บทที่ 288 ผมเอง
คนที่โทรศัพท์เข้ามาเป็น ว
สัญชาตญาณของเธอเหลือบมองด้านหลังก่อน จึงจึงห้าวกอด หลินลุยซีอยู่ พร้อมทั้งกำลังทำทรงผมให้เธอ ไม่ได้สังเกตเธอเลย เธอค่อยดึงผ้าม่านลงช้าๆ จากนั้นก็กดรับสาย
“ผมเอง” เป็นสียงของที่ยวอยู่ปลายสาย
หลินซินเหยียนกดเสียงตอบรับให้ต่ำลง
เฉิงซิ่วไม่โทรศัพท์หาเธอง่ายๆ ต้องมีเรื่องแน่นอน
“วันนี้เหวินชิงมาที่บ้าน ไม่รู้ว่าเขาไปรู้ข่าวมาจากไหน บอกว่า ทางไปเฉิงมีผ้าไหมกวางตุ้ง เลยมาถามไถ่ผม”
หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว ข่าวของเขาตาไวดีขนาดนี้เลย?
มือของเธอกำหมัดแน่น หรือว่าชุดแต่งงานที่เธอทำให้ฉันยา
ในผืนนั้นที่เฉิงเงินเป็นคนให้ผ้าไหมกวางตุ้ง ถูกเขาจับได้ แล้ว… “ผมคิดว่าเขาต้องไปสอบสวนอย่างละเอียดแน่ ถึงตอนนี้คุณ
ต้องตกเป็นเป้าสายตาของเขา ผมเป็นห่วง…
เธอไม่อยากดึงหลินซินเหยียนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
เธอก็แค่อยากให้เธอกับจงจึงห้าวอยู่อย่างสุขสบายปลอดภัย ส่วนเรื่องผ้าไหมกวางตุ้ง ถึงแม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่ตกทอดกันมาของตระกูลเฉิง แต่เป็นสิ่งของภายนอก
หลินซินเหยียนดึงผ้าม่านออก เมื่อมองลอดผ่านตรงช่องก็เห็น ว่าจงจึงห้าวกำลังกอดลูกสาวอยู่ และไม่ได้สนใจในตัวเธอเลย เธอปล่อยผ้าม่านลง “อย่าเป็นห่วงไปเลยไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น หรอก”
“พวกคุณต้องระวัง ตอนนี้
“ฉันมีธุระวางสายก่อนนะ” หลินซินเหยียนรู้ว่าเธออยากจะพูด อะไร เธอตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เปลี่ยนใจ
เธอหยิบโทรศัพท์ จากนั้นก็ใช้นิ้วกดปิดลงบนหน้าจอโทรศัพท์
ในใจกําลังคิดว่าบุคคลที่ได้ฉายาว่าเหวินซึ่ง เป็นบุคคล ประเภทไหนกัน
แต่การที่ได้ฟังเฉิงซิ่วอธิบายให้ฟังนั้น ก็รู้ว่า เขาเป็นบุคคลที่
ร้ายกาจ อีกทั้งด้วยฐานะอีก ยิ่งไม่สามารถดูถูกได้เลย
มิเช่นนั้นเฉิงยู่ซิ่วก็คงปิดปากเงียบเพื่อจงจึงห้าวหรอก
ตลอดการเดินทางสงบเงียบมาก เมื่อถึงเวลาหัว พวกเขาก็
เข้าสู่เขตเมืองB
ก่อนถึงเวลากินข้าวก็ถึงยังตัวเมืองแล้ว ความเหนื่อยล้าตลอด การเดินทาง ทุกคนเหนื่อยมากแล้ว ซูจ้านกับฉินยาพวกเขาพา ท่านย่ากลับไปยังบ้านของตนเอง เสิ่นเผยชวนต้องกลับไปที่ ทำงานก่อนเพื่อจัดการเรื่องของเรือรุ่ยเจ๋อถึงสามารถกลับไปพัก ผ่อนได้
ส่วนทางฝั่งของหลินซินเหยียน พวกเขามุ่งหน้าตรงไปที่วิลล่า ทันที
น่าจะเป็นเพราะว่าป้าหยูกับจวงจื่อจีนได้รับข่าวคราวเรื่องพวก เขา ถึงได้ทําอาหารเสร็จแล้ว เพื่อรอพวกเขากลับมา
หลังจากลงรถแล้ว ทางบอดี้การ์ดและคนขับรถก็หยิบกระเป๋า เดินเข้ามา จวงจื่อจีนคิดถึงเด็กสองคนแล้ว เมื่อหลินเฉินเดิน เข้าประตูมา เธอก็กอดเอาไว้แน่น พร้อมทั้งมองซ้ายมองขวา ดู ว่าจะผอมไป หรือสูงขึ้นหรือเปล่า
“เสี่ยวลุยล่ะ?” จวงจื่อจิ๋นเงยหน้ามองหลินลุยซี เวลานี้เองจง จิ่งห้าวก็กอดหลินซินเหยียนที่นอนหลับปุ๋ยเดินเข้ามา สีหน้าของ เขายังคงเคร่งขรึมอยู่เช่นเดิม และไม่ทักทายใครทั้งนั้น และกอด ลูกสาวเข้าห้องนอนทันที
จวงจื่อจิ่นแวบเดียวก็มองออกว่าจงจึงห้าวอารมณ์ไม่ดีเลย จึง
ถามลูกสาวกลับ “เขาเป็นอะไร? ดูเหมือนอารมณ์ไม่ดีเลย” หลินซินเหยียนไม่ได้พูดว่าเพราะอะไร เพื่อเลี่ยงไม่ให้จวงจื่อ จิ่นปวดใจตาม “ไม่มีอะไร เขาอาจจะเหนื่อยแล้วแหละ
จวงจื่อจีนไม่ค่อยเชื่อ แต่ว่าลูกสาวก็ไม่ยอมพูดออกมา เธอก็
ไม่ถามซักไซ้ต่อ
“พวกเธอมากินข้าวกันเถอะ กับข้าวเย็นชืดหมดแล้ว กระเป๋า สัมภาระเอามาให้ป้าเดี๋ยวป้าเก็บเอง” ป้าหยูเดินเข้ามาหา บน ตัวเธอใส่ผ้ากันเปื้อนเอาไว้ และยิ้มให้ เมื่อเห็นพวกเขากลับมา แล้ว เธอก็ดีใจมาก
“วางไว้ตรงนี้แหละ พวกคุณจะทำอะไรก็ทำไป” ป้าหมองมา ทางบอดี้การ์ดและโบกมือให้ เพื่อให้พวกเขาเอากระเป๋า สัมภาระวางไว้ตรงทางเข้าประตู
ประตูเปิดนานลมก็พัดเข้ามาแล้ว หลินซินเหยียนถอดเสื้อนอก ของหลินเฉินออก เพื่อให้เขาไปล้างมือเตรียมกินข้าว หลินซี เฉันเป็นคนที่เธอไม่ต้องเข้าไปวุ่นวายมาก สามารถล้างมือเอง และไปกินข้าวได้
หลินซินเหยียนถอดเสื้อขนเป็ดที่อยู่บนตัวออกจากนั้นก็แขวน ไว้ที่ชั้นวางเสื้อ และเดินไปล้างมือ พร้อมทั้งตักข้าวในครัว จาก นั้นก็หาถาดและเอาถ้วยวางด้านบน พร้อมทั้งหยิบกับข้าวที่อยู่ บนโต๊ะกินข้าวสองอย่างขึ้นมา จากนั้นก็ยกไปในห้อง
“เหยียนเหยียน” จวงจื่อจีนเรียกเธอจากนั้นก็ไม่พูดอะไรต่อ หลินซินเหยียนจ้องมองเธอ “อื้อ ทำไมเหรอ?”
“ไม่มีอะไร แกไปเถอะ” จวงจื่อจิ่น โบกมือไปมา จากนั้นก็หัน ไปยังห้องครัว เพื่อตักน้ำซุปให้หลินเฉิน
หลินซินเหยียนรู้สึกว่าจวงจื่อจีนมีอะไรที่อยากจะพูดกับเธอ เมื่อคิดว่าเธอออกไปสักระยะหนึ่ง ก็น่าจะพูดกับเธอสักหน่อย ด้วยสภาพของตนเอง เลยพูดว่า “แม่ เดี๋ยวอีกสักพักใหญ่ฉันจะ ไปห้องแม่นะ ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับแม่
“ตกลง ฉันก็มีเรื่องอยากจะพูดคุยกับแกพอดี” จวงจื่อจีนเอ่ย
“เรื่องอะไร?” หลินซินเหยียนถามกลับ
จวงจื่อจีนครุ่นคิดอยู่สักพัก ตอนนี้พวกเขาเพิ่งจะกลับมา อีก ทั้งป้าหยูกับหลินเฉินก็อยู่ด้วย เลยพูดไม่สะดวก
เรื่องที่เธออยากจะพูด แต่ไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน เธอมอง ลูกสาว “สักพัก แกก็ไปค่อยไปที่ห้องฉันค่อยคุยกัน
หลินซินเหยียนพยักหน้าให้ พลันถือของกินเข้าห้อง เสื้อผ้า ของหลินลุยซีวางอยู่บนเตียง ตอนนี้คนกำลังนอนหลับอยู่ อีกทั้ง จงจึงห้าวก็นั่งอยู่ข้างเตียง และจ้องมองเธออยู่
หลินซินเหยียนได้แต่ถอนหายใจอยู่ในใจ เธอเดินเข้ามา จาก นั้นก็วางอาหารไว้บนโต๊ะ “คุณกินอะไรสักหน่อย
เธอเดินมาหยิบเสื้อผ้าของลูกสาวออก พลันพาดไว้บนชั้น แขวนเสื้อ
จงจึงห้าวนั่งอยู่แต่ไม่ยอมขยับ เขาไม่อยากกิน กินไม่ลง เมื่อ
เห็นใบหน้าของลูกสาวมันยิ่งทำให้เขากินไม่ลงหนักกว่าเดิม
แม้ว่าร่องรอยมันจะหายไปใกล้จะหมดแล้ว แต่ว่า เขายังคง หมกมุ่นอยู่กับการที่ลูกสาวถูกคนทำร้ายมา
หลินซินเหยียนเดินเข้ามาหา พลางวางมือไว้บนไหล่ของเธอ เมื่อเห็นว่าเขาเป็นแบบนี้เพราะว่าลูกสาว ในใจของเธอนั้นดีใจ มาก
เพราะว่าเขาก็สนใจลูกของพวกเขาด้วย
“อย่าตำหนิตัวเองเลย มันก็แค่อุบัติเหตุเอง” หลินซินเหยียน ได้แต่ปลอบใจ
มือของจงจิ้งท้าวกุมหลังฝ่ามือของเธอ หลินซินเหยียนนั่งลง บนหน้าตักของหันหน้าเข้ากัน แต่พูด
ทําแค่มองฝั่งตรงข้ามอย่างเงียบจ้องมองนัยน์ตาขลับ มีหลายครั้ง หลินซินเหยียนอยากจะปากซิ่วเขา
แต่ว่าเธอก็ว่า นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ดี
การทำลายล้างเขา จะทำให้เพิ่งซิ่วทอดหลายเปล่าประโยชน์ฟรีๆ
เธอเสียงเบา คุณยังโกรธอยู่เหรอ?
จงจิ่งห้าวเสียงตอบกลับอย่างทุ่ม
มันใช่ความผิดของ” หลินซินเหยียนพูด
จงห้าวหลับตา “ผ่านหกปี ถือว่าเป็นสิ่งละอายใจ ที่สุดในชีวิต
เขาพลาดช่วงเวลาหลินซินเหยียนต้องการ
การเติบโตทุกช่วงเวลาของเด็กสองคน
“ต่อไปพวกเราอยู่ด้วยกัน” หลินซินเหยียนยิ้มให้เขาตก อยู่
เขาจริงจังมาก คุณมีลูกสักคน”
เพื่อเขาเห็นที่เธอตั้งท้อง ผ่านความเจ็บปวดตอน คลอด จ้อง
เขาต้องการทดแทนความละอายใจของสิ่งที่เขาพลาดไป
ครั้งที่แล้วหลินซินเหยียนก็พูดกับตนเองว่าร่างกายไม่ดี ไม่ได้ โกหกเขา คือไม่เหมาะกับการตั้งท้องอีกครั้ง แต่เพื่อไม่ให้เขาผิด หวัง จึงได้ตอบตกลงไป “ได้”
จงจิ่งห้าวโอบเอวเธอเอาไว้ พร้อมทั้งใช้คางเกยบนหัวไหล่เธอ
ปลายจมูกสูดดมกลิ่นกายเฉพาะตัวของเธอ
พร้อมทั้งเสียงทุ้มต่ำมาก แต่ทุกคำที่พูดออกมาเน้นย่าง ชัดเจน แถมมีเสน่ห์อย่างเปี่ยมล้น “คืนนี้คุณนอนกับผมใช่ไหม?”
หลินซินเหยียน “
คนคนนี้ไม่ต้องตรงขนาดนี้ก็ได้ไหม?
มือของหลินซินเหยียนที่วางพาดอยู่บนไหล่ของเขา ดึงกลับ
ทันที “คืนนี้ไม่ได้”
“หือ?”
“ฉันว่าแม่ฉันมีเรื่องในใจ อีกสักพักฉันต้องไปห้องแม่แล้ว
“ผมรอคุณ”
หลินซินเหยียนเพิ่งพูดจบ เขาก็พูดสวนทันที ขอแค่ไม่ต้องนอน กับจวงจื่อจิ่น เขารอสักเดี๋ยวก็เท่านั้นเอง
หลินซินเหยียนกลืนน้ำลายลงคอ ตานี่นี่นะ…
เธอกลัวว่าจงจึงห้าวจะพูดอะไรออกมา “คุณไปกินข้าวก่อน เดี๋ยวเย็นหมดแล้ว ฉันจะไปดูเสี่ยวลุ่ย อีกอย่างฉันก็หิวแล้ว”
วันนี้เธอยังไม่ได้กินข้าวทั้งวัน ตอนนี้หิวขึ้นมาจริงๆ แล้ว จงจิ่งห้าวดึงมือของเธอเอาไว้ พร้อมทั้งยิ้มให้เล็กน้อย “คืนนี้ ผมป้อนคุณให้อิ่มเอง”
ใบหน้าของหลินซินเหยียนแดงแจ๋ลามไปจนถึงลำคอ พร้อม ทั้งแกะมือของเขาออก และถลึงตาให้ “ทะลึ่ง”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ