บทที่ 24 อยากให้เป็นพ่อของลูก
จงจิ่งห้าวหลบไม่ทัน ตาเบิกโพลงมองไปยังหลินซินเหยียนที่ กำลังโผลงมาบนตัวเขา
หน้าผากของเธอ โขกเข้าที่คางของเขา เจ็บชะมัด แล้วริม ฝีปากของเธอก็แหมะลงไปส่วนเว้านูนแข็ง ๆ สักที่หนึ่งลมหายใจ นี้ดูคุ้นเคยแต่ก็แปลกหน้า
หลินซินเหยียนถลึงตา เมื่อสติกลับมา เธอก็รีบลุกขึ้นอย่าง
รวดเร็ว จึงทำให้ได้รู้ว่าเมื่อกี้ปากของเธอได้ไปแหมะอยู่บนส่วน ไหน มันก็คือลูกกระเดือกของเขายังไงล่ะ…. เธอกุมไปที่หน้าผากของตัวเอง แก้มแดงจนดูไม่ได้
ขายขี้หน้าจริง ๆ เลย
ในขณะที่ได้สัมผัสกันเมื่อกี้ ทำให้จงจึงห้าวรู้สึกสับสนไปชั่วครู่ ก่อนจะค่อย ๆ มองไปที่เธอช้า ๆ ” ถ้าผมเป็นคนหยาบคาย แล้ว 11 คุณคืออะไรล่ะ ”
ไม่รอให้หลินซินเหยียน เขาก็ค่อย ๆ ยันตัวขึ้นมานั่งช้า ๆ ก่อน จะตั้งใจจัดปกเสื้อ แล้วใช้ปลายนิ้วไล่ลงบนตำแหน่งที่หลินซินเห ยียนพึ่งจูบเบา ๆ
แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย ” เราเป็นสามีภรรยากัน คุณอยากจูบก็ ขอผมดี ๆ สิ ผมไม่ใช่คนใจแคบอะไรขนาดนั้นหรอกนะ ”
หลินซินเหยียนอัดอั้นจนพูดไม่ออก
ใครอยากจูบเขาทราบ เมื่อกี้มันคืออุบัติเหตุต่างหากเล่า!
“ฉันไม่ได้อยากจะจูบคุณสักหน่อย!” หลินซินเหยียนเดินหน้า นิ่วไป อยากจะออกไปจากห้องรับแขกนี้ให้เร็วที่สุด
จงจิ่งห้าวที่นั่งอยู่บนโซฟาไม่ได้ขยับตัวไปไหน เมื่อได้ยินคำที่ เธอพึ่งพูดออกมา ไม่อยากจูบงั้นเหรอ น่าโมโหสิ้นดีเลยพูด แทงใจดำไป ” งั้นคุณอยากจูบใครล่ะ ”
เขายิ้มอย่างเย้ยหยัน ” คนที่ทำให้คุณท้องน่ะเหรอ ” ความกลัว ความอับอาย ถูกใครบางคนฉีกเป็นชิ้น ๆ ภายใน
ชั่วพริบตา เหมือนจะมีเลือดสด ๆ ไหลออกมา
เธอไม่ยอมให้พาดพิงถึงลูกในท้องของเธอว่าเกิดมาจากอะไร เมื่อจู่ ๆ ก็โดนจงจิ่งห้าวโพล่งขึ้นมาแบบนี้ เธอก็รู้สึกเหมือนใจ เจ็บจนทนไม่ไหว
ถึงใจของเธอจะแตกสลายแล้ว แต่ก็ยังต้องทำเป็นเข้มแข็ง ” แน่สิ….ฉันก็ต้องอยากให้เป็นพ่อของลูกอยู่แล้ว ”
ดีจริง ๆ เยี่ยมไปเลยสำหรับผู้หญิงคนนี้
” คุณหลินคงยังไม่ลืมสินะ ว่าคุณติดหนี้ผมอยู่หนึ่งเรื่อง “จงจึงห้าวยืนขึ้น ปัดชายเสื้อทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีฝุ่นเลยสักนิดแล้วเงย หน้าขึ้นมาพูดอย่างไม่รีบร้อน มองไปยังหลินซินเหยียนที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงประตูห้องนอน ” ผมต้องการล่ามตั้งแต่พรุ่งนี้ เป็นต้นไป มาทำงานที่บริษัทด้วย ”
เธอได้สัญญาที่ดินฉบับนั้น แสดงว่าเขาต้องการอะไรบาง อย่างคืนแน่นอน
” ตกลง ” เธอตอบรับ ก่อนจะดับประตูแล้วเข้าห้องไป
พอคิดถึงเรื่องที่พึ่งเกิดเมื่อกี้ หน้าของเธอก็ร้อนผ่าวไปครู่ใหญ่ เธออยากหลบหน้าจงจึงห้าว จึงไม่ยอมออกมาจากห้อง จนป้า
หยูต้องมาเรียกเธอไปกินข้าว เธอถึงจะยอมเปิดประตูออกมา
จงจิ้งห้าวอยู่ที่ห้องอาหารแล้ว ป้าหนูจึงยกอาหารมาวางบน โต๊ะ
หลินซินเหยียนเดินมานั่ง สายตาไม่เลิกลักหรือมองไปทาง
ไหน
บรรยากาศบนโต๊ะแปลกเล็กน้อย
ป้าหยูไม่ค่อยชินกับท่าทีของทั้งสองคน เป็นสามีภรรยากันแท้ ๆ แต่ทำอย่างกับคนแปลกหน้าอย่างไงอย่างนั้นหล่อนจึงยกผัด บล็อคโค จานเล็กมาวางไว้ข้างหน้าของหลินซินเหยียน ” นี่เป็น ของที่คุณชายชอบกินล่ะ
จงจิ่งห้าวชอบกินอาหารรสชาติที่ค่อนข้างจืด ชอบกินอาหาร มังสวิรัติ คนที่ดูแลเขามาตลอดอย่างป้าหยูจะรู้ดี
หลินซินเหยียนงงงงวย ไม่ค่อยเข้าใจว่า ป้าหยูจะสื่ออะไร
ในใจคิดว่า ถ้าเขาชอบกิน ก็ไปวางข้างหน้าเขา
ป้าหยูขยิบตาให้เธอ เพื่อให้เธอคีบอาหารให้จงจึงห้าว หลิน นเหยียนมองพักใหญ่ถึงจะเข้าใจในสิ่งที่ป้าหนูต้องการจะบอก
กว่าจะเข้าใจก็ผ่านไปนานมากจนตาของป้าหยูแทบจะเป็น ตะคริวไปเสียแล้ว
หลินซินเหยียนคีบบล็อคโคลี่ขึ้นมาอย่างจําใจ แล้ววางลงไป ในจานของจงจิ่งห้าว
จงจิ่งห้าวชายตาขึ้นมามอง หลินซินเหยียนก็ยิ้มให้ เพราะเธอ ไม่มีวิธีปฏิเสธน้ำใจจากคนที่มีจิตใจดีอย่างป้าหยูได้เลย
พฤติกรรมการจับคู่มันชัดเจนจริง ๆ
จงจิ่งห้าวค่อย ๆ คืบบล็อกโคลี่ขึ้นมาช้า ๆ ผักเขียวอ่อนที่ผัด ด้วยน้ำมันหอมแดง ทำให้เขารู้สึกแสดงความกระตือรือร้นออก มา ” ป้าหยูเป็นคนที่รู้รสชาติที่ผมชอบกินที่สุดแล้วครับ ”
ป้าหนูยิ้มน้อย ๆ ” เป็นหลังสะใภ้ก็คงจะรู้นั่นแหละจ้ะ เธอพึ่ง เข้ามาอยู่ที่นี่ อาจจะยังไม่คุ้นเคยเท่าไหร่ ”
ป้าหนูแก้ต่าง เมื่อก่อนนี้หล่อนเรียกเธอว่าคุณหลิน ถึงเมื่อ ก่อนเขาจะไม่ค่อยพอใจในตัวเธอมากนัก แต่เพราะเธอคือคนที่ สามีเป็นคนเลือกให้คุณชายด้วยตัวเอง
จึงอยากทําให้พวกเขาเข้ากันได้ ไม่ทำให้สามีที่จากไปต้องผิดหวัง
หลินซินเหยียน โดนป้าหยูเรียกว่าเป็นสะใภ้จนแทบจะกระดาก ปาก เธอจึงก้มหัวต่ำลง รีบกวาดข้าวเข้าปาก ไม่ทันได้ดื่มน้ำ
” ฉันกินเสร็จแล้ว พวกคุณกินกันตามสบายเลยนะคะ ” 11 ก่อนจะรีบวิ่งกลับห้องไป
” เธอเป็นอะไรรึเปล่า ” ป้าหนูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
จงจึงห้าวมองตามหลังเงานั้นที่จากไปอย่างรีบร้อน ก่อนจะ อมยิ้ม อดที่จะไม่มองไม่ได้ ” คงจะยังไม่ค่อยชินกับวิธีจับคู่ของ ป้าหยูละทั้งครับ ”
ป้าหยูถอนหายใจออกมา ” ทำก็เพราะหวังดีต่อคุณ ๆ นั่น แหละค่ะ ”
พูดจบก็หันตัวเดินจากไป
ห้องอาหารที่ใหญ่โตตอนนี้เหลือแค่จงจึงห้าว ไฟจากแชนเดอ เรียบนเพดาน มีไฟเล็ก ๆ แผ่ปกคลุมตัวเขา เขาค่อย ๆ คืบบล็อค โคลี่คำนึงเข้าปาก ก่อนจะค่อย ๆ เคี้ยว
ไม่กี่วันต่อมา
จงจิ่งห้าวไปที่บริษัท หลินซินเหยียนก็ออกไปแล้ว รับปากว่าจะ ไปทำงานที่บริษัท ถ้าอย่างนั้นงานที่ร้านอาหารก็คงต้องลาออก เสียก่อน เธอไปที่ร้านอาหาร
ขณะที่กลัวอยู่ที่ชั้นเปลี่ยนรองเท้า ป้าหยูก็เดินเข้ามา ” จะออก ไปข้างนอกเหรอจ๊ะ ”
หลินซินเหยียน โดนป้าหยูเรียกว่าเป็นสะใภ้จนแทบจะกระดาก ปาก เธอจึงก้มหัวต่ำลง รีบกวาดข้าวเข้าปาก ไม่ทันได้ดื่มน้ำ
” ฉันกินเสร็จแล้ว พวกคุณกินกันตามสบายเลยนะคะ ” 11 ก่อนจะรีบวิ่งกลับห้องไป
” เธอเป็นอะไรรึเปล่า ” ป้าหนูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
จงจึงห้าวมองตามหลังเงานั้นที่จากไปอย่างรีบร้อน ก่อนจะ อมยิ้ม อดที่จะไม่มองไม่ได้ ” คงจะยังไม่ค่อยชินกับวิธีจับคู่ของ ป้าหยูละทั้งครับ ”
ป้าหยูถอนหายใจออกมา ” ทำก็เพราะหวังดีต่อคุณ ๆ นั่น แหละค่ะ ”
พูดจบก็หันตัวเดินจากไป
ห้องอาหารที่ใหญ่โตตอนนี้เหลือแค่จงจึงห้าว ไฟจากแชนเดอ เรียบนเพดาน มีไฟเล็ก ๆ แผ่ปกคลุมตัวเขา เขาค่อย ๆ คืบบล็อค โคลี่คำนึงเข้าปาก ก่อนจะค่อย ๆ เคี้ยว
ไม่กี่วันต่อมา
จงจิ่งห้าวไปที่บริษัท หลินซินเหยียนก็ออกไปแล้ว รับปากว่าจะ ไปทำงานที่บริษัท ถ้าอย่างนั้นงานที่ร้านอาหารก็คงต้องลาออก เสียก่อน เธอไปที่ร้านอาหาร
ขณะที่กลัวอยู่ที่ชั้นเปลี่ยนรองเท้า ป้าหยูก็เดินเข้ามา ” จะออก ไปข้างนอกเหรอจ๊ะ “หลินซินเหยียนยกอาหาร เชฟก็เอ่ยขึ้นมา
หลินซินเหยียนตอบรับ ก่อนจะตั้งใจนำอาหารที่หลากหลาย สีส้นวางลงบนถาดรอง เพื่อที่จะไปเสิร์ฟในห้องอาหาร
มือของเธอข้างหนึ่งกำลังประคองถาดไว้อีกมือหนึ่งก็ผลัก ประตูเข้าไป ห้องที่กว้างขวาง ใหญ่โต และมีความเป็นส่วนตัว มากเป็นพิเศษ ในห้องนั้นมีโต๊ะไม้สีแดง ตรงนั้นมีคนนั่งอยู่แต่ สองคน มีเพียงคนเดียวที่เธอรู้จัก นั่นก็คือจงจึงห้าว
ต่างฝ่ายต่างตกใจกับภาพตรงหน้า
ถังเซ่อผู้ว่าการธนาคารของธนาคารฮุยเฟิงเหมือนกำลังพูด อะไรกับจงจิ่งห้าว ก็มีคนเข้ามาขัดจังหวะพอดี
หลินซินเหยียนก้มหน้าก้มตา เดินถือถาดเข้ามาแล้วค่อย ๆ
วางอาหารลงบนโต๊ะ
11 พนักงานหญิงของร้านหลันกุ้ยเยวี่ยนนับวันยิ่งเด็กลงเรื่อย สินะ ” ใบหน้าของถังเชื่อเต็มไปด้วยรอยยิ้ม มองไปที่หลินซินเห ยียนด้วยสายตาแพรวพราว
หลินซินเหยียนรู้สึกรำคาญจนไม่รู้จะว่ายังไง จึงหยิบถาดขึ้น มาแล้วจะรีบออกไป แต่กลับถูกถังเชื่อคว้าข้อมือเอาไว้
มองไปที่จงจึงห้าวก่อนจะยิ้มอย่าตื่นกระหาย ” ให้เธออยู่เท เหล้าให้พวกเราดีกว่า ”
จงจิ่งห้าวรอยยิ้มค่อยหายไป บ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ ” ผู้ว่าการธนาคารถึงรู้ไหมว่าพวกเรากำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่ ”
เขาชายตาขึ้นไป สายตาแฉลบไปที่ใบหน้าของหลินซินเหยียน
” ที่นี่ไม่ต้องการคุณ ”
หลินซินเหยียนรีบคว้าถาดแล้วเดินออกไป
กวนจิ้งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ จงจึงห้าวก็ขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าหลินซิน เหยียนมาทำอะไรที่นี่
หรืออยากให้คนรู้ความสัมพันธ์ของเธอกับจงจึงห้าว อยากให้ คนอื่นเอาไปพล่ามไร้สาระ หรือเอาข่าวลือไปปล่อยกันแน่
จะไม่ไว้หน้าให้จงจึงห้าวเลยหรือไงกัน
พอเจอแบบนี้เข้า ก็ทำให้รู้สึกไม่ชอบหลินซินเหยียนเข้าไป
ใหญ่
” ร้านหลันกุ้ยเยวี่ยนนับวันยิ่งเข้าใจทำธุรกิจเหมือนกันนะเนี่ย อาหารอร่อย แม้กระทั่งเลือกพนักงานยังเลือกที่ดูโดดเด่นอีก เมื่อกี้คนที่ผิวขาว ๆ ขาวอย่างกับหยก เอวบางจนผมแทบจะ โอบได้ด้วยมือข้างเดียวเลยนะเนี่ย… ”
” ผู้ว่าการธนาคารถึง ผมรินเหล้าให้ครับ ” กวนจิ้งพูดขึ้นมา ขัดจังหวะ
ถังเชื่อจึงรู้ตัวว่าตอนนี้สีหน้าของจงจึงห้าวไม่ค่อยดีนัก ก่อนจะ รีบพูดอย่างเหยเก ” เมื่อกี้นอกเรื่องไปหน่อย ”
หลินซินเหยียนเดินออกมาจากห้องวีไอพีแล้วถึงกับถอน หายใจเฮือกใหญ่ นึกไม่ถึงเลยว่า พึ่งแยกออกมาเมื่อเช้า ตอนนี้ ก็เจอหน้าอีกแล้ว
เหตุการณ์ยุ่งวุ่นวายนั้นได้ผ่านไปแล้ว ผู้จัดการเลยอนุญาตให้ เธอกลับได้ เธอเลยเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเดินออกมาก็เห็นกวนจิ้งที่ ยืนอยู่ตรงประตู
สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีนัก
เขาพูดด้วยน้ำเสียเย็น ๆ และปรายตามองเธอ ” ประธานจงรอ เธออยู่ ไปได้แล้ว ”
หลินซินเหยียนเดินตามเขาที่เดินนำออกไป
แม่คะ หนูชอบกระโปรงตัวหนึ่งของชาแนลล่ะ ถ้าเรากินข้าว เสร็จแล้ว แม่ไปซื้อกับหนูหน่อยได้ไหมคะ ” หลินหยู่หานจูงเสิ่น ซิ่วฉิงเดินมาทางนี้
” ได้สิจ๊ะ ลูกสาวของแม่ต้องได้ใส่ชุดที่ดีที่สุดอยู่แล้ว ” แม่และ
ลูกสาวคุยไปยิ้มไปอย่างมีความสุขแล้วเดินเข้ามาทางนี้
เหมือนจะมากินข้าวที่ร้านหลันกุ้ยเยวี่ยน หลินซินเหยียนที่เห็นแม่ลูกคู่นี้ เท้าของเธอก็หยุดชะงัก……..
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ