บทที่ 204 น้องสาวของเขาคือใคร
ฉันดูออกแล้ว ” หลินซินเหยียนรู้ตั้งแต่แรกแล้ว แค่ผ้าไหม กวางตุ้งปรากฏออกมาต่อสายตาของเธอ ก็ทำให้เธอรู้แล้วว่าไป ยิ่นหนิงนั้นจงใจ
แต่เธอกลับแปลกใจ ว่าไปยื่นหนังคิดจะทําอะไร เธอเลย หยิบยกเรื่องเก่าขึ้นมาพูดอีกครั้ง ” ตอนแรกที่เขาช่วยฉันก็เป็น เพราะกำไลวงนี้ คุณว่าเขากับซิ่วเป็นอะไรกันแน่”
เธอหันไปมองจงจึงห้าว เธอรู้ว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ แล้วก็ ไม่ชอบให้ใครพูดถึงหล่อน
แต่เธอรู้สึกได้ไปยื่นหนึ่งก็ดี อาจารย์สอนผ้าไหมกวางตุ้งก็ดี ต้องมีอะไรที่เกี่ยวพันยูจิ๋ว แน่ๆ เพราะเธอก็เห็นว่าอาจารย์คนนั้น ก็มองมาที่กำไลข้อมือของเธอเหมือนกัน ” แล้วกำไลอันนี้มีความ เป็นมายังไงกันแน่ ”
จงจิ่งห้าวก็ไม่แน่ใจกับเจ้ากำไลอันนี้เหมือนกัน เขาเป็นผู้ชาย ไม่จําเป็นต้องใช้ของแบบนี้อยู่แล้ว คนในครอบครัวของเขาก็ไม่ เคยพูดถึงมันมาก่อน ก็เลยไม่รู้ว่าตระกูลจงมีกำไลหยกสืบทอด แบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า
” ดังนั้นคุณก็เลยอยากอยู่ที่นี่ แล้วก็หาความจริงจากเรื่องนี้ยัง งั้นเหรอ ” ถึงจะดูเหมือนเป็นประโยคคำถาม แต่จริงๆ แล้วมัน
คือประโยคบอกเล่าต่างหาก
ผู้หญิงคนนี้นี่นะ……
เขาหลับตาลง เพื่อกดอารมณ์เอาไว้ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง สนิท ” คุณไม่รู้ว่าฝั่งนั้นต้องการอะไรกันแน่ คุณก็ยังกล้าจะอยู่ เคยคิดบ้างไหมว่าถ้าคุณเป็นอะไรขึ้นมา เสี่ยวลุ่ย เสี่ยวซีแล้วก็ ผมจะเป็นยังไง ”
เธอคิดถึงเรื่องนี้ไว้แล้ว เธอยอมรับแต่โดยดี แต่เธอต้องคลาย ความสงสัยในใจของเธอให้ชัดเจน เธอรู้สึกว่ายซิ่วก็ไม่ได้เป็น คนที่เลวร้ายอะไร
คุณจะปกป้องฉันเอง ” เธอคว้าแขนของเขาขึ้นมา แล้วยิง แนบร่างกายลงบนตัวของเขา
เมื่อเธอทําแบบนั้น ตัวของจงจึงห้าวก็นิ่งไม่ไหวติงไปชั่วขณะ ก่อนจะกลับมาเป็นเช่นเดิม
เธอยื่นข้อเสนอที่ทำให้เขาไม่อาจปฏิเสธมันได้
ผู้หญิงคนนี้มักมีความคิดของตัวเองเสมอ เขาไม่สามารถหา วิธีไหนมาโต้แย้งเธอได้เลย
ถึงเขาจะด่า จะตี จะว่ายังไง ก็ทำได้แค่เห็นด้วยกับเธอไปเสีย ทุกอย่าง
จงจึงห้าวคว้าเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมอก ” ผมควรจะทำยังไงกับ คุณดี ”
หลินซินเหยียนที่อยู่ภายใต้ไหล่กว้างของเขา กำลังมองออก ไปยังที่ไกลๆ จริงๆ แล้วเธออยากรู้เรื่องของซิ่วในอดีต ก็เป็นเพราะจิ่งห้าว
ถ้าผู้ชายคนนี้ใช่พ่อของเธอ เธอมีความรู้สึก ใจสั่นอยู่
บ้าง เธอคงไม่ไหลไปตามทำเรื่องอะไรแบบแน่ เธอเอื้อมมือไปโอบเอวของร่างสูงเอาไว้ จะต้องปกป้อง ตัวเองให้ได้
จงจิ่งห้าว บรรจงประคองศีรษะของเธอเอาไว้และประทับรอย จูบอันร้อนแรงลงบนหน้าผากของ” ผมรอคุณ ”
ไม่อยากห่างจากลูกสองของเธอไป
ก็พยักหน้าค่า
เผยซูจ้านกับฉินยากกลับไปยังโรงแรมเพื่อที่เก็บของอีก รอบ ด้านหลังบ้านไม้ของเรือนด้านหน้าให้พวกเขาอยู่
มันเหมือนการฝึกแบบโบราณในยุคสมัยใหม่
ด้านหลังยังคงเป็นบ้านเป็นยุคสมัยใหม่ แม้กระทั่งของมากมายเป็นเทคโนโลยีชั้น สูง อีกสกปรกใดเห็นได้ชัดที่นี่ทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ หรืออาจ
อาวุโสสมุดบันทึกบางอย่างให้เธอ ฉันเคยเขียนบันทึก ไว้เธอเอาไปเสีย เมื่อก่อนเคยสัมผัสของพวกนี้มาก่อนหรือเปล่า ”
หลินซินเหยียน ยื่นมือทั้งสองข้างไปรับมันเอาไว้ก่อนจะตอบ ว่ามาตรงๆ ” ไม่เคยได้สัมผัสพวกเครื่องจักรที่ทำวัสดุผ้าเลยค่ะ แต่ว่าก็พอรู้จักวัสดุอยู่หลายชนิด รู้ว่าแต่ละอันมีจุดเด่นยังไง แล้ว ก็สามารถปรับใช้กับเสื้อผ้าแบบไหนได้บ้างประมาณนั้นค่ะ ”
ผู้อาวุโสพยักหน้าหงิกหงัก ดูเหมือนจะพอใจกับคำตอบของ
หลินซินเหยียน
แค่มองเห็นของพวกนี้ในห้อง สีหน้าของเขาก็ดูห่อเหี่ยวลงเล็ก น้อย ” สุดท้ายก็ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันเลยสินะ
” อาจารย์คะ ทำไมถึงพูดอย่างนั้นล่ะ ” จริงๆ ที่นี่ก็ทำให้เธอ แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมผ้าไหมกวางตุ้งถึง ไม่ได้รับการ สืบทอดต่อ
” ทำไมอาจารย์ถึงไม่ออกไปจากที่นี่ล่ะคะ…” 11
สมุดบันทึกที่ฉันให้เธอ เอาไปอ่านให้หมดรอบหนึ่ง พรุ่งนี้ ฉันจะทดสอบเธอ ” พูดจบชายแกก็เดินออกจากห้องไป
ดูก็รู้ว่าเขาไม่ยอมตอบในสิ่งที่เธอถาม
หลินซินเหยียนก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร นี่แค่วันแรก ค่อยๆ เรียนรู้ ไปเรื่อยๆ เธอรู้สึกว่าการอยู่ที่นี่ จะช้าจะเร็วก็ต้องสืบค้นในสิ่งที่ เธออยากรู้ได้อยู่ดี
เรือนด้านหลังไม่เหมือนกันเรือนด้านหน้า ตรงที่ก็พอมีห้องอยู่ บ้าง แต่เรือนด้านหลังนอกจากห้องที่วางเครื่องจักรพวกนั้นแล้วเรือนที่อยู่ด้านข้างก็มีแค่สองห้องเท่านั้น แล้วก็ไม่ใช่ห้องที่ใหญ่ เสียด้วย แต่ละห้องกวางได้แค่เพียงหนึ่งหลังกับโต๊ะหนึ่งตัว ที่ แทบจะยึดครองพื้นที่ห้องทั้งหมด แต่ที่นี่กลับดูเงียบสงบ
แค่นั่งอ่านหนังสือก็ทำให้หลุดลงไปในภวังค์ได้อย่างง่ายดาย หลินซินเหยียนรู้สึกว่านั่งเดี๋ยวเดียวก็หมดวันไปเสียแล้ว
ผู้อาวุโสแวะเวียนมาดูเธอบ้างเป็นครั้งคราว ความอดทนของ เธอนั้นทำให้เขารู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างมาก
ตอนกลางคืนผู้อาวุโสทำอาหารเสร็จแล้ว เขาก็เรียกหลินซิน
เหยียนให้ออกมากินข้าว
ภายในร้านบ้านน้อยๆ นั้นถูกวางด้วยโต๊ะไม้ทรงสี่เหลี่ยม จัตุรัสหนึ่งตัว และเก้าอี้ตัวน้อยอีกสองตัว บนโต๊ะถูกวางด้วย กับข้าวสองอย่าง นั่นก็คือปลาหนึ่งตัวกับผักอีกหนึ่งจาน
หลินซินเหยียนอาสายกจาน เธอยื่นตะเกียบให้ผู้อาวุโส ” นี่
ค่ะอาจารย์ ”
ผู้อาวุโสยิ้มออกมาน้อยๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่หลินซินเหยียนเห็นเขายิ้ม มันทำให้เธอรู้สึกว่า เขาดูเป็นมิตรและน่าเคารพ
” ปลาตัวนี้ ฉันใช้แหจับมาจากลำธาร ไม่มีสิ่งเจือปนแน่นอน วางใจกินได้เลย “ผู้อาวุโสคีบเนื้อปลาหนึ่งคำมาวางลงในชาม ของหลินซินเหยียน ” ลองชิมดูว่ารสชาติเป็นยังไง ”
หลินกั๋วอัน ไม่เคยดีกับเธอแบบนี้เลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร จู่ๆ เธอก็รู้สึกแสบแปลับๆ ที่จมูก เธอก้มหน้าลง ก่อนจะคืบเนื้อ ปลาเข้าปากไป
ดูเหมือนไม่ได้ใส่เครื่องปรุงเยอะนัก ส่วนใหญ่รสชาติยังคง รักษารสเดิมของเนื้อปลาไว้อยู่ เนื้อปลามีความละเอียดและนุ่ม มี ความเค็มและหวานอ่อนๆ เป็นรสชาติที่มีเป็นเอกลักษณ์มาก
” ใส่น้ำตาลด้วยหรอค่ะ ” หลินซินเหยียนถาม
” ไม่ได้ใส่ เนื้อปลามีความหวานอยู่ในเนื้อของมันอยู่แล้ว แต่ ว่าปลาในแม่น้ำสายนี้มีรสหวานอยู่แล้ว ที่อื่นไม่เป็นแบบนี้หรอก ” ผู้อาวุโสพูดออกมาเรื่อยๆ ตอบคำถามของหลินซินเหยียนอ ย่างมีความอดทน
หลังๆ มานี้ หลินซินเหยียน ถามคำถามเขามากมาย ส่วนมาก เป็นสิ่งที่เธออ่านในบันทึก แล้วไม่ค่อยเข้าใจนะ
ใช่แก่อดทนตอบทุกคำถาม
หลินซินเหยียนอดทนอยู่ที่นี่มาหนึ่งสัปดาห์แล้ว เป็นหนึ่ง สัปดาห์ที่เธอไม่เคยเดินออกมาจากเรือนด้านหลังเลยแม้แต่ก้าว เดียว
เวลาส่วนใหญ่เธอมักจะหมกตัวอยู่แต่ในห้องเครื่องจักรทำผ้า ทำความคุ้นเคยกับการทำงานของเครื่องจักร แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะ เรียนรู้ถึงขั้นลึก
แต่เธอก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร รู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลา ถ้าถึงเวลานั้นแล้วผู้อาวุโสก็คงสอนเธอเอง
และนี่ก็เป็นอีกคืน สถานที่เดียวกัน กับข้าวยังคงสองจานเช่น
เดิม ข้าวสวยสองจาน และคนสองคน ” อาจารย์คะ อาจารย์มีญาติหรือคนที่สนิทไหม ” หลินซินเหยี ยนถามขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล
ผู้อาวุโสที่กำลังคืบกับข้าวก็ชะงัก เขาคีบอาหารเข้าปาก ก่อน จะเคี้ยวอย่างช้าๆ ผ่านไปไม่กี่อึดใจเขาก็ตอบ ” มีสิ ”
” แล้วทำไมไม่เห็นมีใครกลับมาที่นี่เลยล่ะคะ ”
ผู้อาวุโสเงยหน้าขึ้นมามองเธอ เขารู้ว่าเธอกำลังถามเรื่องส่วน ตัวของเขาอยู่
หลินซินเหยียนรีบแก้ต่างพัลวัน ” ฉันแค่ถามเฉยๆ ค่ะ… ”
ฉันมีน้องสาวหนึ่งคน ”
ผู้อาวุโสพูดตัดบทหลินซินเหยียนที่กำลังอธิบาย
เมื่อไปยื่นหนิงได้พบกับเขา เขาก็ตัดสินใจว่า ถึงจะฝ่าฝืน สัญญา เขาก็ต้องเป็นคนสืบทอด สิ่งที่สืบต่อกันมาหลายศตวรรษ นั่นก็คือตกลงเป็นผู้สืบทอดการทำผ้าไหมกวางตุ้งนั่นเอง
เขาเก็บหลินซินเหยียนไว้ สอนวิธีการทำผ้าไหมกวางตุ้งกับ เธอ เรื่องบางเรื่องก็คงปิดเธอไว้ไม่ได้แน่นอน
จากการที่เขาเฝ้าดูเธอมาหลายวัน เขารู้สึกว่าหลินซินเหยียน เป็นเด็กสาวที่ใช้ได้คนหนึ่งเลยทีเดียว ทั้งอดทน ฉลาด แล้วก็เข้าใจอะไรง่ายๆ โดยที่เขาไม่ต้องลงแรงอะไรมากมาย
” เธอแต่งงานแล้วย้ายไปอยู่หมู่บ้านอื่นเหรอคะ ” เมื่อผู้ อาวุโสยอมเปิดปากพูด หยินซินเหยียนไม่รอช้า ใช้โอกาส เหล็กเมื่อมันกำลังร้อนได้ที่จึงรีบถือโอกาสถามในสิ่งที่สงสัยออก มา
” ไม่ใช่หมู่บ้านอื่น แต่ไกลออกไปจากที่นี่ น้อยครั้งที่จะกลับมา ตอนนี้ทางบ้านก็มีฉันอยู่แค่คนเดียว แต่ถ้าฉันติดต่อเธอไปแล้ว ไม่นานเธอก็คงจะกลับมาที่นี่ ”
ผู้อาวุโสพูดออกมาเนืองๆ
น้ำเสียงมีความกลัดกลุ้มแฝงอยู่
เขามองไปที่หลินซินเหยียน ” ถึงเวลาถ้าเธออยากรู้อะไรก็ ถามน้องของฉันได้ ”
หลินซินเหยียนมองผู้อาวุโสอย่างแปลกใจ เหมือนเขาจะรู้ว่า
ตัวเธอเองมีเรื่องอื่นที่อยากรู้
และเหมือนกับว่าเรื่องที่เธออยากรู้ น้องสาวของเขาก็รู้ทั้งหมด
ถ้ายังงั้นน้องสาวของเขาคือใครกันนะ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ