กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 143 ตรวจดีเอ็นเอ



บทที่ 143 ตรวจดีเอ็นเอ

ปังปัง……

เมื่อมีเสียงเคาะประตู จงฉีเฟิง ไม่แม้แต่จะเงยหน้า ใช้พู่กัน เขียนตัวหนังสือต่อไป และพูดเบาๆเข้ามาได้

ลุงเพิ่งเปิดประตู “ป้าหนูมา

ป้าหยู?

จงเพิ่งลืมไปเลยว่ายังมีบุคคลนี้อยู่

ลุงเพิ่งพูดว่า “ตอนที่นายหญิงแต่งงานเข้ามาในบ้านนี้ เป็น คนใช้ที่พามาด้วย”

จงเพิ่งนึกขึ้นมาได้ทันที และถามอย่างเฉยเมย “เธอมาทำ

อะไรที่นี่?”

“ไม่รู้ครับ ผมเห็นเธอจูงมือเด็กผู้ชายคนหนึ่ง” ลุงเพิ่งนึกถึงรูป ลักษณ์ของเด็กผู้ชายคนนั้น ใบหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที “เด็กคน นั้นอาจเป็นลูกของคุณชาย

เขาเป็นคนเก่าแก่ในตระกูลจง เคยเห็นรูปลักษณ์ตอนที่จงจึง ห้าวยังเป็นเด็ก รูปลักษณ์ของเด็กผู้ชายคนนี้ เหมือนกับจงจึงห้าว ในวัยเด็กทุกประการ

“อะไรน?” จงฉีเฟิงมองลุงเพิ่งด้วยความประหลาดใจ “เขามี ลูกแล้วเหรอ?”
ทําไมเขาถึงไม่รู้อะไรเลย?

เขาวางพู่กันลง แล้วเดินออกจากห้องหนังสือ “ไปดูกันเถอะ” ราวกับคิดอะไรได้ และก็พูดว่า “ขึ้นไปข้างบนแล้วเรียกเธอลง

มา”

สองสามวันมานี้ซิ่วรู้สึกไม่ค่อยสบาย จึงพักผ่อนที่ชั้นบน “ครับ” ลุงเพิ่งหันตัวขึ้นไปข้างบน

จงฉีเฟิงเข้าไปในห้องรับแขกก่อน ป้าหนูและหลินเฉินกำลัง นั่งอยู่บนโซฟา ที่ด้านหลังโซฟา เขามองเห็นหัวเล็กๆ ฝีเท้าของ เขาหยุดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็เดินอย่างรวดเร็ว

อยากรีบเห็นรูปลักษณ์ของหลินเฉิน

เมื่อเห็นจงเพิ่งเดินมา ป้าหยูก็รีบลุกขึ้นยืน

“คุณมาแล้วเหรอ” จงฉีเฟิงเป็นกันเองมาก

ป้าหนูพยักหน้า “นานมากแล้วที่ไม่ได้เจอกัน

แม้จะอยู่ไม่ไกล แต่โอกาสน้อยมากที่จะได้พบกัน ครั้งสุดท้าย ตอนที่จงจึงห้าวแต่งงาน จงเพิ่งเรียกเธอมาที่นี่เพื่อสอบถาม

จงฉีเฟิงถอนหายใจ ใช่สิ ชั่วพริบตาพวกเขาก็แก่แล้ว

“เด็กคนนี้?” เขามองไปที่หลินซีเฉินผิวขาวละเอียด ดวงตาใส ราวสายน้ำใส สว่างสดใส ใบหน้าเล็กๆ ดวงตาคู่นี้…….

หลินซีเฉินก็มองมาที่เขาเหมือนกัน ใบหน้าที่คมลึก ผมหงอกที่ขมับ และรอยย่น มุมดาของเขาซึ่งเป็นริ้วรอยของกาลเวลา เขา

สวมชุดจีนผสมสากล แต่ดูดีมาก หลิน เงินกะพริบลูกตาที่ดำสนิท มือเล็กๆจับมุมเสื้อผ้าไว้ เหมือนทำตัวไม่ถูก บุคคลนี้คือคุณปู่เหรอ?

เขากำลังฝันอยู่หรือเปล่า?

ฝันดี

ป้าหนูไม่รู้จะตอบอย่างไร เสียเวลาไปชั่วครู่ “คุณชายเคย แต่งงานแล้วไม่ใช่หรือค่ะ…….

ชีวิตคู่แต่งงานของเขาสั้นนัก และตอนนี้ก็ผ่านไปนานมาก ดัง นั้นถ้าพูดขึ้นมามันก็ค่อนข้างกะทันหัน

“ใช่” จงเฟิงเข้าใจแล้ว

แต่เขาก็งง ถ้านี่คือลูกของจงจึงห้าวจริงๆ ทำไมโตขนาดนี้แล้ว พึ่งจะพามา?

“เป็นอย่างนี้ค่ะ ตอนนั้นคุณชายได้หย่ากับคุณหลินไปแล้ว ไม่ใช่หรือ หลังจากหย่าร้างแล้วถึงให้กำเนิดลูก” ป้าหยูก้มมอง ไปที่ศีรษะของหลินซีเฉินแล้วยื่นมือไปลูบ “การหย่าร้างในครั้ง นั้นของคุณหลิน อาจทำให้มีปมอยู่ในใจ ดังนั้นเลยไม่ได้บอก คุณชายว่าเด็กสองคนนี้เป็นของเขา ฉะนั้นที่ฉันมาครั้งนี้ก็เพื่อ ต้องการ……

ต่อหน้าหลินเฉิน เธอไม่สามารถพูด ว่าให้เด็กสองคนและจง จิ่งห้าวไปตรวจดีเอ็นเอ
อย่างนั้นจะเป็นการทำร้ายหัวใจของเขามาก

“สองคน?” จงฉีเฟิงไม่เข้าใจ หรือว่ายังมีอีกคนเหรอ?

ป้าหยอธิบายด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวยังมีน้องสาวอีกคน พวกเขา เป็นฝาแฝด”

“แฝดอะไร?” ยู่ซิ่วเดินลงมาจากบันได เธอสวมเสื้อคลุมไหล่ หน้าซีดเซียว และดูเหมือนจะป่วยหนัก

“พวกเราไปคุยกันที่ห้องหนังสือ” จงฉีเฟิงสัมผัสได้ถึงความ กังวลของป้าหยูและให้คนใช้ดูแลหลินซีเฉินในห้องรับแขก “ไป หาอะไรให้เขาทาน”

“ผมไม่หิว” หลินซีเฉินพูด

จงฉีเฟิงตอบรับ “ถ้างั้นก็ได้ ให้คนใช้พาเธอไปเที่ยวชม รอบๆ”

“ตกลง ขอบคุณครับ” หลินซีเฉันอยากเห็นที่นี่เหมือนกัน ที่นี่ เป็นที่พ่ออาศัยอยู่ตอนยังเป็นเด็ก ใช่หรือเปล่า?

เขาเดินตามคนใช้ด้วยความคาดหวัง ยู่ซิ่วเดินลงมา ใบหน้าที่ซีดเผือด “พวกคุณกำลังพูดถึงอะไร?” จงฉีเฟิงพยุงยู่ซิ่วและถามด้วยความเป็นห่วง “ดีขึ้นบ้างไหม?” ยวยิ้มอย่างอ่อนหวาน “ดีขึ้นมากแล้ว ไม่ใช่โรคร้ายแรง อะไร ไม่ต้องกังวล”
“คุณคิดว่าคุณยังอายุน้อยเหรอ” จงเพิ่งเหลือบมองเธอ

“พวกเราทุกคนแก่แล้ว”

ยู่ซิ่วรู้สึกเศร้า “ฉันคิดว่าฉันยังอายุน้อย ตอนที่ได้พบคุณ มันก็ เหมือนเมื่อวาน”

เมื่อมาถึงที่ห้องหนังสือ จงเพิ่งพยุงตั๋วให้นั่งบนเก้าอี้ แล้ว จึงมองไปที่ป้าหยู “คุณอยากพูดอะไรก็พูดเลย”

“เดี๋ยวก่อน บอกฉันมาก่อนว่าฝาแฝดอะไร”

ยู่ซิ่วพูดขัดจังหวะพวกเขา จงฉีเฟิงเล่าเรื่องนี้อีกครั้ง “อะไรนะ?” ซู่ซิ่วตื่นเต้นจนตัวสั่น จงจึงห้าวมีลูกแล้วเหรอ? “คุณยังป่วยอยู่ อย่าตื่นเต้นมาก” จงฉีเฟิงปลอบใจเธอ

ปกติเธอจะใจเย็น แต่เมื่อได้ยินว่าจงจึงห้าวมีลูกแล้ว เธอไม่ อาจใจเย็นได้

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ซิ่วจับมือจงเพิ่งไว้แน่น

เล็บของเธอจิกเนื้อของเขา แต่ไม่รู้ตัว

ป้าหยอธิบายเรื่องนี้อีกครั้ง “ฉันคิดว่าคุณหลินคงจะโกรธ คุณชาย เลยไม่อยากบอกชาติกำเนิดของเด็กให้เขาฟัง ฉันแค่ คิดว่า พวกเราสามารถทำเหมือนในทีวี ตรวจดีเอ็นเอ ข้อแรก เพื่อให้คุณหลินปฏิเสธไม่ได้ ข้อที่สองนี่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของ ตระกูลจงจะให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆไม่ได้”
จงเฟิงกำลังครุ่นคิด ทบทวนเกี่ยวกับคำพูดของป้าหยู ยู่ซิ่วนั่งไม่ติดแล้ว “ลูกอยู่ที่ไหน? ฉันอยากเห็น

“เธออย่าตื่นเต้น” จงฉีเฟิงกดไหล่ของซิ่ว

“ฉันจะไม่ตื่นเต้นได้ไง? เขาอายุสามสิบกว่าแล้ว และตอนนี้มี ลูก ฉันไม่ตื่นเต้นได้ไง?” ในขณะนี้วลืมไปว่า เธอมีฐานะเป็น แม่เลี้ยง

จงเฟิงนึกถึงความอดทนและความเจ็บปวดในใจของเธอมา หลายปี เลยบอกให้ป้าหมูไปอุ้มหลินซีเฉินมา

บันไดอยู่ด้านข้างห้องรับแขก เมื่อกี้ที่เธอลงมาไม่ได้สังเกตว่า มีเด็กอยู่ในห้องรับแขก ได้ยินแต่พวกเขาพูดถึงฝาแฝดเท่านั้น

ในไม่ช้าป้าหยูก็อุ้มหลินซีเงินเข้ามา ยูวยืนขึ้นจากเก้าอี้ ร่างกายของเธอวิงเวียนทรงตัวไม่ได้ แต่ ดวงตาของเธอจ้องมองไปที่เด็กผู้ชายที่อยู่ในอ้อมแขนของป้าห

จมูกเล็กโด่งของเขา หน้าผากเต็ม และดวงตาโตสดใส เห็น ได้ชัดว่าเป็นรูปลักษณ์ตอนเด็กของจงจึงห้าว

เธอเดินโซเซไปตรงหน้าป้าหยู มือสั่น จับหน้าหลินซีเฉินเธอ ต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่อวัยวะภายในดูเหมือนจะถูกคน ตัดออกไป ทําให้เกิดความเจ็บปวด

“เธอชื่ออะไร” น้ำเสียงของเธอแหบแห้งมาก

“หลินซีเฉิน”
“หลินซีเฉิน?” ซู่ซิ่วหันหัวมามองจงเฟิงนี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมนามสกุล หลิน?

“เด็กคนนี้ติดตามคุณหลินตลอดไม่ใช่เหรอ เธอหย่ากับ คุณชายแล้ว ดังนั้นเด็กคนนี้น่าจะใช้นามสกุลของเธอ” ป้าหยู

อธิบาย

ในที่สุด ซิ่วก็เข้าใจ

เพียงแต่ว่าเมื่อสักครู่ที่บอกว่าตรวจดีเอ็นเอมันไม่จำเป็น นี่คือ ลูกของจงจิ่งห้าว ดูที่โครงหน้า และดวงตา

“เรียกเธอกลับมาสักครั้ง” ซิ่วระงับอารมณ์ที่ตื่นเต้น และ เอื้อมมือไปกอด หลินเฉิน “มานี่ให้ฉันกอดหน่อยสิ”

หลิน เฉินกะพริบตา และถามว่า “คุณเป็นคุณย่าของผมใช้

ไหม?”

หัวใจของซิ่วดูเหมือนจะถูกมีดเฉือน และเธอก็สั่นไปทั้งตัว

“ใช่ เธอเป็นคุณย่าของหนู” จงฉีเฟิงตอบแทนเธอ

เขาเดินไปพยุงร่างกายของซิ่วที่สั่นและทรงตัวไม่ได้ และพูด อย่างหนักแน่น “คุณเป็นคุณย่าของเขา”

ยู่ซิ่วอยู่ในอ้อมแขนของเขา สะอื้นร้องไห้

บางทีอาจเป็นเพราะความเจ็บป่วย จิตตานุภาพก็อ่อนแอเช่น

กัน

“คุณบอกให้เขากลับมา” ซิ่วพึมพำ ในอ้อมแขนของเขา
จงเฟิงพิจารณาถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน รู้สึกว่าสิ่งที่ป้าห พูดนั้นสมเหตุสมผล หลินเซียนเหยียนมีปมในใจกับจงจึงห้าว ถ้า เธอไม่ยอมรับว่าเด็กนี้เป็นของเขาจะทำยังไง?

ดังนั้นตอนนี้ต้องหาหลักฐานก่อน ถึงเวลาเธอจะได้ไม่มีการโต้ แย้งใดๆ

“อย่าเพิ่งวิตกไป ฉันคิดว่าเขาอาจถูกปิดบังและไม่รู้เรื่องใดๆ “ถ้างั้นควรทำอย่างไร” ซิ่วตื่นตระหนก

เห็นได้ชัดว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของจงจิ่งห้าว สายเลือดของ ตระกูลจง

จงฉีเฟิงถอนหายใจ และตบหลังเธอ “มีวิธี ไม่ต้องกังวล

อารมณ์ของซิ่วสงบลงเล็กน้อย “ถ้างั้นให้เสี่ยวซีอยู่ที่นี่”

“มันคงไม่ได้”

ก่อนที่จงฉีเฟิงจะตอบเธอ ป้าหยูก็พูดก่อน เธอใช้ข้ออ้างใน การพาเด็กออกมา ปิดปังทุกคน ถ้าไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด เอาเด็ก ไว้ที่นี่ไม่ได้

“ป้าหยูกลับไปก่อน ค่ำหน่อยฉันจะให้ลุงเพิ่งไปที่วิลล่า” จง ฉีเฟิงมีแผนอยู่แล้ว

อันดับแรก ไปที่วิลล่าเพื่อเอาผมของจงจึงห้าวและของเด็ก หรือแปรงสีฟันที่ทั้งคู่เคยใช้ เอาไปตรวจดีเอ็นเอแล้วค่อยว่ากัน ตอนนั้นถ้ามีกหลักฐานแล้ว ไม่มีใครปฏิเสธความจริงได้”ตกลงค่ะ” ป้าหยูพยักหน้า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ