ตอนที่72 ช่างกล้าเนอะ

ตอนที่72 ช่างกล้าเนอะ

ถังรั่วชูตื่นขึ้นมาและได้ไปอาบน้ำ และกินข้าวก่อนที่จะไป ทํางานที่บริษัท

เมื่อเธอมาถึงขายังไม่ได้แตะเข้าไปในแผนกสื่อมวลชน สั งอานหยีที่อยู่หลังเธอก็เข้ามาแจ้งอย่างสีหน้าที่เป็นชาว่า “รั่วชู อีกหนึ่งชั่วโมงไปรอที่ห้องโถงใหญ่นะ มีงานรอให้ ทําอยู่”

“นี่มันเรื่องอะไร เกิดอะไรขึ้น? ทำไมสีหน้าถึงได้ดูแย่แบบ

นี้ล่ะ?”

ถังรั่วชูมองไปที่เธออย่างแปลกใจ ดูเหมือนว่าเธอถูกสั งอานหยีทําให้ตกใจ

สั่งอานหยีมองบนแล้วพูดว่า “จะใครล่ะ ก็คนสารเลวอย่าง กู้รั่วรั่วไงล่ะ วันนี้หล่อนจะมาเซ็นสัญญากับสือรุ่ยอย่างเป็น ทางการน่ะสิ ต้องการจะแถลงข่าว ข้างบนสั่งบัญชามา ว่า เธอจะต้องไปร่วมด้วย

ถังรั่วชูอึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะดึงสติกลับมา : “เร็วดีหนิ เพิ่งมาไม่นานก็อดที่จะแสดงอำนาจไม่ไหวแล้วสินะ?”

“คนสารเลวนั้นคงจะอยู่ไม่สุขล่ะ ” สั่งอานหยีแสดงสีหน้า ที่ไม่พอใจ : “กับสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เธอไม่ไปก็คงจะ ไม่ได้แล้วล่ะ”

“ไปก็ไปสิ นี่แค่เริ่มต้นเองนะ ถ้าหากแค่นี้ยังรับมือไม่ไหว แล้วต่อไปจะไปสู้อะไรได้อีก

ถังรั่วซูยิ้มอย่างหน่ายใจ แต่การมาของรั่วรั่วในครั้งนี้ เธอไม่กลัวหรือหวั่นใจแม้แต่น้อย

ประมาณตอนสิบโมงเช้า กู้ชั่วรั่วได้หวนคืนตำแหน่ง พร้อมประกาศว่าจะมาแถลงการณ์ที่ต้องรับโลงประชุม ใหญ่ของบริษัทสือรุ่ย ซึ่งในที่ประชุมนอกจากฝ่ายแผนก สื่อของบริษัทแค่อย่างเดียว แต่ยังได้เชิญฝ่ายแผนเคลือ อีก5บริษัทด้วยกัน บรรยากาศนั้นสุดแสนจะโอ่อ่า

เมื่อถึงรั่ว มาถึงสถานที่งาน ราวก็ได้ขึ้นเวที กำลังได้

สัมภาษณ์
“คุณกู้รั่วรั่วคะ การเซนต์สัญญาของคุณกับบริษัทสือรุ่ย ในครั้งนี้ เกี่ยวกับบริษัทใหม่ คุณมีความคิดเห็นยังไงบ้าง คะ? เท่าที่ฉันรู้มา คุณเคยทำงานและคุ้นเคยกับบริษัทเฉิน ยี่และบริษัทหวาหวีมาก่อน แล้วทำไมสุดท้ายถึงได้ตัดสิน ใจเลือกบริษัทสือยล่ะคะ? ”

“ก่อนอื่น ดิฉันต้องขอขอบคุณฝ่ายสื่อมวลชนทุกท่าน ที่ สละเวลาเพื่อที่จะมาร่วมการแถลงการประชุมของฉันนะคะ ส่วนเหตุผลที่ฉันเลือกบริษัทสือรุ่ย ก็เพราะว่าฉันเล็งเห็น ถึงศักยภาพของสือรุ่ยในอนาคต ในตอนนี้ ถึงแม้ว่าอาจ จะเทียบเท่ากับบริษัทเฉิน และบริษัทหวาหวีไม่ได้ แต่ฉัน เชื่อมั่นและมั่นใจค่ะ ว่าอีกไม่นานสือรุ่ยจะต้องผ่านพ้นมัน ไปได้ และฉันก็มั่นใจอย่างยิ่งว่าบริษัทสือรุ่ยจะให้โอกาสที่ ฉันจะได้แสดงศักยภาพของฉันเองค่ะ ”

กู้รั่วรั่วที่อยู่บนเวทีนั้น ตอบคำถามได้อย่างรอบคอบและ ไม่ติดขัดแม้แต่น้อย ซึ่งแน่นอนว่าเธอได้เตรียมการคิดคำ พูดที่จะตอบคำถามไว้เป็นอย่างดี

“ขอถามนะคะคุณกู้รั่วรั่ว ก่อนที่จะเลือกสือรุ่ยไม่นานมานี้ คุณเองก็ได้มีการตกลงทําภาพยนตร์ร่วมกันกับบริษัทการ บันเทิงหวางถึงนิคะ แล้วทำไมจู่ ๆถึงได้มาทำสัญญากับสื อรุ่ยล่ะคะ หรือไม่ทราบว่าคุณเองได้เป็นหนึ่งในตัวละครของภาพยนตร์นี้หรือเปล่า? ”

“ฮ่า ๆ ดิฉันเองก็เพิ่งตัดสินใจมาที่สือรุ่ยได้ไม่นาน ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงตกลงเจรจากันอยู่ค่ะ ส่วนเรื่องการทำ ภาพยนตร์ด้วยกันกับบริษัทการบันเทิงหวางถึงนั้น ตอนนี้ ยังไม่ได้รับข่าวใด ๆนะคะ แต่ ถ้าหากว่าฉันมีโอกาสได้ร่วม แสดงด้วย ฉันจะรีบแจ้งพี่ๆสื่อทุกคนทันทีค่ะ”

สิ่งที่กู้รั่วรั่วได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไว้ เรื่องการ พัฒนาในอนาคตต่าง ๆนั้น ไม่มีใครจำได้เลย ว่าเมื่อก่อน นั้นเธอได้ทำความล้มเหลวมาก่อน

สั่งอานหยีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ถังรั่วชู เมื่อฟังแล้วก็พูดด้วยน้ำ เสียงหมั่นไส้ และกรอกตาว่า “ผู้หญิงคนนี้ช่างกล้าที่จะทำ เรื่องใหญ่โตแบบนี้ กลับมาก็กลับมาสิ ยังมีหน้าที่จะเอา เรื่องที่ร่วมมือกับบริษัทการบันเทิงหวางถึงออกมาพูดอีก แถมยังตอบไม่ชัดเจนอึ้งอยู่ได้ ฝ่ายสื่อมวลชนที่ต้อง มาตีความจากสิ่งที่นางพูดอีกหรือมั้ง?”

“ความอิทธิพลของบริษัทการบันเทิงหวางถึงก็ไม่น้อยไง แถมอีกอย่างการที่เธอตอบไปแบบนั้นก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะสือรุ่ยก็ได้วางแผนที่จะร่วมมือกับบริษัทการบันเทิง หวางถึงจริง ๆ แถมการที่กู้รั่วรั่วตอบไปแบบนี้ ทางบริษัท การบันเทิงหวางถึงก็คงจะไม่ว่าอะไรหรอก

ถังรั่วซูเม้มปากอย่างใช้ความคิด สำหรับวิธีสร้างกระแส ของรั่วรั่ว เห็นได้ชัดว่าไม่ได้รับผลประโยชน์อะไร

สั่งอานหยียิ้มอย่างมีเลศนัยขึ้นมา เหมือนจิ้งจอกที่ขโมย อาหารสําเร็จ “ ๆ แน่นอนว่าบริษัทการบันเทิงหวางถึงจะ ไม่ว่าอะไรได้อยู่แล้ว นั้นเป็นเพราะว่ามันยังไม่ชัวร์เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับประธานสู้ไงหล่ะ ฉันชักจะ อดใจรอไม่ไหวแล้วว่าฝั่งบริษัทการบันเทิงหวางถึงจะมีให้ คําตอบยังไงแล้ว ต้องสนุกแน่นอน

ถังรั่วชูหันไปที่สั่งอานหยีกะพริบตาปริบๆใส่ พร้อมยิ้ม “เห็นด้วย”

ระหว่างที่สองคนพูดกันอยู่นั้น สื่อมวลชนก็ได้ถามคำถาม ไปอีกมากมายอย่างต่อเนื่อง เมื่อสัมภาษณ์ใกล้เสร็จแล้วก็ วนมาที่คําถามพีคๆ
“คุณก้วรั่วคะ สําหรับเรื่องที่คุณได้เซนต์สัญญากับสือรุ่ ย บนอินเทอร์เน็ตนั้นลือกันให้สนั่นว่า เป็นเพราะว่าความรัก และแค้นระหว่างคุณกับถังรั่วชู ก็เลยตั้งใจจะที่จะทำแบบ นี้ใช่ไหม ตอนนั้นข่าวระหว่างพวกคุณก็ระหองระแหงพอ สมควร ไม่ทราบว่าตอนนี้เป็นยังไงกันบ้าง? พอจะพูดสัก หน่อยได้ไหมคะ? ”

คำถามของนักข่าวคนนี้ทำเอาจุกและแทงใจดำมาก และ ถังรั่วซูที่อยู่ล่างเวทีขมวดคิ้วขึ้น ในใจมีความรู้สึกลาง สังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา

“เรื่องมันก็ผ่านมานานมากแล้วล่ะค่ะ แถมการที่ฉันมา เซนต์สัญญากับสือรุ่ยก็ไม่ได้เป็นเพราะว่าจะเจาะจงมาหา เธอโดยเฉพาะนะคะ ในเมื่อเรื่องในตอนนั้น ฉันเป็นคนที่ผิด เอง ถังรั่วชูก็ให้อภัยฉันแล้วหน่ะค่ะ ว่านับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ฉันกับเธอจะอยู่เป็นเพื่อนร่วมงานกันค่ะ เพราะฉะนั้นวอน พี่ๆสื่ออย่าไปโฟกัสกับเรื่องนั้นเลยค่ะ เพราะฉันกับคุณถัง ได้ปรับความเข้าใจและให้อภัยกันแล้วค่ะ ถ้าไม่เชื่อ ก็ลอง ถามเธอดูสิคะ! ”

พูดจบ สายตาของกู้รั่วรั่วก็ได้มองไปที่ถังรั่วชูที่ยืนอยู่ล่าง เวที

เมื่อเธอมองมา ทุกสายตาก็พากันจ้องไปที่ถังรั่วชู
ทำเอาเธอเองถึงกับคิ้วขมวด และรู้สึกหัวตึง ๆ

สั่งอานหยีที่ยืนอยู่ข้างๆกันก็รับรู้ได้ภายหลังว่ากู้รั่วรั่วคิด จะเล่นตลกอะไร และหน้าก็เริ่มมืดลง

นางแพศยาคนนี้ ช่างรู้จักการคิดคำนวณมาอย่างดี คิดจะ ทำเช่นนี้ให้ถังรั่วชูยอมเป็นฝ่ายพูดและยืนยันว่า ทั้งคู่นั้น เคลียร์กันและปรับความเข้าใจกันแล้ว

ถังรั่วชูที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดใจในตอน นี้ ถ้าหากว่าเธอตอบคำถามที่ไม่เหมาะสมไป รับรองว่าจะ ทำให้ผู้บริหารชั้นสูงของบริษัทไม่พอใจอย่างแน่นอน