One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 193 จงใจวางแผนฆาตกรรมสามี



ตอนที่ 193 จงใจวางแผนฆาตกรรมสามี

ตอนที่ 193 จงใจวางแผนฆาตกรรมสามี

สั่งอานหยีประคองเสิ่นโม่เฟยมาที่ห้องฉุกเฉิน พร้อมทั้งดึงมือ คุณหมอที่เดินออกมาต้อนรับ

“คุณหมอ เขาได้รับบาดเจ็บ

นายแพทย์ถึงกลับตกตะลึง “บาดเจ็บตรงไหน?”

“บริเวณหลัง” พูดจบ สงอานหยีก็ถกเสื้อเชิ้ตของเงินไม่เฟย ขึ้นมา แต่กลับถูกเสิ่นโม่เฟยดึงมือเอาไว้แทน

เธอเงยหน้า พร้อมทั้งจ้องมองเขาด้วยความสงสัย

“ที่นี่คนมันเยอะ” เขาพูดกระซิบ

ที่แท้ก็เขินอาย ส้งอานหยีพยักหน้าอย่างเข้าใจ จากนั้นก็หัน ไปพูดกับคุณหมออย่างเกรงใจ “คุณหมอคะ เราเข้าไปในห้อง ฉุกเฉิน คุณค่อยตรวจดูแล้วกันนะ”

คุณหมอพาตัวพวกเขาเข้าไปในห้องฉุกเฉิน จากนั้นก็ให้เสิ่น โม่เฟยก็จัดการถอดเสื้อเชิ้ตออก

ตอนที่เสิ่นโม่เฟย แกะกระดุมอยู่นั้น เขาพยายามคอยเหล่ตา มองส้งอานหยีที่กำลังยืนอยู่
ส่งอานหยีรู้ตัว ถึงกลับถามกลับอย่างขำๆ “คุณคงไม่อยาก ให้ฉันออกไปใช่ไหม?”

เสิ่นโม่เฟยไม่ได้ตอบว่าใช่หรือไม่ใช่ มัวแต่แกะกระดุมออก จากนั้นก็จัดการถอดเสื้อออก จนเห็นรูปร่างผอมเป็นสัดส่วน อย่างเห็นได้ชัด

คิดว่าเป็นคุณชายนุ่มนิ่ม จะผอมเก้ๆ กังๆ ไม่คิดเลยว่าเขาจะ หุ่นดีขนาดนี้

กล้ามเนื้อตรงไหนที่ควรมีก็มีหมด จนทำให้สังอานหยีถึงกลับ ต้องจ้องมองหลายรอบ

เมื่อก่อนคิดว่ากล้ามเนื้อบนร่างกายของผู้ชายมันคงจะน่า ขยะแขยง แต่ว่ารูปร่างของเขากำลังพอดี ทุกสัดส่วนของ กล้ามเนื้อกำลังพอดี นี่ไม่รู้ว่านี่จะทำให้ผู้หญิงหลงใหลสักกี่คน

เมื่อเห็นว่าเธอมองจนยืนนิ่งไป เสิ่นโม่เฟยหัวเราะเล็กน้อย “ทําอย่างกับว่าไม่เห็นเคยเห็น”

ทําอย่างกับว่าไม่เห็นเคยเห็น

เมื่อได้ยินประโยคนี้ สมองของสังอานหยีมีภาพหนึ่งปรากฏ ขึ้นมา ในภาพนั้น เขากำลังนอนหลับอยู่ มีเพียงผ้าห่มบางๆ ปิด บริเวณตำแหน่งสำคัญของเขาเอาไว้ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ต่าง เห็นชัดถนัดตา
ส่วนกล้ามเนื้อหน้าท้องที่งดงามขนาดนี้ ภาพนั้นเธอไม่มีวัน

ลืมเลือน

ไม่ใช่นะ!

เธอสะบัดหัวไปมา พร้อมทั้งเอาผู้ชายหล่อเหลาของตนเอง ออกไปจากหัว จากนั้นก็พูดกับอย่างเป็นทางการเงินไม่เฟย “ขอโทษ วันนี้ฉันเพิ่งเห็นกล้ามของคุณเป็นครั้งแรก”

เสิ่นโม่เฟยกระตุกมุมปากยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ

หลังจากที่คุณหมอตรวจสอบแล้ว ก็ให้เขานอนลงบนเตียง ด้านข้าง เพื่อจะได้เอาเลือดที่คลั่งอยู่ออก

ตอนที่เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินผ่านส่งอานหยี เท้าชะงักทันที พร้อมทั้งหันไปมองต่างหูคริสทัล เขาจำได้ดีว่าตรงนั้นเป็นจุด ที่เธออ่อนไหวมาก สายตาถวิลหาออกมา

ส่งอานหยีรู้สึกถึงสายตาที่ร้อนผ่าวของเขา จนเสียวสันหลัง ไม่กล้าหันกลับไปมองเขา

ตอนที่เขาเขยิบเข้ามาใกล้ลำคอนั้น ลมหายใจอุ่นร้อนพ่นรด บริเวณต้นคอ ในเวลานั้นก็เห็นว่าผิวเนียนละเอียดของเธอนั้น มันเริ่มปฏิกิริยาตอบโต้เล็กน้อย

เขาหัวเราะ เธออ่อนไหวมากจริงๆ
“ผมจำได้ดีว่าหน้าอกทางซ้ายของคุณมีไฝอยู่ด้วย”

เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างหูของเธอ คำพูดคำจาของเขามันทำให้ ส่งอานหยีเบิกตาโต

แต่เสิ่นโม่เฟยเอาแต่ยิ้มอยู่นั่น จากนั้นก็ค่อยๆ เดินไปนอนลง บนเตียงคนป่วยแทน

สั่งอานหยีกำหมัดทั้งสองข้างไว้แน่น ในใจมีแต่ความโมโห พลางหันไปจ้องตาผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงตาเขม็ง

ในเวลานี้อีตานั่นกล้ามาหยอกล้อกับเธอ คงจะเบื่อกับชีวิตที่มี ความสุขแล้วมั้ง

จิตใจสกปรก สังอานหยีจงใจเดินเข้าไปหาทั้งๆ ที่ไม่มีเรื่อง อื่น พลันชูมือขึ้นมากดไปที่รอยฟกช้ำบริเวณด้านหลังของเขา

ถึงแม้ว่าจะไม่ลงแรกหนักมาก แต่ว่าก็สามารถทำให้เสิ่นโม่ เฟยส่งเสียงร้องได้

“สังอานหยี คุณนี่จงใจฆ่าสามีของตัวเองเหรอเนี่ย”

เสิ่นโม่เฟยทั้งร้องไห้และยิ้มไปด้วย จนอดไม่ได้ที่จะเงยหน้า

ขึ้นมามองเธอ
“สามีของตัวเอง?” ส่งอานหยีพูดตามอย่างเย็นชา “ฝันกลาง วันไปก่อนนะ”

พูดจบ เธอเดินเชิด พร้อมทั้งสาวเท้าเดินพรวดพราดออกไป ด้านนอก

จากสถานการณ์แล้ว เสิ่นโม่เฟยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา สายตามีทั้งความทะนุถนอมและความรัก

ตอนที่ผู้ซือจิ่นมาถึงโรงพยาบาลนั้น ถังรั่ว ได้ผ่าตัดเสร็จ เรียบร้อยพร้อมส่งตัวไปถึงห้องพักพิเศษ

ตอนที่เดินเข้ามาให้ห้องพักผู้ป่วยนั้น เมื่อเห็นใบหน้าขาวซีด ของถังรั่วชู หัวใจของลูซือจิ่นตกถึงตาตุ่ม เจ็บปวดสุดหัวใจ

เมื่อเช้าตอนที่เขาออกมาจากบ้านนั้น เธอยังนอนหลับฝัน หวานอยู่เลย ท่าทางนอนได้น่ารักน่าเอ็นดูมาก

แต่ว่าตอนนี้เธอกลับมานอนอยู่ที่นี่ ดวงตาปิดสนิท แสงไฟสี ขาวที่ส่องลงมา มันทำให้ใบหน้าของเธอยิ่งซีดเผือด

“พี่ใหญ่” สู้ซึ่งเหยาเห็นเขาเดินเข้ามา เลยลุกขึ้นยืน พร้อมทั้ง เอ่ยเสียงเบา
สู้ซือจิ่นเดินไปถึงข้างเตียง พลางก้มหัวลง หัวใจที่แสนเจ็บ ปวดนั้นเอาแต่จ้องมองคนที่ยังนอนสลบไสลอยู่ พลางยื่นมือไป หยิบเส้นผมบริเวณข้างแก้มของเธอ ปลายนิ้วสัมผัสกับผิวที่มี อุณหภูมิเย็นเล็กน้อย นิ้วมืองอตัวลง สั่นเล็กน้อย

ทั้งๆ ที่ต้องการพยายามปกป้องเธอทุกทิศทุกทาง แต่ว่าเธอ กลับถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เขาหลับตาลง เพื่อปกปิดความเจ็บปวดที่อยู่ในดวงตา

เขายืนตัวแข็งอยู่ข้างเตียง พร้อมทั้งแผ่รัศมีออกมาจากลม หายใจด้วย จนทำให้คนที่อยู่ในห้องพักผู้ป่วยไม่กล้าแม้แต่จะ ส่งเสียงออกมา

นานพอควร เขาจึงได้ลืมตาขึ้น นัยน์ตาดำขลับมีแต่ความเย็น ยะเยือก

“กู้รั่วรั่วล่ะ?” เขาถาม

“อยู่ที่สถานีตำรวจ” อู๋ซึ่งเหยาตอบ

“แจ้งกับทางสถานีตำรวจไป ไม่ว่าใครหน้าไหน ก็ไม่ให้ ประกันตัวเธอออกไป”

“อืมเซียวเซียวได้ประสานไปทางสถานีตำรวจนั่นแล้ว”
“ฉันจะให้พวกเขาคอยดูแล’ กู้รั่วรั่วเป็นอย่างดี” แววตาความ ร้ายกาจทอประกายออกมาจากดวงตาของยิ่งเซียวเซียว

ลูซือจิ่นมองเธออยู่แวบหนึ่ง จากนั้นก็ถามอีกครั้ง “หมอว่าไง บ้าง?”

“หมอบอกว่าผ่าตัดได้ไม่มีปัญหา ขอแค่พักรักษาตัวสักระยะ ก็สามารถหายเป็นปกติ”

ลูซึ่งเหยาเอาคำพูดของหมอพูดซ้ำกับเขาอีกครั้ง

สู้ซือจิ่นครุ่นคิดไปชั่วครู่ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเข้ม “พวกแกออกไปเถอะ”

เห็นชัดๆ ว่าเขาอยากอยู่กับพี่สะใภ้สองคน อู้ซึ่งเหยาไม่รอช้า พร้อมทั้งลากยิ่งเซียวเซียวออกไป แล้วจัดการปิดประตูทันที

ลูซือจิ่นนั่งลงข้างเตียง มือทั้งสองข้างจับมือเธอเอาไว้ พร้อม ทั้งยกมือขึ้นมาจุมพิตอย่างแผ่วเบา

บรรยากาศในห้องเงียบเชียบ ด้านนอกความมืดมาเยือน แสง

ไฟเริ่มส่องสว่าง
หลังจากออกห้องพักผู้ป่วยแล้ว ยิ่งเซียวเซียวก็เดินมานั่งที่ เก้าอี้ด้านข้าง

สู้ซึ่งเหยาเดินตามเธอมา พร้อมใช้เสียงอ่อนโยนเอ่ยถาม “ไป หาของกินกันไหม?”

“ไม่หิว” ยิ่งเซียวเซียวส่ายหน้าไปมา ชูชูยังไม่ตื่น เธอไม่มีกะ จิตกะใจจะไปหาของมากิน

ลูซึ่งเหยานั่งอยู่ข้างกายเธอ พูดแกมหยอกแต่เอาจริงเอาจัง ไปด้วย “เดี๋ยวพี่สะใภ้ตื่นขึ้นมา แล้วรู้ว่าเพื่อนรักไม่ยอมกิน ข้าวเย็น คงด่าฉันว่าไม่รู้เรื่อง ไม่ยอมดูแลเพื่อนของเธอให้ดี”

ได้ยินดังนั้น ใบหน้าเคร่งเครียดตั้งแต่ช่วงบ่ายของยิ่งเซียว เซียวนั้นก็ผ่อนคลายลง พลางหัวเราะเบาๆ “คุณวางใจได้เลย ชูชูไม่ได้งอแงขนาดนั้น”

พอเห็นว่าเขายิ้มได้ อู๋ซึ่งเหยากระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างอด ไม่ได้ จนเงยหน้าขึ้นมองฝ้าเพดานสีขาวโพลน พร้อมพูดด้วย น้ำเสียงแกมอิจฉาตาร้อนออกมา “บางทีก็อิจฉาความรู้สึก ระหว่างคุณกับพี่สะใภ้และยังมีสังอานหยีอีกคน”

“ทําไม? คุณไม่มีเพื่อนเหรอ?” ยิ่งเซียวเซียวหันกลับไปมอง เขา เลยเห็นใบหน้าด้านข้างของเขาที่มีแต่ความโดดเดี่ยวออก มาเล็กน้อย

หัวใจของเธอเจ็บปวดขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นเธอก็รีบดึงสายตาตัวเองกลับมา แล้วก้มหน้ามองมือทั้งสองข้างของ

ตนเอง

ข้างหูก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเขา “ฉันมีเพื่อน แต่ว่าพวกเรา ต่างมีภาระหน้าที่แตกต่างกัน ถูกอบรมสั่งสอนทุกอย่างมา ตั้งแต่เด็ก จะเอาเวลาที่ไหนมาอยู่ด้วยกัน ก็แค่หาเวลาที่มีอยู่ บ้างมาเลี้ยงดูความรู้สึกนี่แหละ”

การที่อยู่ในสถานะหนึ่งในสี่ของตระกูลยักษ์ใหญ่ เขากับ เพื่อนของพี่ใหญ่ต่างต้องคบค้าสมาคมกับกลุ่มคนที่อยู่จะมา สืบทอดกิจการของทางบ้านแบบพวกเขา

“ฉันเข้าใจคุณ” ยิ่งเซียวเซียวเงยหน้าหน้าขึ้น “สังคมของคุณ คงไม่อนุญาตให้คนที่ไม่สมฐานะมาเป็นเพื่อนกับคุณ ใครจะ ไปรู้ว่าที่พวกเขาเข้ามาเป็นเพื่อนกับคุณเนี่ยจิตใจคิดเป็นอย่าง อื่นหรือเปล่า”

ลูซึ่งเหยายิ้มออก พลางเอ่ยเสริม “คาดไม่ถึงว่าคนอย่างคุณ จะมองคนออกด้วย”

“ช” ยิ่งเซียวเซียวหันกลับไปจ้องตาพร้อมทั้งยิ้มให้เขาด้วย

ทางเดินที่สว่างจ้า ใบหน้าเรียวรูปไข่ของเธอยามเมื่อต้องแสง ไฟมันยิ่งทําให้ใจสั่น

แววตาของเขากลับมีความรู้สึกที่แม้กระทั่งตัวเขาเองแทบไม่รู้ ยิ่งเซียวเซียวถูกเขาจ้องมองจนใจเต้น จนต้องเบนหน้าหนี

แทน

สักพัก บรรยากาศนิ่งเงียบงันลง

มีอะไรที่มันค่อยๆ เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ