One heart รักเพียงเธอ

ตอนที่ 190 เธอมันก็แค่รองเท้าเก่าๆ ที่ใช้แล้ว



ตอนที่ 190 เธอมันก็แค่รองเท้าเก่าๆ ที่ใช้แล้ว

ตอนที่ 190 เธอมันก็แค่รองเท้าเก่าๆ ที่ใช้แล้ว

แผ่นหลังเปล่าเปลือยยืนอยู่ที่เดิม เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ เส้นผม เปียกโชกน้ำหยดลงเปียกชุ่มเสื้อเชิ้ตจนเห็นส่วนเว้าส่วนโค้ง เป็นสัดส่วน สามารถเห็นทรวงอกอวบอิ่มกลมกลึงเต็มมืออย่าง ชัดเจน มันช่างเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจเสียจริง

ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวสามารถมองเห็นขาเรียวยาวกลมเกลี้ยง เนียนละเอียดลออจนช่างดึงดูดใจ

สายตาของเขาร้อนผ่าวเกินต้านทาน มาพร้อมกับอาการ ความต้องการ~ ตื่นกระหาย~ อย่างชัดเจน

ถังรั่วซูเริ่มกระวนกระวายใจ พร้อมพูดอธิบายอย่างรีบร้อน

“ฉันลืมหยิบชุดนอน เดี๋ยวฉันจะไปรับเปลี่ยนเดี๋ยวนี้เลย”

พูดจบ เธอก็รีบหันหลังให้แล้วเดินไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

แต่ความคล่องตัวของเขายังเร็วกว่าเธอมาก เพียงแค่เขา ก้าวเท้าไม่กี่ก้าวก็มาถึงตัวเธอแล้ว พร้อมทั้งยื่นแขนออกมา ก็ สามารถดึงเรือนร่างเธอเข้าสู่อ้อมอก

เธอส่งเสียงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็บรรจงจุมพิตเธอ….

บรรยากาศที่อบอวลในห้องช่วงเวลายามค่ำคืนเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น

ภารกิจรักในยามค่ำคืน มันทำให้ถังรั่วชูเหนื่อยจนสายตัว แทบขาด จนนอนหลับใหลไปจนถึงตอนเที่ยงวัน

จนเวลาที่เธอตื่นขึ้นมา ถึงกลับตกใจจนเบิกตาโต

แม่เจ้า! เธอขาดงาน!

แทบไม่ทันคิด เธอรีบลุกขึ้น แต่พอลงจากเตียงแล้ว ขาอ่อน เปลี้ยเพลียแรง จนอีกนิดเธอเซถลาลงบนเตียง

ภาพค่ำคืนที่เร่าร้อนมันผุดออกมาจากสมอง ใบหน้าร้อนผ่าว อย่างอดไม่ได้ เธอแอบใช้เสียงบ่นด่า “ผู้ชายทำอะไรไม่รู้จักเว ล่ำเวลา”

ส่วนผู้ชายที่นั่งอยู่ในห้องประชุมในเวลานี้ ใบหน้าหล่อเหลา ยังคงเย็นชาเหมือนเดิม แต่อ่อนโยนมากกว่าเดิม แถมมุมปาก ยังกระตุกยิ้มอยู่

ทุกคนที่นั่งอยู่ในใจมีแต่ความสงสัย

ท่านประธานป่วยไปหรือเปล่า?
มีเพียงมู่หลังเท่านั้นที่รู้ว่า Boss ของเขาเป็นอะไรไป คนที่ทําให้Boss เปลี่ยนไปเป็นละคนแบบนี้มีเพียงคนเดียว

นั่นคือภรรยาของท่านประธานนี่แหละ

ถังรั่วชู

ส่วนภรรยาของท่านประธานคนที่มู่หลิงกำลังคิดอยู่ในใจนั้น ในเวลานี้กำลังเดินทางไปทำงานที่บริษัทอย่างเร่งรีบ

ตอนที่เธอโผล่หน้ามาที่ฝ่ายงานในตอนนั้น สังอานหยีร้อง เสียงหลงอย่างประหลาดใจ “ชูชู แกลางานไม่ใช่เหรอ?”

ลางาน? ถังรั่วชูตะลึงอยู่สักพัก จากนั้นเลยคิดได้ว่าสู้ซือจิ่น คงลางานให้เธอแล้ว

เพื่อจะได้ไม่หลุดปากพูด เธอเลยพูดไปตามน้ำ “ตอนนี้ฉัน ก็ไม่ได้เป็นไรแล้วไม่ใช่เหรอ? เลยจะเข้ามาจัดการงานสัก หน่อย”

หลังจากพูดจบ สั่งอานหยีขมวดคิ้ว “ความจริงแล้วแกไม่ควร จะมานะ”

“ทำไม?”
ถังรั่วซูเอากระเป๋าวางไว้บนโต๊ะ แล้วเปิดคอมพิวเตอร์ จาก นั้นก็หันไปมองเธอด้วยความสงสัย

“กู้รั่วรั่วมา”

คําตอบที่ได้ยินเป็นคําตอบที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ

ถังรั่ว เลิกคิ้วเล็กน้อย แล้วเอ่ยถาม “เธออยู่ที่ไหน?”

“ทางท่านประธาน” ส่งอานหยีเบะปากให้ “ได้ยินว่ามาด้วย เรื่องการยกเลิกสัญญานี่แหละ”

“คงจะทําเรื่องจนใหญ่โต” อาศัยนิสัยเอาแต่ใจไม่ยอมฟัง เหตุผลของกูรั่วรั่ว คงไม่เกิดเรื่องดีๆ ขึ้นมาแน่ๆ

ถังรั่วชูเงียบอยู่ชั่วครู่ จากนั้นเลยตัดสินใจไปที่ห้องทำงาน ของท่านประธาน เพื่อจะได้ประหยัดเวลาให้โม่เฟยถ้าไม่ สามารถต่อกรกับผู้หญิงคนนั้นได้

“สังอานหยี ฉันจะไปดูหน่อย เดี๋ยวก็กลับมา”

พูดจบ เธอไม่รอให้สังอานหยีตอบโต้อะไรมา รีบหันออกแล้ว เดินจําอ้าวออกไปทันที

“ชูชู….” “สงอานหยีอยากจะตะโกนเรียกเธอเอาไว้ พร้อมทั้ง เห็นว่าเธอเดินออกไปอย่างไม่บอกไม่กล่าว
“เดิมทีกู้รั่วรั่วกลับมาเพื่อที่จะมาเอาเรื่อง ชูชูก็ยังเอาชีวิต ตนเองไปแขวนบนเส้นด้ายอีกนะเหรอ”

สงอานหยีไม่วางใจ เลยรีบตามไป

มีคนเพิ่มมาอีกหนึ่งคนเวลาทำงานจะได้สะดวกหน่อย

ห้องทํางานของท่านประธาน บรรยากาศกดดันอึดอัดจน ตึงเครียด

กู้รั่วรั่วจ้องมองผู้ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างโกรธแค้น ส่วนเขา เอาแต่สงบเสงี่ยมจนทำให้เธอเก็บอาการไม่อยู่

“ท่านประธานเงิน การยกเลิกสัญญาคุณควรจะแจ้งกับฉัน ก่อน ตอนนี้ทางคุณเป็นคนมาแจ้งยกเลิกกับกู้รั่วรั่วเองมันค่อน ข้างส่งผลกระทบกับงานของกู้รั่วรั่วเป็นอย่างมาก”

ผู้จัดการของกู้รั่วรั่วยังคงพูดเสนอข้อเรียกร้องข้อสุดท้ายอยู่ เช่นเดิม เพื่ออยากจะให้เขาปลดคำว่า “ยกเลิกเลิกสัญญา” ออกไป

เสิ่นโม่เฟยกะพริบตามอง พร้อมทั้งกวาดตามองพวกเขาอยู่ ครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งพ่นคำพูดออกจากปาก “มันเกี่ยวอะไรกับ ฉัน!”
เขายังกังวลด้วยซ้ำว่ากู้รั่วรั่วจะไม่มีที่ไปในวงการบันเทิง

การเผชิญหน้าท่ามกลางอารมณ์ที่เลวร้ายของเขานั้น ผู้ จัดการยังคงรักษาท่าทีที่เบื่อหน่ายไว้เต็มทน พร้อมทั้งพูด เกลี้ยกล่อม “ท่านประธานเสิ่น จะพูดยังไงว่าที่สามีของรั่วรั่ว ก็ยังมีหุ้นส่วนในบริษัทนี้ คุณยังอยากจะยกเลิกสัญญาแบบ ผลีผลามเช่นนี้มันดูเหมือนเป็นการทำร้ายมิตรภาพหรือเปล่า?”

“มิตรภาพเหรอ?!” เสิ่นโม่เฟยแสยะยิ้ม “ฉันกับจี้หยินเฟิง สนิทกันถึงขั้นเป็นมิตรกันด้วยเหรอ?” แค่ผู้ถือหุ้น หรือว่าเขา สามารถที่จะยอมรับสภาพสิ่งที่กู้รั่วรั่วทำเรื่องไว้ได้ใช่ไหม?

สายตาคมกริบของเขามองไปทางกู้รั่วรั่วที่ไม่ยอมปริปากพูด ตั้งแต่เดินเข้าห้อง ริมฝีปากบางมุมปากกระตุกขึ้นอย่างเย้ย หยัน “กู้รั่วรั่ว เพื่อที่คุณจะทำร้ายผู้ช่วยผู้จัดการ ขนาดลูกของ ตนเองยังใช้ประโยชน์จากเด็กได้เลย คนใจไม้ไส้ระก๋าอย่าง เธอเก็บเอาไว้ในบริษัทมันก็เป็นโรคร้ายอันตราย”

พอพูดเรื่องลูก แววตาของกู้รั่วรั่วส่องประกายทันที มือที่อยู่ ข้างกายก่าไว้แน่น

“ท่านประธานเสิ่น กู้รั่วรั่วเธอ….” ผู้จัดการอยากจะช่วยพูด อธิบายให้กู้รั่วรั่ว แต่กลับไม่รู้ว่าต้องอธิบายว่าอย่างไรดี เลย ได้แต่ถอนหายใจ

พูดตรงๆ ชื่อเสียงของกู้รั่วรั่วก็ไม่ใช่ดาราดัง มันยากมากในการหาที่ยืนอยู่ในวงการบันเทิง เพราะว่าแฟนคลับไม่ชอบใจ

เดิมทีคิดว่าจะพาเธอเดินไปทีละก้าว ทีละก้าว พร้อมทั้งเดิน เข้าวงการบันเทิงพร้อมทั้งได้จุดยืนมาเป็นของตัวเองในวงการ บันเทิง

แต่ว่าในเวลานี้เธอกลับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา นี่ยังรังเกียจทาง เดินของตนเองยังไม่ยากพอที่จะเดินต่อไปอีกเหรอไงกัน?

ผู้จัดการทั้งสับสนทั้งเบื่อหน่ายมาก ถ้าเกลี้ยกล่อมท่าน ประธานเรื่องไม่ให้ยกเลิกสัญญาไม่สําเร็จ เธอทําได้แค่ไปเซ็น สัญญากับบริษัทอื่นแทน

แต่ในวันนี้จะมีบริษัทไหนยินยอมเซ็นรับตัวกู้รั่วรั่วอีกล่ะ?

เสิ่นโม่เฟยมองท่าทางผู้จัดการที่ลำบากใจที่ไม่รู้ว่าจะทำ อย่างไรต่อไปดี พลางหันไปมองกู้รั่วรั่วที่ยอมพูดยอมจา เลย เลิกคิ้วขึ้น เขาลุกขึ้นยืน “เรื่องมันจบแล้ว พูดมากก็มากความ กลับไปเถอะ!”

การแสดงออกของเขาเห็นความหมายอย่างชัดเจน ถ้ามัวแต่ ถกเถียงกันต่อไปมันจะไม่ดีสําหรับพวกเธอ

ดังนั้น ผู้จัดการเลยหันไปดึงกู้รั่วรั่วเอาไว้ “กู้รั่วรั่ว เราไปหาวิธี อื่นกันเถอะ”
แต่ว่าเธอกลับเบี่ยงตัวออก ผู้จัดการถึงกลับขมวดคิ้วให้ อยากจะอ้าปากถามว่าเป็นอะไรไป

ก็เห็นว่าเธอเดินไปทางด้านหน้า พร้อมทั้งใช้มือทั้งสอง ข้างทุบโต๊ะอย่างแรง อีกทั้งยังจ้องเสิ่นโม่เฟยตาถลึง “ท่าน ประธานเสิ่น ทั้งๆ ที่รู้ว่าเด็กนั่นเป็นเพราะว่าถังรั่วชูเลยเสีย ชีวิตลง ทั้งๆ ที่เป็นความผิดของเธอ แต่คุณกลับโยนความผิด มาให้ฉันรับไว้ คุณพูดสิว่าสิ่งที่คุณทำแบบนี้มันไม่ยุติธรรมไป หน่อยเหรอ?”

พอพูดประโยคหลัง น้ำเสียงแผดเสียงสูงขึ้น จนถึงขั้นตีโพย

ตีพายเล็กน้อย

“กู้รั่วรั่ว เธอหยุดพูดสักทีเถอะ” ผู้จัดการเห็นสีหน้าของเสิ่นโม่ เฟยหน้าดำคร่ำเครียด เลยรีบลากกู้รั่วรั่วเอาไว้

“ปล่อย” กู้รั่วเวสะบัดมือเธอออก พร้อมทั้งต้องตามองเสิ่นโม่ เฟยอย่างถากถาง จากนั้นก็แสยะยิ้มให้อย่างเย็นชา “ใช่สิ ถัง รั่ว เธอมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับท่านประธานเสิ่นนี่หน่า ก็ ไม่รู้ว่าตอนที่ท่านประธานเสิ่นกำลังหลับนอนอยู่กับถังรั่วชูอยู่ นั้น เคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าเธอมีผู้ชายคนอื่นอยู่หรือเปล่า อีก อย่างไม่ใช่มีแค่หนึ่งคนด้วย?”

แววตาของเงินไม่เฟยเย็นชาทันที แววตาทั้งน่าหวาดกลัว ทั้งนํามืด บรรยากาศรอบตัวแพร่กระจายไปด้วยลมหายใจ อันหนาวเย็นยะเยือก จนทำให้อุณหภูมิในห้องลดลงไปหลาย องศา
เมื่อเห็นภาพแล้ว ผู้จัดการตกใจจนเสียวสันหลัง พร้อมทั้งรีบ ไปถึงกู้รั่วรั่วเอาไว้ “พอแล้ว กู้รั่วรั่ว หยุดพูดสักทีได้ไหม?”

น้ำเสียงของเธอกล่าวร้องข้อด้วยความเศร้าโศก

แต่ว่ากู้รั่วรั่วกลับไม่ฟังคำพูดของเธอเลย พร้อมทั้งยินยอม เผชิญหน้ากับอันตรายของเสิ่นโม่เฟย เธอหัวเราะอย่างเย็นชา จากนั้นก็พูดเพ้อเจ้อเยาะเย้ยไม่หยุด “ทำไม? กล้าทำแต่ไม่ อยากให้คนอื่นเอาออกมาแฉเหรอ? ยังจะคิดจะปกป้องยกย่อง อีตัวนั่นอีกเหรอ? ฉันจะพูดต่อ——

“ถังรั่วชูก็แค่รองเท้าเก่าๆ ที่ถูกใช้แล้วคู่หนึ่งเท่านั้นเอง ก็มีแค่ ผู้ชายประเภทพวกคุณนี่แหละที่ถูกเธอล่อลวง”

“กู้รั่วรั่ว แกอย่าพูดล้ำเส้น!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ