One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่141 ไม่ได้มีเธออยู่ในสายตา



ตอนที่141 ไม่ได้มีเธออยู่ในสายตา

ตอนที่141 ไม่ได้มีเธออยู่ในสายตา

ตั้งแต่แยกจากฉินยี่อาน ถังรั่วซูก็ไม่ได้หยุดนิ่ง เธอมุ่งหน้า ตรงไปยังบริษัท

ระหว่างทางกลับ ถังรั่วชูก็นึกถึงคำพูดสุดท้ายของฉินยอาน มือทั้งสองข้างอดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น

เธอถูกรังแกจริงหรือ? เหตุการณ์นั้นลงบนหัวเธอซ้ำแล้วซ้ำ เล่า การยอมและการอดทนที่ผ่านมานั้นในสายตาของคนอื่น เป็นเพียงแค่ความอ่อนแองั้นสิ? ไม่เช่นนั้นในแต่ละครั้งคน เหล่านั้นจะทำรุนแรงกว่าครั้งก่อนๆทำไม?

พวกเธอคิดว่าถังรั่วชูนั้นเป็นเพียงคนอ่อนแอจึงคิดจะทำอะไร ตามใจก็ได้แบบนั้นเหรอ?

ดูเหมือนว่าหลังจากนี้เธอจะอยู่เฉยๆต่อไปไม่ได้แล้วไม่งั้นจะ คงโดนดูหมิ่นจริงๆแล้ว!

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ในดวงตาคู่ที่งดงามของเธอก็อดที่จะสั่นไหว ไม่ได้ หลังจากกลับมายังบริษัทเธอก็ตรงเข้าไปยังห้องของผู้ จัดการทันที

ซูเทียนอ้ายกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้และจิบกาแฟอย่างสบายๆ เมื่อเห็นถังรั่วชูพุ่งเข้ามาโดยที่ไม่เคาะประตู สีหน้าตอนนั้นน่าเกลียดยิ่งกว่าอะไร

“ถังรั่วชู คุณควรเกรงใจ ที่นี่คือบริษัท คุณคิดว่าเป็นบ้านของ คุณที่จะเข้าไปที่ไหนก็ได้ตามใจชอบหรือไง?”

ซูเทียนอ้ายตบโต๊ะและขมวดคิ้วด้วยความโกรธ และคิดว่า ถังรั่วชูนั้นไม่เห็นเธออยู่ในสายตาเลย

ถังรั่วชูไม่ได้ซีเรียสไปกับเธอ เธอเพียงแค่หัวเราะเยาะและ กล่าว “ขอโทษด้วย ผู้จัดการ นี่ไม่ใช่เพราะว่าฉันรีบร้อนเรื่อง บทสัมภาษณ์ของฉินยี่อานที่จะนำมาให้คุณดูหรอกหรือไง ฉัน ว่าคุณที่เป็นคนใหญ่คนโตอย่าจงใจหาเรื่องกันเลย!”

ออกไปเคาะประตูอีกครั้งแล้วเข้ามา!”

ใบหน้าของซูเทียนอ้ายเป็นสีเขียวและเธอตะโกนด้วยความ โกรธ

มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เธอเข้ามาทำงานและเป็นครั้งแรกที่มีคน กล้าปฏิบัติเช่นนี้กับเธอ!

ซูเทียนอ้ายรู้สึกว่าตัวเองนั้นได้รับความอัปยศดังนั้นเธอจึง

โกรธมาก

อย่างไรก็ตามถังรั่วชูกลับมองไม่เห็นมันและได้ทิ้งต้นฉบับ การสัมภาษณ์ลงบนโต๊ะของซูเทียนอ้ายอย่างไม่สุภาพ ใบหน้าที่สวยงามของเธอค่อยๆเย็นลง ดวงตาเหมือนจะถูกปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็ง “ซูเทียนอ้าย ไม่มีประโยชน์เลยที่คุณ จะวางมาดต่อหน้าฉัน เพราะว่าฉันนั้นไม่ได้จะเกรงกลัวคุณ ยิ่ง ไปกว่านั้นฉันมาหาคุณเพื่อชำระบัญชี คุณแสดงทางท่าแบบนี้ ให้ใครดูเหรอ?”

ชำระบัญชีงั้นเหรอ? สิ่งที่คุณทำยังกล้ามาชำระบัญชีกับฉัน “ งั้นเหรอ? เชื่อไหมว่าฉันจะเรียกยามรักษาความปลอดภัยมา ลากตัวคุณออกไป?”

“คุณกล้าเรียกก็ลองดู เมื่อถึงตอนนั้นฉันจะให้พวกเขาได้รู้ว่า ผู้จัดการที่ซื้อมาในราคาสูงนั้นที่แท้ก็สมรู้ร่วมคิดกับฉินยี่อาน และพยายามจะใส่ร้ายป้ายสีฉันว่าฉันขโมยเครื่องประดับ”

ถังรั่วซูยิ้มอย่างไม่เกรงกลัวและการแสดงออกที่อ่อนโยนก็ กลายเป็นเย็นชาและรุนแรงในขณะนี้

“ถังรั่วชู อาหารสามารถกินอย่างไม่เลือกได้ คำพูดไม่ สามารถพูดมั่วซั่วได้หรอกนะ”

ซูเทียนอ้ายหลบสายตาเล็กน้อยราวกับว่าเธอรู้สึกผิด

“ใช่การพูดมั่วซั่วหรือเปล่า ใจคุณก็รู้ดี ซูเทียนอ้าย อย่าคิด ว่าการเป็นผู้จัดการนั้นจะปกปิดความจริงได้เสมอไป ฉันจะ บอกให้นะ ฉันสามารถทำลายกู้รั่วรั่วได้และคนต่อไปอาจเป็น คุณ ถ้าคุณไม่เชื่อก็รอดู”
คำเตือนที่เย็นชาส่งถึงซูเทียนอ้าย ถังรั่วชูละสายตาออกไป จากนั้นสายตาราวกับกำลังจะลงมือฆ่าซูเทียนอ้ายเธอก็ได้ กระแทกประตูและจากไป

เธอใช้การกระทำบอกซูเทียนอ้าย ฉัน! ถังรั่วชู! ไม่เคยมีคุณ อยู่ในสายตา

“ถังรั่วชู ฉันจะฆ่าเธอ!”

ซูเทียนอ้ายแทบบ้า ใบหน้าที่ลงเครื่องสำอางอย่างหนักสีหน้า ของเธอนั้นกลับกลายเป็นดุร้ายและน่ากลัวมากขึ้นเพราะ อารมณ์โกรธที่มากเกินไป

เรื่องราวที่ว่าถังรั่วชูบุกเข้าไปในห้องของผู้จัดการนั้นได้ แพร่กระจายภายในบริษัทอย่างรวดเร็ว ทุกคนตกตะลึงกับ พฤติกรรมที่กล้าหาญของเธอและมองเธอด้วยสายตาที่แปลก ประหลาดใจ

ส้งอานหยีกล่าว “ตอนนี้ในบริษัทเราเธอกำลังฮอตที่สุดเลย ซูเทียนอ้ายไม่สามารถคุมใบหน้าของตัวเองไว้ได้เลยเธอน่ะ เกลียดเธอแทบตาย”

“ฉันรู้”

ถังรั่วชูยิ้มอย่างไม่ได้แย่แส
เมื่อไปหาซูเทียนอ้ายอีกครั้งเธอก็หวังไว้กับฉากนี้

“เมื่อไม่กี่วันก่อนผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เริ่มดำเนินการใดๆหลัง จากนี้เกรงว่าของจริงใกล้เข้ามาแล้ว เธอระวังด้วยแล้วกัน”

ส่งอานหยีเตือนด้วยความเป็นห่วง

เธอในตอนนี้นั้นไม่ต้องกังวลเหมือนที่เคยเป็นอีกต่อไปเพราะ เธอรู้ว่าถังรั่วชูนั้นได้วางแผนการเตรียมไว้แล้วแม้ว่าเธอจะ ถูกคนอื่นรังแกแต่เธอก็สามารถใช้วิธีที่แข็งแกร่งกว่าเพื่อต่อสู้ กลับได้

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันรับมือได้”

ถังรั่วชูพยักหน้าเธอรู้สึกอบอุ่นใจมากเมื่อได้รับความห่วงใย

ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ด้านนอกแผนกก็เกิดความ โกลาหลวุ่นวายขึ้น จากนั้นเพื่อนร่วมงานหญิงในแผนกวิ่งเข้า มาด้วยสีหน้าตื่นเต้นและกล่าว “ประธานคนใหม่กำลังเข้ามา ทุกคนรีบนั่งประจำที่เร็ว”

ทันทีที่คำนี้กล่าวออกมาเหมือนกับว่าเกิดเสียงฟ้าร้องและ กระจายไปทั่วพื้นแผนกอย่างรวดเร็ว

ในทันทีหญิงสาวทั้งแผนกสื่อก็เกิดเสียงเจี๊ยวจ๊าวขึ้น
“รีบมาช่วยฉันดูหน่อยว่าสีผิวหน้ามันโอเคหรือยัง”

“เสี่ยวจาง ขอยืมน้ำหอมคุณมาฉีดหน่อยสิ!”

“ให้ตายเถอะ รองพื้นฉันล่ะ?”

***

ถังรั่วชูและสังอานหยีทั้งสองเห็นฉากตรงหน้าก็ทำได้เพียง แค่ตกตะลึง

หญิงสาวกลุ่มนี้…บ้าผู้ชายจนน่ากลัวจริงๆ

“พวกคุณกำลังทำอะไร?”

ในตอนนี้หลีน่าก็ตื่นตระหนกเช่นกัน ตั้งแต่เดินออกจากห้อง ทำงานก็เห็นพนักงานทุกคนวุ่นวายกับการแต่งหน้าเธอแสดง สีหน้าบึ้งตึงและกล่าวทันที “กลับไปนั่งที่ของตัวเองให้หมดทุก คน”

ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งรีบเอามือปิดหน้าด้วยความตกใจแต่แก้มแดง ระเรื่อของเธอก็ยังไม่หยุดปัดราวกับเด็กสาววัยแรกแย้ม

หลีน่าขมวดคิ้วและรู้สึกทำอะไรไม่ถูก

“เสี่ยวถัง เสี่ยวหรุ เธอสองคนไปต้อนรับประธานกับฉัน”
“ค่ะ ผู้จัดการ”

ถังรั่ว และหรูเสี่ยวหลินกล่าวพร้อมเพรียงกันและปฏิกิริยา ท่าทางตอบรับนั้นสงบมาก หลังจากตอบรับแล้วก็จัดแจง ระเบียบเสื้อผ้าอย่างระมัดระวังพร้อมกับเผยคอเสื้อให้ลึกขึ้น

ในไม่ช้าประธานคนใหม่ก็มาถึงแผนกสื่อ นี่คือครั้งแรกที่ถัง รั่ว ได้เห็นคุณชายน้อยของตระกูลเงิน

ผู้ชายคนนี้หล่อมาก กรอบหน้าและมุมทำให้ใบหน้าของเขา ดูแข็งแกร่ง ร่างกายสูงของเขาถูกห่อหุ้มด้วยชุดสูทที่เหมาะ สมพอดีตัว ทำให้ดูสง่างามและไม่ธรรมดา ความสง่างามและ สูงส่งแสดงออกมาจากภายในสู่ภายนอกซึ่งดึงดูดสายตาผู้คน เป็นพิเศษ

ไม่แปลกใจเลยที่หญิงสาวในบริษัทแทบบ้า

รูปโฉมแบบนี้ ภูมิหลังของครอบครัวแบบนี้ประกอบกับความ สามารถทางธุรกิจที่ดี เป็นมาตรฐานที่ดีที่สุดสําหรับชายรูป งามในห้วงความฝันของหญิงสาวจำนวนมมาก

“สวัสดีประธาน ฉันหลีน่าผู้จัดการแผนกสื่อ และสองคนที่อยู่ ด้านหลังของฉันคือรองประธาน ถังรั่วชูและหรุเสี่ยวหลิน”

หลีน่ายิ้มเล็กน้อย ก้าวไปข้างหน้าและจับมือกับเสิ่นโม่เฟย

“ได้ยินเลื่องลือมานานแล้วว่าผู้จัดการหลีน่ามีความสามารถในการจัดการสิ่งต่างๆได้ดี เป็นฮีโร่หญิงสาว ในอนาคตแผนก สื่อนี้ยังคงต้องพึ่งพาการทำงานอย่างหนักจากคุณ

มุมปากของเสิ่นโม่เฟยเผยรอยยิ้มที่เป็นมิตรและไม่มีการ แสดงออกถึงฐานะที่สูงกว่า

ในจุดนี้ทำให้ความประทับใจของหลีน่าและถังรั่วชูที่มีต่อเขา ดีขึ้น

ประธานคนใหม่ดูเหมือนว่าจะไม่เบ่งกล้ามอย่างที่คิด!

อย่างน้อยก็ดีกว่าเมื่อมาถึงก็โอ้อวดเบ่งกล้าม ให้ทุกคนมาเจอ ซูเทียนอ้ายของเธอ ไม่รู้ว่าดีกว่ามากมายแค่ไหน!

“ประธานสวัสดี

หรุเสี่ยวหลินจงใจแสร้งทำเอนกายไปข้างหน้าเสิ่นโม่เฟย

ไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เมื่อเธอยืดตัวขึ้นเธอก็เสย ผมขึ้นบนไหล่ด้วยมือของเธอ เธอคงคิดว่าเธอมีเสน่ห์จากนั้นก็ ยิ้มให้กับเสิ่นโม่เฟย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ