ้ม ในใจลึกๆเกิดความใจอ่อนขึ้น เธอมาครั้งนี้ ไม่ได้มาหาหลินซินเหยียนเพื่อมาทานข้าวอย่าง เดียว
แต่เป็นแผนของเธอกับเหวินชิง
หลินซินเหยียนทายผิดแล้ว
พวกเขาเอาตัวอย่างของจงจึงห้าวได้ ไม่ได้เอาไปเปรียบเทียบ กับของเฉิงซิ่ว แต่จะไปเปรียบเทียบกับDNAที่เหวินเสียนทิ้งเอา ไว้ก่อนตาย
แต่แล้วหลินซินเหยียนเอาของๆ จงจึงห้าวสลับสับเปลี่ยนเป็น ของตัวเอง DNAที่เหวินเสียนทิ้งเอาไว้ก่อนตายก็เลยได้เปรียบ เทียบกับของหลินซินเหยียน
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ