One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 229 ผมไม่ได้แต่งงาน



ตอนที่ 229 ผมไม่ได้แต่งงาน

ตอนที่ 229 ผมไม่ได้แต่งงาน

ฝีมือป้าอู่ดีมาก ดังนั้นเวลานี้ถังรั่วซูจึงควบคุมไม่อยู่ คาด

ไม่ถึงทานข้าวไปสองถ้วย ยังทานซุปไปอีกหนึ่งถ้วย ทานจนสุดท้ายเธอรู้สึกว่าขึ้นมาถึงคอหอยแล้ว ราวกับ

อีกคำเดี๋ยวจะอาเจียนออกมาหมด

เธอเดินออกจากห้องอาหารอย่างก้าวย่างลำบาก สู้ซือ จิ่นเห็นเธอพยุงเอวไว้ เหมือนคนท้องค่อยๆ เดินไปทีละ ก้าว ส่ายหน้าอย่างจำใจและตลก

เขาลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องครัว ตั้งนานเขาถึงเดินออก มา ในมือมีแก้วใบหนึ่งเพิ่มเข้ามา

ในห้องรับแขก ถังรั่วชูนั่งแผ่แขนขาทั้งตัวไปบนโซฟา ทำหน้าตาเหมือนชีวิตนี้ไม่มีความหมายอะไร

พุงกางจนใกล้จะแตกแล้ว เธอไม่สบายตัวเป็นพิเศษ และไม่สนใจภาพลักษณ์ใดๆ เพียงแค่อยากแผ่อยู่บน โซฟาแบบนี้จนกระทั่งถึงวันสิ้นโลกเลย

สู้ซือจิ่นเดินเข้ามาเห็นฉากนี้เข้า ส่งเสียงหัวเราะเบาๆอย่างเลี่ยงไม่ได้ จากนั้นเดินเข้าไป ยื่นแก้วในมือไปให้ “นี่ คือน้ำซานชา ดื่มสักหน่อยจะได้ย่อยอาหาร”

ถังรั่วซูรับเข้ามา เงยหน้ามองเขา พูดด้วยความตื้นตันใจ มาก “ซือจิ่น คุณดีจริงๆ”

เขามักจะเอาใจใส่ดูแลขนาดนี้ นับวันเธอยิ่งจะไม่รักเขา ได้อย่างไรกัน?

ลูซือจิ่นยิ้มอย่างอ่อนโยน ไม่ได้ส่งเสียงอะไร

เธอรู้สึกประทับใจอยู่เต็มอก ดื่มน้ำซานชาครึ่งแก้ว จนหมดเกลี้ยง สําหรับเธอที่กินจนพุงกาง ช่างเป็นผีซ้ำ ค้าพลอยอย่างยิ่ง แต่ความหวังดีของเขานี้เธอจะกล้า เนรคุณได้อย่างไรกันล่ะ?

ดังนั้นจึงได้แต่ลำบากใจตนเองไป อย่างไรเสียซานชาก็ สามารถย่อยอาหารได้

พอดื่มหมด สู้ซือจิ่นหยิบแก้วกลับมา พูดเสียงนุ่ม “พัก ผ่อนสักหน่อย เดี๋ยวผมจะพาคุณไปเดินเล่น”

ถังรั่วชูยิ้มหน่อยๆ “ได้”

ลูซือจิ่นลูบผมของเธอเบาๆ จากนั้นหยิบแก้วลุกขึ้นเดินไปที่ห้องครัว

มองภาพเขาที่สูงตรงสง่า แววตาของเธอค่อยๆ เปลี่ยน มาละมุนละไม

เธออดคิดไม่ได้ รอพวกเขาแก่ไป จะเป็นภาพแบบนี้อยู่ อีกหรือเปล่า?

เขายังจะยอมช่วยเธอชงน้ำซานชาสักแก้วอีกหรือไม่

นะ?

คิดๆ อยู่ เธอก็หัวเราะแล้ว นั่นเป็นเรื่องอีกยาวไกล ตอน นี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเห็นคุณค่าของปัจจุบัน รักและ ทะนุถนอมปัจจุบันที่ครอบครองไว้

ตอนเย็นวันต่อมา ลูซึ่งเหยานำรายงานวิถีชีวิตวันหนึ่ง ของท่านเฉินมอบให้พี่สะใภ้ของตนเอง

ถังรั่วชูอ่านดูคร่าวๆ จากนั้นเอ่ยปากถาม “นี่เป็นแค่วิถี ชีวิตในวันหนึ่งของเขา หรือว่าทุกวันเป็นเหมือนกันหมด?”

“ผมถามผู้เฒ่าคนอื่นแถวที่พักมา พวกเขาบอกผมว่าขอเพียงอากาศดี ปกติวันหนึ่งท่านเฉินก็จะเป็นแบบนี้ หมดครับ*

ลูซึ่งเหยานึกถึงวันนี้ตอนที่วิ่งไปถามผู้เฒ่าคนอื่นแล้ว เจอสถานการณ์อันน่าอึดอัด รู้สึกหวาดเสียวในใจ ดังนั้น เขาจึงพูดว่า “พี่สะใภ้ ต่อไปอย่าได้ให้ผมทำเรื่องแบบนี้ อีกนะ”

“ทำไมล่ะ?”

ถังรั่วซูที่กำลังตั้งใจอ่านรายงานอย่างละเอียดถามขึ้น แบบไม่ได้เงยหน้า

“เพราะว่า…….น่าสยองมาก”

สยอง? ถังรั่วชูเงยหน้า มองเขาอย่างกลุ้มใจ “ทำไมถึง สยองล่ะ?”

ไม่ใช่เพียงแค่แอบไปตรวจสอบสภาพชีวิตวันหนึ่งของ ท่านเฉินเองเหรอ มีอะไรน่าสยองกัน?

“ก็คือ…ก็คือ…” ซึ่งเหยาไม่รู้ว่าควรอธิบายอย่างไร นิ่งอยู่ตั้งนาน สุดท้ายได้แต่พูดอย่างกระอักกระอ่วน “น่า สยองน่ะถูกแล้ว”
ถังรั่วชูไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี “นี่นายช่างคลุมเครือ เกินไปแล้วมั้ง”

สู้ซึ่งเหยาถอนหายใจอย่างหนักหน่วงทีหนึ่ง “พี่สะใภ้ พี่รู้ ไหมว่าคนแก่น่ากลัวแค่ไหน? โดยเฉพาะคนแก่ที่มีลูกสาว หรือหลานสาวที่ยังไม่ได้แต่งงาน นั่นเป็นคนที่น่ากลัว ที่สุด”

พอเขาพูด ถังรั่วซูก็เข้าใจทันที “ทำไม? นายคงไม่ใช่ถูก พวกเขาถามถึงบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นหรอกมั้ง แม้กระทั่ง นายชอบใส่กางเกงในสีอะไรก็ถามแล้วเหรอ?”

“พี่สะใภ้ ทำไมพี่ถึงฉลาดขนาดนี้กัน?” ลูซึ่งเหยาทำปาก ตอบเขาอย่างน่าสงสาร “พี่สะใภ้ พี่ไม่รู้ว่าวันนี้น่ากลัวแค่ ไหน คนแก่สิบกว่าคนมารุมล้อมผมไว้ ตั้งแต่ถามว่าผมชื่อ อะไรจนถึงที่บ้านมีพ่อแม่พี่น้องหรือเปล่า นี่คืออะไรกัน พี่ สะใภ้ พี่รู้ไหม?”

พูดถึงจุดที่ตื่นเต้น คู้ซึ่งเหยาลุกขึ้นมาทั้งตัว “พวกเขาสิบ กว่าคนถามกันมาคนละอย่างจอแจอยู่ที่ข้างหูผม ตอนนั้น ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในเล้าเป็ดที่หนึ่ง มีเป็ดร้อยกว่า แม้กระทั่งพันกว่าตัวกำลังร้อง ทำผมแทบบ้าแล้ว”

เห็นท่าทางในใจเขายังผวาไม่หาย ดูแล้วท่าจะตกใจไม่ น้อย
ถังรั่วชูยักคิ้วเล็กน้อย “ความจริงมีวิธีหนึ่งสามารถแก้ไข สถานการณ์แบบนี้ได้

“วิธีอะไร?”

“ก็บอกว่านายแต่งงานแล้วสิ”

สู้ซึ่งเหยา

เห็นเขาทำหน้าตกตะลึง ถังรั่วชูลองถามไป “ตอนที่คน อื่นถามนายว่าแต่งงานแล้วรึยัง นายคงไม่ได้ตอบไปตรงๆ ว่านายยังไม่ได้แต่งงานหรอกมั้ง?”

ล้ซึ่งเหยาหัวเราะแห้งๆ “พี่สะใภ้ พี่นี่ฉลาดมากจริงๆ นะ”

ถังรั่วชูหน้ามืดครึ้ม มองค้อนเขาอย่างอารมณ์เสีย “ฉัน

ไม่ได้ฉลาด เป็นนายที่ทึ่มเกิน”..

“ผมไม่ได้ทึ่ม เพียงแค่นึกไม่ถึงว่ากำลังสู้รบของลุงๆ ป้าๆ จะแข็งแกร่งขนาดนี้!” ลูซึ่งเหยาแก้ตัวให้ตนเองอย่าง ข้างๆ คูๆ

จากนั้นเขาเสริมอีกประโยค “อีกอย่างผมหน้าตาหล่อ เกินไป ดังนั้นลุงป้าเหล่านั้นถึงชอบผมขนาดนั้น”
ถังรั่วชูหดมุมปาก เมื่อสักครู่ไม่ใช่เห็นคนอื่นเขาน่ากลัว เหรอ? ทำไมตอนนี้กลับหลงตัวเองขึ้นมาแล้ว

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพรุ่งนี้นายไปหาท่านเฉินเป็นเพื่อน ฉันแล้วกัน”

พอคำพูดนี้ออกมา สู้ซึ่งเหยาท่าทางแข็งทื่อ “พี่สะใภ้ พี่ พูดจริงเหรอ?”

ถังรั่วชูพยักหน้า “จริงแน่นอนสิ โดยเฉพาะนายหน้าตา หล่อขนาดนี้ ถ้าเกิดท่านเฉินมีลูกสาวที่ยังไม่ได้แต่งงาน นายก็ไม่ใช่สามารถสละรูปโฉมช่วยพี่สะใภ้หน่อย”

เธอยักคิ้วให้สู้ซึ่งเหยาที่หน้าพังทลาย ดูเหมือนรอยยิ้มที่ ไม่มีความผิดอะไรซ่อนความได้ใจนิดๆ

ล้ซึ่งเหยารู้ว่าเธอกำลังยิ้มเยาะเขา แต่เขาหวาดกลัวจะ เจอสถานการณ์ที่ไร้การควบคุมแบบนั้นอีกจริงๆ

เมื่อมองความกังวลของเขาออก ถังรั่วชูจึงยัดรายงานใน มือไปให้เขา พูดอย่างฮึดฮัด “วางใจได้ พรุ่งนี้มีฉันอยู่ คน แก่เหล่านั้นจะรู้ว่ายากแล้วที่จะถอนตัวไป”

ข้างกายเขามีหญิงสาวเพิ่มมาหนึ่งคน คนเหล่านั้น สามารถเก็บความสนใจที่มีต่อเขากลับไป
“พี่สะใภ้ พี่แน่ใจเหรอ?” ลู่ซึ่งเหยายังไม่วางใจ

“จริงๆ ขอเพียงพรุ่งนี้นายไม่เรียกฉันว่าพี่สะใภ้ รับรอง นายไม่เป็นอะไรสักนิดแน่”

ในเมื่อพี่สะใภ้รับประกันขนาดนี้ สู้ซึ่งเหยาก็ไม่กระบิด กระบวนอีกแล้ว พยักหน้า “งั้นได้ พรุ่งนี้ผมจะไปเป็น เพื่อนพี่สะใภ้”

ถังรั่วชูยิ้มอย่างพึงพอใจ “งั้นพรุ่งนี้ฉันลาหยุด นายมารับ ฉันที่บ้าน”

“ครับ” ลูซึ่งเหยารับปากไป

“ในเมื่อเรื่องราวแก้ไขได้อย่างเบิกบาน งั้นพวกเราไป กินข้าวกันเถอะ” พูดจบ ถังรั่วซูลุกขึ้นยืนเดินไปทางห้อง อาหาร

ลูซึ่งเหยารีบลุกขึ้นตามเข้าไป

“ลูกพี่ไม่กลับมากินข้าวเย็นเหรอ?”

“ซือจิ่นมีประชุม ยังประชุมไม่เสร็จ คงไม่ได้กลับมาเร็ว ขนาดนั้น”
“ลูกพี่ยุ่งขนาดนี้ ถ้าไม่อย่างนั้นรอพวกเรากินเสร็จก็ส่ง ข้าวไปให้เขาเถอะพี่สะใภ้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ