บทที่ 286 ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว
เสียงผู้คนที่กำลังถกเถียงกันดังเซ็งแซ่ขึ้นเรื่อยๆ ต่างกล่าว
โทษผู้หญิงทั้งนั้น ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลอะไร การที่ผู้ใหญ่ลงมือกับเด็กมันก็คือ
ผิด
ใบหน้าของผู้หญิงแดงจนลามไปถึงลำคอ ด้วยความเกลียด ซึ่งตัวเองเพราะรู้สึกละอายจนอยากจะหาที่ใดที่หนึ่งมุดหน้าหนี มันช่างน่าขายหน้าชะมัดเลย เธอหันตัวและอยากจะเดินหนีไป
แต่ซูจ้านขวางเอาไว้
สีหน้าของเขาเคร่งขรึม “ทำร้ายคนแล้วอยากจะเดินหนีเห รอ?”
“ฉันก็พูดแล้วว่าไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย แล้วยังต้องการให้ ฉันทำอะไรอีก?” ผู้หญิงตะคอกกลับเสียงต่ำ แต่ถูกคนที่ตั้งอยู่ รอบๆ หัวเราะเยาะจนตัวเธอเกรี้ยวกราดหนัก
“ที่ทำให้เสื้อผ้าคุณเลอะเทอะ พวกเราก็ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ตามปกติ การที่คุณทำร้ายคนก็ต้องคิดบัญชีเช่นกัน!” ซูจ้านเชิด คางขึ้น
หัวใจของผู้หญิงเต้นระทึก ด้วยความตื่นตระหนกเป็นอย่าง มาก เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลย ใน ที่สุดเธอก็ได้แต่โทรศัพท์ให้สามีตนเอง เพื่อให้เขาเข้ามาจัดการ
“ฉัน ฉันโทรศัพท์” ผู้หญิงรีบความหาโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋า ออกมา เพื่อจะโทรศัพท์หาสามี
ไม่นาน โทรศัพท์ก็รับสาย เธอยังไม่ทันอ้าปากพูด เสียงปลาย สายก็มีเสียงผู้ชายที่หมดความอดทนดังแทรกขึ้นมา “นี่คุณแค่ ไปกินข้าวหรือตกส้วมไปแล้วเหรอ? ทำไมยังไม่กลับมาสักที?
“ฉัน ฉันอยู่บนถนนตรงประตูหน้าห้องน้ำ ผู้หญิงพูดอีกอัก
เสียงผู้ชายยิ่งหมดความอดทนหนักกว่าเดิม “แล้วทำไมคุณยัง ไม่กลับมาสักที?”
หญิงสาวหวาดกลัวจนหนาวสั่น “ฉันถูกคนขวางเอาไว้นะ ไม่ ให้กลับ”
“อะไรนะ?” ผู้ชายปลายสายเมื่อได้ยินแล้วถึงกลับเดือดขึ้นมา แถมยังคิดว่ามีคนจ้องลวนลามภรรยาตัวเอง พลันเปิดประตูรถ ลงมาด้วยความโกรธแค้น จนเดินมาถึงตรงปากทางถนนเข้า ห้องน้ำ “ใคร ใครมันกล้าขวางทางภรรยาฉันอยู่?”
“ที่รัก” ผู้หญิงขวัญเสียอยู่ไม่น้อย เมื่อเห็นสามีของตนเองแล้ว ก็เหมือนได้เห็นความหวังสุดท้าย
ผู้ชายมองตรงมาทางนี้ พร้อมทั้งเชิดคอให้ “ใครกันที่ ลวนลามเมียฉัน?”
“เมียคุณหน้าตาแบบนี้ ใครจะไปลวนลาม” ไม่รู้ว่าใครที่ไหน กลุ่มฝูงชนที่พูดโพล่งออกมาเช่นนี้
ผู้ชายพลันโกรธจนไฟปะทุทันที มาต่อว่าเมียว่าหน้าตาขี้เหร่จนเขาเสียหน้า
“เมื่อกี้ใครพูดประโยคนั้นออกมา? มีปัญญาก็เสนอตัวออกมา เลย!” ชายหนุ่มหน้าคนที่อยู่ในกลุ่มอย่างร้อนรน
“คุณคนนี้ อย่าเพิ่งโมโหเดือดดาลไป คนคนนี้ไม่ได้บอกว่า
ภรรยาของคุณหน้าตาขี้เหร่ แต่หมายถึงว่าจิตใจของภรรยาของ
คุณมันทุเรศ”
หญิงสาวที่มาดูเหตุการณ์อยู่ด้านหน้าเป็นคนพูด
การไม่อธิบายแบบนี้มันยังจะดี แต่พอมาอธิบายแล้ว มันยิ่งไม่ น่าฟังเข้าไปใหญ่ หน้าตาทุเรศมันก็แค่เปลือกนอก แต่จิตใจ ทุเรศ มันเป็นการพรรณนาถึงไม่มีคุณธรรม ไม่มีวุฒิภาวะ หรือ พวกใจดำ สรุปคือ ไม่น่าฟังเลย
ผู้ชายกระทืบเท้าทันที พร้อมทั้งชี้หน้าผู้หญิงคนที่พูด “แกพูด ซ้ำอีกครั้ง ?”
หญิงสาวที่เพิ่งพูดออกมาเมื่อครูตอบกลับ “ก็เมียคุณมันไม่มี วุฒิภาวะ”
ผู้ชายเสื้อมือขึ้นเพื่อต้องการจะต่อยผู้หญิงคนที่พูดคนนั้น แต่ ภรรยาของเขาห้ามไว้ทันเวลา พร้อมทั้งกระซิบพูด “อย่าหาเรื่อง เลย”
ผู้ชายอยากจะดุภรรยา ถึงได้เห็นว่าเสื้อผ้าของเธอสกปรกแล้ว จนสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “เสื้อผ้าของคุณจ่ายไปตั้งพันกว่าหยวน ทําไมถึงได้สกปรกขนาดนี้ไปล่ะ?”
“ลูกสาวผมทำเอง” จงจึงห้าวแสดงท่าที่เย็นชา ไม่ได้เบาเกิน หรือหนักเกิน พร้อมใช้สายตากดดันอันคมกริบมองมา
ผู้ชายถูกสายตาตกตะลึงของเขาทิ้งเอาไว้ ผ่านไปนานยังตั้ง สติไม่ได้
“ลูกสาวของเขาทำให้ฉันเป็นแบบนี้ ตอนนั้นฉันโมโหสุดๆ เลยตบหน้าเด็กคนนั้นไปที่หนึ่ง
ภรรยาของเขาพูดอยู่ด้านข้าง ผู้ชายไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น สมองอื้ออึงอยู่นาน
พอตั้งสติกลับมาก็พูดอย่างจองหองทันที “ “ลูกสาวของคุณ ทำให้เสื้อผ้าของภรรยาผมสกปรก คุณต้องชดใช้
“เงินก็นี่ไง” ซูจ้านเตะถุงที่กองอยู่กับพื้น ด้านในเงินหยวนแดง อย่างคลาคล่ำ จนทะลุออกมาจากถุง ผู้ชายก้มศีรษะมอง จน
ตาพร่าทันที มันเยอะขนาดนี้เชียว
เวลานั้นเขาถึงได้รับรู้ถึงความผิดปกติทันที แต่ว่าเงิน ไม่มีใครที่ไหนจะไม่ชอบนี่
เขาผลักภรรยาของตนเองเล็กน้อย “นี่คุณยังจะเอาอีกสักเท่า ไหร่ เขาก็ชดใช้เงินคุณแล้วนี่? แล้วทำไมยังไม่ไปเอามาอีกล่ะ?”
ผู้หญิงจะกล้าไปเอาที่ไหนล่ะ
“เสื้อผ้าภรรยาของคุณที่ลูกสาวของผมทำเลอะ เงินพวกนี้คือ ค่าเสียหาย แต่ว่า ภรรยาของคุณทำร้ายลูกสาวผม บัญชีนี้ จะคิดยังไง?” บริเวณหางตาของจงจึงห้าวยิ่งจงเกลียดจงชังมากขึ้น
ผู้ชายหันกลับมามองภรรยา และหันไปมองเงินที่วางกองอยู่ที่ พื้น และจ้องมองกลุ่มคนที่คอยมาดูเหตุการณ์ที่อยู่รอบๆ จนตัว เขาทําอะไรไม่ถูก
ผู้หญิงดึงมือเขาเอาไว้ “ที่รัก ทำยังไงดี?
ผู้ชายมองมาที่ผู้หญิง จากนั้นก็ตบหน้าทันที ผู้หญิงถูกตบจน ทรงตัวไม่ได้ จนเท้าเหยียบกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจนล้มคะมาลง ไป เธอกุมใบหน้าและจ้องมองสามีอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“คุณตบฉัน?”
ผู้ชายมันเขี้ยวเคี้ยวฟัน “นี่คุณตาบอดหรือเปล่า? คุณดูเขา แต่งตัวกันสิ ก็รู้อยู่แล้วว่าเขามีเงิน เรื่องนี้ฉันไม่ยุ่งแล้ว คุณให้ตัว เองอับอายยังไม่พอ ยังจะเรียกฉันมาอีก
ผู้คนที่อยู่รอบๆ ต่างตกตะลึงไปตามๆ กัน ผู้ชายคนนี้ถือว่า เกิดคาดไว้มากจริงๆ
ภรรยาของตนเอง ไม่ปกป้อง ถึงแม้ว่าจะผิดก็ตาม แต่ตอนนี้
ยังก็แค่ว่าตนเองจะเสียหน้าเพราะว่าเธอ
ซูจ้านส่งเสียงกระดกลิ้น “คำพังเพยที่เขาพูดกันมา คนที่อยู่ ด้วยกันนิสัยคล้ายคลึงกัน หากไม่เหมือนกันก็ยากจะเข้ากันได้
ผู้ชายไม่มีท่าทีความเป็นผู้ชาย ไม่มีความคิด ส่วนผู้หญิง เห็น ได้ชัดว่าขี้อิจฉาริษยารักษาหน้าตา แต่ใจจืดใจด
ไม่งั้นก็คงไม่ลงมือกับเด็กหรอก
“เรื่องนี้ ผู้หญิงกอดชายกางเกงของผู้ชายเอาไว้ ยังคง
อยากให้สามีช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ตนเองด้วย “คุณหาเรื่องใส่ตัว ก็ต้องจัดการด้วยตนเอง” ผู้ชายเตะผู้หญิง ออกอย่างไม่ลังเล และเดินผ่านกลุ่มฝูงชนไป แถมย่ากันว่าไม่
หยุด “มองอะไรจะมาหาพระแสงอะไรกัน?”
ผู้ชายเป็นสิ่งที่พึ่งพาของผู้หญิงเพียงอย่างเดียว ผู้หญิงคนนี้ หวาดหวั่นที่สุดแล้วในเวลานี้
“ทําดีได้ดีทําชั่วได้ชั่ว การเป็นคนต้องเป็นคนดีบ้าง” มีคนพูด และชี้ไปที่ผู้หญิง
ผู้หญิงรู้อย่างแจ่มแจ้งว่าจะอาศัยสามีก็ไม่มีประโยชน์แล้ว จากนั้นก็มองไปรอบๆ อย่าพูดเลยเรื่องเสียหน้า ขนาดหน้ายังจะ ไม่มีอยู่แล้ว ผู้ชายพึ่งพาไม่ได้ คำพูดนี้ไม่ได้หลอกลวงไปเลย
ผู้หญิงลูบใบหน้าเล็กน้อย เพื่อการแก้ไขปัญหาให้รวดเร็ว เธอ พูดขอโทษทันที “ขอโทษด้วย ฉันผิดเอง ฉันไม่ควรทำร้าย ลูกสาวของคุณ”
จงจิ่งห้าวไม่ได้พอเธอเลย เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจมาก
ลูกสาวของเขา เขารักสุดหัวใจ วันนี้ กลับมาถูกผู้หญิงคนนี้ ทำร้ายได้ เขาไม่สนเรื่องเหตุผลเลย และก็ไม่ยอมให้จบแค่นี้ ถ้า ไม่ยื่นข้อเสนอให้เขาเป็นที่พอใจแล้ว เรื่องนี้ไม่จบ!
“คุณคิดว่าอย่างไร?” เรื่องนี้ผู้หญิงอายสุดๆแล้ว เครื่องสำอางก็หลุดหมดแล้ว บนตัวก็มีแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แถมยังมานั่งกอง อยู่บนพื้น ช่างเหมือนกับหมาข้างทางที่ไม่มีคนสนใจ
“มือข้างไหนตบ ตัดทิ้งซะ!” ความดุร้ายโหดเหี้ยม ในวินาทีนี้ ขนาดหลินซินเหยียนที่ยืนอยู่ด้านข้างยังตกตะลึงตาม
รูม่านตาของผู้หญิงหดตัวลง ล่าตัวสั่นเทา ร่างกายมันจน ทำตัวไม่ถูก ไม่คิดอะไรอีกแล้ว ถึงขั้นคลานเข่าเข้ามากอดชาย กางเกงของจงจิ่งห้าว “ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้ว ขอท่านช่วย โปรดให้อภัย ปล่อยฉันไปเถอะ”
การแตะต้องของผู้หญิง จนทำให้เขาขมวดคิ้วอย่างรังเกียจ
“ยังไม่ลงมืออีก?” เขามองไปทางบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านข้าง
บอดี้การ์ดก็ไหวตัวได้เร็วมาก ทั้งสองคนจับมือของผู้หญิงพลิก อย่างคล่องแคล่ว ทำให้เธอไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวได้
ผู้หญิงปัดขนตา แต่ไม่ได้กันน้ำ การที่ร้องไห้ฟูมฟายออกมา จนทำให้เลอะเป็นคราบสีดำ เมื่อมันผสมเข้ากับแป้งรองพื้น จน มันเลอะไปทั่วหน้า ยิ่งทำให้มันทุเรศหนักกว่าเก่าไปอีกมากมาย
ในเวลานี้ผู้หญิงไม่สนใจภาพลักษณ์อะไรอีกแล้ว ได้แต่ คร่ำครวญขอร้องพูด “ฉันรู้สึกผิดแล้ว รู้แล้วว่าผิดไป ขอร้องคุณ ไว้ชีวิตฉันเถอะ”
ซูจ้านยืนพูดเย็นชาใส่อยู่ข้างๆ “การเป็นมนุษย์ ยังไงก็ต้อง ถ่อมตนสักหน่อยถึงจะดี
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ