กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 284 หน้าด้าน



บทที่ 284 หน้าด้าน

เพราะว่าท่านย่ากับเหอยเจอไม่เป็นไร พวกเราเลยตัดสินใจที่ กลับไปเมือง ในเช้าวันรุ่งขึ้น

การเดินทางกลับ ในครั้งนี้ถือว่าเรียบร้อยเป็นอย่างดี ไม่มีเรื่อง ผิดปกติที่เหนี่ยวรั้งการเดินทางของพวกเขาเอาไว้

เวลาที่มีให้สําหรับพวกเขาไม่มากนัก เพราะว่าใกล้จะเข้าตรุษ จีนแล้ว

เงินเผยชวนต้องคอยสอดส่องดูแลเหอยเจ๋อ รถของเขาเดิน ทางเป็นคนสุดท้าย ซูจ้านกับฉินยานั่งอยู่รถคันเดียวกับท่านย่า ส่วนครอบครัวของจงจิ่งห้าวทั้งสี่คนนั่งอยู่ในรถบ้าน

วิวทิวทัศน์ข้างทางมันดูหดหู ไม่ได้มีชีวิตชีวาดั่งฤดูใบไม้ผลิ ความเขียวขจีในฤดูร้อน ผลหมากรากไม้ในฤดูใบไม้ร่วง มีแค่ ความหนาวเหน็บของสายลม

ตลอดการเดินทางช่างเงียบสงบ เพิ่งมาถึงครึ่งวันพวกเขาก็

เดินทางได้ครึ่งทางแล้ว เร็วกว่าตอนขามาอยู่มาก กลางวันพวกเขาก็พักผ่อนในจุดพักรถ จากนั้นก็รับประทาน

อาหาร

ด้วยสาเหตุใกล้จะตรุษจีนแล้ว คนในบริเวณจุพักรถเยอะมาก ที่จอดรถมีรถจอดไว้เต็ม ต่างมีคนยืนคลาคล่ำไปทั่ว
หลินลุย อยากจะเข้าห้องน้ำ หลินซินเหยียนพาเธอไป ส่วนจง จึงห้าวพาหลินซีเฉินไปที่ร้านอาหาร ซูจ้านกับฉินยาคอยประคอง ท่านย่าเข้าไปด้านใน

เหอยเจ๋อฟื้นแล้ว ข้างกายย่อมมีคนอยู่ ไม่ใช่เพื่อให้ดูแลเขา แต่เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ฆ่าตัวตายหรือหลบหนี

เงินเผยชวนจัดคนคอยจับตาดูเขา จากนั้นก็ไปห้องน้ำ และไป หาพวกเขาที่ร้านอาหารท่านย่า หน้าตาสดใสแดงระเรื่อ การพัก ผ่อนเพียงพอ ประเด็นหลักคืออารมณ์ดี การแต่งงานของซูจ้าน ถือว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในใจของเธอ

วันนี้ซูจ้านแต่งงาน เธอไม่มีอะไรอยู่ในใจ อารมณ์ก็เลยเป็น ไปตามธรรมชาติ

“คุณย่าเด็กขึ้นนะเนี่ย” เสิ่นเผยชวนนั่งพูด

“เอาใจผู้หญิงแก่อย่างฉันให้สบายใจได้ด้วยนะ” ท่านย่า

ทําท่าโมโห แต่สีหน้ามีความสุขมาก

“นี่ผมพูดความจริงทั้งหมดนะเนี่ย” เสิ่นเผยซวนเอาใจท่านย่า จนยิ้มไม่หยุด

อาหารที่จุดพักรถก็ไม่ได้อร่อยมากนัก เสิ่นเผยชวนยัดอาหาร เข้าไปคำหนึ่งก็พูดว่า “มือนี้ก็กินๆ กันไปก่อน พอถึงเมืองแล้ว ค่อยไปกินอีกรอบ

ซูจ้านลุกขึ้นยืน “ผมขอไปซื้อของหน่อย ฉินยาดูแลคุณย่าด้วย หน่อยนะ”
จินยาพยักหน้า

“อาซูจ้านครับ ผมเห็นว่ามีขนุนขายด้วย ตอนอาเดินเข้ามาซื้อ มาด้วยหนึ่งกล่องนะ” หลินซีเฉินพูด

ซูจ้านหันกลับมาจ้องเขา “หนูชอบกินเหรอ?” หลินซีเฉินส่ายหน้าไปมา “น้องสาวของผมชอบกินครับ แต่ว่า

เธอไม่ค่อยเลือกกินนะ อะไรก็อร่อยหมด”

ซูจ้านส่งเสียงตอบรับ จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปจากร้าน อาหาร เมื่อมองเสิ่นเผยชวนลอดกระจก ตอนที่เขาพูดคุยกับหลิน เฉินนั้น เมื่ออ่านจากปากแล้ว เสี่ยวเฉินรักน้องสาวมาก

เสิ่นเผยชวนไม่ได้สนใจเขา เขาถอนหายใจ พลันดึงหมวกที่ ติดกับเสื้อขนเป็ดคลุมหัว พร้อมทั้งเดินมุ่งหน้าไปยังรถที่มีเหอย เจ๋ออยู่

เมื่อเดินไปถึงข้างรถ เหลือบมองซ้ายทีขวาที เมื่อเห็นว่าไม่มี คนสังเกตเขา เขาก็ยื่นมือออกไปถึงประตูรถ ภายในมีคนสองคน ที่เสิ่นเผยชวนจัดการให้คอยเฝ้าเหอยเจ๋ออยู่

เมื่อเห็นว่าเป็นซูจ้านบอดี้การ์ดที่ยืนประกบข้างอยู่ทักทาย ทันที “ทนายซู”

ซูจ้านเหลือบมองเหอยเจอที่อยู่ด้านล่าง พลันหัวเราะออกมา “พวกนายไปกินข้าวไป ที่นี่ฉันดูแลเอง”

“หัวหน้าเงินไม่ใช่บอกว่าเดี๋ยวเขาจะมาเปลี่ยนกับพวกเราเอง หรอกเหรอ?”
“เขาให้ฉันมาเอง ทำไม ขนาดฉันพวกนายยังไม่เชื่อเหรอ?” จ้านเลิกคิ้วให้ แถมพูดอย่างไม่ดีใจ

บอดี้การ์ดรีบสะบัดมือฏิเสธ “เปล่า เปล่าครับ….. ซูจ้านพูดตัดบทเสียงดังลั่น “งั้นยังไม่รีบลงรถอีก?” บอดี้การ์ดทั้งสองคนเดินลงมาจากรถ ซูจ้านก็ขึ้นรถทันที พร้อมทั้งพูดกําชับกับพวกเขา “รีบกินหน่อย

“ได้ครับ”

เมื่อเห็นว่าบอดี้การ์ดทั้งสองคนเดินไปแล้ว ซูจ้านก็ปิดประตูรถ ทันที และนั่งลง พลันมองเหอรุ่ยเจ๋อที่ถูกตรึงเอาไว้แน่น พร้อมกับ รอยยิ้มอันแสนสยดสยอง เขาขยับข้อมือไปมา “พวกเราเจอหน้า กันอีกแล้ว”

เหอยเจ๋อจ้องมองเขาตาเขม็ง อยากจะขยับตัว แต่ว่าขยับไม่ ได้เลย ข้อมือถูกตรึงไว้แน่นหนา เรื่องแรกคือกลัวว่าเขาจะหนี อีก เรื่องหนึ่งคือกลัวว่าเขาจะฆ่าตัวตาย ขนาดในปากยังยัดที่ง้างเอา ไว้ เพื่อไม่ให้โอกาสแม้ที่เขาจะกัดลิ้นเพื่อฆ่าตัวตายได้ เสิ่นเผย ชวนพูดแล้ว อยากตายก็ต้องรอให้ไปพิจารณาคดีที่เมือง ก่อน ถึงอนุญาตให้เขาตายได้

ถึงเวลานั้นเขาไม่อยากตาย เสิ่นเผยชวนก็ไม่ให้เขาอยู่สุข สบาย

“ทำไมไม่ขยับล่ะ?” ซูจ้านจงใจถามและยิ้มให้ เหอยเจ๋อรู้ว่าสภาพตนเองในเวลานี้แค่ความตายยังไม่มีเลยก็เหมือนกับชิ้นเนื้อที่อยู่บนเขียง ทำได้แค่รอให้คนเขามาเชือด เฉียนเท่านั้นเอง

เขาปิดตาแน่น ไม่มอง จําน

“ดี” ซูจ้านหัวเราะอย่างเย็นชา เขาควานหาโทรศัพท์ขึ้นมา จากนั้นก็จงใจถ่ายรูป “แกว่า ถ้าฉันถ่ายรูปโป๊ของแกสักสองรูป แล้วทําเป็นป้ายไวนิล เอาไปกางไว้หน้าบริษัทตระกูลเหอกับหน้า วิลล่าตระกูลเหอ คงมันน่าสนุกดีใช่ไหม?”

เหอยเจอมึงตาโต พร้อมทั้งจ้องมองเขาอย่างกินเลือดกิน เนื้อ ถ้าตอนนี้เขาขยับได้ ต้องสู้ตายกับซูจ้าน เขาตายก็ตายไป อย่าได้ไปทำให้คนในตระกูลต้องพลอยบาปเพราะว่าเขาเลย

“ฮ่าๆ” ซูจ้านโค้งตัวจ้องมองเขา “ทำไมแกก็กลัวเป็นด้วยเห รอ? ตอนที่แกฉัน ทำไมไม่คิดว่าตนเองจะมีวันนี้บ้างล่ะ? ต๊ะ?”

มือทั้งสองข้างของเหอยเจ๋อกำหมัดแน่น หางตาเคร่งตรง จน

เห็นได้ชัดว่า ในเวลานี้เขากำลังโกรธแค้นเป็นอย่างมาก

ซูจ้านบีบใบหน้าของเขา จากนั้นก็ตบหน้า จนมีเสียงดังแปะ จากนั้นก็พ่นเสียงออกมา “ทำไมหน้ามันถึงด้านขนาดนี้ล่ะ?”

รูปหน้าของเหอรุ่ยเจ๋อบิดเบี้ยวมากองรวมกัน โหดร้ายมาก เมื่อเห็นว่าเขาโกรธแค้น ซูจ้านก็ไม่สบายใจ ร่างกายที่โค้งตัว ลงอยู่ยิ่งโค้งต่ำลงอีก “ทำร้ายคุณย่าของฉัน? คือ?”

“เพียะ!”
เสียงเพี้ยะ จนกระจกรถสั่นเทา ใบหน้าของเทอริยเจ๋อบวมเจ๋อ ขึ้นมา มุมปากมีเลือดไหลซิบ

ซูจ้านสะบัดมือไปมา ข้อมือที่สั่นสะท้านยังชาเลย “แม่งเอ๊ย ใช่มือต่อยแกมันช่างทำให้แกขาดทุน คนอย่างแกไม่ต้องไว้ หน้า!”

ด้วยเหตุความโกรธแค้นมากเกินควร จนทำให้ร่างกายของเห

อยเจ๋อกระตุกอยู่หลายครั้ง

“ได้ลิ้มรสการโดนคนเฉือนเนื้อแล้วใช่ไหม?” ซูจ้านจงใจบีบ ตรง ใบหน้าที่บวมเป่งของเขา

ความเจ็บปวดของเหอยเจ๋อจนปากมีเสียงซี้ดซ้าดออกมา

ก๊อก ก๊อก–

ทันใดนั้นกระจกรถมีเสียงคนเคาะ

เขาหันศีรษะกลับไป เพราะว่ากระจกรถติดฟิล์มดำ นอกรถก็ มองไม่เห็นด้านใน ด้านในก็มองไม่เห็นนอกรถ

เขายื่นมือออกไปกดตรงกระจกรถ ก็เห็นครึ่งท่อนบนของเงิน เผยชวนกำลังยืนพิงรถ “สิ่งที่ต้องสั่งสอนก็สั่งสอนแล้ว ไปกินข้าว สักหน่อยเถอะ?”

ตอนที่ซูจ้านบอกว่าต้องการจะออกไปซื้อของข้างนอกนั้น เงิน เผยชวนก็รู้ว่าเขาต้องการหาข้ออ้างเพื่อออกมาทำอะไร แต่ไม่ได้ ห้ามเขาไว้ เพราะว่าเข้าใจเขา
ถ้าไม่ให้เขาระบายอารมณ์ออกมา เขาก็จะอัดอั้นไว้ตลอด

จ้านผลักประตูและลงจากรถ จากนั้นก็ส่งเสียงกระแอมออก มาอย่างเคอะเขิน “นายกินข้าวหรือยัง?”

เส้นเผยชวนท่าปากยื่น “กินแล้ว ฉันกลัวว่านายจะทำให้คน ตายซะก่อน จนฉันไม่สามารถกลับไปรายงานได้”

การที่เขาได้ออกมาตั้งนานขนาดนี้ ก็เพื่อข้ออ้างที่ว่าจะมา สะกดรอยตามนักโทษหนีคดีเหอรุ่ยเจ๋อ ถ้าเขากลับไปและไม่ได้ เอาคนกลับไปด้วย งั้นก็ต้องได้รับโทษ

ซูจ้านส่งเสียงมง่า “ไม่ตายหรอก” พูดจบก็รีบสาวเท้าเดิน ออกไปทันที ตอนที่เข้าไปในร้านอาหาร ก็ซื้อขนุนลูกหนึ่งมาจาก ร้านผลไม้ด้วย

ตอนที่เดินเข้าร้านอาหารนั้น หลินซีเฉินถึงกับทำตัวไม่ถูก ไม่ใช่บอกให้เขาซื้อมากล่องเดียวเหรอ? แล้วทำไมซื้อทั้งลูก เลย?

แถมลูกใหญ่ขนาดนี้ จะปอกยังไงล่ะ?

ซูจ้านยิ้มให้ “ซื้อทั้งลูกมันสดดี” หลินซีเฉินกะพริบตาและถามกลับ “คุณอาปอกเป็นใช่ไหม?”

แม้ว่าอันนี้มันจะอร่อยมาก แต่เนื้อน้อยไปหน่อย ตรงกลางยัง มีใส้ในอีก สิ่งที่ยากที่สุดก็คือการปอกเปลือกนี่แหละ

ซูจ้านระบายความโกรธลงที่เหอรุ่ยเจ๋อ จนตอนนี้อารมณ์แล้ว

อาปอกอาปอกได้ เฮ้ พ่อของหนูล่ะ?ซูจํานขนุนลูก ใหญ่ลงพื้น จากนั้นดึงเก้าอี้ออกเพื่อ

ไปหาหม่าแล้ว

หลินซินเหยียนพาหลินไปห้องน้ำ ผ่านไปสักกลับมา จงจิ่งห้าวไปสักหน่อย

สิ้นแหละ จุดพักรถเดิมคนเยอะอยู่แล้ว ขนาดไปห้องน้ำยัง ต้องเลย

จงจิ่งห้าวตั้งแต่ลงจากรถแต่ขมวดคิ้วอยู่ เขาไม่ชินกับ สภาพแวดล้อมเบียดเสียดกันขนาดเลย อยู่ห่างจาก ถนน หลินซินเหยียน

หลินลุย จ้องมองจงจิ่งห้าว และแกะมือของหลินซินเหยียนอ

อก จากก็ตะโกน พ่อ…

กับสำเร็จรูปอยู่ข้างทาง เหมือนว่าบะหมี่จะวางไม่ค่อยสมดุลนัก หลินลุยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถ้วยก็กระเด็นลงมา พร้อมทั้งกระเด็นจนรด ทั้งตัวของผู้หญิงทั่ว

ผู้หญิงที่ใส่เสื้อไหมพรมสีขาวครึ่งตัว พอมันหกใส่ จนน้ำมัน เปรอะแดงไปเปลี่ยนทันที สบกด่า นี่หนูไม่ม้าตาเรือเลยเหรอ
หลินซินเหยียนรีบก้าวยาวเพื่อมาขอโทษ

หลินลุยซีก็รู้สึกว่าตนเองอาจจะทำผิดไป เลยพูดขอโทษ “คุณ น้าคะ ขอโทษ…”

“เพียะ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ