One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 161 เพราะว่าฉันอิจฉา



ตอนที่ 161 เพราะว่าฉันอิจฉา

ตอนที่ 161 เพราะว่าฉันอิจฉา

“รังแก?! ” เมื่อได้ยินว่าเพื่อนสนิทถูกคนรังแก เซียวเซียวก็ ใจร้อนขึ้นมาในทันที แม้แต่เสียงที่พูดออกมาก็ร้อนขึ้นหลาย องศา

“ใช่ ก็หรูเสี่ยวหลินคนนั้นไง เธอจงใจดึงผมของซูซู ทำให้ชูชู

ถูกน้ำร้อนลวกใส่”

“แล้วชูซูเป็นอะไรรึเปล่า?”

เมื่อได้ยินว่าถูกน้ำร้อนลวก เซียวเซียวตกใจ จึงรีบถามไถ่

ถังรั่วชูคลายยิ้มบางๆ “ไม่เป็นไร ก็แค่แผลโดนน้ำร้อนลวกนิด หน่อยเท่านั้น”

เซียวเซียวโล่งอก “โชคดีที่ลวกโดนแค่นิดหน่อย แต่ว่า…….. เธอกัดฟัน สายตาเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก “คนสารเลว อย่างหรูเสี่ยวหลิน ฉันไม่มีวันปล่อยให้เธอมีชีวิตที่ดีแน่”

“แล้วแกคิดจะทำอะไรยัยนั่น? ตอนนี้ยัยนั่นเป็นถึงผู้ช่วยผู้ จัดการแล้ว” ส่งอานหยีพูดขึ้นเสียงเรียบ

“ผู้ช่วยผู้จัดการ?! ” ถังรั่วชูที่ไม่ได้ไปทำงานในบริษัทจึงไม่รู้ ว่ามีการเปลี่ยนแปลงของฝ่ายบุคคล ดังนั้นเมื่อได้ยินแบบนี้ขึ้นมากะทันหัน เธอเองก็ตกใจเล็กน้อย

“ใช่นะสิ ผู้ช่วยผู้จัดการ ได้ยินว่าซูเทียนอ้ายโยกย้ายให้หรุ เสี่ยวหลินมาทำงานกับตนเอง”

“ดูท่าซูเทียนอ้ายกับหรุเสี่ยวหลินคงคิดอยากจะร่วมมือกันมา

จัดการชชู” เซียวเชียวขมวดคิ้วเป็นปม “หรุเสี่ยวหลินเป็นเพื่อนของกู้รั่วรั่ว การที่ซูเทียนอ้ายช่วยเธอ

นั้นเป็นเรื่องปกติ

พูดตามความจริง สำหรับผลลัพธ์นี้ ถังรั่วชูไม่ได้รู้สึกคาดไม่

ถึง

“ชูชู ยังไม่รู้ว่าหรเสี่ยวหลินจะทำยังไงกับแก แกต้องระวังตัว หน่อย” ส้งอานหยีมองถังรั่วชูด้วยความกังวล

“ฉันรู้แล้ว” เผชิญหน้ากับความเป็นห่วงของเพื่อนนั้น ถังรั่วชู ยิ้มเพื่อปลอบโยนพวกเธอ “วางใจเถอะ ฉันไม่เห็นซูเทียนอ้าย อยู่ในสายตา แค่หรุเสี่ยวหลินหนึ่งคนก็ไม่มีอะไรหรอก”

เซียวเซียวคลายยิ้ม ถูกต้อง ถังรั่วชูที่ฉันรู้จักไม่กลัวคนพวก นั้นหรอก อีกอย่าง ยังมีประธานสู้ไม่ใช่หรอ? แค่ซูเทียนอ้าย หนึ่งคนจะไปกลัวอะไร ต่อให้มาอีกสิบคนก็ไม่อยู่ในสายตา”

ถังรั่วชูและส่งอานหยีหัวเราะกับคำพูดของเธอ
“ดังนั้น…….ลิมคนที่ทำให้ระคายกระเพาะให้หมด ฉันพาพวก แกไปหาของอร่อยๆกินกัน”

ขณะที่พูด ไฟเขียวก็สว่าง เธอเหยียบคันเร่งในทันที รถจิ๊บ คันสีดำพุ่งตัวออกไป ขับไปตามเส้นทาง มุ่งหน้าไปยังที่หมาย

มหาวิทยาลัยเมืองเป่ยหนิงเป็นสถานที่ที่พวกถังรั่วชูทั้งสาม คนอยู่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย มีภาพความทรงจำที่ดีมากมาย

แต่ว่า——

เหมือนว่าวันนี้ไม่ได้มาย้อนความทรงจำที่สวยงามนั้น

ณ ร้านปลาผักกาดดอง วินาทีที่เห็นมองเห็นจี้หยินเฟิงและนิ่ง เฉียวเฉียว ความคิดของถังรั่วชูก็มีคำพูดห้าคำลอยมา

โลกมันกลมจริงๆ!

“อัปมงคลจริงๆ! วันนี้ตอนออกจากบ้านลืมดูปฏิทิน โหราศาสตร์” เซียวเซียวยังเป็นคนชัดเจนเหมือนเดิม เธอก่น ด่าขึ้นมา
ทว่าสังอานหยีมีปฏิกิริยาเร็วที่สุด หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้ว “แชะๆ” ถ่ายรูปติดต่อกันหลายรูป

“คราวนี้เดือนนี้ก็มีพาดหัวข่าวแล้ว” เธอดูรูปที่ถ่ายเอาไว้อย่าง มีความสุข

เวลานี้ จู่ๆก็มีมือหนึ่งมาคว้าเอาโทรศัพท์ของเธอไป

ขณะที่ส่งอานหยียังไม่ทันดึงสติกลับมา ก็เห็นนิ้วมือของเขา กดไปมาด้วยความรวดเร็ว

“นี่ คุณทําอะไร?” สั่งอานหยีเข้าไปแย่งโทรศัพท์กลับมา

ผู้ชายคนนั้นขยับตัวเล็กน้อย สงอานหยีที่โน้มตัวไปหาความ ว่างเปล่า จึงล้มลงกับพื้น

“อานหยี ! “ถังรั่วชูและเซียวเซียวร้องเรียกขึ้นพร้อมกัน

ส้งอานหยีมองดูพื้นที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เธอหลับตาอย่าง ยอมรับในโชคชะตา ขณะที่เธอคิดว่าหน้าของตนเองต้องเสีย โฉมแล้วแน่ๆ บริเวณเอวถูกคว้าเอาไว้ แล้วหมุนตัวกลับขึ้นมา จากนั้นเธอก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของคนคนหนึ่ง

กลิ่นหอมอ่อนๆฟุ้งเข้ามาในจมูกของเธอ เธอที่รอดมาจาก ความซวยค่อยๆลืมตาขึ้น สบตากับดวงตาเย็นชา
ชั่วขณะนั้น เธอนิ่งค้างไปแล้ว แม้แต่ฝ่ายนั้นพยุงจนถือยืน ทรงตัวได้แล้วก็ยังไม่รู้สึกตัว กระทั่งได้ยินเสียงของเซียวเซียว ดังขึ้นจึงดึงสติกลับมา

“ขอบคุณคุณนะคะที่ช่วยอานหยี”

ถึงแม้ว่าจะพูดขอบคุณ แต่เซียวเซียวกลับพูดด้วยสีหน้า

เรียบเฉย

เพราะคนที่ช่วยอานหยีคือผู้ชายที่เอาโทรศัพท์ของเธอไป

ถ้าไม่ใช่เพราะเขา อานหยีก็คงไม่ล้ม แต่พวกเธอคือคนที่มี เหตุผล เรื่องหนึ่งก็ส่วนเรื่องหนึ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะเขาช่วยอาน หยีได้ทัน ไม่แน่ว่าอานหยีอาจจะล้มจนหน้าเขียวบวมไปหมด แล้วก็ได้

ชายหนุ่มยื่นโทรศัพท์คืนให้สงอานหยี “เป็นหน้าที่ของผม ถ้า ผมล่วงเกิน ยกโทษให้ผมด้วย

เสียงของชายหนุ่มนั้นใสก้องและเย็นชา ทว่ากลับทุ้มต่ำได้

น่าฟัง

สั่งอานหยีมองต่ำ สายตาของเธอมองไปยังโทรศัพท์ที่อยู่ ในมือของเขา เล็บสะอาดเป็นระเบียบ เห็นข้อต่ออย่างชัดเจน เป็นมือที่สวยมากจริง

สายตามองไล่จากมือขึ้นไป หยุดลงตรงหน้าของชายหนุ่มนั่นคือใบหน้าที่หนักแน่นและจริงจัง ถือว่าเป็นใบหน้าที่หล่อ

ชายหนุ่มพยักหน้าให้พวกเธอเล็กน้อย จากนั้นก็หมุนตัวเดิน หันหลังเข้าไปในห้อง

ส่งอานหยีหันหน้าไปตาม ขณะที่เขากำลังปิดประตูก็เงยหน้า ขึ้นมา ทั้งสองสบตากัน

ทั้งสองสบตากันอย่างเงียบๆ จนประตูปิดลง ทําลายการมอง เห็นของกันและกัน

“เหมือนว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นบอดี้การ์ดของนิ่งเฉียวเฉียว” ถังรั่วซูมองไปที่ห้องซึ่งปิดประตูไปแล้ว คิ้วของเธอขมวดเป็น

“น่าจะใจ” เชียวเชียวมองไปที่ห้องนั้น จากนั้นก็ดังสายตา กลับมามองสั่งอานหยี “อานหยี แกเป็นอะไรรึเปล่า?”

ลังอานหยีดึงสายตากลับมา ยิ้มให้กับพวกเขา “ฉันไม่เป็นไร”

“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” ถังรั่วชูยิ้ม จากนั้นก็พูดขึ้น:”ถึงแม้ว่าจะ ถูกใครบางคนทำลายความสนุก แต่ท้องที่หิวก็ต้องกินอาหาร”

“นั้นเป็นสิ่งที่แน่นอนอยู่แล้ว”
เซียวเซียวไปหาที่นั่ง จากนั้นก็ผายมือเรียกพวกเธอให้เดินไป “พวกแกสองคนมานี่สิ

ถังรั่วซูยิ้มแล้วเดินไป ทว่าสังอานหยีกลับหันไปมองที่ห้องนั้น แล้วค่อยๆเดินไป

“รุ่นพี่คะ วันนี้พาฉันมาที่นี่มีอะไรแอบแฝงรึเปล่าคะ?” นิ่งเฉียว เฉียวยิ้มหวานมองไปยังผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า

จี้หยินเฟิงยกเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย มองไปที่เธอ จากนั้นวาง ตะเกียบลง เผยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “ทำไมถามแบบนี้ละ?”

“เพราะว่า……..” นิ่งเฉียวเฉียวมองไปยังปลาผักกาดดองที่อยู่ บนตัว นัยน์ตาของเธอเผยความรู้สึกรังเกียจขึ้นมา “เพราะที่ นี่คือร้านที่เมื่อก่อนพี่กับถังรั่วชูชอบมาที่สุด และปลาผักกาด ดองก็เป็นอาหารที่ถังรั่วชูชอบกิน”

เมื่อได้ฟัง จี้หยินเฟิงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ “คิดไม่ ถึงว่าเธอจะรู้จักพี่และถังรั่วชูดีขนาดนี้”

นิ่งเฉียวเฉียวยิ้ม “ไม่ได้รู้จักดีค่ะ แต่ว่ามันไม่รู้ไม่ได้”

เธอยกเหล้าบนโต๊ะขึ้นมาจิบ จากนั้นพูดต่อ:ตอนนั้นพี่กับถัง รั่วชูเป็นคนที่ดังมากในมหาวิทยาลัย แน่นอนว่าต้องมีคนไป ซุบซิบเรื่องระหว่างพวกพี่สองคน ดังนั้น…………….” ยักไหล่ขึ้น”ฉันก็เลยรู้เยอะเลย”

‘ดูท่าเธอคงจะกังวลมาก”

จี้หยินเฟิงขันมือไว้บนโต๊ะ มือทั้งสองวางไว้ข้างปาก จากนั้น มองไปที่เธออย่างลึกซึ้ง

นิ่งเฉียวเฉียวคลายยิ้มที่มีเสน่ห์ “เพราะฉันอิจฉาไงคะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ