One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 118 เป็นคนโสดแล้วผิดอะไร



ตอนที่ 118 เป็นคนโสดแล้วผิดอะไร

ตอนที่ 118 เป็นคนโสดแล้วผิดอะไร

อารมณ์ของสังอานหยีแปรปรวนอย่างมากอีกครั้ง ถังรั่วชู ปลอบโยนอยู่ข้างกายเธออย่างเงียบๆ

เซียวเซียวกลับใช้อำนาจของตระกูลหซู่เล็กน้อย ทำให้พ่อ แม่ของสังอานหยี ได้รับการดูแลที่ดีๆสักหน่อยระหว่างที่อยู่ใน สถานีตำรวจ ไม่ถึงกับได้รับความลำบากตอนที่อยู่ด้านใน

แต่ว่า อยากที่จะชำระล้างข้อกล่าวหาของพ่อแม่ส้งอานหยี ก็ ยังต้องหาหลักฐานให้ได้ และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ก็อาจ จะตกมาอยู่ที่ไหล่ของสังอานหยีได้

สั่งอานหยีสำหรับเรื่องนี้ ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงความกดดันเพิ่ม ขึ้นเป็นสองเท่า “ฉันไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัทหยาง อก ปจะตรวจสอบได้อย่างไร? และรายการบัญชีเหล่านั้น โดย พื้นฐานแล้วต้องเป็นผู้บริหารระดับสูงถึงจะสามารถเข้าไป ตรวจเช็คได้ บวกกับหยางเขียนเซียนและหานยี่เฉินที่ทำกัน อย่างลับๆอีก แบบนั้นก็ไม่มีความหวังอะไรเลย ฉันกลัวว่าเมื่อ ถึงเวลายังหาหลักฐานไม่เจอ ข้อกล่าวหาของพ่อแม่ฉันก็ถูก ดำเนินการแล้ว”

“หานยี่เฉินสมควรตาย เป็นเพราะตอนแรกที่ฉันแสดงว่า จริงใจกับเขาทุกอย่าง คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำเรื่องหยุดความ สัมพันธ์ได้ขนาดนี้! เขาอยากที่จะเลิกรากัน พูดกับฉันตรงๆ ฉันก็จะไม่รั้งเขาไว้ ทำไมต้องเอาพ่อแม่ของฉันลากเข้ามามีส่วนร่วมด้วย?”

จนกระทั่งตอนนี้ ส่งอานหยีก็เข้าใจแล้วว่าอะไรคือการ แตกหักไปกันข้างนึงอย่างไร้ความเมตตาที่สุด

“เรื่องนี้นั้นช่างยากลำบากเสียจริง แต่ว่าขอเพียงแค่มีความ หวัง นั้นก็ไม่สามารถที่จะยอมแพ้ได้”

ถังรั่ว รู้ดีว่าในใจของสังอานหยีขื่นขม รีบปลอบโยนไปสอง ประโยค พูดอย่างใจเย็นๆทันที : “อานหยี แกในตอนนี้นั้นจะ ต้องปลุกใจให้ฮึกเหิม อย่าให้หานยี่เฉินมามีผลกระทบต่อด้าน ความคิด คุณลุงคุณป้ายังต้องพึ่งพาแก ดังนั้น แกต้องทําจิตใจ ให้สงบ ฉันจะบอกวิธีหาหลักฐานกับแกเอง”

“แกพูดมา ฉันจะพยายามทําให้ดีที่สุดอย่างแน่นอน ขอเพียง แค่สามารถทำให้พ่อแม่ของฉันถูกปล่อยออกมาจากคุก

ส้งอานหยีได้ยิน รีบร้อนสะบัดหัวทันที สะบัดเงาคนที่น่า รังเกียจออกไป

อันดับแรก ลุงและป้าทำงานในบริษัทหยางซื่อกรุ๊ปมาหลาย ปี มีการคบค้าสมาคมที่กว้างขวาง ฉันคิดว่าน่าจะมีเพื่อนๆที่มี ความสัมพันธ์ที่ดีอยู่ในนั้นบ้าง ดังนั้นแกจะต้องไปทำ คือการ ขอความช่วยเหลือจากพวกเขา ให้พวกเขาช่วยจัดการตรวจ สอบบัญชีอย่างลับๆ และหาหลักฐานจากในนั้นออกมา
“แน่นอน เพราะว่าหยางเขียนเขียนเป็นคุณหนูของบริษัท ดง นั้นก็อาจจะไม่มีคนยินยอมที่จะช่วย ถึงเวลาอาจจะเป็นเพียง ความหวังลมๆ แล้งๆ ดังนั้นทางนี้จึงมีแผนการสำรอง…..

พูดถึงตรงนี้ ถังรั่วชูล้วงกระดาษจดหมายออกมาจากใน กระเป๋า ส่งมอบให้สังอานหยี : “นี้เป็นจดหมายแนะนำ ด้านใน มีรายชื่อพนักงานระดับสูงของบริษัทซึ่งเฟิง แม้ว่าบริษัทซึ่งเฟิง จะเป็นเพียงบริษัทที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่กลับเป็นบริษัทใน เครือบริษัทลู่ชื่อกรุ๊ป ดังนั้น ถึงเวลาถ้าหากว่าไม่โอเคแล้วล่ะ ก็ นั้นก็เอาจดหมายแนะนำให้อีกฝ่าย แน่นอนว่าอีกฝ่ายอาจจะ เป็นกังวลที่จะโดนบริษัทหยางซื่อกรุ๊ปไล่ออก และเป็นไปไม่ ได้ที่จะไม่มีทางที่จะไป

เมื่อเห็นจดหมายแนะนำที่ถังรั่วซูส่งมอบให้ สำหรับส่งอานหยี ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง

เธอตกตะลึงไปสักพักหนึ่ง ซาบซึ้งใจจนแทบอยากจะร้องไห้ ออกมา : “ถังรั่วชู ขอบคุณน่ะแก แล้วก็ช่วยฉันขอบคุณประ ทานสู้ด้วย”

สังอานหยีรู้ จดหมายแนะนำฉบับนี้ เป็นผู้ซือจิ่นที่ส่งมอบให้ ถังรั่วซูอย่างแน่นอน

“กับฉันนั้นมาเกรงใจอะไรกัน คุณลุงคุณป้าดีกับฉันมาก ฉันก็ ไม่อยากมองเห็นพวกเขามีเรื่องมีราว”
ถังรั่วชูยิ้มๆ เอาจดหมายแนะนำยัดใส่ในมือของส่งอานหย แต่ก็ยังคงกำชับอย่างจริงจัง : “แต่ว่าแกต้องจำเอาไว้ จดหมาย แนะนำฉบับนี้ รอจนถึงสุดท้ายแล้วค่อยเอาออกมาใช้ ไม่อยาก นั้นก็ยากที่จะรับประกันว่าอีกฝ่ายจะไม่จัดการกับมัน ท้าย ที่สุด พลังดึงดูดของบริษัทลู่ชื่อกรุ๊ปยิ่งใหญ่อย่างมาก”

ส่งอานหยีพยักหน้าอย่างหนักๆ : “ฉันเข้าใจแล้ว ฉันรู้ว่าควร ทำอย่างไร ตอนเที่ยงฉันจะไปหาเพื่อนที่รู้จักพ่อแม่ของฉันที่ บริษัทหยาง อกรุ๊ปแม้ว่าจะเป็นเพียงความหวังเล็กน้อยก็ตาม แต่ฉันก็ไม่อาจยอมแพ้”

ถั่วรั่วชูยิ้ม : “แกคิดได้อย่างนี้ฉันก็วางใจแล้ว”

ตอนเที่ยง ส่งอานหยีก็ไปที่บริษัทหยางซื่อกรุ๊ป มองหาเพื่อน เก่าที่สามารถช่วยพ่อแม่ของเธอได้

ถังรั่วซูเดิมทีแล้วนั้นได้นัดกับอู๋ซือจิ่นทานข้าวเที่ยงแถว บริษัท แต่เพราะยังกังวลส้งอานหยีอยู่ จึงเปลี่ยนสถานที่รับ ประทานอาหารเป็นร้านอาหารแถวๆบริษัทหยางซื่อกรุ๊ป

สภาพแวดล้อมที่ร้านอาหารแห่งนี้ค่อนข้างหรูหรา เพราะอยู่ ในตัวเมือง ช่วงเวลาที่ทานข้าว คนก็จะแน่นอย่างมาก

หลังจากที่ถังรั่วชูและส้งอานหยีมาถึง จึงเลือกโต๊ะสองตัวที่ อยู่ติดกัน รอคอยอย่างเงียบๆ
ประมาณเที่ยงกว่าๆ ผู้ซือจิ้นมาถึงก่อน แต่ว่า ยังมีลูซงเหยา อีกหนึ่งคนตามหลังเขามาด้วย

ถึงร้ายกลัวดำๆขึ้นไปชั่วครู่หนึ่ง จ้องมองไปที่ใบหน้าที่ยิ้ม แย้มของผู้ซึ่งเหยา อดไม่ได้ที่จะเบะปากพูด : “ทำไมนายถึง มาที่นี้ด้วย ?

สู้ซึ่งเหยายิ้มและขยิบตาไปที่เธอ พูดอย่างมั่นใจ : “มาเป็น ก้างขวางคอไง! ทุกครั้งที่ถูกพี่ใหญ่ผลักออกมาให้เป็นเกราะ กำบังให้พี่สะใภ้ก็ไม่คิดอะไร เขายังไม่ยอมให้ผมคบกับดารา หญิงของบริษัท ไม่มีเหตุผลเลยไร้ซึ่งมนุษยธรรม ดังนั้นผมจึง ตามมาด้วย นับว่าเป็นดอกเบี้ยที่ทำให้ผมเป็นคนโสด ”

“เอาคำพูดเมื่อตะกี้พูดใหม่อีกรอบ พูดว่าใครไร้ซึ่ง มนุษยธรรม ห้ะ?

สายตาที่มืดมนของลูซือจิ่นล่องลอยไป น้ำเสียงที่คล้ายว่าจะ ยิ้มก็ไม่ยิ้ม ทำไมเมื่อฟังแล้วรู้สึกว่าอันตรายอย่างมาก

คอของลู่ซึ่งเหยาหดตัวทันที พูดอย่างเยาะเย้ย : “เหอะๆ ไม่ ไม่ไม่ ผมไม่พูดว่าใครไม่มีมนุษยธรรม ผมพูดอย่างงั้นเหรอ? พี่ใหญ่พี่ต้องฟังผิดแล้วแน่ๆ ฟังผิดแล้ว..….…..

“ขี้ขลาด”

ถังรั่ว จ้องมองไปที่คนที่ปกติไม่เคยไม่กลัวฟ้ากลัวดินคนนั้น แต่อยู่ต่อหน้าของอู๋ซือจีนก็กลายเป็นลู่ซึ่งเหยาคนขขลาด อดไม่ได้ที่จะหัวเราะด้วยการสะบัดสายตาที่ดูถูกออกไป

ลูซึ่งเหยายิ้มแยกเขี้ยว อย่างไม่แก้ตัว กวาดสายตาไปที่ อาหารบนโต๊ะ พูดบ่นทันที : “พี่สะใภ้ช่างไม่ยุติธรรมเสียจริง ต่างก็สั่งแต่ของชอบของพี่ใหญ่ แถมไม่มีส่วนของผมเลย”

“ใครจะรู้ว่านายจะตามมาด้วย”

ถังรั่วชูกลอกตามองบน เอาเมนูอาหารข้างๆส่งไปให้ พูดว่า : “นี่ ลองดูว่าอยากกินอะไร สั่งเอง”

“พี่สะใภ้เลี้ยงเหรอ?”

พี่นายเลี้ยง”

“นั้นผมไม่เกรงใจแล้วน่ะ!”

ล้ซึ่งเหยาสั่งอาหารมากมายด้วยความดีอกดีใจ ดูแล้วน่าจะ อิ่มแย่เลย

ถังรั่วชูเห็นถึงท่าทางที่ผิดปกติของเขาแบบนั้น ตลกขบขัน จนอดไม่ได้ที่จะส่ายๆหัว ก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก ต่างก็คีบอา หารให้กู้ซือจิ่น พร้อมทั้งพูดว่า : “ขอโทษ ให้คุณมาตั้งไกลเพื่อ มาเป็นเพื่อนฉันทานข้าว”
ระยะห่างระหว่างหวางถึงมาถึงทีนี่ ขับรถอย่างน้อยเป็นเวลา สี่สิบห้านาที ถังรั่วชูรู้ เวลาของอู๋ซือจิ่นมีค่าเสมอ

“ไม่เป็นอะไร ถึงอย่างไรก็มีคนขับรถให้ฟรี

อู๋ซือจิ่นเหล่มองไปที่ผู้ซึ่งเหยาที่อยู่ข้างๆ พูดขึ้นอีกทันที : “อีก อย่าง เป็นเพื่อนคุณภรรยาทานข้าว คือสิ่งที่ควรทํา”

ถังรั่ว อดไม่ได้ที่จะยกริมฝีปากขึ้น พูดขึ้นทันที : “หลังจากนี้ ทุกๆตอนเที่ยงมาทานข้าวด้วยกันเถอะ?”

ลูซือจิ่นโค้งริมฝีปากของเขาเล็กน้อย พยักหน้าแล้วพูด : “คุณภรรยาถูกใจสิ่งนี้ ฉันไม่มีความคิดเห็นใดๆ

“ฉันว่าพี่สะใภ้ , พี่ใหญ่ พวกพี่ทานข้าวก็ทานข้าวเถอะ ไม่ ต้องมาทรมานคนโสดจะได้ไหม?”

ใบหน้าที่แสดงออกมาด้วยความรักความผูกพันอย่างไม่มี เหตุผล ท่าทางของผู้ซึ่งเหยาก็เกิดความหดหู่ตามมา คำราม อยู่ในใจ โสดแล้วผิดอะไร ทำไมถึงต้องทำร้ายฉันอย่างนี้ !

และตอนที่อู๋ซึ่งเหยาเบะปากประท้วง คนที่ส่งอานหยีรอคอย

นั้นก็มาถึงแล้ว

คนที่มาก็คือผู้ชายวัยกลางคน สังอานหยีเรียกเขาว่าคุณลุง ฟาง เป็นเพื่อนร่วมงานพ่อแม่ของสังอานหยีตอนที่อยู่บริษัท หยาง อกรุ๊ป
ลังอานหยีรีบสั่งอาหาร อย่างไม่รีรอ จากนั้นเขาก็เข้าสู่หัวขอ เรื่องด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม เข้าเรื่องเจรจากับอีกฝ่าย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ