กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 332 แผนการของหลิวเฟยเฟย



บทที่ 332 แผนการของหลิวเฟยเฟย

ผู้ชายสีหน้าตะลึง เมื่อเขาพูดอะไรไป?

ดูเหมือนเข้าใจแล้ว เขาก็หันไปมองกวนจิ้ง “ออ เมื่อกี้ผมบอก ประธานจงว่าแฟนคุณสวยดี”

ร่างกวนจิ่งเอียงไปนิดหนึ่ง จนเกือบล้ม วินาทีต่อมาก็เบิกตาก ว้างจ้องหน้าผู้ชาย “บ้าเหรอ ตาคุณอยู่ที่ตาตุ่มเหรอ? ผมไปเอา แฟนมาจากไหน?”

หลินซินเหยียนยืนอยู่ข้างจงจึงห้าว มองเห็นเส้นเลือดบนหน้า ผากเขา เธอขยับตัวเข้าไปใกล้เขาอย่างเงียบๆ

บ่นเองในใจ คนอื่นเขาไม่รู้ถึงได้เข้าใจผิดไม่ใช่เหรอ?

จําเป็นต้องโกรธขนาดนี้?

ผู้ชายรู้สึกงง นี่มันเรื่องอะไรกัน?

มองไปที่กวนจิ้ง แล้วหันไปมองหลินซินเหยียน

เขาพูดอะไรผิดไปหรือ

ผู้ชายเหงื่อท่วมหัว “ “คือว่าผม……

หลินซินเหยียนรู้แก่ใจว่าผู้ชายคนนี้นิสัยแปลก เพราะเธอไม่ อยากรบกวนเขาทํางาน ไม่ได้เข้ามาทันที ถึงทำให้คนอื่นเข้าใจ ผิด เธอไม่อยากให้จงจึงห้าวโมโหใส่คนอื่น
เธอมองผู้ชาย “ความจริง ฉันมาหาประธานจงของพวกคุณ คุณไปทำงานก่อนเถอะ

ผู้ชายไม่กล้า เขามองไปที่จงจึงห้าว เหมือนกำลังรอคำสั่งจาก

เขา

จงจิ่งห้าวพูดเสียงเคร่งขรึม “ไม่ได้ยินว่าเธอพูดอะไรเหรอ?” ผู้ชายอ้าปากค้าง เขารู้อะไรแล้วใช่ไหม? ผู้หญิงคนนี้…….

“ยังไม่ไป?” กวนจิ้งตาขึงใส่เขา

ผู้ชายเดินออกไปอย่างรีบร้อน ไม่ได้สังเกตเห็นประตู ชนเข้า อย่างจัง จนหน้าผากนูนขึ้นทันที กวนจิ้งมองเขา “สายตามีปัญหา ว่างก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลหน่อยนะ”

“ต้องไปตรวจสายตาหน่อยแล้ว” ผู้ชายจับหน้าผากแล้วรีบวิ่ง

ออกไป

กวนจิ้งยิ้มอย่างประจบ “สายตาไม่ดี ยังจับคู่ไปเรื่อย

เสียดายที่จงจิ่งห้าวไม่ใส่ใจ จ้องหน้าเขาอย่างเย็นชา

กวนจิ้งรู้สึกใจไม่ดี หันไปขอความช่วยเหลือหลินซินเหยียน

นี่ไม่ใช่ความผิดของเขา อย่ามาทรมานเขาเลย หลินซินเหยียนอยากเปิดปากพูด จงจิ่งห้าวก็พูดขึ้นมา “คุณจะ พูดแทนเขา?”
เธอจึงตัดสินใจหุบปาก

กวนจิ้งก็ทําท่าทางรอให้เขาเชือด

เขารู้สึกว่าวันนี้โชคไม่ดีเป็นพิเศษ

หลินซินเหยียนเอามือคล้องแขนเขาไว้ ถามว่า “คุณเลิกงาน โมง?”

จงจิ่งห้าวยังไม่หายโกรธ ไม่ได้ตอบ

หลินซินเหยียนเขย่งเท้าไปกอดคอเขาแล้วพูดอ้อน “ฉันหิว แล้ว พวกเราไปกินข้าวกันดีไหม?”

เธอแอบโบกมือให้กวนจิ้งโดยไม่ให้จงจึงห้าวเห็น กวนจิ้ง เข้าใจแล้ว ก็แอบขยับตัวไปทางประตู

จงจึงห้าวก้มหน้ามองเธอ เธอยิ้มจนตาเป็นประกายสดใส เขา

ไม่ได้เงยหน้า “โครงการรับซื้อกิจการครั้งนี้ คุณรับผิดชอบ

กวนจิ้งโล่งใจ “ครับ”

พูดจบก็รีบเดินออกไป จากนั้นก็ปิดประตูออฟฟิศ

หลินซินเหยียนปล่อยมืออยากดึงกลับ จงจิ่งห้าวกอดเอวเธอ ไว้ ใช้แรงดึง ร่างของเธอชนเข้าที่กลางอกเขา เขาเบ้ปาก “ทำไม หลอกใช้ผมเสร็จ ก็อยากไป?”

ร่างทั้งสองแนบชิดกัน หลินซินเหยียนก้มหัว พูดเสียงเบา “คุณ ขี้ใจน้อยเกินไป”

เขาจับคางของเธอยกขึ้น จูบลงไปบนริมฝีปากของเธอ “ผมใจน้อยตรงไหน?”

เขาปกติดีจะตาย? ผู้ชายที่ไหนจะไปยอมรับผู้หญิงของตัวเอง ถูกพูดว่าเป็นแฟนของผู้ชายคนอื่น?

ผู้ชายเอาแต่ใจ หลินซินเหยียนคิดในใจ

เธอทำท่ามง่าม “คุณโทรหาซูจ้านหน่อย ฉันอยากเจอเขา

จงจิ่งห้าว “…….…….

“ใช่แล้ว คุณเรียกฉันมาทำไม?” หลินซินเหยียนนึกขึ้นได้

ช่วงนี้เขายุ่งมาก ออกเช้ากลับดึก ไม่ได้นั่งกินข้าวดีๆกับเธอ เลย เขาให้เลขาจองที่ไว้ อยากกินข้าวตามลำพังกับเธอ เพราะ ฉะนั้น จึงเรียกเธอมา

จงจิ่งห้าวไม่ได้ตอบ แต่ถามกลับ “เรียกซูจ้านมาทำไม?”

หลินซินเหยียนคิดถึงอาการเสียใจของฉินยาแล้ว ก็ถอน หายใจ เธอเงยหน้ามองจงจึงห้าว “ฉันอยากต่อยเขา

จงจึงห้าวมองเธออยู่สักพัก ขนตากะพริบ เขานวดขมับ ทันใด นั้นไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

“คุณโทรหาเขาหน่อย” หลินซินเหยียนแบบตัวอยู่ที่อกของเขา จับคอเสื้อเขาไว้น้อยมากที่เธอจะอ้อนเขาแบบนี้ ยังออดอ้อน ด้วยท่าทางแบบนี้

จงจึงห้าวสายตายิ้มแย้ม จงใจไม่พูด

หลินซินเหยียนจับปกเสื้อเขาไว้ ดึงเข้าหาตัวเอง จมูกแนบจมูกเขาสามารถมองเห็นขนบางๆบนหน้าของเธอ และเม็ดเหงื่อเล็กๆ บนหน้าผากเธอ

เธอแกล้งทําท่าทางโหดเหี้ยม “คุณโทรหรือไม่โทร?”

หลินซินเหยียนมีแผนการในใจ เธอโทรเองกับจงจึงห้าวโทร มันต่างกัน

ถ้าเธอ โทร ตอนที่แสดงความไม่พอใจต่อหน้าเขา นั่นก็เป็น เรื่องของเธอคนเดียว ถ้าหากจงจึงห้าวเป็นคนโทร ตอนที่เธอ แสดงความไม่พอใจต่อเขา หรือว่าพูดจาไม่น่าฟัง ก็แสดงว่าจง จิ่งห้าวก็คิดแบบนี้เหมือนกัน

เพราะว่าเขาเป็นคนโทร

จงจึงห้าวกะพริบตา ขนตาพันอยู่กับเส้นผมของเธอ เขายิ้ม อย่างเอือมระอา ทั้งรู้สึกสนุกและเอือมระอา “ฟังคุณทุกอย่าง”

เขาเปลี่ยนวิธีพูดทันที “แต่ว่ามีข้อแม้

เธอนิ่งแล้วถาม “ข้อแม้อะไร?”

เขาก้มหน้า ครุ่นคิด พูดอย่างมีความสนใจ “คุณเริ่มก่อนสัก ครั้ง?”

หลินซินเหยียน “

หน้าเธอแดงก๋า จงจึงห้าวกอดเธอไว้แน่น ไม่ได้แกล้งเธออีก มือข้างหนึ่งกอดเธอไว้ อีกข้างหนึ่งกดเบอร์โทรในออฟฟิศ โทร หาซูจ้าน เรียกเขาออกมากินข้าว
ซูจ้านตอบรับอย่างรวดเร็ว

วางโทรศัพท์แล้ว จงจิ่งห้าวมองเธอ ถามว่า “แบบนี้ได้หรือ ยัง?”

หลินซินเหยียนตอบเสียงต่ำ อืม

แต่ว่าจงจึงห้าวยังไปไม่ได้ ยังมีเอกสารต้องจัดการให้เสร็จใน วันนี้ เขาให้หลินซินเหยียนนั่งบนตักเขา มือข้างหนึ่งกอดเธอไว้ อีกข้างหนึ่งเปิดเอกสารในแฟ้มบนโต๊ะ ทั้งภาษาจีน ภาษา อังกฤษ รายงานสถิติต่างๆ ศัพท์เฉพาะต่างๆ ส่วนมากเธอก็ดู ไม่รู้เรื่อง ตาลายปวดหัว พิงอยู่ที่อกของเขา รู้สึกง่วงจนหลับไป จงจึงห้าวปรับท่าให้เธอ ให้เธอนอนสักพัก “เดี๋ยวผมเรียกคุณ เอง”

หลินซินเหยียนลืมตานิดหน่อย ตอบเสียงเรียบ

จากนั้นเธอก็หลับสนิทไปเลย ตื่นมาตอนที่จงจึงห้าวอุ้มเธอขึ้น รถ เธอถามว่าคุณจัดการเสร็จแล้วเหรอ

จงจิ่งห้าวดึงเสื้อให้เธอ ตอบลืมคำเดียว “หิวแล้วใช่ไหม?” หลินซินเหยียนพยักหน้า

เลยเวลาอาหารเย็นไปแล้ว ไปกินข้าวตอนนี้ ไม่รู้ว่าไปกิน อาหารเย็นหรือมื้อดึก

แสงไฟเจิดจ้า ค่ำคืนถูกสาดส่องเหมือนดั่งกลางวัน

ไม่นานจงจึงห้าวก็ขับรถไปจอดในร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง
หลินซินเหยียนมองไปนอกหน้าต่าง เห็น จํานกำลังยืนคุยกับ ผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ริมถนน

เธอลดกระจกลงมา ลมหนาวพัดเข้ามา เธอรีบดึงเสื้อมาปิด จ้องมองผู้หญิงคนนั้น คิดในใจนั่นก็คือแฟนเก่าของซูจ้าน? ตอนนี้ยังไปมาหาสู่กัน?

เธอหรี่ตาลง เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ

วันนั้นหลิวเฟยเฟยออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็หาคนติดตาม ซูจ้านตลอดเวลาเพื่อหาโอกาสทำลายพวกเขา

รู้ว่าฉันยาออกจากบ้านตระกูลซูแล้ว ตอนนี้คุณย่าก็พูดไม่ได้

แล้ว

เธอคิดว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ดึงตัวซูจ้านกลับมา

แต่ว่าเธอรู้ดี จะใช้วิธีฝืนไม่ได้แล้ว เพราะว่า การเจอกันครั้งนี้ ของซูจ้านเป็นแผนการของเธอ แต่ว่าเธอไม่ได้เข้าไปพูดกับซูจ้าน โดยตรง แต่แสดงเป็นผู้หญิงที่ถูกโรคจิตตามรังควานช่วยเหลือ ตัวเองไม่ได้

แน่นอนว่า โรคจิต คนนี้ เธอเป็นคนจัดมาเอง

เธอเข้าหาบ้านเองก่อนไม่ได้ ก็ให้ซูจ้านเข้ามาพูดกับเธอก่อน เธอไม่เชื่อ ซูจ้านจะทนดูเธอถูกโรคจิตรังควานได้ ถึงแม้จะ ตัดขาดความสัมพันธ์ ไม่ว่ายังไงก็เคยรักเธอไม่ใช่เหรอ?

มีความรู้สึกมากกว่าคนแปลกหน้า
เธอกะเวลาไว้อย่างแม่นยำ เป็นไปตามคาด ตอนที่ซูจ้านเห็น เธอถูกโรคจิตรังควาน ก็เข้ามาช่วยเธอ

ขณะที่ถูกโรคจิตตึงตัว เธอสะดุดขา

หลิวเฟยเฟยจงใจทําเป็นไม่อยากรบกวนเธอ พูดว่าขอบคุณ แล้วเลยเดินกะโผลกกะเผลกไปเอง

ซูจ้านไม่ได้อยากข้องเกี่ยวอะไรกับเธออีก แต่พอเห็นสภาพ เธอเดินได้ไม่มั่นคง ก็ยังคงรู้สึกเป็นห่วง

“คุณจะไปไหน ผมไปส่ง” ซูจ้านพยุงแขนเธอไว้

หลิวเฟยเฟยก้มหน้า “ช่างเถอะ ฉันกลัวทำให้คุณต้องลำบาก

ใจ”

“ถึงแม้ว่าเป็นคนแปลกหน้าก็ช่วยเหลือกันได้”

ครั้งนี้หลิวเฟยเฟยไม่ได้ปฏิเสธ

“ขอโทษด้วย ก่อนหน้านี้ฉันอยากให้คุณกลับมาหาฉัน จึงทำ เรื่องที่เลยเถิดไปหน่อย สร้างปัญหาให้ชีวิตคุณไม่น้อย ต้องขอ โทษจริงๆ” ท่าทางใส่ใจคนอื่นของเธอ ดูเหมือนกลับไปเป็นเธอ

ในสมัยก่อน

ซูจ้านอยู่ในอาการเหม่อลอยไปชั่วขณะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ